ทุกครั้งเมื่อนึกถึงภัตตาคารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีต้องนั่งรถไฟฟ้าผ่านอีกหลายป้ายเพื่อไปย่านสุขุมวิทใจตรงกลางเมืองใช้เวลาค่อนข้างนานแต่ปัจจุบันมีเจ้าใหม่ล่าสุดเพิ่งมาเปิดแถวฝั่งธนบุรีไม่นานนักชื่อว่า "Kaikatok ไก่กะต็อก" ซึ่งได้รับคะแนนรีวิวสูงถึง 4.8 เต็ม 5 ดาวจากจำนวนลูกค้าทั้งหมด 35 ท่านแสดงว่าต้องอร่อยเด็ดไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน โดยสาขาแรกตั้งอยู่ตลาดเจเจชั้น 2 อำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรีก่อนเปิดแบรนด์จำหน่ายเฉพาะไก่ทอดในโครงการดราก้อนทาวน์จุฬาลงกรณ์ซอย 2 และคอนโดแอสปายสาทร-ตากสินแถววุฒากาศแห่งนี้ให้บริการทั้งแบบบุฟเฟ่ต์กับ A La Carte รวมกว่า 40 เมนู ราคาเริ่มต้นแค่คนละ 399 บาทสุทธิ เด็กส่วนสูงไม่เกิน 90 ซม. ทานฟรี 91-120 ซม. จ่ายเพียง 50% เท่านั้น วิธีการเดินทางถ้าเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวให้กดปักหมุดขับตามระบบแผนที่บนมือถือจอดฟรีเฉพาะบริเวณลานกว้างรวมร้านค้าด้านหน้าตลอดวัน สำหรับบริการขนส่งสาธารณะแนะนำว่าลง BTS สถานีวุฒากาศประตูทางออก 2 เดินเท้าต่อหรือซ้อนท้ายพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างใกล้เคียงอีกประมาณ 400 เมตรก็จะถึงจุดหมายพอดี จุดสังเกตได้แก่เต็นท์สีแดงห้อยประดับไฟวงกลมแนวมินิมอลพร้อมป้ายชื่อสัญลักษณ์รูปไก่เด่นชัดดึงดูดสายตาตั้งแต่ระยะไกลแบบนี้แสดงว่ามาถึงแล้วรีบเข้าไปถ่ายรูป-เก็บภาพบรรยากาศข้างในกันเลยครับผม
บรรยากาศภายในร้าน "Kaikatok ไก่กะต็อก" สาขาคอนโดแอสปายสาทร-ตากสินย่านวุฒากาศแห่งนี้จัดแบ่งพื้นที่ให้บริการออกเป็น 2 ส่วนนั่นก็คือ 1. เต็นท์สีแดงสดบริเวณตรงกลางแจ้งได้อารมณ์เหมือนสตรีทฟู้ดที่จำหน่ายอาหารท้องถิ่นริมถนนแห่งประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเป็นศูนย์รวมของมนุษย์ออฟฟิศประจำดินแดนโสมขาวหลังเลิกงานไว้นัดพบปะพูดคุยชนแก้วเคล้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันอย่างสนุกสนานช่วยผ่อนคลายเรื่องราวชวนปวดหัวเหนื่อยล้าสะสมพร้อมติดตั้งพัดลมระบายอากาศให้ถ่ายเทนั่งเย็นสบายยาวนานตลอดทั้งคืน 2. ห้องแอร์สีขาวแลดูปลอดโปร่งล้อมรอบด้วยหน้าต่างกระจกบานขนาดใหญ่วางโต๊ะสแตนเลสวงกลมเจาะรูตรงกลางสำหรับปิ้งย่างในเตาถ่านแต่ละตำแหน่งแขวนท่อดูดควันชนิดยืด-หดเก็บได้กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดฝังแน่นตามเสื้อผ้า,เส้นผม,กระเป๋าใบโปรดตกแต่งบริเวณรอบโดยการแปะแผ่นโปสเตอร์โฆษณาซีรีส์ชื่อดัง/แทรกหลอดไฟ LED หลากหลายสีสันสวยงามเต็มผนัง/เปิดเพลงแนว K Pop ร่วมสมัยจังหวะสนุกฟังแล้วรู้สึกคล้ายว่ากำลังอยู่กลางผับรองรับจำนวนลูกค้าได้สูงสุดประมาณ 40 ท่าน ส่วนไลน์บุฟเฟ่ต์พวกวัตถุดิบสดต้องเดินตักเองระบบ Self Service ถัดไปอีกหน่อยก็จะพบกับห้องน้ำและอ่างล้างมือก่อนสัมผัสอาหารทุกครั้ง เลือกมุมโปรดให้เรียบร้อยแล้วเริ่มออเดอร์เมนูต่างๆกันเลยครับผม
จัดการเลือกมุมที่เราอยากนั่งให้เรียบร้อยแล้วน้องพนักงานก็นำเล่มเมนูมาวางไว้กลางโต๊ะโดยสอบถามว่าอยากรับประทานมื้อนี้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์หรือ A La Carte ซึ่งมีเงื่อนไขก็คือราคาท่านละ 399 บาทสุทธิยังไม่รวมเครื่องดื่ม (อนาคตวางแผนจะเพิ่มมุมกดชนิดรีฟิล) ออเดอร์พร้อมฟินได้ตลอด 90 นาทีเต็ม เด็กเล็กส่วนสูงไม่เกิน 90 ซม.กินฟรี 91-120 ซม.จ่ายแค่ 50% เท่านั้นและโปรโมชั่นพิเศษเมื่อเขียนรีวิวลง Google Maps รับส่วนลดทันทีอีก 10% วิธีการสั่งอาหารทางร้าน "Kaikatok ไก่กะต็อก" เลือกใช้ระบบ QR Code สแกนส่งตรงถึงห้องครัวยกเว้นหมูสามชั้น/สันคอหมู/หมักพริกไทยดำ/หมักซอสเกาหลี/ไส้อ่อนหมู/ผักกาดหอม/ผักเบบี้คอส/เห็ดออเร็นจิ/พริกชี้ฟ้าเขียว/เห็ดเข็มทอง/ฟักทอง/หัวหอมใหญ่ต้องหยิบถาดพลาสติกตักด้วยตนเอง สำหรับน้ำจิ้มวางเอาไว้ให้บริการถึง 3 สูตรได้แก่ 1. พอนสึซีอิ๊วคันจังน้ำส้มสายชูรสชาติเค็มอมเปรี้ยวเล็กน้อยหอมน้ำมันงากลมกล่อม 2. ซีฟู้ดหนักพริกขี้หนูสีแดงผสมกระเทียมสับละเอียดเปรี้ยวมะนาวคั้นสดใหม่ผสานน้ำปลาแท้เผ็ดแซ่บถูกปากชาวไทยทุกท่านอย่างแน่นอน 3. เกาหลีเต้าเจี้ยวซัมจังกระปุกสีเขียวปรุงใหม่ลดความเค็มลงเข้มข้นปานกลางเหมาะแก่การห่อใบผักสดก่อนนำเข้าปากคำโต เครื่องดื่มมีทั้งน้ำเปล่า 15/น้ำอัดลมกระป๋อง 20/น้ำแข็งถังรีฟิล 20/แอลกอฮอล์ 120-190 บ.ครับผม
ออเดอร์รายการบุฟเฟ่ต์ของทางร้าน "Kaikatok ไก่กะต็อก" โดยสแกนผ่านระบบ QR Code เรียบร้อยรอสักพักน้องพนักงานก็ทยอยมาเสิร์ฟวางเรียงเต็มโต๊ะอย่างรวดเร็วเริ่มต้นกันด้วยเมนูสตรีทฟู้ดประจำชาติเกาหลีใต้ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ "ต็อกบกกี" เค้กข้าวหรือมีอีกชื่อเรียกว่าต็อกรูปทรงแท่งสีขาวตัดแบ่งขนาดกำลังพอดีคำทำจากแป้งล้วนๆแต่สัมผัสเหนียวหนึบสู้ฟันน้อยกว่าโมจิฝั่งดินแดนอาทิตย์อุทัยต้มน้ำซุปปลาแห้งผสมโคชูจังเผ็ดร้อนปนหวานเล็กน้อยหอมละมุนน้ำมันงาเพิ่มออมุกเป็นเต้าหู้ปลาชนิดแผ่นใหญ่พิเศษจนรสชาติแทรกซึมเข้าวัตถุดิบแบบเข้มข้นถึงใจท็อปปิ้งสาหร่ายหั่นเส้นเพื่อความสวยงาม / "ต๊อกบกกีชีส" ส่วนประกอบหลักเหมือนจานก่อนหน้านี้ทุกประการแค่โรยมอสซาเรลล่าชีสคุณภาพดีพ่นไฟรุนแรงเพิ่มความเค็มนัวผสานกลิ่นหอมติดไหม้นิดหน่อยช่วยยกระดับความพรีเมียมดึงดูดใจขึ้นอีกขั้น / "รามยอน" บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลักษณะภายนอกเส้นหนาอวบอ้วนเคี้ยวสู้ฟันตัวน้ำซุปสีแดงค่อนข้างเผ็ดร้อนกว่าปกติเหมือนถูกปรุงใหม่ให้ถูกปากคนไทยตกแต่งเต้าหู้ปลาออมุก,แป้งต็อก,กิมจิผักกาดขาว,สาหร่ายโนริ,พริกชี้ฟ้าดูหรูหราสวยงาม / "ปลาหมึกเผ็ด" จุกกุมิปกติต้องใช้หมึกสายแต่พ่อครัวได้ปรับเปลี่ยนใหม่สู่หมึกกล้วยชิ้นใหญ่ลวกสุกก่อนผัดซอสหนักพริกป่นจี๊ดจ๊าดอร่อยไม่แพ้ภัตตาคารย่านโคเรียนทาวน์ครับ
ตอนแรกเราคิดว่าจะข้ามจานนี้ไปแต่พนักงานแนะนำว่าต้องลองเพราะอร่อยเด็ดถึงขั้นว่ามีลูกค้าเข้ามาสั่งโดยไม่แตะต้องเตาปิ้งย่างเลยนั่นก็คือ "ทักบัล" เท้าไก่หรืออีกชื่อเรียกว่าเล็บมือนางตัดแต่งบริเวณปลายนิ้วทิ้งล้างทำความสะอาดเรียบร้อยสวยงามจับต้มลงหม้อแรงดันเพื่อกำจัดกลิ่นคาวตามธรรมชาติผสมเกลือยาวนานกว่า 2 ชั่วโมงเต็มจนเปื่อยนุ่มเพียงออกแรงเคี้ยวเล็กน้อยกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อต่างๆก็หลุดออกอย่างง่ายดายสัมผัสนุ่มละมุนแทบละลายในปากคลุกเคล้าซอสเผ็ดร้อนปนหวานหอมน้ำมันงาชวนกินได้อีกเรื่อยๆเหมาะสำหรับสั่งเป็นกับแกล้มประจำวงเหล้าอีกรายการถ้าคุณเป็นสายดื่มตัวจริงห้ามพลาดเด็ดขาด / "ออมุก" เต้าหู้ทำจากปลาเนื้อขาวใส่แป้งชนิดแผ่นบางพิเศษทอดก่อนตัดแบ่งเสียบไม้เหมือนลูกชิ้นตุ๋นน้ำซุปปลาแห้งคอมบุสีเหลืองทองเค็มอ่อนรสชาติแทรกซึมเต็มที่ชุ่มฉ่ำทุกคำอุ่นสบายท้องให้ความรู้สึกคล้ายๆเมนูโอเด้งของฝั่งดินแดนอาทิตย์อุทัยซึ่งมักได้รับความนิยมสูงตอนช่วงฤดูหนาวอันแสนโหดร้าย / "ซุปกิมจิ" บรรจุลงหม้อหินสีดำเผาไฟอุณหภูมิสูงสไตล์ภัตตาคารเกาหลีก่อนยกเสิร์ฟอัดแน่นด้วยกิมจิผักกาดขาวเพิ่มเห็ดเข็มทองและโปรตีนชั้นยอดจากเต้าหู้อ่อนเปรี้ยวปนเผ็ดแอบแฝงน้ำมันงาติดปลายจมูกเล็กน้อยจึงอร่อยเข้มข้นแตกต่างกว่าหลายๆเจ้าเพราะมักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับแกงส้มของไทยนั่นเองครับ
รายการต่อไปรู้ว่าค่อนข้างหนักท้องแต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะลองสั่งมาชิมแทบทุกร้านบุฟเฟ่ต์นั่นก็คือ "จับแช" หรือวุ้นเส้นเกาหลีลักษณะภายนอกหนาอวบอ้วนสีน้ำตาลอ่อนแม้จะลวกจนสุกดีแล้วยังคงเหนียวนุ่มสู้ฟันกัดแทบไม่ขาดคลุกเคล้าน้ำมันงาเหยาะซีอิ๊วคันจังและน้ำตาลทรายปรุงให้เค็มปนหวานกลมกล่อมพร้อมผักอีกหลายชนิดทั้งผักโขมไทย,แครอท,ถั่วงอก,แตงกวาบรรจุลงถ้วยสีเงินสไตล์โบราณขนาดเล็กเพื่อให้ลูกค้าได้ทานหลากหลายเมนูมากยิ่งขึ้น / "จาจังมยอน" บะหมี่เส้นรูปทรงแบนต้มน็อกน้ำเย็นจัดๆลงชามจิ๋วราดซอสจาจังทำจากถั่วดำหมักคั่วน้ำมันจนหอมใส่หอมหัวใหญ่,หมูสามชั้น,แครอท,มันฝรั่งตกแต่งด้วยแตงกวาเพิ่มสีเขียวพอสวยงามรสชาติเข้มข้นโดยชาวดินแดนโสมขาวนิยมกินกันช่วงเร่งด่วนโดยเฉพาะช่วง Black Day ในวันที่ 14 เมษายนของทุกๆปีเพื่อฉลองให้กับคนโสดไร้ความรักนั่นเอง / "บิบิมบับ" ข้าวยำหม้อหินสีดำสนิทเผาบนเตาไฟร้อนซู่ซ่าวัตถุดิบทุกอย่างผัดกับน้ำมันงาโรยเกลือสมุทรเรียงแน่นแทบไม่เห็นด้านล่างทั้งเห็ดหอม,แครอท,แตงกวา,ถั่วงอก,ผักโขม,กิมจิราดซอสพริกโคชูจังสูตรพิเศษหวานอมเปรี้ยวเข้มข้นน้องพนักงานแนะนำว่าให้เพิ่มสามชั้นย่างเกรียมๆลงไปรับรองว่าอร่อยโดนใจ / "ซุปสาหร่าย" น้ำซุปใสสีเหลืองทองสาหร่ายผสมวากาเมะสด,กระเทียม,เกลือสมุทร,น้ำมันงาดูเรียบง่ายแต่อุ่นสบายท้องดีครับผม
Signature อันดับ 1 ของทางร้าน "Kaikatok ไก่กะต็อก" ซึ่งได้รับความนิยมมากจนต้องเปิดสาขาที่จำหน่ายเฉพาะเมนูนี้เท่านั้นภายในโครงการดราก้อนทาวน์ย่านจุฬาลงกรณ์นั่นก็คือ "ไก่กะต็อก" บริเวณเนื้อสะโพกติดหนังไร้กระดูกหั่นชิ้นขนาดกำลังพอดีคำชุบแป้งอัตราส่วนลับทอดจนสีเหลืองทองกรุบกรอบทนทานยาวนานแม้จะผ่านระยะเวลาไปสักพักหนึ่งคลุกเคล้าซอสตำรับเฉพาะของทางแบรนด์ 3 สูตรได้แก่ 1. ซอสออริจินัลเค็มอมหวานกลมกล่อมหอมกลิ่นซีอิ๊วคันจังเกาหลีน้ำมันงาทานง่ายถูกปากทุกคน 2. ซอสเกาหลีโคชูจังเข้มข้นผสมน้ำผึ้งหวานนำปนเผ็ดนิดหน่อยได้อารมณ์ตรงตามชื่อที่ตั้ง 3. ซอสเผ็ดใส่พริกป่นผสมลงไปจึงเผ็ดร้อนช่วยตัดเลี่ยนชวนฟินได้อีกเรื่อยๆเสิร์ฟคู่แป้งต๊อกทอดเคลือบซอสสัมผัสเหนียวนุ่มสู้ฟัน / "ไก่ทอดสไตล์เกาหลี" คุณพ่อครัวเลือกใช้เฉพาะส่วนปีกบนหรือบางคนเรียกว่าน่องจิ๋วสลับปีกกลางราคาแพงคาดเดาว่าน่าจะซื้อปีกเต็มมาตัดแต่งเองภายหลังเพื่อลดต้นทุนลงคลุกแป้งทอดเคลือบซอส 3 แบบเหมือนจานก่อนหน้าทุกประการ ถ้าอยากเพิ่มความพรีเมียมขึ้นอีกขั้นแนะนำว่าต้องลอง "ไก่ทอดชีสเบิร์น" ท็อปปิ้งเชดด้าชีสชนิดแผ่นใส่ปริมาณคลุมเกือบรอบชิ้นอย่างจัดเต็มไม่หวงวัตถุดิบเบิร์นไฟรุนแรงติดไหม้เล็กน้อยเค็มละมุนอ่อนโยนนุ่มนวลกลมกล่อมรับรองว่าถูกใจมนุษย์ Cheese Lover ตัวจริงแน่นอนครับผม
นอกนั้นเป็นพวกเมนูกินเล่นช่วยเรียกน้ำย่อยและเหล่าเครื่องเคียงวางเรียงแน่นเต็มโต๊ะตามมาตรฐานภัตตาคารเกาหลีทั่วไปได้แก่ "เฟรนช์ฟรายส์" มันฝรั่งชนิดแท่งเล็กผ่านกระบวนการแช่แข็งทอดกรอบสีเหลืองทองอย่างทั่วถึงคลุกเคล้าผงเกลือสมุทรก่อนยกเสิร์ฟคู่ซอสมะเขือเทศเปรี้ยวเค็มเคี้ยวเพลินๆ / "กิมจิ" ผักกาดขาวผสมแครอท,หัวไชเท้าขูดฝอยดองเปรี้ยวเค็มกลมกล่อมอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ซึ่งมีประโยชน์ดีต่อร่างกายมนุษย์ / "ถั่วงอกน้ำมันงา" ลวกเพียงไม่นานเพื่อรักษาสัมผัสกรุบกรอบชุ่มฉ่ำโรยเกลือน้ำมันงาเล็กน้อย / "ผักโขมน้ำมันงา" ตัวพ่อครัวเลือกใช้เฉพาะผักโขมไทยคัดใบยอดอ่อนเคี้ยวง่ายต้มพอสลดปรุงรสชาติเหมือนรายการก่อนหน้านี้ทุกอย่าง / "ไชเท้าดอง" หัวไชเท้าสีขาวปอกเปลือกทำความสะอาดเป็นหั่นชิ้นรูปทรงลูกเต๋าใส่ขวดโหลดองพร้อมน้ำส้มสายชูกับน้ำตาลหวานอมเปรี้ยวแช่เย็นสดชื่น / "ไข่ม้วน" ทำใหม่เมื่อลูกค้าออเดอร์เท่านั้นไข่ไก่เหยาะซีอิ๊วคันจัง,ต้นหอม,แครอท,หอมใหญ่สับละเอียดม้วนแผ่นตัดแบ่งชิ้นไซส์กำลังพอดีคำคีบเข้าปากง่าย / "ข้าวญี่ปุ่น" เมล็ดอ้วนกลมสั้นหุงสุกนุ่มขาวเปล่งประกายแวววาวสวยงามโรยเมล็ดงาคั่วบรรจุลงชามวัสดุเงินให้อารมณ์เหมือนอยู่ในซีรีส์เกาหลีแนวยุคโบราณ / "ยำผัก" ใบผักกาดหอม,กิมจิ,ขยำน้ำมันงา,โคชูจังเปรี้ยวอมหวานสดชื่นช่วยตัดเลี่ยนไขมันหมูย่างได้อยู่หมัดเลยครับผม
เมนูถัดมาไม่รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ของทางร้าน "Kaikatok ไก่กะต็อก" แต่มีจำหน่ายแบบ A La Carte ไม่แพงนักเลยสั่งมาลองชิมอย่างละจานนั่นก็คือ "แซลมอนดอง" ราคา 189 บาท แซลมอนนำเข้าจากประเทศนอร์เวย์แทรกชั้นไขมันละเอียดสวยงามหั่นชิ้นหนาดองน้ำซีอิ๊วคันจังของเกาหลีผสมน้ำมันงาโรยพริกขี้หนูสด,กระเทียมสไลซ์,เมล็ดงาขาวเค็มอมหวานนัวละมุนกลมกล่อมไม่เข้มข้นมากจนเกินไป วิธีรับประทานให้อร่อยยิ่งขึ้นพนักงานแนะนำว่าต้องวางบน "สาหร่าย" ชนิดแผ่นอบกรอบปกติราคาห่อละ 25 บาท แต่เห็นเราหยิบกล้องมารีวิวด้วยเลยขออนุญาตแถมฟรีเพิ่มข้าวญี่ปุ่นเมล็ดอ้วนกลมเหนียวหนึบสู้ฟันราดน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดเผ็ดร้อนเปรี้ยวน้ำมะนาวฉบับไทยแท้แซ่บซี๊ดจี๊ดจ๊าดสะใจแถมให้ปริมาณถือว่าเหมาะสมคุ้มค่า / "กุ้งดอง" ราคา 169 บาท กุ้งขาวทะเลไซส์ขนาดปานกลางตัดส่วนหัวออกทิ้งปอกเปลือกบริเวณกลางลำตัวเหลือเฉพาะปลายหางหยิบจับกินสะดวกใช้ไม้ปลายแหลมบรรจงดึงเอาเส้นสีดำสกปรกตรงกลางหลังทีละตัวอย่างประณีตล้างโซดาซ่าเปิดขวดใหม่คลุกเคล้าเกลือแช่สักพักจนมั่นใจเรื่องความสะอาดอีกทั้งยังช่วยเพิ่มสัมผัสเด้งดึ๋งเคี้ยวสนุก สำหรับน้ำดองตำรับเดียวกับแซลมอนรายการก่อนเตรียมการอย่างน้อย 6 ชั่วโมงเพื่อให้ซอสแทรกซึมเข้าเนื้อเปลี่ยนจากสีขาวซีดกลายเป็นน้ำตาลอ่อนพร้อมทานได้อย่างมั่นใจครับผม
อาหารทุกอย่างที่ออเดอร์ไปมาเสิร์ฟครบเรียบร้อยก็ได้เวลาลงถ่านในหลุมตรงกลางโต๊ะซึ่งทางร้าน "Kaikatok ไก่กะต็อก" เลือกใช้กะลามะพร้าวชนิดอัดก้อนเกรดพรีเมียมมีเปอร์เซ็นต์ความชื้นต่ำให้อุณหภูมิความร้อนสูงสุดกว่า 1,000 องศาเซลเซียสพร้อมวางตะแกรงย่างสไตล์เกาหลีรองกระดาษไขเพื่อป้องกันซอสหมักหมูไหม้ฝังแน่นจนอาจเกิดสารก่อมะเร็งซึ่งเรานั้นสามารถขอเปลี่ยนแผ่นใหม่ได้ตลอดเวลา สำหรับวัตถุดิบแม้จะให้ตักเองเพียงไม่กี่รายการเท่านั้นแต่น้องพนักงานแจ้งว่าคุณเจ้าของแบรนด์คัดเฉพาะเกรดอนามัยเท่านั้นไม่ว่าจะเป็น "หมูสามชั้น" บรรจงลอกหนังแข็งชวนเคี้ยวติดฟันออกปริมาณเนื้อแดงกับไขมันสมดุลกำลังพอดี / "สันคอหมู" เป็นส่วนที่นุ่มแทรกไขมันน้อยกว่าแต่ถ้าแหล่งผลิตราคาถูกไร้การควบคุมมาตรฐานถือว่าค่อนข้างอันตรายจึงต้องสั่งจากฟาร์มดูน่าเชื่อถือเท่านั้น / "หมักซอสเกาหลี" สีแดงสวยงามเพราะโคชูจังผสมผลไม้บดละเอียดจนแทรกซึมเข้าเนื้อเผ็ดปนหวานอ่อนๆประสานเอนไซม์ธรรมชาติช่วยให้สัมผัสนุ่มละมุนยิ่งขึ้น / "หมักพริกไทยดำ" เมล็ดพริกไทยบดหยาบใส่เกลือสมุทรธรรมดาๆแต่เราไม่แน่ใจว่าพ่อครัวใช้กระบวนการอะไรทำให้กลิ่นสาบเฉพาะตัวน้อยลงทานเพลินจนเกือบลืมหมูสดปกติ / "ไส้อ่อนหมัก" ล้างน้ำสะอาดลวกเพื่อกำจัดกลิ่นคาวโรยพริกไทยดำตอนย่างส่งเสียงระเบิดเป็นระยะต้องคอยระวังครับ
สำหรับใครที่กำลังคิดว่าการนำกระดาษไขรองเตาก่อนย่างหมูเป็นเรื่องแปลกใหม่บอกเลยว่าที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นนิยมใช้กันอย่างยาวนานซึ่งมีข้อดีนั่นก็คือตัวพนักงานจะได้ไม่ต้องคอยเปลี่ยนเตาใหม่บ่อยๆแถมยังช่วยลดโอกาสไหม้เนื่องจากซอสหมักหมูของทางร้านมีส่วนประกอบจากน้ำตาลเมื่อถูกความร้อนอุณหภูมิสูงอาจเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งอันตรายโดยเรามีหน้าที่แค่ขยันสลับแผ่นใหม่สุกรวดเร็วทันใจตลอด 90 นาทีเต็ม ตัดแบ่งหมูสามชั้นกับสันคอด้วยที่คีบเหล็กและกรรไกรไซส์ใหญ่จับถนัดมือขนาดพอดีคำย่างต่อจนสุกเกรียมเล็กน้อยแล้วจิ้ม "ซอสพอนสึ" ซีอิ๊วคันจังผสมน้ำส้มสายชู,น้ำมันงาเค็มเปรี้ยวหวานเบาบางช่วยตัดเลี่ยนทำให้กินได้อีกเรื่อยๆเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเน้นโปรตีน / "ซอสซีฟู้ด" ตำรับไทยแท้เปรี้ยวน้ำมะนาวคั้นใหม่อมหวานเผ็ดร้อนพริกขี้หนูสีแดงเพิ่มกระเทียมกลิ่นฉุนขึ้นจมูกถูกปากแบบที่ชาวไทยหลายท่านคุ้นเคยอย่างดี / "ซอสเกาหลี" เต้าเจี้ยวซัมจังกระปุกสีเขียวเข้มวางจำหน่ายอยู่ตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไปเอามาปรุงใหม่เพื่อลดระดับความเค็มให้ละมุนกลมกล่อมลงตัวมากยิ่งขึ้นห่อใบงา,ผักกาดหอม,เบบี้คอส,เห็ดออเร็นจิ,พริกชี้ฟ้าเขียว,เห็ดเข็มทอง,ฟักทอง,หัวหอมใหญ่ตามชอบจับยัดเข้าปากคำโตอร่อยสะใจ / "ชีส" มอสซาเรลล่าจากนมวัว 100% ไร้ไขมันพืชเค็มกลมกล่อมสัมผัสเหนียวหนึบเหมือนหมากฝรั่งเลยครับ
มื้อนี้มาทานกับคุณแฟน 2 คนเหมือนเดิมจ่ายค่าอาหาร/เครื่องดื่มไปทั้งหมด 1,231 บาทสุทธิ (ไม่คิด Vat.7% และ Service Charge 10% เพิ่ม) จากประสบการณ์รู้สึกได้เลยว่าทางแบรนด์พยายามเลือกใช้วัตถุดิบสดคุณภาพดีเหมาะสมกับราคาโดยอาหารแต่ละจานแลดูมีความตั้งใจอาจจะไม่ใช่รสชาติตรงแบบตามฉบับเกาหลีของแท้เหมือนย่านโคเรียนทาวน์สุขุมวิท 12 แต่รับรองว่าเข้มข้นถูกปากชาวไทยทุกคนอย่างแน่นอนจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีจากลูกค้าก่อนหน้าอีกมากมาย เหมาะสำหรับมนุษย์ฝั่งธนอาศัยอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าแต่ไม่อยากนั่งยาวหลายสถานีเสียค่าโดยสารต้องสละเวลานานๆเพื่อมุ่งตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองแนะนำว่าร้าน "Kaikatok ไก่กะต็อก" แห่งนี้ถือว่าตอบโจทย์ สุดท้ายพนักงานแอบมากระซิบบอกโปรโมชั่นลับแค่เขียนรีวิวความประทับใจของคุณลงแอปพลิเคชั่น Google Maps บนมือถือเสร็จค่อยแสดงด้านหน้าแคชเชียร์ก่อนคิดเงินรับส่วนลดเพิ่มทันทีอีก 10% เหลือเพียงท่านละ 359 บาทถ้วนเท่านั้น ช่วงเย็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ามืดลงแสงจากหลอดไฟวงกลมมินิมอลประดับรอบบริเวณสว่างขึ้นบอกเลยว่าบรรยากาศเหมาะแก่การกินสามชั้นปิ้งย่างพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปล่อยอารมณ์ชิลมากยิ่งขึ้น ได้รับคะแนนด้านความอร่อยเด็ดและคุ้มค่าไปเลยทันที 5 ดาวเต็มครับผม 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : โครงการแอสปายสาทร-ตากสิน เลขที่ 65/472 ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. 10150
ปิดทุกวัน พ. เปิด อา.-พฤ. 16:00-22.00 น. และ ศ.-ส. 16:00-23:00 น. (อาจมีการปรับตามนโยบายของรัฐ)
เบอร์โทรศัพท์ : 080-828-4463
ปัจจุบันร้าน "Kaikatok" เปิดบริการอีก 2 สาขาทั้ง กาญจนบุรี และ ดราก้อนทาวน์จุฬาฯ ใกล้จุดไหนไปลองครับ
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ
ค่อยตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments