บุฟเฟ่ต์ก๋วยเตี๋ยวเรือหม้อไฟระดับมิชลินเสิร์ฟไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม ณ ร้าน "ราชารส" ต้องกดจองผ่านลิงก์นี้เท่านั้นก่อนจะเข้าใช้บริการ > https://bit.ly/3SDrH3E < รวม 5 สาขาทั่วกทม.และปริมณฑล เริ่มทันทีตั้งแต่วันนี้จนถึง 10 กุมภาพันธ์ 2567
อีกหนึ่งแบรนด์ซึ่งเราได้ยินชื่อเสียงมานานเพราะเคยได้รับรางวัลการันตีด้านความอร่อยเด็ดจนต้องถูกบันทึกลง มิชลินไกด์ระดับบิบกูร์มองด์เมื่อปี 2020 แห่งจังหวัดเชียงใหม่นั่นก็คือ "ราชารส" มีจุดเด่นเรื่องก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อวัววากิว,หมูสายพันธุ์คุโรบูตะหม้อไฟคุณภาพระดับพรีเมียมปรุงน้ำซุปรสชาติเข้มข้นถึงใจปัจจุบันเคลื่อนย้ายถิ่นฐานลงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมกว่า 5 แห่งพร้อมจับมือร่วมกับแอปพลิเคชั่น "Hungry Hub" จัดโปรโมชั่น All You Can Eat สั่งได้ไม่อั้นเกือบ 40 เมนูตลอด 2 ชั่วโมงเต็มราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 349 บาทสุทธิ เด็กเล็กตัวสูงไม่เกิน 110 ซม.กินฟรี 110-130 ซม.จ่ายแค่ 50% โดยวันนี้เราเลือกสาขาที่ใกล้บ้านสุดได้แก่ซอยสาธุประดิษฐ์ 49 วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงค้นหาปักหมุดขับตามระบบแผนที่บนมือถือทันทีสามารถจอดบริเวณริมถนนยานนาวาตลอดแนว ถ้าเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะแนะนำว่านั่ง BRT สถานีวัดดอกไม้พระราม 3 ค่อยโบกเรียกแท็กซี่หรือกระโดดซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้างใกล้เคียงเลี้ยวเข้าสาธุประดิษฐ์อีกประมาณ 2 กิโลเมตรจะพบอาคารพาณิชย์ขนาดหนึ่งคูหาความสูงสี่ชั้นตั้งตระหง่านอยู่ตรงหัวมุมพอดีล้อมรอบด้วยประตูและหน้าต่างกระจกบานใหญ่ล้อมเกือบรอบทุกด้านติดสติ๊กเกอร์ป้ายชื่อร้านค่อนข้างสังเกตยากสักหน่อยแบบนี้แสดงว่าถึงแล้วเรียบร้อยครับผม
บรรยากาศภายในร้าน "ราชารส" เฉพาะสาขาสาธุประดิษฐ์ 49 แห่งนี้เน้นการตกแต่งสไตล์เรียบง่ายเหมือนกับก๋วยเตี๋ยวข้างทางทั่วไปเริ่มต้นจากการปูพื้นด้วยกระเบื้องหินแผ่นใหญ่ทาผนังรอบด้านสีครีมฝั่งริมถนนยานนาวาติดตั้งบานประตูและหน้าต่างกระจกใสเคลือบแผ่นฟิล์มช่วยกรองแสงจากธรรมชาติให้สาดส่องเข้ามาอย่างละมุนสบายสายตาตลอดทั้งวันเปิดเครื่องปรับอากาศผสานพัดลมอีกอย่างละสองตัวเย็นฉ่ำ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเลือกใช้โต๊ะวัสดุทำจากไม้รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสวางกล่องพลาสติกใส่ช้อนสั้นซดน้ำซุป/ตะเกียบคีบเส้น/กระดาษทิชชู่/ไม้จิ้มฟันเพื่ออำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานครบถ้วนสำหรับเก้าอี้ใช้ชนิดเสริมโครงเหล็กวงกลมแข็งแรงแต่ขนาดค่อนข้างเล็กกระจายทั่วบริเวณรวม 10 ตำแหน่งรองรับลูกค้าได้จำนวนสูงสุด 30 ท่านซึ่งส่วนตัวนั้นรู้สึกไม่ค่อยสบายนักเมื่อเป็นมนุษย์ร่างยักษ์แบบเรา จัดการเลือกจุดที่อยากนั่งให้เรียบร้อยน้องพนักงานก็นำเล่มเมนูให้เราชมกันก่อนโดยบุฟเฟ่ต์ต้องกดจองผ่านแอปพลิเคชั่น "Hungry Hub" บนมือถือก่อนเข้าใช้บริการเท่านั้นแบ่งออกสองแพ็กเกจหลักๆได้แก่ Standard 349 แต่วันนี้เราขอจัดเต็มระดับ Premium คนละ 555 บาทสุทธิออเดอร์ได้ทุกรายการเกือบ 40 เมนูนาน 2 ชั่วโมงรวมเครื่องดื่ม,ขนมหวานแล้วสำรองคนเดียวก็ได้ผ่านลิงก์นี้ > https://bit.ly/3SDrH3E < ครับผม
วิธีการออเดอร์ชมจากรีวิวเก่าเมื่อก่อนทางร้าน "ราชารส" ต้องเขียนบนแผ่นกระดาษโดยเราสามารถเลือกเมนูจานหลัก,ชนิดของเส้นก๋วยเตี๋ยว,ระดับความเผ็ด,ช่องหมายเหตุระบุได้ว่าไม่ผักบุ้งหรือถั่วงอกตามใจแต่ปัจจุบันปรับเปลี่ยนสู่ระบบออนไลน์ใหม่เพียงเปิดมือถือกดสแกน QR Code ส่งตรงถึงห้องครัวข้างหลังบ้านทันทีสะดวกรวดเร็วทันใจมากยิ่งขึ้น สำหรับรายการแรกนั้นอยู่ในหมวด "ก๋วยเตี๋ยวเรือหม้อไฟ" ซึ่งเป็น Signature อีกอย่างห้ามพลาดเด็ดขาดมีจุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปกระดูกชนิดเข้มข้นพิเศษปรุงรสชาติเปรี้ยวเผ็ดอมหวานพอกลมกล่อมนัวกะทิหอมเครื่องสมุนไพรไทยแทรกซึมเข้าถึงวัตถุดิบสไลซ์แผ่นบางลวกใช้เวลาไม่นานนักก็พร้อมรับประทานทันทีแบบไม่ต้องเรียกหาน้ำจิ้มเพิ่มเติมอีก ส่วนเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆเจ้าของแบรนด์คัดสรรเฉพาะคุณภาพระดับ Premium จำกัดเพียง 1 ถาดต่อท่านเท่านั้นได้แก่ "โชโตะโมะโมะ" บริเวณระหว่างสะโพกกับน่องวัวแทรกชั้นไขมันสวยงามละเอียดเหมือนลายหินอ่อนสัมผัสค่อนข้างสู้ฟันกลิ่นเด่นชัดชาวญี่ปุ่นมักจะนำไปกินสไตล์สุกี้ยากี้น้ำดำ / "วากิวส่วนท้อง" อีกชื่อเรียกนั่นก็คือบริสเก็ตลักษณะภายนอกคล้ายสามชั้นไขมันสีขาวสลับเนื้อสีแดงนุ่มนิ่มแทบละลายในปากไหลลื่นลงคอชวนฝัน / "ลิ้นวัวเจแปน" เกรดนำเข้าจากฟาร์มมาตรฐานสูงแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยเคี้ยวกรุบกรอบเด้งสนุกเพลิดเพลินดีครับ
สำหรับใครที่ไม่กินเนื้อวัวแนะนำว่าตอนจองผ่านแอปพลิเคชั่น "Hungry Hub" เลือกแค่ระดับ Standard รับสิทธิ์ออเดอร์ "หมูคุโรบูตะ" ส่วนสันคอของสายพันธุ์เบอร์กเชียร์ต้นกำเนิดจากอังกฤษโดยคนญี่ปุ่นนำเข้ามาเลี้ยงรูปแบบใหม่ปรับเปลี่ยนให้อาหารคุณภาพดี,พักผ่อนเต็มที่อยู่อย่างสบายช่วยเพิ่มปริมาณไขมันแทรกละเอียดราวกับหินอ่อนตามกล้ามเนื้ออย่างยาวนานตั้งแต่ยุคเมจิจนปัจจุบันแพร่หลายจำหน่ายตามภัตตาคารชาบูปิ้งย่างระดับพรีเมียมเกือบทุกร้านในประเทศไทย / "เบคอนหมูดำ" ถึงแม้ทางแบรนด์ "ราชารส" จะตั้งชื่อตามนั้นมันก็คือสามชั้นคุโรบูตะขนสีดำสนิทอันโด่งดังแห่งจังหวัดคะโกชิมะไม่ผ่านกระบวนการรมควันเนื้อชมพูสลับไขมันม้วนแผ่นวงกลมสไลซ์บางสวยงาม ถ้าอยากได้เส้นก๋วยเตี๋ยวเปล่าๆประสานร่างหม้อไฟสามารถสั่งลวกสุกบรรจุลงถ้วยขนาดจิ๋วเคล้าน้ำมันโรยกระเทียมเจียวพร้อมทานรวม 5 ชนิดทั้งเล็ก,ใหญ่,หมี่ขาว,บะหมี่ไข่,มาม่า นอกนั้นก็เป็นเครื่องเคียงพื้นฐานซึ่งขาดไม่ได้เมื่อนึกถึงเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือได้แก่ "กากหมูทอดเกลือ" หนังติดไขมันคลุกเกลือสมุทรและแป้งสาลีเบาบางสีเหลืองกรุบกรอบสไตล์เจียงฮาย / "แคบวัว" หนังวัวตากแห้งทอดฟูมีกลิ่นหอมแตกต่างจากแคบหมูธรรมดาอย่างสิ้นเชิง / "ข้าวเปล่า" วางเนื้อสัตว์ราดน้ำซุปตักน้ำตาลทราย,พริกขี้หนูป่น,น้ำส้มสายชู,น้ำปลาปรุงน้ำจิ้มได้เองตามใจครับผม
เมนูถัดมาอยู่ในหมวด Premium จำกัดออเดอร์ได้เพียงคนละ 1 จานเมื่อสำรองที่นั่งล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั่น "Hungry Hub" ราคาคนละ 555 บาทเท่านั้นได้แก่ "สเต๊กเนื้อออสเตรเลีย" บริเวณสันแหลมหรือริบอายสายพันธุ์ท้องถิ่นนำเข้าจากประเทศออสเตรเลียเกรด Grain Fed แทรกชั้นไขมันสวยงามรสชาติเข้มข้นกลิ่นเด่นชัดเฉพาะตัวตัดแบ่งชิ้นขนาดค่อนข้างหนานำไปย่างบนเตาถ่านไฟรุนแรงวันนี้เราพิมพ์ข้อความลงช่องหมายเหตุตอนสั่งผ่านระบบ QR Code ว่าขอความสุกระดับ Medium Well กินคู่กับจิ้มแจ่วสไตล์อีสานหวานอมเปรี้ยวน้ำมะขามเปียกเผ็ดร้อนอร่อยแบบไทย / "ผัดกะเพราเนื้อวากิวตุ๋น" ไทยวากิวส่วนเนื้อแดงล้วนไร้ไขมันติดเส้นเอ็นหั่นชิ้นเล็กตุ๋นลงหม้อหนักเครื่องสมุนไพรใช้ยาวนานต้มกว่า 6 ชั่วโมงจนเปื่อยนุ่มคลุกเคล้าพริกขี้หนูสวน,กระเทียมสับและยอดใบกะเพราปรุงรสชาติเค็มกลมกล่อมสะบัดกระทะฉบับจีนติดกลิ่นไหม้ควันไฟฉุนขึ้นจมูกรับประทานพร้อมข้าวหอมมะลิชั้นดีหุงใหม่เรียงเมล็ดขาวเปล่งประกายแวววาวสวยงามปริมาณเทียบเท่า A La Carte / "เกาเหลาเนื้อรวม" เหมาะสำหรับคนที่อยากลองชิมหลายอย่างเพราะคิดไม่ออกว่าจะเน้นอะไรพิเศษประกอบไปด้วยลูกชิ้นเอ็นวัวเด้งสู้ฟัน,เนื้อตุ๋นเหมือนกะเพรารายการแรก,บริสเกตพื้นท้องสไลซ์บางราดน้ำซุปเข้มข้นน้อยกว่าหม้อไฟซดง่ายใส่ถั่วงอก,ผักบุ้งไทยครับผม
รายการถัดไปแม้จะจองผ่านแอปพลิเคชั่น "Hungry Hub" แค่ระดับ Standard ก็ยังได้รับสิทธิ์ออเดอร์ไม่อั้นยาวนานตลอด 2 ชั่วโมงเต็มนั่นก็คือ "เกาเหลาวากิว" ทางแบรนด์ "ราชารส" เลือกใช้สายพันธุ์เฉพาะไทยวากิวส่วนสะโพกแทรกชั้นไขมันเหมือนลายหินอ่อนสัมผัสเด้งสู้ฟันพอได้เคี้ยวไม่ถึงขั้นละลายหายทันทีในปากจัดลงชามราดน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือชนิดเข้มข้นหอมเครื่องสมุนไพรร้อนๆแค่พอสุกสีอมชมพูสวยงามพร้อมลูกชิ้นเอ็นกรุบกรอบ,ถั่วงอกและผักบุ้งไทยอร่อยครบแบบไม่ต้องปรุงเพิ่มอีก / "หมูทอด" ชื่อเมนูง่ายๆแต่ซ่อนความอร่อยไม่ธรรมดาโดยคัดสรรบริเวณสันคอหมูปริมาณเนื้อกับไขมันสมดุลหั่นชิ้นหนาขนาดกำลังพอดีคำชุบแป้งทอดกรอบจนเหลืองทองเค็มละมุนกลมกล่อมจนอยากได้ข้าวเหนียวเอาไว้ทานคู่กันจิ้มซอสแจ่วตำรับอีสานเปรี้ยวอมหวานน้ำมะขามเปียกแล้วยังคิดค้นพัฒนาต่อยอดเป็น "ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อหมูทอด" ซึ่งรวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์วันนี้อีกด้วย / "ผัดกะเพราลิ้นวัวญี่ปุ่นราดข้าว" ลิ้นวัวหรือ Gyutan ช่วงโคนลิ้นสไลซ์แผ่นบางคลุกเคล้าพริกขี้หนูสวน,กระเทียมจีนสับละเอียดลงกระทะทรงก้นลึกสะบัดผ่านบนเตาเปิดไฟระดับรุนแรงติดกลิ่นหอมไหม้ปลายจมูกทำรสชาติคล้ายว่ามีน้ำปรุงตำรับพิเศษด้านหลังครัวเพื่อรักษามาตรฐานเอาไว้เท่าเทียมทุกจานท็อปปิ้งใบกะเพราจัดเสิร์ฟคู่ข้าวสวยหอมมะลิเข้ากันได้อย่างลงตัวครับผม
สายเส้นต้องชื่นชอบเพราะทางร้าน "ราชารส" เขามีให้เลือกเยอะรวมกว่า 5 ชนิดได้แก่เล็ก,ใหญ่,หมี่ขาว,บะหมี่ไข่และมาม่าโดยจับคู่กับวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียมประกอบร่างรวมกันกลายเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือที่เคยได้รับรางวัลการันตีความอร่อยเด็ดระดับมิชลินบิบกูร์มองด์เมื่อปี 2020 แต่ถ้าออเดอร์เยอะเกินเดี๋ยวจะค่อยคุ้มราคาบุฟเฟ่ต์หัวละ 555 บาทจึงคัดเลือกมาลองชิมแค่ 2 รายการนั่นก็คือ "ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อวากิวโชโตะโมะโมะ" เส้นบะหมี่ลวกสุกกำลังดีสัมผัสเหนียวหนึบสู้ฟันไม่จับตัวเป็นก้อนหรืออืดบวมแม้จะผ่านเวลาเพื่อถ่ายรูปไปสักระยะหนึ่งท็อปปิ้งลูกชิ้นเอ็น,ถั่วงอกลวก,ผักบุ้งไทย,เนื้อวากิวโชโตะโมะโมะบริเวณระหว่างสะโพกกับน่องวัวแทรกชั้นไขมันสวยงามละเอียดเหมือนลายหินอ่อนราดน้ำซุปร้อนๆปริมาณพอขลุกขลิกสไตล์โบราณโรยกระเทียมเจียว,ต้นหอม-ผักชีซอยฝรั่งก่อนยกเสิร์ฟถึงโต๊ะ / "ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูคุโรบุตะ" ช่วงสันคอของสายพันธุ์เบอร์กเชียร์ต้นกำเนิดบนเกาะอังกฤษถูกเลี้ยงพัฒนาใหม่โดยชาวญี่ปุ่นสไลซ์แผ่นบางใส่ลูกชิ้นเอ็นหมูกรุบกรอบเด้งสู้ฟันเคี้ยวสนุกและสำหรับใครกำลังกังวลเรื่องการปนเปื้อนเราสอบถามน้องพนักงานแล้วได้ความว่าหลังร้านต้มแยกหม้อระหว่างหมู-เนื้อออกจากกันอย่างชัดเจนรับประทานได้อย่างสบายใจแน่นอนซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่าฝั่งกระดูกวัวเข้มข้นถูกปากมากกว่าพิจารณาตัดสินกันเองครับ
ระหว่างนั่งรอก๋วยเตี๋ยวและลวกเนื้อลงหม้อไฟเพื่อไม่ให้เวลาในการรับประทานบุฟเฟ่ต์อันแสนมีค่าผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์โดยทางร้าน "ราชารส" ได้บรรจุเมนูกินเล่นระหว่างนั้นแทรกเอาไว้อีกมากมายเริ่มต้นกันด้วย "ลูกชิ้นเอ็นเนื้อ" กับ "ลูกชิ้นเอ็นหมู" เหมือนที่บรรจุอยู่ในรายการเกาเหลาชามก่อนหน้านี้ทุกประการคัดเฉพาะส่วนเนื้อล้วนบดละเอียดผสมเส้นเอ็นสัมผัสกรุบกรอบใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์เพียงเล็กน้อยเพื่อให้จับตัวปั้นก้อนรูปทรงวงกลมสวยงามง่ายยิ่งขึ้นปรุงรสชาติเค็มกลมกล่อมต้มน้ำเดือดพอสุกจับเสียบไม้แหลมย่างพลิกเรื่อยๆบนเตาถ่านหอมไหม้เกรียมนิดหน่อยจิ้มคู่ซอสสูตรพิเศษเปรี้ยวอมหวานละมุนน้ำมะขามเปียกเผ็ดร้อนแซ่บช่วยกระตุ้นความอยากอาหารเผลอแป๊บเดียวหมดเกลี้ยงจาน / "ลูกชิ้นรวมทอด" เอ็นหมูสลับเนื้อวัวคละกันหั่นแบ่งครึ่งหนึ่งก่อนนำทอดลงน้ำมันตั้งอุณหภูมิระดับปานกลางจนผิวด้านนอกสีเหลืองทองสวยงามค่อยยกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ / "เกี๊ยวหมูเด้ง" หรือบะช่อสับหยาบคลุกเคล้าเครื่องสมุนไพรทั้งรากผักชี,กระเทียม,พริกไทยดำบรรจุลงตรงกลางแป้งเกี๊ยวทำจากไข่ไก่ประกบกัน 2 แผ่นคล้ายดาวแปดแฉกทอดลงน้ำมันไฟค่อนข้างอ่อนให้ไส้สุกพร้อมกันกินคู่น้ำจิ้มช่วยไก่ตัดเลี่ยน เสียดายว่าวันนี้ "ปอเปี๊ยะแฮมชีส" หมดแนะนำว่าก่อนจองผ่าน "Hungry Hub" ควรสอบถามล่วงหน้าจะได้ไม่ผิดหวังแบบเราครับ
ปิดท้ายด้วยรายการขนมหวานโดยรวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ทั้งสองระดับราคาเรียบร้อยนั่นก็คือ Standard 349 บาทและ Premium หัวละ 555 บาทได้แก่ "ไอติมฝอยทอง" ซึ่งแต่ละสาขานั้นสลับเปลี่ยนรสชาติไอศครีมไปเรื่อยไม่ซ้ำกันอย่างวันนี้ร้าน "ราชารส" บริเวณสาธุประดิษฐ์ซอย 49 เตรียมพร้อมเอาไว้จัดเสิร์ฟลูกค้าเพียงสองรายการได้แก่ "กะทิสด" / "ช็อกโกแลต" ตักเป็นก้อนรูปทรงวงกลมบรรจุลงถ้วยลายศิลปะแบบไทยเบญจรงค์โบราณประมาณ 3 ลูกท็อปปิ้งขนมฝอยทองทำจากไข่แดงเป็ดล้วนสูตรหวานน้อยนิดหอมกลิ่นน้ำเชื่อมใบเตยละมุนเย็นสดชื่นจับคู่กันได้อร่อยลงตัวไม่เหมือนใครแถมไร้ข้อจำกัดสั่งได้จนกว่าจะรู้สึกพอใจตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม (ส่วนรสชาติอื่นนั้นพวกเราคาดเดาว่าน่าจะมี "วานิลลาช็อกโกแลตชิพ" กับ "ชาเขียวมัทฉะ" เพราะแขวนรูปถ่ายประดับอยู่ตามฝาผนังชัดเจน) สำหรับเครื่องดื่มแพ็กเกจ All You Can Eat สามารถออเดอร์ที่พนักงานเองได้แทบทุกอย่างเช่นน้ำอัดลม/น้ำเปล่า/น้ำแข็งก้อนยูนิต (ยกเว้นแอลกอฮอล์/น้ำสมุนไพรบรรจุลงขวดแช่ตู้เพื่อรักษาอุณหภูมิทั้งชาเย็น,โอเลี้ยง,ใบเตย,ลำไย,เก๊กฮวย,กาแฟ,นมชมพู,โอวัลติน) ครบจบเมนูคาวสลับหวานอิ่มแน่นท้องยัดแทบไม่ไหวแล้ว ข้อควรระวังแต่ละจานปริมาณเยอะเทียบเท่า A La Carte ต้องคำนวณพื้นที่กระเพาะของคุณดีๆเพราะถ้าเหลือปรับจริงครับผม
มื้อนี้เรามาทานกัน 4 คนสั่งอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 40 เมนูรวมทั้งหมด 2,220 บาทสุทธิ (ไม่มี Vat. 7% และ Service Charge 10% คิดบวกเพิ่ม) ส่วนตัวยังไม่เคยมีประสบการณ์ลองชิมก๋วยเตี๋ยวเรือแบรนด์ "ราชารส" มาก่อนแม้จะได้ยินชื่อเสียงสักพัก โดยรวมถือว่ารสชาติเข้มข้น-ถูกปากเลือกใช้วัตถุดิบต่างๆคุณภาพสูงระดับพรีเมียมจริงสมกับที่เคยได้รับรางวัลมิชลินไกด์ระดับบิบกูร์มองด์เมืองเชียงใหม่เมื่อปี 2020 ดีครบทุกด้านแบบนี้ได้รับคะแนนอร่อยและความคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวครับผม🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เลขที่ 629/390 ถนนยานนาวา ซอยสาธุประดิษฐ์ 49 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดเริ่มตั้งแต่เวลา 10:00-20:00 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)
เบอร์โทรศัพท์ : 081-687-8877
ปัจจุบัน "ราชารส" เปิดบริการอีก 4 สาขาทั้ง พัฒนาการ,สุขุมวิท101/1,พระราม2,รังสิต ใกล้จุดไหนไปลองครับ
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ
ค่อยตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
บุฟเฟ่ต์ก๋วยเตี๋ยวเรือหม้อไฟระดับมิชลินเสิร์ฟไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม ณ ร้าน "ราชารส" ต้องกดจองผ่านลิงก์นี้เท่านั้นก่อนจะเข้าใช้บริการ > https://bit.ly/3SDrH3E < รวม 5 สาขาทั่วกทม.และปริมณฑล เริ่มทันทีตั้งแต่วันนี้จนถึง 10 กุมภาพันธ์ 2567
ความคิดเห็น