เมื่อพูดหัวข้อกุยช่ายสุดอร่อยหลายท่านมักจะนึกถึงย่านตลาดพลูโผล่เข้ามาในห้วงความคิดก่อนเป็นอันดับแรกเพราะมันคือแหล่งรวมเจ้าเก่าแก่สูตรโบราณอยู่อีกมากมาย แต่เนื่องจากยุคสมัยที่เริ่มเปลี่ยนแปลงทำให้เหล่าร้านค้าต้องค่อยๆปรับตัวเข้าหากลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่เพิ่มยิ่งขึ้น บางคนชอบแบบนึ่งแป้งนุ่มสอดไส้เน้นๆแบบต้นตำรับหรือนำไปทอดด้านนอกเหลืองฟูแต่ข้างในเหนียวหนึบ ซึ่งร้าน "ฮ่องเต้กุยช่ายบางกรอบ" ได้ฉีกแนวความคิดเดิมๆก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่งวงการกุยช่ายด้วยแผ่นบางเฉียบกรอบทนนาน-น้ำจิ้มสูตรเด็ดกินง่ายสไตล์ฟาสต์ฟู้ด โดยเปิดสาขาแรกตรงถนนจันทน์ใกล้กับซอย 18/6 ตั้งเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่พร้อมป้ายไฟเห็นเด่นชัดใต้ตึกขนาดหนึ่งคูหามีเหล่าไรเดอร์วิ่งรับออเดอร์แทบตลอดเวลาแสดงถึงกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดี เน้นจำหน่ายเฉพาะสั่งกลับบ้านกับผ่านแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่เจ้าต่างๆบนมือถือเท่านั้น วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ค้นหา "ศูนย์อาหารเจปาร์คสะพาน 3" มีคิดค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาทแล้วเดินอีกแค่ประมาณ 50 เมตร ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะลง BTS สถานีเซนต์หลุยส์เรียกแท็กซี่-มอเตอร์ไซค์รับจ้างเลี้ยวเข้าซอยสาทร 11 ทะลุจันทน์ 18/7 เพียง 1.8 กิโลเมตรก็จะถึงปลายทาง ส่วนตัวเคยสั่งกินที่บ้านหลายรอบแล้วติดใจอยากทานร้อนๆหน้าร้านบ้างเลยถือโอกาสหยิบกล้องเข้ามารีวิวด้วยเลยครับ
เคาน์เตอร์ด้านหน้าร้านติดรูปถ่ายแต่ละเมนูพร้อมแปะราคาเอาไว้อย่างชัดเจนโดยทุกๆรายการนั้นคิดราคาเดียวเพียง 50 บาทเท่านั้นรวมทั้งหมด 5 ไส้สุดฮิตได้แก่ 1. กุยช่าย 2. หน่อไม้ 3. มันแกว 4. เผือก 5. ไชเท้า เลือกได้ทั้งแป้งบางกรอบสมัยใหม่และหั่นเป็นชิ้นหนารูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสไตล์ต้นตำรับดั้งเดิม ถ้าอยากจะซื้อกลับไปฝากคนรักที่บ้านหรือต่างจังหวัดพื้นที่ห่างไกลมากๆเขาก็มีถุงแพ็กด้วยระบบสุญญากาศสามารถจัดเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดานานถึง 1 เดือนเต็มจำหน่ายราคาแค่ 50 บาทเช่นเดียวกัน สำหรับวิธีการอุ่นร้อนนั้นทางเราสอบถามน้องพนักงานได้คำแนะนำมาว่าใช้น้ำมันปาล์มขวดใหม่เทลงในกระทะให้ท่วมตัวกุยช่ายเปิดไฟระดับปานกลางจนได้สีน้ำตาลทองตามต้องการ เทคนิคการเพิ่มความกรอบอร่อยให้ทนนานยิ่งขึ้นควรทอดรอบที่สองโดยใช้ไฟแรงสุดอีกครั้งหรือจับลงหม้อทอดอากาศเพื่อรีดไขมันและความชื้นส่วนเกินออกแล้วทานพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดได้เลยทันที ถ้าอยากทราบว่ากุยช่ายของขายจริงแผ่นใหญ่โตขนาดไหนก็มีวางเรียงโชว์เอาไว้อย่างสวยงามด้านหน้าร้านทั้งแป้งบางกรอบ,ตัดชิ้นสี่เหลี่ยมหนาดูน่าลองสุดๆ ช่วยให้ลูกค้าที่เดินผ่านไป-มาย่านถนนจันทน์แห่งนี้ตัดสินใจซื้อกลับบ้านง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิมครับผม
ตอนแรกกะว่าจะสั่งแล้วถ่ายรูปพร้อมยืนทานหน้าร้านเฉยๆแต่น้องพนักงานเห็นว่าเราพกกล้องมาถ่ายรูปรีวิวจึงอนุญาตให้เข้าไปในครัวด้านหลังเคาน์เตอร์ โดยอธิบายวิธีทอดให้ออกมาอร่อยกรอบทนนานสุดๆเริ่มต้นด้วยการแกะแผ่นแป้งขนมกุยช่ายสดออกจากซองพลาสติกที่แพ็กส่งตรงจากโรงงานผลิตส่วนกลางวางลงบนกระทะร้อน ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำมันปริมาณท่วมกำลังดีปรับไฟแรงระดับปานกลางจนสุกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองฟูสวยงามแล้ววางพักผึ่งลมวางลงบนตะแกรงเอาไว้สักครู่เพื่อระบายความชื้นส่วนเกินออกไป เมื่อมีลูกค้าออเดอร์ถึงจะนำมาตัดด้วยกรรไกรคมกริบให้ชิ้นขนาดพอดีคำลงทอดอีกรอบในอุณหภูมิที่สูงยิ่งกว่าเดิมและสุดยอดเคล็ดวิชาลับพิเศษก่อนจัดเสิร์ฟทุกครั้งนั่นก็คือ "เครื่องสะบัดน้ำมัน" นำเข้าจากประเทศจีนหลักการทำงานก็เหมือนปั่นผ้าให้แห้งเพียงใส่ขนมกุยช่ายลงไปหมุนด้วยความเร็วสูงเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินออกมาได้มากกว่า 90% จึงมั่นใจได้เลยว่าดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน วันนี้เราขอสั่งแบบทอดครั้งเดียวพร้อมสะบัดน้ำมันออกแล้วค่อยไปอบด้วย Air Fryer อีกรอบ แต่ก่อนอื่นต้องลองแบบร้อนใหม่หน้าเตากันก่อนเหลือแล้วก็ค่อยจัดใส่กล่องแล้วขอถาดกระดาษและน้ำจิ้มไว้ไปถ่ายรูปที่บ้านกันต่อครับ
สั่งชิมหน้าร้านไปแล้วพร้อมออเดอร์กลับบ้านมารวมกว่า 6 เมนูเริ่มต้นด้วยรายการแรกอย่าง "กุยช่าย" สูตรต้นตำรับซึ่งมีจุดเด่นพิเศษไม่เหมือนใครเลยก็คือใส่ใบผักกุยช่ายซอยละเอียดปริมาณมากผสมกับแป้งอัตราส่วนลับเมื่อจับลงทอดในน้ำมันร้อนๆจนสุกดีแล้วจะได้ความกรอบฟูสีน้ำตาลทองประกายอย่างสวยงามและเต็มไปด้วยช่องฟองอากาศขนาดเล็กๆตรงเปลือกผิวด้านนอกจึงช่วยซึมซับรสชาติของน้ำจิ้มให้ชุ่มฉ่ำถึงใจมากยิ่งขึ้นเวลาเคี้ยวอยู่ในปาก ซึ่งเราสามารถเลือกความอร่อยได้ 2 รูปแบบทั้ง "กุยช่ายแป้งบางกรอบ" ราคาแผ่นละ 50 บาท แป้งบางเฉียบเพียง 0.5 ซม. แต่แผ่นกว้างใหญ่ตัดแบ่งโดยใช้กรรไกรเป็นชิ้นให้ขนาดกำลังพอดีคำใช้มือหยิบกินได้ง่ายๆสไตล์ร้านฟาสต์ฟู้ดสมัยใหม่ ถ้าต้องการความอร่อยฉบับโบราณดั้งเดิมแท้ๆก็แนะนำ "กุยช่ายแป้งหนากรอบ" ราคาถาดละ 50 บาท ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสทอดจนกรอบนอกแต่ข้างในสัมผัสเหนียวหนึบคล้ายกับแป้งโมจิ ได้รสชาติหวานละมุนกลมกล่อมจากใบผักกุยช่ายที่ผสมลงไปจำนวนมาก วางเอาไว้นานก็ไม่เหนียวชวนเคี้ยวเมื่อยกรามเพราะผ่านกระบวนการทอดถึงสองรอบเพื่อกำจัดความชื้นส่วนเกินออกและเข้าเครื่องสะบัดน้ำมันจนแห้งสนิทก่อนส่งถึงมือลูกค้านั่นเองครับผม
เมนูอื่นนอกจากไส้ผักกุยช่ายแบบพื้นฐานแล้วก็ยังสั่งเพิ่มอีกทั้ง "กุยช่ายแป้งบางกรอบไส้หน่อไม้" ราคาแผ่นละ 50 บาท ทำจากหน่อไม้สดคัดเฉพาะอ่อนๆซอยละเอียดรสชาติหวานละมุนให้สัมผัสกรุบกรอบตามธรรมชาติผสมกุ้งฝอยตัวเล็กตากแห้งสีชมพูเค็มบางเบาและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร จับผสมลงในเนื้อแป้งสูตรพิเศษพร้อมนึ่งจนสุกแล้วตัดให้เป็นแผ่นใหญ่แต่บางเฉียบเพียง 0.5 เซนติเมตร ก่อนทอดลงในน้ำมันร้อนๆสีเหลืองทองสวยงามและกรอบยาวนานแล้วหั่นด้วยกรรไกรคมกริบให้เป็นชิ้นพอดีคำก่อนเสิร์ฟ ส่วนอีกแบบก็คือ "กุยช่ายแป้งหนากรอบไส้หน่อไม้" ราคาถาดละ 50 บาท สีสันและความฟูค่อนข้างแตกต่างจากกุยช่ายไส้ผักสูตรปกติเนื่องจากในหน่อไม้มีน้ำมากกว่าหลายเท่าตัวจึงได้ความกรอบข้างนอกแต่นุ่มชุ่มฉ่ำด้านในเคี้ยวเพลินมากกว่า กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษทำเองของทางร้านรสชาติเปรี้ยวนำอมหวานเผ็ดร้อนตามด้วยเค็มพอแค่กลมกล่อม มีเนื้อสัมผัสอันเหนียวหนืดเล็กน้อยคล้ายผสมแป้งจึงช่วยให้เกาะเคลือบชิ้นขนมกุยช่ายทอดได้ดีมากกว่า ถูกใจสายชอบจิ้มน้ำซอสแบบฉ่ำๆแน่นอนครับ
สำหรับใครที่ชื่นชอบความหอมมันจากธรรมชาติแท้ๆต้องลองสั่ง "กุยช่ายแป้งบางกรอบไส้เผือก" ราคาแผ่นละ 50 บาท ทำจากเนื้อหัวเผือกปอกเปลือกก่อนเอาไปขูดเส้นฝอยเล็กๆ 100% ผสมกับแป้งแค่เพียงเล็กน้อยพอจับตัวเป็นก้อนใส่กุ้งแห้งเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติเค็มกลมกล่อม นึ่งสุกพร้อมสไลด์เป็นแผ่นกว้างใหญ่แต่บางเฉียบลงทอดในน้ำมันตัดให้ชิ้นพอดีคำก่อนเสิร์ฟ สุดท้ายคือ "กุยช่ายแป้งบางกรอบไส้ไชเท้า" ราคาแผ่นละ 50 บาท ทำจากหัวไชเท้าเนื้อสีขาวแบบเดียวกับที่ใส่ในหม้อน้ำซุปเอามาขูดเส้นผสมแป้งและกุ้งแห้งแบบเดียวกับเมนูก่อน แต่จุดเด่นซึ่งแตกต่างกว่านั่นก็คือความชุ่มฉ่ำมีรสชาติหวานตามธรรมชาติ ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าทุกเมนูกุยช่ายเราสั่งมาถึงแม้จะเป็นของทอดแต่กระดาษรองในถาดก็แห้งสนิท โดยทางร้าน "ฮ่องเต้กุยช่ายบางกรอบ" นั้นรับประกันว่ากรอบทนนานถึง 3 ชั่วโมงเต็ม (ในห้องที่มีความชื้นกับอุณหภูมิปกติ) แต่ถ้าจะเก็บเอาไว้นานกว่านั้นสามารถสั่งแบบแพ็กในถุงสุญญากาศใส่ตู้เย็นช่องธรรมดาอุณหภูมิ 0-5 องศาเซลเซียสได้ 1 เดือนเต็มๆหรือจะลงเครื่อง Air Fryer ชุบชีวิตเอาความกรอบคล้ายทอดใหม่กลับมาได้อีกครั้งนึง แต่ไม่แนะนำให้ทำอีกรอบเพราะจะเหนียวจนเคี้ยวไม่ออกเลยครับ
สำหรับวันนี้เราสั่งมาลองทานทั้งหมด 6 เมนูจ่ายไปแค่ 300 บาท ส่วนตัวถือว่าอร่อยลงตัวทุกองค์ประกอบเริ่มต้นตั้งแต่แป้งด้านนอกแผ่นบางสีน้ำตาลทองดูสวยงามเพราะทอดสองรอบจึงกรอบฟูทนนานถึง 3 ชั่วโมงให้ไส้เยอะแน่นเต็มหน้าและสะบัดน้ำมันออกกว่า 90% ด้วยเครื่องหมุนความเร็วสูงนำเข้าจากประเทศจีน กินคู่กับน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวอมหวานปนเผ็ดเล็กน้อยพอกลมกล่อมเข้ากันได้อย่างลงตัวแถมยังให้ปริมาณสมราคาแค่รายการละ 50 บาทเท่านั้น จึงเข้ากับวิถีไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เน้นเลือกซื้อเฉพาะอาหารดีต่อสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดเพจทางร้านกำลังประกาศขายแฟรนไชส์เพื่อวางแผนแพร่กระจายความอร่อยเด็ดของแบรนด์ "ฮ่องเต้กุยช่ายบางกรอบ" ให้ออกไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศไทย ซึ่งจะมีสาขาเปิดใหม่ใกล้ๆบ้านอีกมากมายทั้งกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดแค่เฉพาะในเดือนตุลาคม 2565 ก็มาอีกทั้ง โชคชัย 4/สะพานควาย/เมืองทองธานี/สมุทรปราการและสุรินทร์แสดงถึงการได้รับความนิยมของเมนูกุยช่ายแผ่นแป้งบางกรอบเป็นอย่างดี ได้รับคะแนนไป 5 ดาวเต็มเลยครับผม 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : ใกล้ปากซอยจันทน์ 18/6 เลขที่ 270 ถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)
โทร. 081-406-5322
Facebook : www.facebook.com/hongteguichaibangkrob
ปัจจุบันร้าน "ฮ่องเต้กุยช่ายบางกรอบ" เปิดให้บริการอีกสาขาตรงตลาดพลูใกล้ที่ไหนไปลองกันได้เลยครับผม
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments