ซอยพัฒนาการ 30 ส่วนตัวมีโอกาสแวะมาตั้งหลายครั้งแต่ยังคงเหลือร้านอาหารเด็ดที่น่าสนใจเปิดให้บริการอยู่อีกเพียบหนึ่งในนั้นได้แก่ "Tsukitei Yakiniku & Sushi" อ่านว่า "ทสึกิเตยากินิคุแอนด์ซูชิ" เป็นภัตตาคารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นเสิร์ฟเนื้อวัววากิวเฉพาะสายพันธุ์คุโรเกะชั้นไขมันแทรกละเอียดระดับ A5 จากฟาร์มของจังหวัดมิยาซากิและอิวาเตะเท่านั้นพร้อมซูชิปั้นมือใช้วัตถุดิบสดใหม่โดยหัวหน้าเชฟชาวไทยผู้มีประสบการณ์กว่า 20 ปีเต็มจากร้าน "Kirakutei" เมืองโตเกียวดินแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งอยู่ในลำดับ 1-3 ของการจัดอันดับทุกปีบนเว็บไซต์ "Tabelog" สังคมแห่งการรีวิวความน่าเชื่อถืออันดับ 1 การันตีด้วยคะแนน 3.7 เต็ม 5 ดาวโดยนักชิมถิ่นซามูไรเกือบ 800 ท่าน รวบรวมสูตรเด็ดผสานเคล็ดลับพิเศษต่างๆให้ลูกค้าได้ลิ้มลองความอร่อยเหมือนต้นตำรับแท้แต่ราคาไม่แพง วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเปิดมือถือค้นหาชื่อปักหมุดขับตามระบบนำทางของแผนที่มีลานจอดฟรีบริเวณด้านหน้า ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะก็ลง MRT สถานีเพชรบุรีเรียกแท็กซี่-มอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อไปยังจุดหมายอีกประมาณ 8.5 กิโลเมตรเลี้ยวเข้าซอยจะพบอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นขนาดสองคูหาพร้อมป้ายสัญลักษณ์วงกลมท้องฟ้าช่วงค่ำคืนเป็นพื้นหลังมีตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น,รูปภูเขาไฟฟูจิ,พระจันทร์เต็มดวง,ดอกซากุระสีชมพูแบบนี้แสดงว่ามาถึงแล้วครับ
เปิดประตูกระจกด้านหน้าเดินเข้ามาก็จะพบบรรยากาศอันแสนอบอุ่นของเจ้า "Tsukitei Yakiniku & Sushi" แม้ว่าชื่อร้านบ่งบอกถึงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแต่การตกแต่งภายในเน้นสไตล์ Modern & Luxury ดูหรูหราทันสมัยยิ่งขึ้น เริ่มต้นจากพื้นที่ทั้งหมดปูด้วยแผ่นกระเบื้องหินสีดำส่วนฝาผนังทรงสูงพิเศษติดตั้งกระจกขนาดใหญ่ช่วยรับแสงแดดจากธรรมชาติให้สาดส่องอย่างสว่างสดใส ทาสีโรสโกลด์สลับสีฟ้าอ่อนโทนพาสเทลกับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆทั้งกระจก/โคมไฟ/เคาน์เตอร์ลายหินอ่อนผสมทองคำดัดเป็นรูปเรขาคณิตต่างๆ โดยแต่ละโต๊ะสามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุด 4 ท่านใช้โซฟาบุนวมหุ้มหนังสีน้ำตาลสุดฟูนุ่มชวนนั่งสบายพร้อมเดินระบบท่อดูดกลิ่นอาหารกับควันความแรงสูงตรงด้านล่างโต๊ะแผ่นหินยกชิ้น เพิ่มกลิ่นอายแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยด้วยซากุระสีชมพู/Maneki Neko หรือแมวกวักนำโชค/ตุ๊กตาล้มลุกดารุมะ/ตุ๊กตาผ้าไหมสวมชุดกิโมโนและภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียงโด่งดังตามจังหวัดต่างๆซึ่งหัวหน้าเชฟชาวไทยนำวันหยุดออกเดินทางเก็บช่วงเวลาอันประทับใจรวมกว่า 20 ปีประกอบร่างรวมกันจนได้ "ทสึกิเตยากินิคุแอนด์ซูชิ" แม้เพิ่งเปิดไม่นานแต่สะสมประสบการณ์เต็มเปี่ยมกระตุ้นให้อยากทานมากครับ
รับชมเล่มรายการอาหารของที่ร้าน "Tsukitei Yakiniku & Sushi" กันก่อนว่ามีอะไรให้สั่งกันบ้างเริ่มต้นด้วยหน้าแรกสุดคือชุดสุดคุ้ม 8 เมนูจัดเสิร์ฟจานละ 250 กรัม โดยทางเชฟเลือกใช้วากิวเฉพาะสายพันธุ์คุโรเกะชั้นไขมันแทรกละเอียดระดับ A5 จากฟาร์มของจังหวัดมิยาซากิและอิวาเตะทุกๆจานแต่จะแบ่งคุณภาพตามประสบการณ์ในครัวยากินิคุกว่า 20 ปีออกเป็น 3 เกรดหลักได้แก่ 1. Tsukitei Set ดีที่สุดของวัวหนึ่งตัวเสิร์ฟส่วนท้อง/สันคอ/ลิ้นคัดพิเศษ/ติดกระดูกราคา 1,500 บาท 2. Jo Set รองลงมาแต่ยังคงความนุ่ม-กลิ่นหอมอาจจะไม่ตรึงใจเท่าหมวดแรกมีลิ้นคัดพิเศษ/สะโพก/ท้องคัดพิเศษ/ใบพาย/ร่องซี่โครงราคา 999 บาท 3. Naminami ค่อนข้างเหนียวระดับเดียวกับร้านบุฟเฟ่ต์ในประเทศไทยส่วนลิ้น/เนื้อแฟรงค์/ร่องซี่โครง/พื้นท้อง/กะบังลมราคา 739 บาท นอกนั้นก็เป็นชุด Chuck Roll Set เนื้อส่วนสันคอก้อนใหญ่ซึ่งมีชื่อเฉพาะตัวภาษาญี่ปุ่นแบ่งออกได้ 3 ชิ้นครบจบในจานเดียวทั้งซาบูตง/ชัคเน็ก(หัวไหล่)/โรสึราคา 869 บาท ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าจ่ายแค่หนึ่งแต่ได้ลองเนื้อดีๆหลายชนิดครับ
สำหรับผู้ชื่นชอบเครื่องในวากิวคุณภาพสูงปิ้งบนเตาถ่านต้องสั่ง Naisoyaki Set จัดเต็มทั้งกระเพาะ/ผ้าขี้ริ้ว/ลำไส้ใหญ่/ตับหมูราคาเพียง 299 บาท ถ้าไม่ทานเนื้อวัวก็ยังสามารถอร่อยฟินได้กับ Buta Set หมูอนามัยส่วนคอ/สันคอ/สามชั้นราคา 499 บาท หรือ Seafood Set ของทะเลสดใหม่คัดไซส์ใหญ่ๆได้แก่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์/กุ้งแม่น้ำ/ลำตัวและหนวดปลาหมึกราคา 359 บาท สายสเต๊กปรับระดับความสุกตามต้องการเองตัดแบ่งเสิร์ฟชิ้นหนาสะใจมีริบอาย (สันแหลม) / เซอร์ลอย (สันนอก) ขนาด 150-170 กรัม ราคา 1,100-1,200 บาท ลองชิมเมนูไหนแล้วติดใจเป็นพิเศษสามารถออเดอร์แยกจานละประมาณ 100-110 กรัมนั่นก็คือ Sabuton (สันคอส่วนบน) ราคา 869 บาท / SupperRosu (สันนอกคัดพิเศษ) ราคา 699 บาท / JoRosu (สะโพกวัว) ราคา 389 บาท / Chuck Nek (สันไหล่คัดพิเศษ) ราคา 539 บาท / Rosu (สะโพกติดขาหลัง) ราคา 229 บาท มีปริมาณชั้นไขมันแทรกและกลิ่นหอมแตกต่างแม้จะเป็นวัวตัวเดียวกันแต่เนื่องจากประสบการณ์ 20 ปีของเชฟจึงแบ่งออกได้อย่างง่ายดายครับ
หน้าถัดไปยังคงอยู่ในหมวดของสั่งแยกต่างหากจัดเสิร์ฟจานละ 100-110 กรัมคือ GetaKarubi (ร่องซี่โครง) 299 บาท / Misuji (เนื้อใบพาย) 359 บาท / Tokujo Karubi (ร่องซี่โครงเกรดดีสุด) 869 บาท / Karubi (ร่องซี่โครงคัดพิเศษ) 369 บาท / Honesuki Karubi (ซี่โครงติดกระดูก) 479 บาท / Harami (กะบังลม) 259 บาท / Astukiriton (ลิ้นวัวคัดพิเศษหั่นแบบหนา) 350 บาท / JotanShio (ลิ้นวัวคัดพิเศษแล่บางๆ) 329 บาท / Tan Shio (ลิ้นวัวธรรมดา) 299 บาท / Tan Shita (ส่วนท้องลิ้น) 119 บาท / Mino (คันนา-กระเพาะวัว) 299 บาท / Horumon (ลำไส้ใหญ่วัว) 159 บาท / Zenmaiyaki (ผ้าขี้ริ้ว) 159 บาท / Tontoro (คอหมู) 169 บาท / Buta Karubi (หมูสามชั้น) 149 บาท / ButaRosu (สันคอ) 129 บาท / Buta Reba (ตับหมู) 149 บาท โดยทุกๆเมนูสามารถเลือกได้ว่าจะหมักเกลือ (Shio) หรือหมักน้ำซอสพิเศษต้นตำรับญี่ปุ่นของทางหัวหน้าเชฟ (Tare) Mussel (หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์) 135 บาท / Ebiyaki (กุ้งแม่น้ำ) 299 บาท / Ekayaki (ปลาหมึกกล้วยสด) 159 บาท / Gesoyaki (หนวดปลาหมึก) 159 บาท / Kobucha (ฟักทอง) / Tamanegi (หัวหอมใหญ่) / Eringi (เห็ดออเร็นจิ) 69 บาท / Yasaiyaki (ผักรวม) 79 บาท / Sashimi (ทูน่า,แซลมอน,หอยเชลล์,ปีกนก) 429 บาท / Salmon (แซลมอนซาชิมิ) 239 บาท / AkamiTuna (ทูน่าเนื้อแดง) 119 บาท และ Kanikama (ปูอัดซาชิมิ) 110 บาทครับ
นอกจากเมนูปิ้งย่างแล้วทางร้านยังมีซูชิ-ซาชิมิและอาหารญี่ปุ่นพร้อมทานให้บริการอีกเพียบทั้ง Salmon Roll (ซูชิโรลหน้าแซลมอน) 259 บาท / California Roll (ซูชิโรลคลุกไข่ปลาบินส้ม) 239 บาท / Takoyaki (ขนมครกญี่ปุ่นทรงกลมไส้ปลาหมึกยักษ์) 150 บาท / Yaki Gyoza (เกี๊ยวซ่าหมูย่างบนกระทะร้อนๆ) 150 บาท / Zenmai Sashi (ยำผ้าขี้ริ้ววัว) 150 บาท / Hashinosu Sashi (ยำรังผึ้งแบบญี่ปุ่น) 150 บาท / Yuke Sashi (ยำเนื้อวัวสดไข่แดง) 170 บาท / Salmon Yuke (แซลมอนสับละเอียด-ไข่แดง) 170 บาท / Salmon Spicy (ยำแซลมอนดิบสไตล์ไทยๆ) 170 บาท / Yaki Salmon 110g. (แซลมอนย่างเนยโชยุ) 190 บาท / Ikawazabi (ปลาหมึกสดวาซาบิดอง) 120 บาท / Ikashiokara (ยำปลาหมึกร้า) 120 บาท / Tamago Udon (ซุปไข่น้ำอุด้ง) 165 บาท / Karubi Udon (อุด้งซี่โครงวัวตุ๋นเผ็ดๆ) 189 บาท / YukeChan Udon (อุด้งเนื้อหั่นเส้นเผ็ด) 189 บาท / Miso Soup (มิโซะซุป) 30 บาท / Komtan Soup (ซุปหางวัว) 169 บาท / Yuke Soup (ซุปเนื้อวัวสุดเผ็ด) 169 บาท / Krubi Soup (ซุปซี่โครงเนื้อตุ๋นรสเผ็ด) 140 บาท / Kimchi Chige (ซุปกิมจิใส่เต้าหู้นิ่ม-หมูสามชั้น) 189 บาท / IshiyakiBibimba (ข้าวยำหม้อหินร้อนซุปมิโซะ) 219 บาท / IshiyakiYukeBibimba (ข้าวยำเนื้อวัวหม้อร้อนซุปมิโซะ) 249 บาท / KrubiKuppa (ซุปซี่โครงเนื้อตุ๋นเผ็ดใส่ไข่) 140 บาท / YukeChanKuppa (ซุปเนื้อเผ็ดใส่ไข่) 170 บาท / Komtan Kuppa (ซุปหางวัวใส่ไข่) 179 บาท / Kimchi (ผักกาดขาวล้วนๆ) / Kakuteiki (กิมจิหัวไชเท้า) / Oikimchi (กิมจิแตงกวาญี่ปุ่น) 59 บาท และ KimchiMori (กิมจิรวมผักทุกอย่าง) 169 บาทครับผม
หมวดต่อมาคือเครื่องเคียงต่างๆไว้ทานคู่กับเมนูปิ้งย่างทั้ง Wakame Salad (ยำสาหร่ายวากาเมะ) 49 บาท / Sanshu (ชุดผักสดพร้อมมิโซะเข้มข้น) 80 บาท / Choregi Salad (ยำผักสดสไตล์เกาหลี) 80 บาท / Namuru (ผักรวมคลุกน้ำมันงาแบบญี่ปุ่น) 89 บาท / ข้าวสวยญี่ปุ่นเมล็ดอ้วนสั้นสายพันธุ์โคชิฮิคาริ ราคา 30 บาท / ข้าวผัดกระเทียมสูตรพิเศษของทางร้าน "Tsukitei Yakiniku & Sushi" ราคา 45 บาท / รายการพิเศษหอยนางรมญี่ปุ่นเสิร์ฟ 2 ตัวราคา 300 บาท หน้าสุดท้ายเป็นเครื่องดื่มกับขนมหวานเริ่มต้นด้วยชาเขียวมัทฉะร้อนและเย็นรีฟิลคนละ 50 บาท / น้ำอัดลมโค้ก,สไปรท์ขนาด 250 มล. ราคา 25 บาท / โซดา,น้ำแข็งเปล่า 20 บาท / โค้กขนาด 1.25 L. ขวดละ 60 บาท / เบียร์,ไวน์ขาวแดง,เหล้าบ๊วย,สาเกแบรนด์ไทยและต่างประเทศ 110-980 บาท / ไอศครีมรสชาเขียว,สตรอว์เบอร์รี่,ช็อกโกแลตชิพถ้วยละ 30 บาท (โปรโมชั่นพิเศษแจกลูกค้าฟรีคนละลูกเมื่อออเดอร์จานหลักจัดไปเรื่อยยังไม่มีกำหนดสิ้นสุด) มื้อกลางวันตั้งแต่เวลา 11.00-15.00 น. รับสิทธิ์สั่งชุดอาหารกลางวันราคาถูกได้แก่ ButaKrubi 110 บาท / ButaRosu 99 บาท / Butatontoro 129 บาท / Harami 230 บาท / Karubi 320 บาท / Rosu 219 บาท (รวมสลัดผัก,ข้าวสวยญี่ปุ่น,มิโซะซุป,กิมจิผักกาดขาว,ไอศครีมคนละ 1 ที่) ตัวเลขที่เห็นในเล่มรายการอาหารทั้งหมดไม่มี Vat.7% /Service Charge 10% บวกเพิ่มช่วยดึงดูดใจให้อยากลองมากยิ่งขึ้นครับ
จานแรกมาเสิร์ฟก่อนเป็นเมนู Signature อันดับ 1 ของทางร้าน "Tsukitei Yakiniku & Sushi" พัฒนาการ 30 นั่นก็คือ "Tsukitei Set" ราคา 1,500 บาท ซึ่งทางเชฟอธิบายว่าใช้เฉพาะเนื้อวัวสายพันธุ์คุโรเกะวากิวขนสีดำสนิทจากจังหวัดมิยาซากิกับอิวาเตะเท่านั้นและถึงแม้จะถูกเลี้ยงโดยให้อาหารเหมือนกันแต่คุณภาพก็ควบคุมออกมาดั่งใจค่อนข้างยากคล้ายมนุษย์เรามีรูปร่าง,สรีระแตกต่างกัน ต้องอาศัยฝีมือผสานประสบการณ์ขั้นสูงในการตัดแต่งก่อนจัดเสิร์ฟให้ลูกค้าถึงโต๊ะโดยชุดนี้ได้คัดเลือกมาแล้วว่าอยู่ที่ระดับ A5 ทั้ง Tokujo Karubi ส่วนท้องคัดพิเศษ / Sabuton ตรงสันคอ / Jo Tan ลิ้นคัดพิเศษ / Honesuki ซี่โครงติดกระดูกหมักสไตล์ชิโอะหรือเกลือสมุทรโรยงาขาว,คั่วต้นหอมซอยละเอียดพร้อมผักรวมสำหรับลงย่าง (ฟักทอง,หอมหัวใหญ่,แครอท,บัตเตอร์เฮด) จัดเรียงอย่างสวยงาม สังเกตได้ว่าแต่ละชิ้นส่วนปริมาณไขมันแทรกละเอียดมากเหมือนก้อนหินอ่อนสีชมพูนุ่มๆแทบละลายในปากกลิ่นหอมเฉพาะตัวชวนฝันยกเว้นแค่ Jo Tan สัมผัสกรุบกรอบเด้งสู้ฟันกับ Honesuki ติดเอ็นเหนียวหนึบเล็กน้อยชวนเคี้ยวสนุกไปอีกแบบ โรยเกลือพริกไทยดำเค็มกำลังพอดีช่วยดึงความอร่อยออกมาจนถึงขีดจำกัดสูงสุดครับผม
เมนูถัดไปถึงแม้จะเป็นคุโรเกะวากิวสายพันธุ์ขนสีดำสนิทถูกเลี้ยงจากฟาร์มเดียวกันแต่สังเกตว่ามีปริมาณไขมันแทรกน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเพราะวัวก็เหมือนมนุษย์ซึ่งมีสรีระอันแตกต่างทางหัวหน้าเชฟจึงจัดเกรดรองลงมาและจำหน่ายถูกลงให้ลูกค้าทุกกลุ่มเข้าถึงความอร่อยง่ายมากขึ้นวันนี้เราออเดอร์ "Misuji" ราคา 359 บาท หรือส่วนใบพายสไลซ์จานละ 100-110 กรัมชิ้นระหว่างสันคอกับช่องท้องจุดเด่นคือเส้นเอ็นพาดกลางปกติจะนุ่มละมุนอยู่แล้วพอเป็นวากิวก็ยิ่งอร่อยกลิ่นหอมละมุนชวนฝัน ราดน้ำซอส Tare (ทาเระ) สูตรของร้าน "Kirakutei" ต้นตำรับแท้ๆแห่งเมืองโตเกียวก่อนเสิร์ฟรสชาติหวานเค็มกลมกล่อมเบาบางแทรกซึมเข้าเนื้อก่อนลงย่างโรยงาขาวคั่วและต้นหอมซอยละเอียดพร้อมชุดผักอย่างสวยงามเหมือนเมนูแรก สำหรับคนไม่ทานเนื้อก็สามารถร่วมฟินได้ด้วยเนื้อหมูอนามัยคุณภาพสูง "Buta Rosu" ราคา 129 บาท ส่วนสันคอมีปริมาณเนื้อแดงสลับชั้นไขมันสมดุลสไลซ์แผ่นหนาเรียงลงบนจานพร้อมตกแต่ง-ราดซอสทาเระแบบชุ่มฉ่ำเวลาปิ้งควรมั่นใจว่าสุกแน่นอน 100% สัมผัสเด้งๆเคี้ยวสนุกกำลังดีหรือถ้าเน้นโปรตีนแต่มีงบน้อยการเลือกสั่งหมูของร้าน "Tsukitei Yakiniku & Sushi" ก็ถือว่าดีงามไม่แพ้กันครับ
ระหว่างรอเนื้อย่างบนเตาถ่านสุกเพื่อไม่ให้อารมณ์ติดขัดเลยสั่งอาหารทานเล่นๆมาอีกหลายรายการเริ่มต้นกันที่ "Sashimi" ราคา 429 บาท เป็นซาชิมิรวมชุดใหญ่สุดของทางร้านประกอบไปด้วย 1. แอตแลนติกแซลมอนเนื้อลีนไขมันแทรกน้อยแต่กินแล้วไม่ค่อยเลี่ยนมีกลิ่นหอมรสชาติชัดเจนกว่าสายพันธุ์นอร์เวย์ 2. ทูน่าอากามิหรือเนื้อแดงไร้ไขมันโปรตีนสูงชิ้นสีชมพูอ่อนๆเพราะใช้สายพันธุ์หางสีเหลืองแต่ไร้กลิ่นเหม็นคาวเลือดกวนใจ 3. โฮตาเตะฮอกไกโดหรือหอยเชลล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่พิเศษเนื้อสีขาวหวานเนียนละเอียดสัมผัสคล้ายเยลลี่เคี้ยวละลายในปาก 4. ฮอกกิไกหรือหอยปีกนกซึ่งปกติภัตตาคารส่วนใหญ่จะตัดเสิร์ฟเพียงครึ่งแต่ร้านนี้ให้ทั้งตัวมีจุดเด่นอยู่ตรงความกรุบกรอบจิ้มซอสโชยุ,แตะวาซาบิเล็กน้อยอร่อยเค็มกลมกล่อมเผ็ดฉุนขึ้นจมูกสดชื่น / "Salmon Roll" ราคา 259 บาท ซูชิโรลจากข้าวญี่ปุ่นปรุงรสให้หวานอมเปรี้ยวม้วนแผ่นสาหร่ายโนริแบบกลับด้านสอดไส้ปูอัด,ไข่หวาน,แตงกวาญี่ปุ่น ท็อปปิ้งเนื้อแอตแลนติกแซลมอนซาชิมิสดๆราดมายองเนสหอมมันกับไข่ปลาบินสีส้มแตกระเบิดในปากตัดชิ้นใหญ่เต็มคำสะใจล้างคาวหลังทานเสร็จด้วยขิงดองน้ำผึ้งสีชมพูสไลซ์แผ่นบางๆที่ให้มาในจานก็พร้อมลุยเมนูถัดไปต่อได้เลยครับ
ใครที่ไม่ถนัดพวกของดิบทางร้าน "Tsukitei Yakiniku & Sushi" ก็มีรายการอาหารปรุงเสร็จใหม่เสิร์ฟร้อนๆให้สั่งอีกเพียบเริ่มต้นกันด้วย "Takoyaki" ราคา 150 บาท ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาไทยว่าขนมครกญี่ปุ่นส่วนประกอบหลักได้แก่แป้งสูตรพิเศษเทลงในพิมพ์รูปทรงครึ่งวงกลมสอดไส้ปลาหมึกยักษ์ชิ้นใหญ่ใช้ไม้กลิ้งไปมาจนได้ก้อนกลมสวยงาม จัดเสิร์ฟเรียงลงบนจานราดซอสโอโคโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่นและมายองเนสโรยสาหร่ายโนริเส้น,ปลาคัตสึโอะตากแห้งขูดฝอยจำนวนมาก ด้านนอกสัมผัสกรุบกรอบแต่ข้างในนุ่มเนียนเหมือนคัสตาร์ดได้เคี้ยวเนื้อทาโกะหนึบหนับสู้ฟันประสานรสชาติกลมกล่อมของน้ำซอสพร้อมกลิ่นหอมเฉพาะตัวสไตล์ญี่ปุ่นลงไปทานได้ง่ายทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่ / "Yaki Gyoza" ราคา 150 บาท เกี๊ยวซ่าไส้หมูล้วนแน่นๆตำรับโฮมเมดห่อแป้งบางเฉียบด้วยมือของเชฟชิ้นขนาดกำลังพอดีคำสไตล์ร้านราเมนในดินแดนอาทิตย์อุทัย วางลงบนกระทะเหล็กใส่น้ำมันงาทอดให้ส่วนก้นมีสีน้ำตาลทองเกรียมกรอบแล้วราดน้ำซุปปิดฝานึ่งต่อจนสุกครบ 100% วางบนกะหล่ำปลีซอยจิ้มซอสรสเปรี้ยวนำน้ำส้มสายชูเค็มโชยุอมหวานเบาบางหอมกลิ่นน้ำมันงาติดปลายจมูกเล็กน้อยช่วยตัดเลี่ยนไขมันทำให้ทานต่อได้เรื่อยๆไม่เบื่อครับผม
แม้แต่เมนูถัดไปทางหัวหน้าเชฟก็ได้เอาสูตรของที่ร้าน "Kirakutei" ชื่อดังแห่งกรุงโตเกียวมาแบบ 100% นั่นก็คือ "Kimchi" ราคา 59 บาท หรือกิมจิให้ปริมาณเยอะเต็มถ้วยเพราะเป็นตำรับโฮมเมดสไตล์ญี่ปุ่นแท้คัดเอาเฉพาะส่วนใบและก้านเท่านั้นหมักเกลือล้างสะอาดผสมเครื่องปรุงให้รสชาติเค็มนำปนเผ็ดร้อนเล็กน้อยดองจนเปรี้ยวกำลังดีแต่ยังคงความกรุบกรอบหวานฉ่ำตามธรรมชาติของผักเอาไว้ ไม่ใส่แครอท/หอมหัวใหญ่/ต้นหอมออกไปทางละมุนทานง่ายไม่รุนแรงเหมือนของฝั่งประเทศเกาหลีใต้เสิร์ฟแช่เย็นสดชื่นตัดเลี่ยนไขมันเนื้อวากิวได้ดีมากๆ นอกจากนี้ยังได้นำวัตถุดิบเดียวกันมาต่อยอดเป็น "Kimchi Chige" ราคา 189 บาท แกงกิมจิใส่เต้าหู้ขาวนิ่ม/หมูสามชั้น/ขาหมูจัดเสิร์ฟลงหม้อหินร้อนจัดเดือดพล่านเพิ่มไข่ไก่สดใหม่โรยงาขาวคั่ว/ต้นหอมและพริกไทยดำเล็กน้อย ความเด็ดของชามนี้อยู่ตรงน้ำซุปกระดูกหมูเคี่ยวตุ๋นอย่างยาวนานให้กรดโมโนโซเดียมกลูตาเมตตามธรรมชาติไหลออกมาผสมกับไขมันอูมามิเพิ่มพริกป่นละเอียดเผ็ดฉุนใส่กิมจิผักกาดขาวล้วนทำเองจำนวนมากกับเครื่องต่างๆแน่นเต็มหม้อใช้ช้อนซดอุ่นคล่องคออร่อยเกินคาด หรือสั่งข้าวสวยญี่ปุ่นสักถ้วยคลุกลงไปแบบข้าวต้มก็ได้อารมณ์เหมือนซีรีส์เกาหลีครับ
เพิ่มไฟเบอร์ให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วยเมนู "Sanchu" ราคา 80 บาท หรือชุดผักสดซึ่งมีคุณประโยชน์มากมายพร้อมเครื่องจิ้มสไตล์ญี่ปุ่นประกอบไปด้วยแครอทหั่นรูปทรงแท่งยาวลวกพอสุกไร้กลิ่นเหม็นเขียวเฉพาะตัว/แตงกวาแช่เย็นฉ่ำสัมผัสกรุบกรอบคว้านไส้เมล็ดตรงกลางออกเหลือแต่เนื้อล้วนๆ/ผักเรดโอ๊กสีเขียวแดงสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงคัดเฉพาะใบใหญ่ล้างสะอาดไร้รูหนอนเจาะและคราบดิน/ใบผักกาดหอมบัตเตอร์เฮดอุดมทั้งวิตามินเอ,วิตามินเค,ธาตุเหล็ก,แคโรทีนอยด์,เบต้าแคโรทีน,ลูทีน,ซีแซนทีนเน้นการช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา เสิร์ฟคู่มิโซะสัมผัสเหนียวข้นพิเศษเหมือนน้ำพริกปรุงรสชาติหวานเค็มกลมกล่อมจิ้มทานได้ทันทีหรือจะนำส่วนใบเอาไว้ห่อเนื้อวากิวย่างก่อนนำเข้าปากคำโตแบบเกาหลีถือเป็นความคิดที่ดี รายการถัดไปนั่นก็คือ "ข้าวสวยญี่ปุ่น" - "ข้าวผัดกระเทียม" ราคา 30-45 บาท ใช้เมล็ดอ้วนกลมสั้นกลิ่นหอมเฉพาะตัวอย่างสายพันธุ์โคชิฮิคาริหุงสุกนิ่มยางเยอะให้ความหวาน/เหนียวหนึบสู้ฟันตามธรรมชาติ นำมาผัดใส่เนยกระเทียมเค็มละมุนโรยกระเทียมเจียวสไลซ์บางๆจำนวนมากก่อนเสิร์ฟกินคู่เนื้อวัวและหมูปิ้งจิ้มซอสยากินิคุสูตรเดียวกับร้าน "Kirakutei" ตำรับโตเกียวอีกหน่อยบอกเลยว่าเด็ด เตรียมน้ำจิ้มทุกสูตรเทใส่ถ้วยเพิ่มพริกขี้หนูสีแดงสด,กระเทียมสับ,น้ำมะนาวให้เรียบร้อยแล้วก็พร้อมฟินครับ
ไม่นานนักเตาถ่านก็ถูกยกออกมาวางตรงหลุมกลางโต๊ะจากภายในครัวพร้อมเปิดระบบดูดควันเพื่อป้องกันกลิ่นเกาะติดเส้นผมและเสื้อผ้าตัวเก่งของคุณ โดยหัวหน้าเชฟร้าน "Tsukitei Yakiniku & Sushi" เลือกใช้เฉพาะถ่านกะลามะพร้าวอัดแท่งแท้ๆ 100% มีคุณสมบัติพิเศษคืออุณหภูมิแรงร้อนสูงเนื่องถูกจากเผาไหม้อย่างเต็มที่กว่า 800 องศาเซลเซียสจึงไร้สารตกค้างรวมถึงคราบเขม่าสีดำไม่พึงประสงค์เกาะติดอาหารอันเป็นตัวร้ายแห่งการกำเนิดของโรคมะเร็งต่างๆ ตะแกรงเหล็กดัดลายตารางช่วยให้ไอร้อนสัมผัสวัตถุดิบตรงๆอีกทั้งยังทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็วทันใจช่วยเก็บกักน้ำเนื้อไขมันล็อกรสชาติความหวานชุ่มฉ่ำตามธรรมชาติให้คุโรเกะวากิวอร่อยล้ำลึกมากยิ่งขึ้น ไม่รอช้ารีบลงเหล่าเนื้อสัตว์กับผักสดที่เราออเดอร์มาลงไปเรียงให้เต็มเตาเพียงแป๊บเดียวภายนอกก็กรอบเกรียมสีน้ำตาลด้านในยังอมชมพูอ่อนๆสวยงามตามอุดมคติ แต่ละเมนูถูกหมัก Shio (เกลือสมุทร) กับ Tare (ซอสทาเระ) โรยพริกไทยดำ/ต้นหอมซอยละเอียด/งาขาวคั่วเหมือนภัตตาคาร "Kirakutei" เมืองโตเกียวประเทศญี่ปุ่นพร้อมคีบเข้าปากได้ทันที นอกจากนี้ยังมีน้ำจิ้มอีก 2 สูตรเด็ดและวิธีการทานอีกหลายรูปแบบที่เชฟแนะนำให้ลองไปทำตามกันครับผม
น้ำจิ้มสูตรของทางร้าน "Tsukitei Yakiniku & Sushi" เตรียมไว้ให้ลูกค้าทุกท่านลองฟิน 2 สูตรเด็ดได้แก่ 1. บาร์บีคิวดั้งเดิมตำรับญี่ปุ่นแท้ๆจากภัตตาคาร "Kirakutei" แห่งเมืองโตเกียวแบบ 100% รสชาติเค็มหวานเบาบางติดเปรี้ยวปลายลิ้นเล็กน้อยไม่เข้มข้นเท่าสูตรเอาใจลิ้นชาวไทยเน้นกลิ่นโชยุ/มิริน/สาเก/ขิงบดละเอียดหอมละมุนแต่ไม่รบกวนรสอร่อยตามธรรมชาติของคุโรเกะวากิวคุณภาพสูงให้ถดถอยลงสมกับการได้รับการลงคะแนนโหวตให้อยู่อันดับ 1-3 จากนักรีวิวแห่งดินแดนซามูไรทุกๆปี 2. น้ำจิ้มสูตรมิโซะเข้มข้นถูกปากคนไทยส่วนประกอบหลักคล้ายๆบาร์บีคิวดั้งเดิมแค่เพิ่มเต้าเจี้ยวและเนื้อผลไม้บดละเอียดลงไปให้สัมผัสเหนียวเกาะตัววัตถุดิบดียิ่งขึ้น เพิ่มพริกขี้หนูสด/กระเทียมสับเหยาะน้ำมะนาวลงไปครบทุกมิติแซ่บถึงใจ อยากได้อารมณ์เหมือนในซีรีส์เกาหลีหยิบใบผักเรดโอ๊กหรือบัตเตอร์เฮดมาใส่กิมจิ/วางเนื้อสัตว์ปิ้งแตะน้ำพริกมิโซะในชุด "Sanchu" ด้านบนเพียงเล็กน้อยแล้วจับม้วนเข้าปากคำใหญ่ๆ สุดท้ายวางวากิวที่ย่างสุกดีแล้วบนข้าวสวยโคชิฮิคาริ,ข้าวผัดกระเทียมราดน้ำจิ้มลงไปแบบฉ่ำๆปล่อยไขมันกับซอสแทรกซึมลงไปก่อนตักเข้าปากได้ความอร่อยสไตล์ชาวญี่ปุ่นซึ่งขาดข้าวชั้นดีในมื้อไม่ได้เด็ดขาดครับผม
ถ้าคุณเป็นคนดื่มน้ำปริมาณเยอะมากและไม่อยากให้งบค่าอาหารบานปลายทางร้านเขายังมี "ชาเขียวมัทฉะร้อนกับเย็นแบบรีฟิล" คิดแค่ท่านละ 50 บาทเท่านั้น นานๆจะเจอเนื้อวัวคุโรเกะวากิวคุณภาพสูงราคาถูกใจทั้งทีถ้าอยากได้แอลกอฮอล์ทานคู่กันสั่งเพิ่มได้ตั้งแต่สาเกญี่ปุ่น/เบียร์/ไวน์ขาว/ไวน์แดง/เหล้าบ๊วยแบรนด์ไทยและนำเข้าจากต่างประเทศเตรียมไว้บริการอีกเพียบตามเล่มเมนูที่เราบอกก่อนหน้านี้ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษเมื่อออเดอร์จานหลักเมนูอะไรก็ได้รับฟรีไอศครีมท่านละ 1 ถ้วย (เลือกได้ทั้งรสชาเขียวมัทฉะ-สตรอว์เบอร์รี่-ช็อกโกแลตชิพ) โดยแคมเปญนี้จัดเรื่อยๆอย่างไม่มีกำหนดสิ้นสุดจนกว่าจะประกาศบนหน้าเพจ Facebook อีกครั้งซึ่งปกติจำหน่ายลูกละ 30 บาท แม้เป็นเพียงสินน้ำใจเล็กน้อยแต่ส่วนตัวถือว่าช่วยเพิ่มความประทับใจให้อยากแวะมาใช้บริการอีกครั้งนึง ระหว่างนั่งประทานอาหารได้สังเกตการณ์บรรยากาศภายในภัตตาคาร "Tsukitei Yakiniku & Sushi" เพิ่งเปิดไม่กี่เดือนแต่ก็มีลูกค้าขาประจำจากหมู่บ้านกับละแวกใกล้เคียงแวะเวียนใช้บริการพร้อมพูดคุยเล่นๆกันอย่างเป็นมิตรอยู่ค่อนข้างหลายโต๊ะ ตอนนี้อิ่มจุกแน่นท้องมากจนแทบจะเดินไม่ไหวแล้วได้เวลาเรียกพนักงานมาเช็กบิล/คิดเงินกันเลยครับผม
มื้อนี้ผมมาทานกับคุณแฟนสองคนสั่งอาหารรวมกว่า 15 รายการจ่ายไป 3,559 บาทถ้วน (ไม่มี Vat. 7% และ Service Charge 10% เพิ่ม) ซึ่งตอบโจทย์คนอยากลองคุโรเกะวากิวขนดำแท้ในราคาสมเหตุผลผสานน้ำจิ้มสูตรต้นตำรับเหมือนภัตตาคารชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นโดยหัวหน้าเชฟมีประสบการณ์กว่า 20 ปีเต็ม ถ้าต้องการความประหยัดสุดคุ้มค่ามาแล้วต้องสั่งชุดอาหารกลางวัน 11.00-15.00น. เริ่มต้นเพียงแค่ 99 บาทเท่านั้น วันนี้ก็ได้รับคะแนนความอร่อยไป 5 ดาวเต็มเหมือนเดิมเลยครับผม🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เลขที่ 1144/44-45 ซอยพัฒนาการ 30 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)
โทร. 082-712-2552
Facebook : www.facebook.com/profile.php?id=100085344257152
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘