ถ้าอยากทาน "บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ" หลายคนน่าจะคิดถึงภัตตาคารจีนสุดหรูระดับเหลาหรือห้องอาหารที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมระดับ 5 ดาวราคาต่อหัวแสนแพง แต่วันนี้เราจะพามาทานอีกหนึ่งร้านระดับตำนานที่ใครๆก็สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายนั่นก็คือ "ท่องกี่ภัตตาคาร" ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทใกล้กับแยกอโศก วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดมาที่ห้าง Terminal 21 จอดฟรี 3 ชั่วโมง หากเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะใช้ BTS ลงสถานีอโศก หรือ MRT ลงที่สถานีสุขุมวิทก็ได้ ข้ามสะพานลอยมาฝั่งตรงข้ามอีกหน่อยจะพบกับตัวร้านตึกแถวสีส้มขนาด 2 คูหาพร้อมป้ายไฟที่มีสัญลักษณ์หน้ากากจีนโบราณสีแดงแบบนี้แสดงว่ามาถูกแล้วครับ โดยบุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่ร้านปัจจุบันจัดทุกวัน จ.-ศ. เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. ส่วนวัน ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.30-14.30 น. ต้องโทรมาจองก่อนเพราะรับวันละไม่เกิน 90 ที่นั่ง ราคาบุฟเฟ่ต์คนละ 218 บ. และ ค่าน้ำดื่มแบบรีฟีลอีกคนละ 39 บาท รวมเป็น 257 บ. ต่อคน นั่งทานได้ 2 ชม. ถือว่าถูกสุดๆแต่จะเสิร์ฟอาหารคุณภาพดีแค่ไหน/อร่อยมั้ยต้องมาพิสูจน์ไปพร้อมๆกัน โดยวันนี้เรามาก่อนเวลาเล็กน้อยเพื่อเก็บบรรยากาศในร้านกันก่อนครับ
ราคาบุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่เราคิดว่าถูกมากๆแล้วทางร้านยังรับชำระผ่านโครงการ"คนละครึ่ง"อีก ก็เท่ากับว่าจ่ายเพิ่มเพียงแค่ 128.50 บาทต่อคนเท่านั้น หรือใครเป็นคนทานน้อยทางร้านก็มีเมนู A La Carte ให้สั่งอีกมากมาย จากที่เคยตามอ่านรีวิวเก่าๆส่วนใหญ่จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบะหมี่และเป็ดย่างของร้านนี้อร่อยมาก โดยมีพี่ไรเดอร์จากแอปพลิเคชั่นสั่งอาหารเจ้าต่างๆเดินเข้า/ออกร้านรับส่งอาหารไม่มีหยุดแสดงถึงความเป็นที่นิยมในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี และนอกจากเมนูอาหารจีนแล้วยังมีขนมเปี๊ยะ/บ๊ะจ่างและผลไม้น้ำปั่นเย็นๆให้บริการอีกถือว่าครบเครื่องมากครับ
ถ้ามองจากด้านหน้าริมถนนแล้วเหมือนจะเป็นแค่ร้านอาหารจีนที่มีให้บริการเพียง 4 โต๊ะเล็กๆซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เพราะถ้าเดินเข้ามาข้างในอีกหน่อยจะพบกับห้องกระจกสีเขียวหยกขนาดใหญ่พื้นลายตารางหมากรุกขาว/ดำเปิดแอร์ด้านในพร้อมพัดลมหมุนเย็นฉ่ำ ทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยโต๊ะกับเก้าอี้ไม้สีเข้มฝังมุกสไตล์จีนโบราณหลากหลายขนาดให้เลือกโดยแต่ละที่นั่งมีลูกค้าโทรมาจองล่วงหน้าเอาไว้เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ยังพอเหลือเวลาก่อนจะเริ่มเสิร์ฟอาหารเลยขอเล่มเมนู A La Carte ของที่ร้านมาถ่ายรูปก่อน เพราะหลายรีวิวเก่าไม่มีข้อมูลนี้ให้คนอ่านได้ดูเลยครับ
เข้าใจแล้วว่าทำไมไม่มีใครถ่ายเล่มเมนู A La Carte ของทางร้านมาลงในรีวิว เพราะเรียงลำดับไม่เหมือนกันสักเล่มเลยพยายามขอน้องพนักงานเอาฉบับที่มีข้อมูลเยอะและสมบูรณ์ที่สุดมาเพียงหนึ่งเดียว หน้าแรกเป็นประวัติของทางร้านโดย "ท่องกี่ภัตตาคาร" ก่อตั้งเมื่อปี 1872 บนถนนราชวงศ์ ก่อนจะย้ายมาอยู่ปากซอยสุขุมวิท 14 ก็เท่ากับว่ามีอายุมายาวนานถึง 149 ปี อีกทั้งยังเคยได้รับตราเชลล์ชวนชิมและรางวัลการันตีจากนักชิมรุ่นเก๋าอีกมากมายซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยครับ หน้าต่อมาเป็นอาหารจานแนะนำแบบเดียวกับภัตตาคารเหลาชั้นนำทั้งหมูหัน/เป็ดปักกิ่ง/ปูทะเล/หูฉลามน้ำแดง/ปลิงทะเล/หน่อไม้ทะเลราคาเริ่มต้นที่ 400-1,700 บาท ปลากระพง-ปลาเก๋านึ่งและทอดตัวละ 420 บาท ต้มยำ-แกงจืดเป็นถ้วยและหม้อไฟราคาเริ่มต้นที่ 140-240 บาท เมนูซุปสไตล์จีนและของทอดต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 75-240 บาท บะหมี่เกี๊ยวใส่เนื้อปู/หมูแดง/หมูกรอบ/หมูหวานและเป็ดตุ๋น เสิร์ฟทั้งแบบมีน้ำซุปและแห้งที่เป็น Signature ขายดีอันดับ 1 มายาวนานหลายปีของที่ร้านราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 60-100 บาทครับผม
หน้าต่อไปเป็นเมนูอาหารไทยทั้งผัดกะเพรา/ไก่ย่าง/คอหมูย่าง/ไข่เจียวและส้มตำ ราคาเริ่มต้นจานละ 60-140 บาท ตามมาด้วยเมนูผัดผัก/ยำ/เต้าหู้กับกระทะร้อนต่างๆ ราคาเริ่มต้นที่ 100-300 บาท เมนูราดหน้าและโกยซีหมี่เปลี่ยนเส้นกับเนื้อสัตว์หลากหลายชนิดราคาเริ่มต้นที่ 75-240 บาท เมนูอาหารจีนและไทยที่ใช้กุ้งเป็นส่วนประกอบหลักราคาจานละ 140-750 บาท เป็ดย่าง/หมูแดง/หมูกรอบ/เป็ดตุ๋นและไก่แช่เหล้าสับเสิร์ฟเป็นจานราคาเริ่มต้นที่ 140-490 บาท เมนูผัดซีอิ๊ว/ผัดฮกเกี๊ยนและผัดหมี่ฮ่องกงราคาเริ่มต้นที่จานละ 75-240 บาท หน้าต่อมาเป็นเมนูบะหมี่แต่มีรายละเอียดที่เยอะกว่าช่วงแรกเช่นราคาของท๊อบปิ้งแต่ละชนิด/ราคาบะหมี่ต่อก้อน อยากทานเยอะขนาดไหนก็สั่งเพิ่มทางร้านก็จะบวกราคาขึ้นไปเรื่อยๆแต่ก็ถือว่าไม่แพงเพราะเริ่มต้นเพียง 30-90 บาท เท่านั้นเองครับผม
หน้าต่อไปเป็นติ่มซำแบบเดียวกับในเมนูบุฟเฟ่ต์แต่รายการที่เห็นภายในเล่มเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น สั่งแบบ A La Carte ราคาเข่งละ 35 บาท (กินให้ได้ถึง 10 เข่งก็คุ้มราคาแล้วครับ) ต่อกันด้วยเมนูเครื่องดื่มต่างๆทั้งน้ำผลไม้ปั่น/ชา/กาแฟต่างๆเริ่มต้นที่แก้วละ 15-55 บาท ส่วนขนมหวานและเครื่องดื่มกับแอลกอฮอล์ราคาเริ่มต้นที่ 15-150 บาท เมนูอาหารจานเดียวและตามสั่ง เช่นข้าวหมูแดง-หมูกรอบ/ข้าวหน้าเป็ด/ข้าวอบต่างๆ/เมนูผัดพริกแกง/กระเทียมพริกไทย/พริกหยวก/พริกเผา/เขียวหวานผัดแห้ง/เปรี้ยวหวาน/ผงกระหรี่/กะเพรา/สุกี้น้ำ/ข้าวต้ม/มักกะโรนีกับข้าวผัดเริ่มต้นจานละ 65-95 บาท เพิ่มไข่ดาว/เจียวฟองละ 15 บาท ก็ถือว่ากลางๆไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป นอกจากนี้ที่ร้านยังมีโปรโมชั่นอาหารเหลาราคาพิเศษจัดไปเรื่อยๆแบบไม่มีกำหนดก็คือเป็ดปักกิ่ง 1 ตัวลดราคาจาก 800 เหลือ 450 บาท ปรุงเนื้อให้ฟรีเลือกได้ 1 จาก 3 เมนูคือผัดพริกไทยดำ/ทอดกระเทียมและผัดกะเพราครับผม
เราได้ขอดูเล่มเมนูติ่มซำบุฟเฟ่ต์จากน้องพนักงานกะว่าจะถ่ายรูปมาให้ทุกคนดูด้วยแต่คำตอบที่ได้นั่นคือ "ไม่มี" เลยได้เป็นใบรวมอาหารแบบคร่าวๆแทน วิธีการเสิร์ฟของทางร้านก็คือลงทั้งหมดให้เลือกทีเดียวบนโต๊ะ ส่วนเข่งไหนไม่ทานก็ให้แยกออกมาแล้วขอคืนกับพนักงานได้เลยทันที (ถ้าวางทิ้งไว้นานจนหายร้อนแล้วไม่รับคืนทุกๆกรณี) โดยที่ร้านให้เหตุผลเอาไว้ว่าพนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและชาวต่างชาติหากใช้ระบบรับออเดอร์ก่อนแล้วค่อยนึ่ง ต้องเสียเวลาส่วนหนึ่งเพื่อรันออเดอร์ในครัวค้นหาเข่งเมนูที่ต้องการค่อนข้างนานจึงเลือกที่จะนึ่งพร้อมกันๆรวดเดียวแล้วค่อยมาเลือกกันบนโต๊ะแทนเพื่อความรวดเร็วสุด ถ้าอยากทานเมนูไหนเป็นพิเศษก็จำหรือถ่ายรูปเอาไว้แล้วสั่งเพิ่มได้แต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย บนโต๊ะมีเครื่องปรุงต่างๆทั้งพริกป่น/น้ำตาล/พริกชี้ฟ้าดองน้ำส้ม/น้ำปลา/พริกไทยดำ/ซอสจิ๊กโฉ่วและน้ำจิ้มบ๊วยให้เพิ่มรสชาติได้เอง ส่วนเครื่องดื่มที่รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์สั่งได้ 4 รายการก็คือ 1. ชาจีนเย็น 2. เก็กฮวยเย็น 3. ชาจีนร้อน และ 4. น้ำเปล่าใส่ขวดแก้ว สามารถขอเปลี่ยนได้เรื่อยๆไม่คิดเงินเพิ่มแต่อย่างใดครับ
อาหารชุดแรกมาเสิร์ฟให้ทุกโต๊ะแบบไม่ต้องขอเพราะจัดมาเป็นถาดๆไว้แล้วนั่นก็คือเหล่าอาหารทานเล่นกับของทอดประกอบไปด้วยสลัดผักโรลไส้ฮือก๊วยซอสซีฟู๊ดมาโยเผ็ดแซ่บดี/ถุงทองสอดไส้หมูเด้งทอดกรอบๆ/กุยฉ่ายและขนมผักกาดทอดราดซอสพร้อมทาน (อร่อยกว่าที่หน้าตาเห็น) /ปอเปี๊ยะสดสอดไส้แตงกวาเต้าหู้ถั่วงอกและกุนเชียงน้ำราดรสหวานกลมกล่อม/ส้มตำไทยรสเปรี้ยวอมหวานเส้นกรุบๆไว้แก้เลี่ยนติ่มซำ/เกี๊ยวทอดไส้หมูเด้ง/ขลุ่ยทอดไส้กุ้งบดเนื้อเด้งๆ/เกี๊ยวทอดไส้โมจิมันม่วงเคี้ยวหนึบๆหวานๆ/ปอเปี๊ยะไส้ผักผสมวุ้นเส้นทอดมากรอบร้อนทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยที่สัมผัสไม่เหนียวข้นหนืดคอแบบร้านอื่นก็อร่อยไปอีกแบบ ถ้าไม่พอก็สั่งได้อีกเรื่อยๆโดยพนักงานจะยกออกมาเป็นถาดใหญ่แบบเดียวกับชุดแรกที่เสิร์ฟรวดเดียวจากในครัว จานไหนที่ไม่ทานก็ขอคืนกลับไปได้เดี๋ยวนั้นเลยครับ
ติ่มซำในครัวนึ่งได้ที่แล้วถูกทยอยยกออกมาเป็นชุดๆแต่เราขอให้น้องพนักงานจัดมาทุกอย่างเพราะเราจะรีวิวให้เลยถูกคัดมาจากในครัวแล้วส่วนหนึ่งแต่ก็ไม่ครบทั้งหมด (ชุดหลังมีเมนูแปลกที่ไม่เคยเห็นหลุดออกมาบ้าง) วางเรียงกันบนโต๊ะอย่างสวยงาม ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าขนมจีบของที่ร้านส่วนใหญ่ถูกปรุงออกมาจากเนื้อหมูเด้งบดละเอียดแต่ไม่ถึงกับเป็นลูกชิ้นปรุงรสให้เค็มอมหวานอ่อนๆหอมกลิ่นน้ำมันงาผสมต้นหอม-แครอทลงไปเล็กน้อยแบบเดียวกันเป็นพื้นฐานเกือบทั้งหมด มีจุดแตกต่างกันแค่ที่หน้าท๊อบปิ้งต่างๆซึ่งทำให้รสชาติและสัมผัสในการเคี้ยวเปลี่ยนไป เริ่มจากขนมจีบหน้าไข่เค็มแดงเพิ่มความหอมเค็มนัว/กุนเชียงให้รสหวานกับไขมันแตกในปาก/เบคอนช่วยเพิ่มความเค็มหอมกลิ่นรมควัน/รากบัวเคี้ยวมันกรุบกรอบนิดๆ/ปูอัดเนื้อแน่นแป้งน้อย/ก้ามปูเทียมชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำ/ขนมจีบกับเต้าหู้ไข่ให้อารมณ์เหมือนกำลังทานแกงจืดใส่หมูเด้งและหน้าเห็ดหอมรสเข้มข้นเคี้ยวหนึบอร่อยดีครับ
ต่อกันด้วยหน้าไข่เยี่ยวม้าเนื้อเด้งไม่มีกลิ่นฉุนทานง่าย/หน้าไส้กรอกเนื้อแน่นหอมกลิ่นรมควันกับหนังกรอบๆ/ไส้เห็ดเข็มทองเพิ่มสัมผัสเคี้ยวกรุบๆ/หน้าแปะก๊วยชิ้นใหญ่เคี้ยวหนึบไม่มีรสขม/หน้าเห็ดหูหนูขาวเสิร์ฟพร้อมหมูเด้งให้สัมผัสเคี้ยวกรุบกรอบอมซอสนิดๆ/หน้าบล๊อกโคลี่ก้านอ่อนไม่เหนียวเนื้อนุ่มทานง่าย/ขนมจีบไส้ข้าวโพดอ่อนช่วยให้กลิ่นหอมเข้ากับหมูเด้งเป็นอย่างดี และหน้าแฮมสีชมพูอ่อนห่อหมูเด้งเนื้อแน่นแป้งน้อยมีกลิ่นรมควันอร่อยดีครับผม
ตามมาด้วยขนมจีบที่ผสมเนื้อกุ้งและปูโดยมีพื้นฐานมาจากหมูเด้งและผสมเนื้อกุ้งสับเข้าไป (ยกเว้นเมนูขนมจีบปูและฮะเก๋าที่ใช้หมูเด้งเนื้อสับหยาบและสัมผัสแน่นสู้ฟันกว่าเข่งอื่นๆ) เริ่มจากขนมจีบกุ้งเป็นหมูเด้งใส่กุ้งเต็มตัวห่อแป้งเกี๊ยวสีเหลือง/ฮะเก๋ากุ้งเป็นหมูสับหยาบผสมกุ้งสับห่อแป้งชิ้นเล็กเบาบางจนเห็นไส้/ผักกาดขาวห่อหมูเด้งล้วนกับหมูเด้งผสมกุ้งอย่างละชิ้น/ขนมจีบปูเนื้อแน่นท๊อบปิ้งด้วยเนื้อปูสีขาวนิดหน่อย/ฮะเก๋าหมูเด้งผสมกุ้งสับคำใหญ่ๆแป้งบางเนื้อไม่แน่นเท่ากับเข่งที่แล้ว/ขนมจีบหมูเด้งผสมเนื้อกุ้งสับสาหร่ายที่อร่อยมากแนะนำว่าถ้าเจอให้รีบหยิบมาก่อน/ขนมจีบหมูเด้งใส่กุ้งสับห่อด้วยไข่เจียวปรุงรสก็อร่อยไปอีกแบบ และขนมจีบหมูเด้งผสมเนื้อกุ้งสับห่อแป้งไซส์ใหญ่พิเศษเคี้ยวเต็มคำ โดยรวมเนื้อกุ้งของที่ร้านไม่ได้ถึงกับเด้งกรอบสู้ฟันมากแต่ก็ถือว่าสมกับราคาที่ตั้งมากๆครับ
หมวดสุดท้ายเป็นขนมจีบและอาหารทานเล่นอื่นๆเริ่มจาก ขนมจีบหมูเด้งก้อนใหญ่หน้ายำสาหร่ายสีแดง-สีเขียวราดน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเปรี้ยวแซ่บสะใจมาก/ปลากะพงเนื้อแน่นนึ่งซีอิ๊วรสเค็มหวานใส่เครื่องสมุนไพรลงไปทั้งขิง-หัวหอมใหญ่และต้นหอมไม่มีกลิ่นคาวปลาทานอร่อย/เกี๊ยวซ่าหมูสอดไส้หมูเด้งไม่ผสมผักแป้งเคี้ยวหนึบ/ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ผักใส่หัวไขเท้ากับแครอทห่อด้วยแป้งเหนียวหนึบราดซอสซีอิ๊วรสหวานทานง่ายไหลลื่นลงคอ/ซาลาเปาไส้หมูแดงรสเข้มข้นแป้งเนื้อแน่นตามสูตรโบราณหอมกลิ่นเครื่องบาร์บีคิวสไตล์จีน/ซาลาเปาไส้หมูเนื้อแน่นเด้งรสชาติเข้มข้นกว่าสูตรที่ใช้ทำขนมจีบเข้ากับแป้งที่ห่อได้เป็นอย่างดี และซาลาเปาไส้คัสตาร์ตครีมไข่ไส้เยอะหวานมันอร่อยมากครับผม
นอกนั้นเป็นเมนูขนมจีบที่รอบหลังมีเมนูหน้าตาไม่คุ้นเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย เริ่มต้นกันด้วยเกี๊ยวไส้ผักแป้งบางๆจนมองเห็นไส้อัดแน่นอยู่ภายในเต็มไปด้วยแครอท-หัวไชเท้าและเห็ดหอมรสหวานนำชื่นทานแล้วไม่เลี่ยน เข่งสุดท้ายคือขนมจีบหมูสุดคลาสสิคห่อด้วยแป้งเกี๊ยวสีเหลืองเนื้อแน่นเคี้ยวสู้ฟันดีมาก ขนมจีบทุกเมนูกินคู่กับซอสจิ๊กโฉ่วปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้าน เปรี้ยวนำเค็มอมหวานนิดๆหอมกลิ่นน้ำมันงาอ่อนๆทานง่ายไม่จี๊ดจ๊าดปรี๊ดขึ้นสมองมากไป ถ้านั่งกินไปนานๆรู้สึกเลี่ยนนอกจากมีส้มตำไทยเคียงแล้วส่วนตัวขอแนะนำให้ลองเอาน้ำจิ้มบ๊วยเทผสมลงในซอสจิ๊กโฉ่วเข้าไปอีกนิดช่วยเพิ่มความหวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นน้ำบ๊วยสดชื่นทำให้กินขนมจีบได้เยอะยิ่งขึ้นมากกว่าเดิมครับ
ถ้าใครสงสัยว่าขนมจีบของทางร้านเนื้อสัมผัสเป็นอย่างไรเรามาแหวกให้ดูกันชัดๆ เริ่มจากหมูเด้งสูตรต้นตำรับที่เป็นพื้นฐานของขนมจีบเกือบทุกเมนูของทางร้านบดมาเนื้อละเอียดเนียนนุ่มเนื้อเด้งทานง่าย ปรุงรสชาติไม่จัดจ้านจนเกินไปเพื่อรองรับกับท๊อบปิ้งต่างๆด้านบนที่คอยเปลี่ยนไปเรื่อยๆอร่อยลงตัวในทุกเมนู ส่วนเนื้อขนมจีบอีกแบบก็คือหมูเด้งแบบสับหยาบเนื้อเหนียวหนึบเกาะกันแน่นกว่า และถึงแม้จะนึ่งจนสุกแล้วก็ยังมีสีชมพูอ่อนๆเนื่องจากเป็นปฎิกิริยาของโปรตีนชนิดหนึ่งภายในเนื้อหมูผสานกับความร้อนจึงมีสีอมชมพูอ่อนๆอย่างที่เห็น เอาเป็นว่าถ้าใครชอบขนมจีบสัมผัสเนียนละเอียดให้เลือกแบบเข่งแรกแต่ถ้าชอบแบบเด้งดึ๋งได้ออกแรงฟันหน่อยๆเลือกแบบที่ 2 เลยครับ
นอกจากขนมจีบทอดและนึ่งแล้วยังมีเมนูอาหารจานเดียวให้สั่ง 3 รายการโดยมีเป็นใบให้เขียนจำนวนที่ต้องการบนโต๊ะ เริ่มจากกระดาษสีเขียวอ่อนเป็นเมนูราดหน้าและโกยซีหมี่เลือกได้ทั้งเส้นใหญ่กับเส้นหมี่ใส่เนื้อหมูหรือไก่ เราสั่งมาชิมอย่างละชาม "เส้นใหญ่ราดหน้าหมู" จุดเด่นของชามนี้ก็คือเส้นใหญ่ผ่านกระทะร้อนสูงมามีกลิ่นหอมไหม้ขึ้นจมูกผสมกับเนื้อหมูเด้งแต่ไม่เละ/คะน้าคัดมาแต่ยอดก้านอ่อนๆและน้ำราดรสชาติกลมกล่อมหวานเค็มลงตัว ถือว่าอร่อยมากๆถ้าไม่ติดว่ากำลังทานบุฟเฟ่ต์ขนมจีบอยู่คงสั่งเบิ้ลมาอีกหลายชาม "โกยซีหมี่ไก่" เป็นเส้นบะหมี่แบนสูตรพิเศษของทางร้านผ่านกระทะมาให้มีกลิ่นหอมเหมือนจานแรก ส่วนน้ำราดก็รสชาติเดียวกันเปลี่ยนแค่ผักต่างๆใส่ลงไปทั้งเห็ดออเร็นจิ/เห็ดหอม/แครอทและหน่อไม้ส่วนเนื้อไก่ก็เป็นแบบหมักนุ่มเนื้อเด้งทานง่ายๆอร่อยประทับใจดีครับ กระดาษสีเหลืองอ่อนเป็น "เมนูเกี๊ยวน้ำหมูแดง" เกี๊ยวแป้งสีเหลืองห่อไส้หมูเด้งแบบเดียวกับในขนมจีบ เติมหมูแดงย่างเตาถ่านกลิ่นหอมเครื่องเทศบาร์บีคิวจีนสไลด์บางลงไป ทานคู่กับน้ำซุปใสสีทองรสหวานกระดูกหมูผสมผักสูตรตำนานกว่า 149 ปีของทางร้าน บอกได้เลยว่าอร่อยซดแล้วสดชื่นสมกับเป็นเมนูที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนานมากครับ
มื้อนี้ผมกับเพื่อนๆชวนกันมาทานรวมทั้งหมด 4 คน ราคาบุฟเฟ่ต์คนละ 257 บาทสุทธิไม่มี Vat. กับ Service Charge มาบวกเพิ่มแต่อย่างใด หากจะใช้ "คนละครึ่ง" ก็เติมเงินเข้าแอปพลิเคชั่นเป้าตังรอเอาไว้เลย 128.50 บาท ส่วนตัวถือว่าอร่อยสมราคาแต่ระบบการจัดการอาจจะงงๆหน่อยต้องปรับตัวอีกเล็กน้อย ถ้าเป็นคนค่อนข้างเลือกทานอาจจะไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่แต่ส่วนตัวทางร้านยกอะไรออกมาจากครัวเราก็ทานได้หมดและรู้สึกสนุกไปกับมันดี วันนี้รับคะแนนความอร่อยคุ้มไป 5 ดาวเลยครับ 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เลขที่ 308 ถึง 312 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. ส่วนบุฟเฟ่ต์ติ่มซำจัดทุกวันเวลา 11.00-14.00 น.
จองก่อนใช้บริการจำกัดเพียงวันละ 90 คน โทร. 081-651-6446 / 081-659-5566 และ 02-229-4420
Facebook : www.facebook.com/thongkeerestaurant
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments