ครั้งที่แล้วเรามาหาร้านกาแฟนั่งชิลล์ๆแถวถนนชัยพฤกษ์-บางขุนนนท์แค่ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามก็จะพบกับร้านดังเจ้าเก่าแก่ในย่านนี้ที่มีลูกค้าเดินเข้าออกกันไม่ขาดสายนั่นก็คือ "ก๋วยเตี๋ยวใบตำลึง (นายแกละ)" เป็นเจ้าดั้งเดิมที่ตั้งอยู่ย่านตลิ่งชันนี้มานานกว่า 60 ปี และได้รับรางวัลการันตีความอร่อยระดับ "เชลล์ชวนชิม" มาตั้งแต่รุ่นพ่อจากหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ และปัจจุบันเขาสู่รุ่นที่ 3 ก็ได้รับรางวัลอีกครั้งจากหม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ โดยชื่อ "นายแกละ" นั้นเป็นชื่อเจ้าของรุ่นแรกที่เคยพายเรือขายก๋วยเตี๋ยวสูตรนี้อยู่ในคลองจนย้ายมาขายในตึกแถวตรงจุดที่เรามาทานกันวันนี้ ซึ่งมีการปรับปรุงตกแต่งร้านใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันแต่ยังมีกลิ่นอายมนต์ขลังจากอดีตผสมลงไปสะท้อนความเป็นตัวตนของที่ร้านอย่างครบถ้วน ร้านตั้งอยู่บนถนนชัยพฤกษ์ก่อนถึงสามแยกชักพระ (ถ้าเดินทางเข้าซอยมาจากถนนปิ่นเกล้า) สังเกตป้ายชื่อพร้อมสัญลักษณ์เชลล์ชวนชิมอยู่ทางด้านขวามือชั้น 2 ของตึกแถว หากนำรถยนต์ส่วนตัวมาเองสามารถจอดริมถนนด้านหน้าร้านเป็นแนวยาว ถ้าเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง MRT สถานีบางขุนนนท์แล้วเรียกรถให้ขับมาตามถนนชัยพฤกษ์ประมาณ 2.5 กม. ก็จะถึงแล้วครับ
เข้ามาหน้าร้านอันดับแรกก็จะพบกับจุดตรวจวัดอุณหภูมิพร้อมกับป้ายที่บ่งบอกว่ารับสิทธิ์ทุกๆอย่างของทางรัฐ ภายในยังคงเป็นตึกขนาด 2 คูหาเหมือนเดิม แต่ทำเพดานให้สูงขึ้นตกแต่งด้วยพื้นกระเบื้องมันเงาสีขาวตัดกับลายไม้ดูหรูหรา-ทันสมัยมากขึ้น แต่ยังไม่ทิ้งของตกแต่งเก่าบางอย่างเช่นประตูเหล็กเก่าด้านหน้าก็เอามาทาสีใหม่กลายเป็นลายผนังบนพื้นสีแดงดูโดดเด่นสะดุดตา เค้าท์เตอร์ปรุงก๋วยเตี๋ยวและเสามีการนำรั้วตะแกรงสีดำมากั้นก่อนจะเทหินกรวดกลมสีดำลงไปดูเก๋ไม่เหมือนใคร โต๊ะภายในร้านมีทัั้งเป็นแบบสแตนเลสดั้งเดิมโดยยกมาจากร้านเก่าและโต๊ะไม้เสริมโครงเหล็กทาสีดำที่ทำขึ้นมาใหม่ดูเข้ากับบรรยากาศภายในร้าน ส่วนเก้าอี้ทั้งหมดยังใช้เป็นสแตนเลสเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือโซฟาไม้แนวยาวเริ่มตั้งแต่หน้าประตูไปจนถึงหลังร้านที่กว้างขวางทำให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น ภายในร้านติดพัดลมตัวขนาดใหญ่ช่วยระบายอากาศได้ดีทำให้ไม่ต้องทรมาณกับการทานนั่งก๋วยเตี๋ยวร้อนๆแล้วต้องคอยนั่งเกาหัวเพราะเหงื่อออกออกตลอดเวลา มาถึงมองหาที่นั่งกันก่อนส่วนจะมีเมนูอะไรให้ทานบ้างค่อยมาดูไปพร้อมกันครับผม
เพื่อเป็นการการันตีว่าร้านนี้เป็นเจ้าดั้งเดิมของแท้ไม่ได้มาสวมรอยแต่อย่างใดนั่นก็คือป้าย "ประสพลาภ" สีแดงที่ใครเคยมาทานก่อนหน้านี้ต้องจำได้ทุกคนเพราะมันเคยแปะอยู่บนประตูเหล็กหน้าร้าน เจ้าของรุ่นที่ 3 ได้ขยับเข้ามาด้านในเพื่อเก็บรักษาไม่ให้ผุพังไปตามกาลเวลา ส่วนเมนูของที่ร้านหลักๆก็คือก๋วยเตี๋ยวหมูใบตำลึงสูตรโบราณราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 40 บาท สั่งได้ว่าจะทานเป็นแบบแห้ง/น้ำใส/ต้มยำ ส่วนเส้นมีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก/เส้นใหญ่/หมี่ขาว/วุ้นเส้น/บะหมี่และเกี่ยมอี๋ ถ้าสั่งเป็นพิเศษราคาชามละ 50 บาท สามารถสั่งได้ว่าจะพิเศษเครื่องหรือเส้นตามใจ นอกจากนี้ยังมีก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นเริ่มต้นชามละ 60 บาท/เครื่องในหมูลวกจิ้มชามละ 50 บาท เพิ่มข้าวสวย/ผักลวกรายการละ 10 บาท เกาเหลาทั้งหมูตำลึงและเป็ดตุ๋นชามละ 50 บาท นอกจากนี้ยังมีเล้งแซ่บเป็นชามและหม้อราคา 80-150 บาท และหมูสะเต๊ะขายเป็นชุดมีเตาย่างใหม่ๆทำให้เห็นสดๆหน้าร้านเริ่มต้นที่ชุดละ 10-30 ไม้ ราคา 60-180 บาท ขนมปังแผ่นละ 10 บาท (ต้องสั่งพร้อมหมูสะเต๊ะเท่านั้น) เครื่องดื่มทั้งน้ำเปล่า-น้ำหวานขวดละ 10-20 บาท น้ำแข็งเปล่าแก้วละ 2 บาท ขนมหวานรายการละ 25 บาท โดยรวมแล้วราคาก็ไม่แพงสามารถมาทานได้บ่อยๆไม่แปลกใจที่ระหว่างนั่งทานมีลูกค้าเดินเข้า-ออกและสั่งกลับบ้านกันแบบเรื่อยๆไม่มีหยุดแทบจะตลอดเวลาเลยครับ
สั่งอาหารไปแล้วระหว่างนั่งรอก็สำรวจภายในร้านไปเรื่อยๆ ใครจะเข้ามาทานอย่าลืมว่าร้านปิดทุกวันพฤ.ยกเว้นว่าจะตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดให้บริการตามปกติ เครื่องปรุงต่างๆบนโต๊ะมีทั้งน้ำปลา/น้ำตาล/พริกดองน้ำส้ม/พริกป่นคั่วที่เผ็ดสุดๆและพริดน้ำส้มปรุงรสสูตรพิเศษเอาไว้ทานกับก๋วยเตี๋ยวเป็ดโดยเฉพาะ หากใครต้องการความกรุบกรอบบนโต๊ะมีหนังปลาแซลมอนทอดกับสาหร่ายแผ่นทอดให้หยิบทานได้ (ราคาแปะอยู่บนซอง) ส่วนน้ำเปล่ามีให้เป็นเหยือกดื่มได้ฟรี ด้านหลังร้านรวมแผ่นป้ายประกาศนียบัตรจากเชลล์ชวนชิมทั้ง 2 ใบจาก 2 รุ่นอย่างที่บอกไปเบื้องต้น/คอลัมน์จากนิตยสารและหนังสือพิมพ์พร้อมใบการันตีมาตรฐานความสะอาดจากกรุงเทพมหานคร ช่วยให้มื้อนี้วางใจได้เลยว่าจะได้ทานก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึงสูตรโบราณแท้ๆที่อร่อย-สะอาดและได้มาตรฐานอย่างแน่นอนครับ
ชามแรกมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็วทันใจคือ "ก๋วยเตี๋ยวหมูใบตำลึงเส้นเล็กต้มยำพิเศษเครื่อง" ราคาชามนี้ 50 บาท เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่พริกคั่วเผ็ดฉุนและถั่วลิสงคั่วหอมน้ำมันกระเทียมเจียวในน้ำซุปรสชาติกลมกล่อมเบาๆไม่เข้มข้นเหมือนร้านสมัยใหม่ เส้นเล็กเหนียวนุ่มไม่จับกันเป็นก้อนเพิ่มถั่วงอกและใบตำลึงอ่อนเคี้ยวง่ายไม่เหนียวเป็นเส้นๆติดฟัน จุดเด่นของทางร้านนอกจากใบตำลึงแล้วก็คือเครื่องในหมูส่วนต่างๆที่ให้มาเยอะชิ้นหนาเคี้ยวเต็มคำมีทั้งตับ/เซี่ยงจี้/ไส้หมูและกระเพาะหมูล้างมาสะอาดไร้กลิ่นคาวและลวกสุกมากำลังดีพร้อมหมูสดหั่นชิ้นรสชาติสะอาดๆ ไม่ได้ประโคมเครื่องสมุนไพรลงไปจำนวนมากเพื่อดับกลิ่นเครื่องในแบบหลายๆร้าน จานต่อไปก็คือ "เครื่องในลวกจิ้ม" ราคาชามละ 50 บาท เป็นรวมเครื่องในทั้งหมดที่เหมือนกับชามแรกโรยด้วยเกี๊ยวกรอบผสมกากหมูแบบจุกๆทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษรสชาติเค็ม-เปรี้ยมอมหวานนิดๆเผ็ดร้อนพริกคั่ว เครื่องในแต่ละส่วนมีทั้งเด้งกรอบและนวลเนียนละลายในปากเวลาเคี้ยวแตกต่างกัน ถือว่าทางร้านได้คำนวณการลวกในแต่ละชิ้นส่วนมาได้เป็นอย่างดีเลยครับ
ชามต่อไปก็คือ "ก๋วยเตี๋ยวหมูใบตำลึงเส้นเล็กต้มยำแห้งพิเศษเครื่อง" ราคาชามละ 50 บาท เป็นเส้นเล็กต้มยำแบบเดียวกับชามแรกแต่ไม่ใส่น้ำซุป ปรุงรสให้เผ็ดเปรี้ยวเค็มอมหวานนิดๆพร้อมน้ำมันกระเทียมเจียวและถั่วลิสงบดคั่วเคลือบตัวเส้นเอาไว้ก่อนจะท๊อบปิ้งด้วยเครื่องในกับหมูสดโรยด้วยต้นหอมซอย ชามนี้จะได้อารมณ์เหมือนทานยำก๋วยเตี๋ยวแบบเข้มข้นรับรองว่าถูกใจคนที่ชอบทานรสจัดจ้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแน่นอนครับ อยากชิมรสชาติของน้ำซุปแบบ Original เลยสั่งมาลองอีกชามก็คือ "ก๋วยเตี๋ยวหมูใบตำลึงเส้นบะหมี่น้ำใสพิเศษเครื่อง" ราคาชามละ 50 บาท เป็นบะหมี่ไข่เส้นสีเหลืองเรียวเล็กแต่เหนียวนุ่มทานคู่กับซุปน้ำใสผสมเนื้อหมูสับ/ท๊อบปิ้งที่เหมือนกับชามก่อนๆ รสชาติของน้ำซุปเป็นกระดูกหมูต้มน้ำใสแต่กลมกล่อมตำรับโบราณทานง่ายเผ็ดร้อนพริกไทยนิดๆพอซดได้คล่องคอ โดยรวมถือว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวที่ง่ายๆไม่ซับซ้อนทานแล้วรู้สึกสะอาดแต่ปัจจุบันถือว่าหาทานได้ยากต้องมาลองเองครับ
จุดเด่นหรือ Signature อีกอย่างที่มัดใจลูกค้ามาได้ตั้งแต่รุ่นพ่อนั่นก็คือ "กากหมูผสมเกี๊ยวกรอบ" ที่สามารถสั่งได้ไม่อั้นแต่ทางร้านบอกเงื่อนไขมาว่าต้องทานของเก่าจนหมดก่อนถึงจะขอใหม่ได้เพื่อไม่ให้เหลือทิ้งโดยเปล่า ส่วนรสชาตินั้นก็มีความเค็มอ่อนๆกรุบกรอบกากหมูพร้อมไขมันไหลออกมาเวลาเคี้ยวผสมกับเกี๊ยวทอดกรอบฟูเป็นโพรงอากาศเล็กๆ เทลงไปในก๋วยเตี๋ยวก่อนทานตัวแป้งจะซึมน้ำซุปเข้าไปเมื่อกัดก็พร้อมจะระเบิดความอร่อยแบบ X2 ในปากช่วยเพิ่มสัมผัสในการเคี้ยวให้บันเทิงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เข้าใจได้เลยว่าทำไมมัดใจลูกค้ามาอย่างยาวนานขนาดนี้
ใครที่ไม่ทานเครื่องในหรือหมูที่ร้านก็มีก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ดให้บริการอีกอย่างคือ "ก๋วยเตี๋ยวน่องเป็ดตุ๋น" เลือกได้ว่าจะทานเป็นแบบน้ำใส/ต้มยำหรือแห้งแบบเดียวกับก๋วยเตี๋ยวหมูใบตำลึงแต่เปลี่ยนน้ำซุปจากต้มกระดูกหมูใสๆเป็นซุปพะโล้สูตรพิเศษของทางร้านแทน วันนี้เราเลยสั่งมาลองชิม 1 ชามเป็น "ก๋วยเตี๋ยวบะหมี่น่องเป็ดตุ๋นน้ำใส" ราคา 60 บาท เฉพาะเมนูนี้ไม่มีให้สั่งไซส์พิเศษแต่ถ้าต้องการเพิ่มน่องเป็ดราคาน่องละ 50 บาท พอมาเสิร์ฟบนโต๊ะแล้วจะบอกว่าชามเดียวจบได้จริงๆเพราะให้เป็ดมาน่องใหญ่มาก เป็นเส้นบะหมี่ไข่สีเหลืองลวกมาสุกกำลังดีใส่ใบตำลึงและถั่วงอกท๊อบปิ้งด้วยเลือด/ไส้/กึ๋นและน่องเป็ดแบบจุกๆ น้ำซุปรสหวานเค็มหอมกลิ่นพะโล้นวลเนียนอ่อนๆไม่มีเหม็นกลิ่นสาปเป็ด วิธีการทานทางร้านแนะนำให้ราดด้วยพริกน้ำส้มดองสูตรพิเศษปรุงรสมาหวาน-อมเปรี้ยวเผ็ดฉุนพริกผสมกับกระเทียมนิดๆ (มีความคล้ายน้ำจิ้มข้าวขาหมู) แค่ช้อนเดียวหรือจะมากกว่านั้นก็ได้ตามใจคือจบปิ๊ง อร่อยได้ครบทุกรสชาติด้วยน้ำจิ้มนี้เพียงอย่างเดียวพร้อมฟินห์ไปกับน่องเป็ดกัดได้แบบเต็มๆคำแบบนี้ดีงามสุดๆเลยครับผม
มาต่อกันด้วยเมนูสุดแซ่บที่ทางร้านเพิ่งเพิ่มขึ้นมาใหม่นั่นก็คือ "เล้งแซ่บ" โดยที่ร้านมีให้เลือกได้ 2 สูตรนั่นคือใส่พริกแห้งกับพริกสดและเลือกไซส์ว่าจะทานเป็นชามหรือหม้อไฟ แต่เนื่องจากวันนี้พวกเราทานก๋วยเตี๋ยวกันไปหลายชามแล้วเลยสั่งเป็นแบบถ้วยมาคือ "เล้งแซ่บใส่พริกขี้หนูสด" ราคาถ้วยละ 100 บาท เป็นกระดูกส่วนสันหลังหมูในหม้อน้ำซุปตุ๋นเปื่อยๆเบสของน้ำซุปก็รสชาติใสๆแบบเดียวกับก๋วยเตี๋ยวปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา/พริกขี้หนูสับหยาบ/ผักชีฝรั่งลงไปแบบกระหน่ำเผ็ดร้อนแสบท้องจนต้องสั่งข้าวสวยมาทานด้วยกันอีกชาม ถือว่าเป็นเล้งที่ไม่นัวมากนักเพราะสูตรของที่นี่ไม่ใช้ผงน้ำซุปสำเร็จรูปหรือผงชูรสกระหน่ำลงไปแบบหลายๆร้าน เหมาะสำหรับคนที่อยากจะทานเล้งแซ่บแต่ไม่ทำลายสุขภาพตัวเองมากนัก แถมยังให้ปริมาณเยอะจุใจแค่ชามเดียวก็อิ่มฟินห์ได้อย่างแน่นอนครับผม
อีกเมนู Signature ที่แวะมาร้านนี้แล้วไม่ควรพลาดก็คือ "หมูสะเต๊ะชุด 10 ไม้" ราคา 60 บาท และขนมปังปิ้งอีก 2 แผ่นราคา 20 บาท เป็นหมูส่วนสันนอกหมักกับทะทิและเครื่องเทศหอมนุ่มเข้าเนื้อเสียบไม้อวบๆ ย่างให้สุกบนเตาตัดเอาส่วนที่ไหม้ออกจนสะอาดพร้อมทาน เสิร์ฟมาคู่กับน้ำจิ้มถั่วลิสงบดหยาบหอมพริกแกงผสมกะทิรสหวาน-เค็มหอมมันเข้ากับหมูย่างได้ดีเมื่อจิ้มลงไปแบบฉ่ำๆ เปลี่ยนจากหมูนุ่มๆเป็นขนมปังย่างกรุบรอบจิ้มในซอสก็อร่อยไม่แพ้กัน ตัดเลี่ยนด้วยอาจาดรสเปรี้ยว-หวานใส่แตงกวา/หอมแขกและพริกชี้ฟ้าลงไปเคี้ยวกรุบกรอบเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ส่วนเครื่องดื่มมื้อนี้สั่งเป็น "น้ำกระเจี๊ยบ" กับ "ชาดำเย็น" ราคาแก้วละ 20 บาท ที่ทางร้านแนะนำมาว่าต้มใหม่ทุกวันกลิ่นสมุนไพร-ชาหอมขึ้นจมูกรสหวานอ่อนๆใส่น้ำแข็งเกล็ดเล็กเคี้ยวกรอบสดชื่นดีมากเลยครับผม
ปิดท้ายด้วยขนมหวานของทางร้านมีขายเพียง 2 รายการเลยสั่งมาชิมคนละเมนูคือ "ลอดช่องสิงคโปร์" แก้วละ 25 บาท เป็นวุ้นลอดช่องสีเขียวเคี้ยวหนึบๆใส่เนื้อขนุนหั่นชิ้นราดน้ำกะทิรมควันพร้อมน้ำแข็งเกล็ดกรุบกรอบ จะตักทานหรือดูดด้วยหลอดก็ได้ตามสะดวก อีกเมนูคือ "พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน" ถ้วยละ 35 บาท เป็นพุดดิ้งเนื้อเนียนนุ่มมีกลิ่นหอมนมผสมกลิ่นมะลิอ่อนๆทานกับเนื้อมะพร้าวอ่อนชิ้นโตสมกับราคาถือว่าเป็นการปิดท้ายมื้อหนักที่ดีเลยครับ
มื้อนี้มาทานกัน 2 คน สั่งอาหารไปแบบกระหน่ำรวมกว่า 13 รายการจ่ายไปแค่ 550 บาท ไม่มี Vat. หรือ Service Charge ตามสไตล์ร้านข้างทางทั่วไป ถือเป็นร้านที่อร่อย/สะอาด/ราคาถูกมาทานได้บ่อยๆ เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงครองใจลูกค้ามาได้ยาวนานกว่า 60 ปี และยังได้ตราเชลล์ชวนชิมการันตีความอร่อยมาถึง 2 รุ่นซ้อน ใครอยากทานก๋วยเตี๋ยวใส่เครื่องในหมูใบตำลึงสูตรต้นตำรับแท้ๆปรุงสะอาดและสุกแบบ Perfect ต้องมาลองนายแกละ (ประสพลาภ) นี้ครับ รับคะแนนความอร่อย/คุ้ม 5 ดาว🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : บ้านเลขที่ 3 ถนนชัยพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
เปิดให้บริการทุกวัน (ยกเว้นพฤหัสบดีที่ไม่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 07.00-16.00 น.
โทร. 089-484-4107 และ 02-433-1582
Facebook : https://bit.ly/3igBVVr
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘