top of page
ค้นหา

รีวิวห้องอาหาร The Oasis โรงแรม Hotel Nikko Bangkok บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นคุณภาพสูง ในราคาเพียง 780++!

  • รูปภาพนักเขียน: Food Addicts - เสพติดการกิน
    Food Addicts - เสพติดการกิน
  • 19 ส.ค. 2562
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 15 มิ.ย. 2564



วันนี้เป็นมื้อพิเศษของครอบครัวผมเองครับ พาคุณแม่จากรามอินทรามาทานอาหารมื้อพิเศษที่ โรงแรม Hotel Nikko Bangkok ทองหล่อ ถามว่าทำไมต้องมาโรงแรมนี้ ? คุณแม่ผมเป็นคนเลือกครับ เขาว่าเคยมาคุยเล่นกับเพื่อนที่นี่วันก่อน คุณภาพอาหารดีมาก ติดใจอยากมาอีก (อะไรจะดีขนาดนั้น?) วันนี้มาที่ห้องอาหาร The Oasis อยู่ที่ชั้น 6 ของโรงแรม โรงแรมดูใหม่และสะอาดมาก หน้าห้องอาหารเขียนว่า A La Carte Dinner Buffet ราคาไม่แพงนะ 780++ เริ่มตั้งแต่ 18.00 - 22.30 น. จัดทุกวันอีกต่างหาก ดูแล้วน่าสนใจดีครับ เข้าไปด้านในดีกว่า

บรรยากาศด้านในบอกเลยว่าสวยงามมาก ดูเป็นแบบญี่ปุ่นสมัยใหม่ เพดานสูง ประดับด้วยต้นไม้เป็นโคมห้อยดูเหมือนเป็น Oasis ตามชื่อห้องอาหาร ที่สำคัญลูกค้าไม่เยอะด้วย แต่เท่าที่สักเกตการพูดคุยกัน ในห้องอาหารนี้ไม่มีคนไทยเลยนอกจากเราและพนักงานของโรงแรมเท่านั้น (นอกนั้นมีแต่คนญี่ปุ่นเต็มไปหมด) ก็อย่างว่าโรงแรมนี้ชื่อญี่ปุ่น จากการสอบถามน้องพนักงานแล้ว ที่นี่ไม่ได้ญี่ปุ่นแค่ชื่อเท่านั้น แต่เป็นโรงแรมในเครือของ Okura Group บริหารโดยคนญี่ปุ่น มาตรฐานเป็นของญี่ปุ่นทุกอย่าง รวมถึงการบริการด้วย มิน่าล่ะแค่เดินเข้ามาโดนยิ้มทักทายซะแล้ว ที่ชอบสุดคือผ้ารองตักสีขาวพับเป็นกิโมโนดูญี่ปุ่นสุดๆ เอาของวางที่โต๊ะแล้วไปสำรวจไลน์อาหารกันดีกว่าครับ

เหมือนนานๆจะมีลูกค้าชาวไทยมาที พนักงานเชิญชวนให้สมัครบัตร One Harmony มันคือบัตรสะสมแต้มในเครือของโรงแรม Okura ใช้ได้ทั้งที่นี่และโรงแรมในเครือทั่วโลก ที่สำคัญสมัครบัตรฟรี แถมได้ส่วนลดค่าห้องพักและบุฟเฟ่ต์อีก 10% และได้คะแนนสะสมเข้าบัตรด้วย เออน่าสนใจ สมัครไว้แล้วกันเพราะเราไปญี่ปุ่นบ่อยๆ แถมได้ลดราคาบุฟเฟ่ต์มื้อนี้ไปเลย (ตอนแรกกะว่าจะใช้บัตร JCB จ่ายก็ได้ส่วนลด 10% เช่นกัน แต่ดูแล้วสมัครไว้ก็ไม่เสียหาย) ส่วนสิทธิพิเศษมีอะไรบ้าง ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://oneharmony.com และใครเป็นสมาชิกของ JAL (Japan Airlines) สามารถนำแต้มมาโอนเข้าบัตรของโรงแรมเพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าห้องได้ มิน่าล่ะคนญี่ปุ่นเพียบ...

เริ่มจากโซนแรก Seafood Station และ Grilled Station มีวัตถุดิบให้เลือกเริ่มตั้งแต่ กุ้ง/ปลาหมึก/หอย/ผักต่างๆ/เห็ด/วุ้นเส้น (ไว้ทำเมนูสุกี้ยากี้แบบไทย) หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ / ปลาหมึก / ปลาแซลมอน /ปลาคอต จะนำไปนึ่งหรือทำเป็นสเต็กก็ได้ตามใจเรา และโซนอาหารย่าง มีให้เลือกทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อไก่ และเนื้อหมู โดยเราสามารถเลือกซอสต่างๆที่จะราดได้ทั้งหมด 6 แบบ แต่ถ้าเลือกไม่ถูกทางห้องอาหารได้จับคู่เอาไว้ให้เราแล้ว อยากทานเมนูไหน เอาป้ายเลขที่โต๊ะวางไว้ แล้วสั่งอาหารกับเชฟได้เลยครับ ไม่ต้องคีบเอง (ยกเว้นสุกี้ยากี้ต้องคีบเองนะ)

เมื่อสั่งอาหารเสร็จแล้วยังไม่ทันไปดูโซนอื่น เชฟบอกว่าถ้าซอสที่ห้องอาหารไม่ถูกใจ เราสามารถมาตักจากข้างหน้านี้ได้ มีให้เลือกอีกมากกว่า 14 ซอส มีมัสตาร์ตปรุงรส/มัสตาร์ตสำเร็จรูป/มัสตาร์ตแบบเป็นเมล็ด/น้ำจิ้มลวกจิ้ม(รสชาติเหมือนน้ำจิ้มข้าวมันไก่ รสเข้มข้นอร่อยมาก)/แจ่วอีสาน(รสชาติหวานหอมกลิ่นมะขามเผ็ดอ่อนๆ)/น้ำจิ้มญี่ปุ่น(อันนี้อธิบายรสชาติไม่ถูกเหมือนคัตสึโอะผสมขิง)/วาซาบิมาโย(อันนี้เด็ดมาก มีเหมือนต้นอ่อนวาซาบิกรอบๆผสมอยู่ด้วย)/ซอสสุกี้ (รสหวานเปรี้ยวกลมกล่อมหอมกลิ่นน้ำมันงา เด็ดไม่แพ้เจ้าดังๆ)/เยลลี่มินต์ (เอาไว้ทานกับเนื้อแกะ) /วูสเตอร์ซอส / ซอสสเต็ก/ซอสบาร์บีคิว(รสเปรี้ยวมะเขือเทศหอมกลิ่นเครื่องบาร์บีคิว)/น้ำเกรวี่(รสชาติเข้มข้นถึงใจ) และ Horseradish sauce อันนี้ชื่อแปลกไม่ได้ตักมาชิม ตอนแรกต้องขอบอกเลยว่าดูถูกซอสที่นี่เอาไว้ในใจแล้ว เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นซอสน่าจะจืด แต่กลับรสเข้มข้นถึงใจแต่ไม่ค่อยเผ็ด ให้ผ่านหมดครับ

ต่อมาเป็นโซน Hot Food มีให้เลือกทานทั้งสตวู์เนื้อวัว (กลิ่นหอมเนื้อวัวและมะเขือเทศน่ากินสุดๆ เดี๋ยวต้องตักไปลองชิม) / พาสต้าซีฟู๊ดรวม / ข้าวผัดไข่+กระเทียม / มันบด / ผักรวมย่าง / ซอสมะเขือเทศ (กลิ่นหอมมะเขือเทศเตะจมูกมาก) / ซุปมิโสะ(กลิ่นหอมปลาคัตสึโอะสุดๆ) มาพร้อมสาหร่ายวากาเมะ ต้นหอม เต้าหู้แบบนิ่มและปลาคัตสึโอแห้ง ปิดท้ายด้วยเมนูพิเศษประจำวันกุ้งพันอ้อยพร้อมน้ำจิ้มบ๊วย แปลว่าแต่ละวันของจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆใช่ไหมครับ ? พนักงานบอกว่าของไม่ได้เปลี่ยนแค่กุ้งพันอ้อยอย่างเดียว แต่ในไลน์อาหารร้อนนี้มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน แล้วแต่ว่าช่วงนั้นๆ เชฟมีวัตถุดิบอะไรดีๆ และอยากจะนำเสนอเป็นเมนูอะไรมากที่สุด ดีครับจะได้ไม่เบื่ออีกด้วย

และ Highlight ที่บุฟเฟ่ต์อาหารเย็นในโรงแรมทุกแห่งต้องมี Sea Food On Ice ที่นี่ไม่ได้อลังการ มีให้ทานไม่กี่อย่าง แต่ดูด้วยสายตาคุณภาพนี่สูงกว่าบุฟเฟ่ต์โรงแรมอื่นๆที่ผ่านมา ทั้งกุ้งขาวแบบไม่แกะเปลือก (ตัวใหญ่และสีส้มสดเหมือนกุ้งปลอมที่ทำจากเนื้อปลาเลย) / กุ้งขาวแกะเปลือกแล้ว (เนื้อสีขาวดูเด้งน่าทาน) / ปลาหมึก (สดเด้งไม่มีกลิ่นคาว) / หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ (เนื้อเต็มฝาลวกมาสุกกำลังดี) และหอยนางรม ดูเหมือนหอยฝรั่งเศสแต่เป็นหอยเกาหลีนะครับ ถามพนักงานแล้ว เห็นว่าหอยฝรั่งเศสทางโรงแรมก็มีให้บริการ แต่เป็น Sunday Brunch น้องพนักงานว่าสดจนบีบมะนาวลงบนตัวหอย แล้วเนื้อหดลงไปเลย จนลูกค้าคนไทยบางคนไม่กล้าทาน ชักอยากจะลองทานแล้วสิ เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันครับ ถ้ารสชาติมื้อนี้ผ่าน ต้องมีโอกาสกลับมาลองอีกแน่นอน น่าสนใจมากๆ

ต่อกันด้วยโซนผลไม้ไทย (ลำไย/แตงโม/ส้มเขียวหวาน/มะละกอ/สับปะรด/แคนตาลูป) เค้กและขนมสไตล์ยุโรป/ชีส 3 เกลอตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปพร้อมผลไม้อบแห้ง/ซีซ่าร์สลัดแบบคลุกปรุงเอง/สลัดพร้อมทาน 3 แบบ (สลัดเห็ด/สลัดไก่/สลัดเต้าหู้) / ตู้ไอศครีม ที่น่าสนใจคือไอศครีมนมฮอกไกโด!!! เดี๋ยวมาชิมดูว่าแท้หรือเทียม

เดินมาอีกหน่อยเป็นโซนซูชิ มีฝาปิดกันข้าวตากลมจนแห้งด้วย แค่ดูด้วยสายตาก็รู้เลยว่า "นี่แหละคือซูชิแบบญี่ปุ่น" คุณภาพปลาดีมาก มีให้เลือกทั้งซูชิมากุโร่(ที่นี่ยืนยันว่าใช้มากุโร่แท้) ต้องถามก่อนเพราะส่วนตัวไม่ชอบกลิ่นคาวเลือดปลาโอจำแลงเป็นมากุโร่ / ซูชิกุ้งต้ม / ซูชิหมึกทาโกะ /ซูชิปลาแซลมอน (ดูลายไขมันสวยๆนั่นสิ) /ซูชิโรลหน้าต่างๆ (ดูแล้วข้าวน้อยให้ไส้เยอะดี) ไม่ได้หวือหวาดูอลังการแบบไลน์อาหารญี่ปุ่นที่อื่น แต่เรียบง่ายดูดีกว่าครับ

ต่อมาเป็นโซนเบเกอรี่ มีให้เลือกทานตั้งแต่ สโคน2รสชาติ(บลูเบอรี่/สตรอเบอรี่)/ทาร์ตไข่/ขนมปังเมลอน /Dessert Of The Day (แต่ละวันไม่เหมือนกัน วันนี้เป็นโทรสต์ที่หน้าตาเหมือนปังติม พร้อมท๊อปปิ้งให้เลือกแต่งตามใจ) / มาร์ชเมลโล่ย่างบนเตาถ่าน / โมจิย่างพร้อมซอสโชยุปรุงรส / ชา-กาแฟร้อน สั่งกับน้องพนักงานได้จากตรงนี้ ลืมบอกไปว่าบุฟเฟ่ต์ที่นี่รวมน้ำเปล่าอีกด้วย น้องพนักงานคอยเดินมาเติมให้ตลอดเวลาที่โต๊ะของเราครับ

โซนเครื่องดื่ม Lกฮ ของที่นี่ยิ่งใหญ่มากครับ อย่างว่าเป็นโรงแรมญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นดื่มค่อนข้างหนักอยู่แล้ว (เท่าที่สังเกตดู คนญี่ปุ่นมาทานบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหารนี้ ตักมาหารมานิดๆหน่อยๆ นั่งสั่งเครื่องดื่มทานกันยาวๆมากกว่า) ส่วนราคานั้นขายเป็น A La Carte นะครับ อยากดื่มต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมตามราคา ไม่มีบริการบุฟเฟ่ต์ให้นะครับ

ตักอาหารมาชิมกัน เริ่มจากซีฟู๊ดของที่นี่ ถ้าใครไม่ได้ทำเล็บหรือห่วงสวย แนะนำให้ตักกุ้งแกะเปลือกมาทานเยอะๆ เพราะตัวใหญ่ เนื้อแน่น สดหวานสู้ฟันสุดๆ อันนี้ต้องยอมรับจริงๆว่าดีกว่าทุกโรงแรมที่เคยทานมา / ส่วนตัวหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ตัวใหญ่ลวกมากำลังดีตามมาตรฐาน / หอยนางรมเกาหลีเนื้อไม่ค่อยหวานแน่น แต่มีความได้เนื้อกว่าฝรั่งเศส ไม่มีกลิ่นคาว ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด บอกเลยว่าแซ่บมาก นึกว่าโรงแรมญี่ปุ่นจะทำรสชาติไม่ถึง แต่ที่นี่ถือว่าผ่านเลยครับ อาหาร Hot food อย่างพาสต้าทะเล (อันนี้รสเค็มๆมันๆหอมกลิ่นเครื่องทะเล) / มันบดรสชาติเบาๆ ไม่หนักเนยครีมแบบของฝรั่งทานง่าย / กุ้งพันอ้อย (อันนี้อร่อยเนื้อกุ้งเด้ง ทานกับน้ำจิ้มบ๊วยรสหวานเปรี้ยว มิน่าล่ะคนญี่ปุ่นแห่ไปตักกันเกีอบจะหมด) ซุปมะเขือเทศ รสหวานเปรี้ยวถึงความเป็นมะเขือเทศเข้มข้นตัดด้วยครีมมันๆ อร่อยสดชื่น / ซุปมิโสะ รสชาติกลมกล่อมหอมปลาคัตสึโอะเค็มกำลังดี (คุณแม่ผมชอบมาก ตักมาทาน 3 ถ้วย) / สตูว์เนื้อ แนะนำให้เลือกส่วนที่ติดมันมา นุ่ม อร่อย รสชาติเข้มข้น ถึงเครื่องสมุนไพร / ซูชิคุณภาพดีเหมือนหน้าตา ข้าวปรุงรสมากลมกล่อม ปริมาณข้าวกับเนื้อปลามีความสัมพันธ์กัน สมกับเป็นโรงแรมญี่ปุ่น และซีซ่าร์สลัดไก่ น้ำสลัดเข้มข้นมาก ใส่ไปแค่2ช้อน เคลือบตัวผักรสชาติเข้มข้น เพิ่มท๊อปปิ้งด้วยอกไก่รมควันสไลด์อร่อยมากครับ

อาหารร้อนที่เราสั่งไปทยอยมาเสิร์ฟ เริ่มจากสุกี้ยากี้ทะเล น้ำซุปหอม เครื่องซีฟู๊ดคุณภาพดี ทานกับน้ำจิ้มรสเข้มข้น อร่อยไม่แพ้สุกี้ร้านดังๆเลยครับ / ปลาคอตลวกจิ้ม ปลาคอตเนื้อนุ่มมัน ทานกับซอสเต้าเจี้ยวรสเข้มข้น อันนี้ดีงามมากแนะนำให้สั่งครับ /ยากิโทริไก่ ย่างมาแห้งกรอบ เนื้อฉ่ำเด้งใน ราดซอสรสหวานสไตล์เทริยากิเข้มข้น ทานคู่กับต้นหอมญี่ปุ่นที่ถูกย่างจนสุกหวาน ดีกว่าร้านอิซากายะหลายๆร้านที่ทานมาครับ และสเต็กเนื้อแกะ อันนี้เนื้อค่อนข้างเหนียว มีกลิ่นเฉพาะตัวค่อนข้างชัด ถ้าคุณไม่ใช่สายแกะตัวจริง หรือแค่อยากลอง จานนี้ผมไม่แนะนำให้สั่งครับ

ติดใจปลาคอตเมื่อกี้สั่งมาอีก เป็นสเต็กปลาคอตซอสฮันนี่มิโสะ เป็นมิโสะปรุงรสหวาน ทานกับเนื้อปลานุ่มๆ (แค่เอาส้อมตัดเนื้อก็หลุดมาเป็นก้อนสวยงาม) อร่อยเข้มข้น เข้ากันสุดๆครับ แต่ถ้าใครไม่ชอบหวานสามารถบอกให้เชฟเปลี่ยนซอสก่อนเสิร์ฟได้นะครับ สเต็กเนื้อวัว น่าจะเป็นส่วนสันนอก ย่างมาแบบ Medium Well ชมพูอ่อนๆด้านใน มากับซอสพอนสึรสเปรี้ยวเพิ่มความสดชื่น อันนี้ไม่ผ่าน เนื้อเหนียว กลิ่นเนื้อค่อนข้างแรง (น่าจะเป็นเนื้อออสเตรเลีย) ใครที่ชอบทานเนื้อติดมันหรือแทรกมันฉ่ำๆแบบผมน่าจะผิดหวังครับ แต่โดยรวมแล้วก็พอทานได้

ปลาแซลมอนซอสเทริยากิ อันนี้เชฟทำมาดีมาก หนังปลากรอบ เนื้อในฉ่ำ สุกกรอบทุกด้านกำลังดี ราดซอสเมเปิ้ลเทริยากิเข้มข้น เข้ากับเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี อีกอย่างปลาแซลมอนที่นี่คุณภาพดีมาก แนะนำให้สั่งครับ ต่อกันด้วยปลาหมึกย่างราดซอสฮันนี่มิโสะ ย่างมาแห้งด้านนอก แต่เนื้อยังฉ่ำด้านใน ไม่มีกลิ่นคาว ที่สำคัญไม่เหนียวด้วย ราดซอสฮันนี่มิโสะเข้มข้นหวามมัน ตัดกับความเค็มเล็กน้อยของปลาหมึก อร่อยมากครับ หอยแมลงภู่อบเนยเนื้อกระชับ หอมกลิ่นเนยกระเทียม และสเต็กหมูราดซอสหัวหอม เนื้อนุ่ม ซอสหวานนวล หอมกลิ่นโชยุอ่อนๆดีครับผม

ปิดท้ายด้วยขนมหวานอย่างเค้กหลากหลายรส (ข้อดีของเค้กที่นี่คือทำไม่หวานจนเกินไป เป็นรสชาติเบาๆท่านง่ายสไตล์ญี่ปุ่น) เห็นมีขนมปังเมลอนเลยเอาไปตัดสอดไส้ไอศครีมนมฮอกไกโด ขนมปังวางไว้นานค่อนข้างเหนียวแล้วไม่ค่อยอร่อยครับ มาร์ชเมลโล่ย่าง อันนี้กรอบนอกหอมกลิ่นควันหน่อยๆ ทานกับซอสช๊อกโกแลตอร่อยดี แต่ที่ประหลาดใจเลยคือ ดังโงะย่าง อันนี้มีความคล้ายที่เคยทานที่ญี่ปุ่นเลย แป้งข้าวเหนียวหนึบ ย่างให้แป้งด้านนอกกระชับ ราดด้วยซอสโชยุหวานหอม อร่อยจนต้องเบิ้ลครับ ปิดท้ายด้วยไอศครีม มีทั้งหมด 6 รสชาติ แต่รสชาติที่อยากจะแนะนำคือ คุกกี้แอนด์ครีม (หอมกลิ่นนมและคุกกี้ขึ้นจมูก) และนมฮอกไกโด (อันนี้ฮอกไกโดจริง รสชาติหวานหอม มีกลิ่นความเป็นนมวัวธรรมชาติเข้มข้น ไม่ใช่กลิ่นนมอัดเม็ดแบบหลายๆร้าน) ตักทานพร้อมท๊อปปิ้งล้นๆ แนะนำแอลมอนด์บอล หวานน้อย ขมช๊อกโกแลต ทานกับไอศครีมหวานๆบอกเลยว่าเด็ดครับ มีรสใหม่อย่างชาไทย และเผือกด้วย น้องพนักงานเดินมาแนะนำให้ไปตักทานเพิ่ม แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้วครับ พุงจะแตกแล้ว จ่ายเงินดีกว่า

มื้อนี้มาทานกัน 2 คน คนละ 780++ ได้ลด 10% เท่ากับว่ามื้อนี้จ่ายแค่ Vat.7% รวม 1,652.51 บาท ตกคนละ 826.25 บาท ไม่แพงเลยครับ เมื่อเทียบกับวัตถุดิบและรสชาติที่ได้รับ ถามพนักงานที่ห้องอาหารว่าทำไมใช้วัตถุดิบดีขนาดนี้ เหตุผลคือ ถ้าไม่ดีจริง แขกชาวญี่ปุ่นที่พักที่นี่จะไม่ทานกันครับ (ก็แน่แหละนะ เพราะอาหารซีฟู๊ดที่บ้านเขาเกรดดีกว่าเราเยอะ) โรงแรมจึงต้องรักษามาตรฐานระดับสูงเอาไว้ครับ อาจมีบางเมนูไม่ถูกใจบ้าง แต่วัตถุดิบดีขนาดนี้หาจากโรงแรมอื่นไม่ได้แน่นอน ห้องอาหาร The Oasis ดีงามเอาไป 5 ดาวเลยจ้า🌟🌟🌟🌟🌟


พิกัด : ทองหล่อ เลขที่ 27 ซอยสุขุมวิท 55 ถนนสุขุมวิท คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

บุฟเฟ่ต์เปิดทุกวัน จ.-อา. 18.00 - 22.30 น. โทร. 02-080-2111 ต่อ The Oasis

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘



Comments


กดติดตามช่องทางต่างๆของเรา

เพื่อรอรับชมรีวิวใหม่ๆที่นี่ได้เลย

  • facebook
  • Twitter - Black Circle
  • Instagram - Black Circle
  • YouTube - Black Circle

Call Us :  096-391-5292

bottom of page