ปัจจุบันร้านนั่งดื่มสไตล์อิซากายะกำลังได้รับความนิยมในประเทศไทยแต่มีอยู่ร้านนึงที่นำแนวคิดการนั่งดื่มแบบไทยๆมาผสมผสานกันทำให้กลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวนั่นก็คือ Raan-Keng อยู่ในซอยประดิพัทธ์ 14 อย่างที่บอกไปตอนแรกแล้วว่าปกติร้านนี้เขาเป็นจุด Hang Out เมื่อวันก่อนผมมาติดใจอาหารที่ร้านนี้อยู่หลายรายการแก่ไม่ได้พกกล้องมารีวิวด้วย วันนี้เลยกลับมาอีกครั้งพร้อมพาคุณแฟนมาด้วยเพราะนางบ่นว่าฟันไม่ค่อยดีแต่อยากทานหมูย่างอร่อยๆก็นึกออกว่าที่ร้านนี้เขามีเมนูเด็ดที่ตอบโจทย์และถือโอกาสรีวิวไปด้วยในตัว วิธีการเดินทางก็ไม่ยากหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวภายในซอยและพื้นที่ร้านมีลานสามารถจอดรถได้หลายคัน แต่ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะจะลง BTS สถานีอารีย์หรือสะพานควายก็ได้แล้วเรียกรถมาตาม Google Maps อีกแค่ 1.5 กม. ก็จะมาถึงหน้าร้านที่มองผ่านๆนึกว่าบ้านคนมากกว่าร้านอาหาร จุดเด่นอยู่ตรงที่บ้านหลังสีน้ำเงินเข้มรั้วทาด้วยสีทองโดดเด่นกว่าหลังอื่นอยู่ทางซ้ายมือเมื่อเข้าซอยมาประมาณ 150 เมตรเท่านั้น มองเห็นป้ายสีทองอักษรตัวเขียนภาษาอังกฤษแบบนี้แสดงว่ามาถูกร้านแล้ว ก่อนที่จะเข้าไปในร้านเราก็ขอพาทุกคนไปสำรวจรอบๆกันก่อนครับ
บรรยากาศโดยรอบมันคือบ้านสวนสุดร่มรื่นคลุมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่แทบไม่มีแสงแดดส่องเข้าตัวบ้านโดยตรง สร้างความสงบด้วยน้ำพุขนาดเล็กชวนให้นั่งชิลล์ๆที่สวนด้านนอก ใครเป็นสาย Outdoor นั่งดื่มใต้ต้นไม้ฟังเสียงน้ำไหลเอื่อยๆสัมผัสสายลมเย็นอ่อนๆจากธรรมชาติที่มองไปตรงไหนก็เจอแต่พื้นที่สีเขียวๆ ต้องถูกใจร้านนี้แน่นอนครับ
ก่อนเข้าไปในร้านเรามาดูเล่มเมนูของที่ร้านก่อนว่ามีอะไรให้ทานบ้าง หน้าแรกเราจะพบกับแนวคิดของที่ร้านแบบที่บอกไปข้างต้นคือ Japanese Izakaya & Thai E-sarn Restaurant คือทุกเมนูในร้านนี้เป็นอาหารญี่ปุ่นผสมไทย (มีเทคนิคจากอาหารฝรั่งด้วย) เสิร์ฟทั้งแบบต้นตำรับและฟิวชั่นที่น่าสนใจหลากหลายเมนู หมวดแรกเป็นอาหารจานเดียวทั้งเมนูข้าวและเส้นสไตล์ไทย-ญี่ปุ่นทุกจานให้เนื้อวัวออสเตรเลียส่วนริปอายเกรด Grain-Fed 150 กรัมราคา 489 บาท เมนูต่อมาเป็นสเต็กกระทะร้อนสไตล์ญี่ปุ่นราคา 499-1,299 บาท ชุดนาเบะหม้อไฟและเมนูเสียบไม้ย่างสไตล์ญี่ปุ่น 299-349 บาท เมนูจากแซลมอนทั้งซาชิมิ/ทอด/ย่างราคา 199-249 บาท เทมปุระทอดสไตล์ญี่ปุ่นที่ร้านมีให้เลือกแป้ง 2 แบบคือสูตรปกติกับผสมสีดอกอัญชันราคาเมนูละ 249 บาท เมนูสลัดสไตล์ญี่ปุ่นราคา 79-299 บาท เมนูสเต็กญี่ปุ่นแต่ราดซอสพริกหมาล่าจีนราคา 169-269 บาท เมนูกับแกล้มสไตล์ร้านนั่งดื่มญี่ปุ่นหลากหลายเมนูราคา 49-149 บาท เมนูอาหารไทย/อีสานเสิร์ฟเป็นกับแกล้มราคา 139-199 บาท เมนูยำๆสไตล์ไทยราคา 139-249 บาท เมนูส้มตำสไตล์อีสานแท้และฟิวชั่นราคา 99-299 บาท เมนูย่างแบบอีสานแท้กับฟิวชั่น ราคา 149-579 บาท สามารถเลือกได้หลายสูตรทั้งแบบต้นตำรับ/ขมิ้นหรือร้องไห้(โรยข้าวคั่ว)ไม่เหมือนร้านไหนๆ เมนูของทอดสไตล์อีสานราคา 119-299 บาท เมนูผัดผักทานง่ายๆราคาเมนูละ 149 บาท เมนูหม้อไฟแบบไทยมีให้เลือกทั้งต้มยำและต้มแซ่บราคา 199-229 บาท (ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เลือก) ตามมาด้วยเครื่องดื่มเย็นๆหลากหลายเชื้อชาติ น้ำดื่มและน้ำหวานราคา 29-59 บาท ไอศครีมโฮมเมด 6 รสชาติลูกละ 79 บาท เมนูขนมหวานราคา 89-149 บาท ชา/กาแฟร้อนที่ละ 89 บาท เมนูที่เป็นรายการแนะนำสังเกตในเล่มจะมี 3 ดาวบอกอยู่ก็สั่งตามกันเลยจ้า
บรรยากาศภายในร้านมีในส่วนของชายคาด้านนอกและห้องแอร์เย็นฉ่ำ ถ้าเป็นสายเก๋เน้นถ่ายรูปสวยแนะนำว่าชายคาด้านนอกแสงธรรมชาตินวลตากับโต๊ะลายไม้ตัดกับกำแพงสีน้ำเงินเข้มขึ้นกล้องแน่นอน ส่วนด้านในมีให้เลือกนั่งหลายมุมทั้งโซนที่ดูหรูหราด้วยเก้าอี้จักสานกับโต๊ะลายหินอ่อนไปจนถึงโต๊ะ+เก้าอี้ไม้นั่งสบายๆสไตล์สวนหลังบ้าน พร้อมกับบริการดนตรีทุกวันพุธถึงเสาร์ 20.00-22.00 น.โดยมีการเปลี่ยนวงดนตรีในทุกๆวันฟังได้ไม่มีเบื่อ อีกทั้งโซนห้องดนตรีสดนี้สามารถกั้นเป็นห้องส่วนตัวรองรับลูกค้าได้มากถึง 30 คนไม่มีค่าห้องแต่ต้องสั่งอาหารกับเครื่องดื่มรวมกันให้มากกว่า 20,000 บาท หาโต๊ะนั่งและสั่งอาหารให้เรียบร้อยแล้วก็รออาหารที่สั่งไปมาเสิร์ฟกันครับผม
เมนูแรกจานใหญ่พิเศษและราคาแพงสุดภายในร้านแต่ถ้าคุณเป็นแฟนตัวยงเมนูนี้ควรสั่งคือ "ซี่โครงหมูย่างข้าวคั่วบาร์บีคิว" ราคา 579 บาท เป็นซี่โครงหมูแผงใหญ่นำไปย่างเคลือบซอสบาร์บีคิวจนเนื้อสุกอมชมพูลอกล่อนออกจากกระดูกส่วนที่เป็นกระดูกอ่อนก็นุ่มละลายทานได้ง่ายๆ ซอสบาร์บีคิวรสหวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นเครื่องเทศถึงใจก่อนจะโรยด้วยข้าวคั่วเพิ่มความกรุบกรอบ ทานคู่กับซอสบาร์บีคิวแบบเดียวกับที่เคลือบอยู่ช่วยเพิ่มความชุ่มฉ่ำและเข้มข้นอีกชั้นหรือจะทานกับซอสจิ้มแจ่วน้ำมะขามเปียกรสหวานอมเปรี้ยวสไตล์ไทยๆก็เข้ากันได้ดีกับซี่โครงย่างแบบฝรั่ง ก็ถือเป็นเมนูฟิวชั่นที่ต่างจากแนวคิดญี่ปุ่น-อีสานของทางร้านเล็กน้อยแต่โดยรวมแล้วอร่อยโดนใจสุดๆครับผม
เมนูต่อมาเป็นอาหารญี่ปุ่นแท้คือ "หมูสไลด์ผัดซอสญี่ปุ่น" ราคา 139 บาท สั่งข้าวสวยญี่ปุ่นมาทานด้วยกันอีกถ้วยละ 58 บาท เป็นหมูสไลด์ส่วนสันคอแทรกไขมันผัดกับซอสซีอิ๊วรสหวาน-เค็มหอมกลิ่นน้ำผึ้งอ่อนๆเพิ่มความอูมามิด้วยหอมใหญ่-น้ำมันงาโรยงาขาวคั่วท๊อบปิ้งด้วยต้นหอมญี่ปุ่นซอยปริมาณมากช่วงลดความเลี่ยนจากไขมันหมูทานกับข้าวสวยได้อร่อยจนคำสุดท้าย จานต่อมาเป็นเมนูอีสานญี่ปุ่นสุดครีเอทไม่เหมือนกับร้านไหนก็คือ "ตำปูนิ่มวาซาบิ" เป็นส้มตำไทยเส้นมะละกอกรอบเย็นปรุงมารสชาติเปรี้ยวหวานเพิ่มความเผ็ดฉุนด้วยวาซาบิผสมลงไปในซอสส้มตำพอมีกลิ่นอ่อนๆ ทานคู่กับปูนิ่มทอดตัวใหญ่ที่ไม่เค็มปี๋แถมมีกลิ่นหอมปูผสมกับแป้งทอดกรุบกรอบ กลมกล่อมด้วยไข่กุ้งหรือไข่ปลาบินปรุงรสให้สัมผัสแตกปรุๆในปาก ทานกับข้าวเหนียวอัญชันราคาเข่งละ 19 บาท เป็นเมนูสุดฟิวชั่นที่อร่อยได้ความเผ็ดร้อนแบบไทยๆผสมญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวสุดๆ อยู่ในหมวดเมนูแนะนำด้วยสำหรับจานนี้ครับ
เมนูสุดท้ายคือจานที่ตั้งใจพาแฟนผมมาทานในวันนี้คือ "สเต็กคอหมูอบซูวี" ราคา 449 บาท เสิร์ฟมาใส่กระทะร้อนขนาดใหญ่เป็นคอหมูชิ้นใหญ่-หนานำไปซูวีจนนุ่มขนาดจิ้มด้วยส้มแล้วเนื้อหมูสลายหายขาดออกจากกัน ภายในเนื้อหมูหอมกลิ่นคล้ายกับเครื่องพะโล้ทานคู่กับมัสตาร์ตรสเปรี้ยว-มันมีความเผ็ดนิดๆ/กระเทียมย่างและผัดผักกับซอสโชยุหวาน-เค็มสไตล์ญี่ปุ่น เป็นการนำเทคนิคของอาหารฝรั่งมาผสมกับเทปันยากิจนได้เมนูจานใหม่สุดนุ่มละมุนลิ้นเหมาะกับคนที่เพิ่งจัดฟันมาใหม่ๆหรือชื่นชอบทานเนื้อนุ่มๆต้องถูกใจเมนูฟิวชั่นจานนี้ของที่ Raan Keng แน่นอน
มื้อนี้เรามาทานกัน 2 คน หมดไป 1,628 บาท มี Vat. 7% และ Service Charge อีก 10% รวมเป็น 1,916 บาท ราคาถือว่าค่อนข้างสูงแต่สิ่งที่ทำให้ร้านนี้แตกต่างจากร้านอื่นคือเมนูฟัวชั่นญี่ปุ่น-อีสานรวมถึงการใช้วัตถุดิบไปจนถึงการปรุง ที่มีการนำเทคนิคจากชาติต่างๆปรุงออกมาเป็นอาหารจานใหม่ที่อร่อยไม่เหมือนใคร ส่วนใครเป็นสายดื่มร้านนี้เขาก็เปิดยาวไปจนถึงเที่ยงคืนเหมาะกับสายชอบนั่งชิลล์แบบสุดๆวันนี้ที่ Raan Keng รับคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวเต็มครับผม 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : บ้านเลขที่ 9 ซอยประดิพัทธ์ 14 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-ศุกร์ 15.30-24.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 12.00-24.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
โทร. 02-279-1555
Facebook : https://www.facebook.com/raankeng
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘