top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนFood Addicts - เสพติดการกิน

รีวิว "Gukinju กูกินจุ" บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างยากินิคุรวม 25 เมนูเสิร์ฟไม่จำกัดเวลา เริ่มต้นที่คนละ 219 บ.

อัปเดตเมื่อ 21 มิ.ย. 2566



เมื่อวันก่อนนอนเล่นมือถือเจอโฆษณาร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างแห่งหนึ่งตั้งราคาถูกมากแถมยังรับโครงการคนละครึ่งพร้อมนั่งได้ยาวๆแบบไม่จำกัดเวลานานถึง 7 ชั่วโมงเต็มและเปิดให้บริการ 4 สาขาทั่วกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดนั่นก็คือ "Gukinju กูกินจุ" เริ่มต้นคนละ 219 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิลอีกท่านละ 39 บาท) เด็กมีส่วนสูงไม่ถึง 100 ซม. ทานได้ฟรีๆ 101-130 ซม. คิดระบบเหมาจ่ายได้จัดเต็มทั้งหมู/เนื้อ/ซีฟู้ดรวม 25 เมนูแค่ 119 บาทเท่านั้น ส่วนรายชื่อสถานที่ตั้งทั้งหมดเดี๋ยวจะรวบรวมเอาไว้ให้ด้านล่างสุดของบทความนี้ สำหรับวิธีการเดินทางมายังสาขาบางแคซึ่งใกล้บ้านเรามากที่สุดให้ปักหมุดบนแผนที่ในมือถือจอดตรงถนนกาญจนาภิเษกด้านหน้าได้ตลอดทั้งแนว ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะใช้ MRT ลงสถานีหลักสองทางออกฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์เรียกแท็กซี่/มอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาอีกประมาณ 3.5 กิโลเมตรก็จะถึงปลายทาง จุดสังเกตคือสัญลักษณ์หนุ่มนักซูโม่ญี่ปุ่นในป้ายวงกลมสีแดงสุดโดดเด่นขนาดใหญ่ติดริมถนนชวนสะดุดตา จะอร่อยสุดคุ้มขนาดไหนนั้นเดี๋ยวเข้าไปข้างในพร้อมๆกันเลยครับ

บรรยากาศภายในเน้นความปลอดโปร่งโล่งสบายตกแต่งง่ายๆด้วยการปูพื้นกระเบื้อง,ใช้เฟอร์นิเจอร์ลายไม้โทนสีสว่างสลับโครงสร้างเหล็กทากำแพงสีเทา,เพดานสีดำดุเข้มพร้อมเดินระบบติดตั้งปล่องดูดควันทั่วทั้งบริเวณซึ่งเข้ากับบุคลิกร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างยากินิคุได้อย่างดี โดยมีการแบ่งโซนออกเป็นสองส่วนหลักคือ 1. ด้านหน้าเปิดโล่งชมวิวถนนกาญจนาภิเษกช่วงเย็นรับลมโชยอ่อนๆจากธรรมชาติรองรับลูกค้าได้ทั้งหมด 8 โต๊ะรวมแล้วกว่า 32 ที่นั่งใกล้ๆกับเคาน์เตอร์น้ำรีฟิลระบบบริการตนเองทั้ง น้ำพั้นซ์ (ผลไม้รวม)/ชาเขียวมะลิ/อัญชันมะนาว/ชาเขียวมัทฉะข้าวคั่ว/แฟนต้าน้ำแดงรสสตรอว์เบอร์รี่/สไปรท์กลิ่นเลมอนไลม์/ชามะนาวยี่ห้อ Fuze Tea/โคคาโคล่าสูตรปกติ-ไร้น้ำตาล/น้ำเปล่าบรรจุขวด/เครื่องกดน้ำแข็งหรือคีบตักเองในถังผลิตอัตโนมัติ/หลอดพลาสติก/ตู้แช่ไอศครีมของแมกโนเลียและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำหน่ายแบบ A La Carte (เบียร์-โซจูเย็นๆ) 2. ข้างหลังติดห้องครัวเลือกได้ว่าจะนั่งโต๊ะเดี่ยวหรือลากต่อกันรองรับลูกค้ามากสูงสุดถึง 10 คน ถ้ายังไม่พอก็สามารถปิดกั้นทั้งโซนเพื่อจัดงานเลี้ยงแบบส่วนตัวได้อีกโดยมีลานกว้างขนาดใหญ่ไว้รองรับกิจกรรมต่างๆตรงกลางแต่แนะนำว่าในกรณีนั้นโทรจองมาก่อนจะดีที่สุด

จัดการเลือกที่อยากนั่งให้เรียบร้อยก็ได้เวลาสั่งอาหารโดยแต่ละตำแหน่งจะมีตะกร้าขนาดจิ๋ววางประจำเอาไว้ซึ่งด้านในเต็มไปด้วยเล่มเมนูแบบแข็งสีสันสดใสมองเห็นเด่นชัดพร้อมกระดาษขาวดำเรียงรายการออเดอร์ให้ใช้ปากกาเขียนจำนวนที่เราต้องการกินลงไปพร้อมเลขโต๊ะแล้วยื่นกับน้องพนักงานเลยได้ทันที ส่วนบุฟเฟ่ต์นั้นถูกแบ่งออกเป็นสองราคาก็คือเฉพาะหมูจ่ายคนละ 219 บาทมี 16 เมนูและเนื้อวัวจัดเต็ม 269 บาทรวม 25 เมนู รอเพียงไม่นานนักอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการกินบุฟเฟ่ต์มื้อนี้ก็ถูกยกออกมาวางข้างหน้าทั้ง จานพักสำหรับเนื้อย่าง/ถ้วยใส่น้ำจิ้มสแตนเลส/ช้อนสั้นเอาไว้ตักข้าวสวย-น้ำซุป/ตะเกียบไม้ผ่านการฆ่าเชื้อโรคบรรจุลงซองพลาสติก/ที่คีบเหล็กด้ามยาวพิเศษถือถนัดไม่ร้อนมือ/กรรไกรคมกริบขนาดใหญ่ไว้ตัดแบ่งชิ้นกำลังพอดีคำ/แก้วรีฟิลสลับเติมน้ำดื่มได้เรื่อยๆคนละใบ/กระดาษทิชชู่หนึ่งห่อไว้เช็ดปากหรือทำความสะอาดเมื่อเลอะเทอะและน้ำมะนาวคั้นสดใส่ขวดไว้เหยาะปรุงน้ำจิ้ม 2 สูตรคือ 1. ยากินิคุต้นตำรับของ "Gukinju กูกินจุ" สีน้ำตาลสัมผัสเข้มข้นบรรจุขวดทรงสูง 2. ซอสพอนสึตำรับญี่ปุ่นแท้ในขวดบีบขนาดรองลงมา แป๊บเดียววัตถุดิบสดบรรจุใส่คอนโดสูงก็ถูกวางเต็มโต๊ะพร้อมทานแล้วครับ

เรียงลำดับวัตถุดิบสดใหม่สำหรับลงย่างเตาถ่านตามเมนูที่ทางร้านพิมพ์เป็นตารางวางไว้ประจำในแต่ละโต๊ะเริ่มต้นกันด้วยถาดแรกก่อนเลยนั่นก็คือ "เนื้อ Gukinju" ส่วนคัดพิเศษซึ่งถูกคิดค้นมาแล้วว่ารสชาติเข้มไม่เหมือนใครมีลักษณะภายนอกทรงชิ้นกลมไขมันแทรกละเอียดราวกับหินอ่อนสไลด์แผ่นค่อนข้างหนาชวนเคี้ยวอย่างเต็มคำสุดชุ่มฉ่ำสมกับเป็น Signature ชูโรงอันดับ 1 ของแบรนด์ที่แวะมาแล้วห้ามพลาดเด็ดขาด ต่อไปได้แก่ "เสือร้องไห้" หรือสามชั้นของวัวบริเวณตรงใต้ท้องคล้ายเบคอนปริมาณเนื้อและไขมันสลับกันอย่างสมดุลแล่ทางยาวเรียงบนถาดก่อนจัดเสิร์ฟมีกลิ่นหอมละมุนปิ้งผ่านไฟให้สุกเกรียมติดไหม้เล็กน้อยก็อร่อยกรุบกรอบไปอีกแบบ ถาดถัดมานั้นคือ "เนื้อใบพาย" อยู่กลางระหว่างสันคอท้องด้านในจุดเด่นอยู่ตรงเส้นเอ็นกลางก้อนชิ้นเนื้ออันแตกต่างจากชิ้นส่วนอื่นๆมีชั้นไขมันแทรกอยู่ในระดับปานกลางจึงนุ่มไร้ความเหนียวกินง่ายทำให้หลายๆคนติดใจได้ไม่ยาก แล้วตามด้วย "ริบอาย" ส่วนซี่โครงตัดแต่งสวยงามได้รับความนิยมมากสุดในสเต๊กเฮ้าส์เนื่องจากมีรสชาติเข้มข้นแทรกไขมันสไลด์บางเฉียบจนแทบเห็นด้านล่างภาชนะเพื่อเพิ่มสัมผัสนุ่ม-ปรุงสุกได้ง่ายรอเพียงไม่นานนักก็ได้ทานเนื้ออร่อยรวดเร็วทันใจดีครับ

ยังคงอยู่ในหมวดบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างยากินิคุราคาคนละ 269 บาทเช่นเดิมถาดถัดไปก็คือ "เนื้อสันคอ" ปกตินิยมนำมาทำสเต๊กหรือตุ๋นสตูว์เนื่องจากเนื้อสีแดงแทรกไขมันสวยได้ความนุ่มอร่อยคล้ายสันคอหมูสไลด์แผ่นบางเฉียบก่อนเสิร์ฟเคี้ยวง่ายรสชาติเข้มข้นปานกลาง ต่อกันด้วย "หมูโทโร่" หรือคอหมูของแท้ 100% มักย่างเสิร์ฟตามร้านอาหารอีสานปัจจุบันถือว่าแพงๆมากเจ้าของกิจการหลายแห่งเลยเปลี่ยนเป็นตรงสันคอ-สันไหล่ที่ลักษณะใกล้เคียงกันแทน แต่จุดเด่นอันลอกเลียนแบบไม่ได้เลยก็คือเนื้อแทรกชั้นไขมันราวกับหินอ่อนสีชมพูพาสเทลให้สัมผัสตอนเคี้ยวที่เด้งสู้ฟันกรุบกรอบแถมให้สั่งไม่อั้นถือว่าใจป๋าพอตัว ส่วนซีฟู้ดเพียงอย่างเดียวในระดับราคานี้ได้แก่ "หอยแมลงภู่ชิลี" ตัวขนาดกลางเนื้อแน่นเต็มฝาแต่ขายไม่แพงและมันอร่อยกว่าของนิวซีแลนด์หลายเท่าจึงได้รับความนิยมมากขึ้นในบ้านเรา ถ้าคุณเป็นคนไม่ทานเนื้อวัวก็สามารถแวะมาที่ร้าน "Gukinju กูกินจุ" ได้จ่ายแค่คนละ 219 บาท เริ่มต้นกันด้วย "สันคอหมู" ใช้เกรดพรีเมี่ยมคุณภาพสูงหั่นแผ่นใหญ่-หนาเคี้ยวเต็มคำราดซอสสูตรพิเศษก่อนลงย่างบนเตาถ่านกับงาคั่วเล็กน้อยและสังเกตได้เลยว่าวัตถุดิบต่อจากนี้ใช้เฉพาะถาดสีขาวแยกประเภทกันอย่างชัดเจนดีมากเลยครับผม

ใครที่ร่างกายกำลังเน้นโปรตีนแล้วอยากทานบุฟเฟ่ต์ยากินิคุควรสั่งเมนูถาดนี้เยอะๆเลยก็คือ "สันนอกหมู" เนื้อสีอมชมพูอ่อนพาสเทลสวยงามแทบไร้ไขมันแทรกแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเหนียวชวนเคี้ยวลำบากสุขภาพฟันแนะนำว่าปิ้งแค่ให้พอสุกเปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งชิ้นก็พร้อมทานได้แล้วจะความนุ่มอร่อยสุด มาต่อกันด้วย "หมูสามชั้น" จับมาลอกหนังแข็งด้านนอกทิ้งเหลือแต่เนื้อสลับชั้นไขมันอย่างสวยงามสมดุลไม่มากหรือน้อยจนเกินไปวางลงเตาถ่านย่างจนกรอบเกรียมได้อารมณ์แบบเบคอนทอดเคล้าน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของที่ร้าน "Gukinju กูกินจุ" บอกเลยว่าเพลินแทบหยุดมือไม่อยู่ แล้วใครเป็นสายคีโตก็สามารถขอให้น้องพนักงานในครัวไม่ราดซอสพร้อมพกเกลือ,ซอสต่างๆมาได้เองไม่มีข้อห้ามนำเข้าแต่อย่างใด เพิ่มธาตุเหล็กนำออกซิเจน-สารอาหารต่างๆไปสู่เชลล์โดยเมนู "ตับหมู" สไลด์แผ่นหนาขนาดพอดีคำรูปทรงวงกลมโรยงาขาวก่อนเสิร์ฟผ่านไฟแรงๆให้ผิวนอกสุกแต่ข้างในชุ่มฉ่ำจึงจะอร่อยสุดตามอุดมคติ สายเกาหลีตัวยงห้ามพลาด "หมูเกาหลี" ใช้เฉพาะสันนอกส่วนติดมันมากกว่าปกติทาโคชูจังปรุงรสชาติให้หวานเผ็ดร้อนกลมกล่อมเหมือนย่านโคเรียนทาวน์เหมาะกับการย่าง,ห่อผักสดใหม่ตามด้วยกิมจิกรอบๆใส่เข้าปากคำใหญ่มากครับ

สายซีฟู้ดแม้จะไม่ได้เลือกบุฟเฟ่ต์ราคาสูงสุดแต่ก็ได้กินวัตถุดิบคุณภาพดีสมกับที่จ่ายไปเริ่มต้นกันด้วย "กุ้งขาวสด" ตัวขนาดกลางๆขายที่ตลาดประมาณกิโลกรัมละ 250-300 บาทเปลือกแข็งหัวใสติดลำตัวไม่หลุดขาดลุ่ยออกจากกันแสดงถึงความสดใหม่เนื้อเด้งกรุบกรอบ และ "ปลาหมึกกล้วยสด" ลอกหนังจนเหลือแต่สีขาวล้วนควักไส้กับหัวทิ้งเหลือแต่ลำตัวอวบอิ่มราดซอสสูตรพิเศษเพิ่มรสชาติเค็มหวานกลมกล่อมก่อนลงย่างบนเตาถ่านร้อน ปิ้งนานก็ไม่หดเล็กจนน่าเกลียดแบบหลายๆร้านที่ผสมสารอุ้มน้ำอันตรายลงไปกินได้อย่างสบายใจแน่นอนครับ เมนูอื่นๆที่เพิ่มเติมขึ้นมาอย่างแรกคือ "เห็ดเข็มทองพันเบคอน" โดยเบคอนที่ใช้เป็นแบบขึ้นรูปรมควันมีกลิ่นหอมและสัมผัสคล้ายๆหมูสามชั้นแต่ปริมาณไขมันน้อยกว่าพันเห็ดเข็มทองขนาดกำลังพอดีคำแล้วกลัดด้วยไม้จิ้มฟันเพื่อไม่ให้หลุดออกจากกันง่ายๆ เทคนิคพิเศษควรย่างให้เบคอนเกรียมเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองเห็ดเริ่มเหี่ยวเคี้ยวชุ่มฉ่ำได้รสชาติหวาน-เค็มกลมกล่อมฉ่ำน้ำและไขมันเต็มปาก สุดท้ายก็คือ "ไส้กรอก" ใช้เนื้อไก่บดละเอียดสอดไส้ลงในหนังคอลลาเจนสัมผัสกรอบรมควันกลิ่นหอมๆลงเตาแค่พอหนังตึงสวยงามก็ทานได้ หลังจากนี้ก็เมนูเหล่าข้าว,ผัก,เครื่องเคียงแล้วครับผม

เพิ่มไฟเบอร์ในระบบการย่อยอาหารให้ขับถ่ายง่ายขึ้นด้วย "ชุดผักสำหรับย่าง" ซึ่งประกอบไปด้วย เห็ดออเร็นจิขนาดใหญ่/ฟักทองไทย/แครอทสไลด์แผ่นบางจะสั่งเป็นชุดหรือแยกทีละอย่างก็ได้ตามใจ สายเกาหลีตัวยงต้องชอบเมนูนี้คือ "ชุดผักซันจุ" มีแตงกวา-ผักกาดหอมจิ้มซัมจังสูตรเฉพาะของร้าน "Gukinju กูกินจุ" คล้ายมิโสะรสหวานมันหอมน้ำมันงาเผ็ดร้อนปลายลิ้นเล็กน้อยจิ้มกินกับผักสดกรอบเย็นๆหรือห่อเนื้อย่างแทนน้ำจิ้มปกติก็อร่อยได้ถึง 2 สไตล์ภายในจานเดียวกัน เพิ่มความสดชื่นด้วย "สลัดมันฝรั่งสไตล์ญี่ปุ่น" ใช้หัวมันต้มบดละเอียดผสมสลัดครีมเติมแครอทกับต้นหอมจีนซอยบางๆให้สัมผัสที่แตกต่างกันในปาก ตักเสิร์ฟแบบก้อนกลมแช่เย็นจัดคล้ายไอศครีมรสชาติหวานมันนวลเนียนให้ปริมาณแค่ถ้วยเล็กแบบนี้แต่ได้รับพลังโจมตีรุนแรงถึงใจมาก จานถัดไปนั้นเพิ่มขึ้นมาใหม่ล่าสุดเพราะยังไม่มีให้สั่งในตารางออเดอร์บนโต๊ะแต่น้องพนักงานนำมาวางให้คือ "ผักปวยเล้ง,ถั่วงอกผัดน้ำมันงา" ผัดในกระทะเหล็กแบบจีนซึ่งให้ความร้อนสูงจนด้านนอกสุกแต่ข้างในยังกรอบปรุงรสชาติให้เค็มนำตัดหวานตามธรรมชาติของผักเคล้ากลิ่นควันติดปลายจมูกกับน้ำมันงาแตกต่างจากร้านยากินิคุที่เคยทานมาก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิงเลยครับ

เครื่องเคียงสไตล์เกาหลีอย่างละนิดหน่อยรวมกันเป็นเมนูเดียวได้แก่ "ชุดเครื่องเคียง" ประกอบไปด้วย 1. กิมจิผักกาดขาวสไตล์เกาหลีรสชาติเค็มนำเปรี้ยวกรุบกรอบฉ่ำน้ำผักเผ็ดร้อนพริกป่นขึ้นจมูกนิดๆ 2. ไชเท้าดองสูตรโฮมเมดหั่นชิ้นลูกเต๋าขนาดเล็กใส่เกลือสมุทร/น้ำส้มสายชูและน้ำตาลทรายแช่เย็นๆกลมกล่อมให้ตัดกันอย่างสมดุลได้ถึงสามรสชาติในหนึ่งเดียว 3. ไส้กรอกผัดซอสคล้ายผัดเปรี้ยวหวานของไทยแบบไม่ใส่ผักใช้ไส้กรอกไก่หนังกรอบๆหั่นชิ้นขนาดเล็กคลุกลงไปเข้ากันใส่ถาดสามช่องก่อนเสิร์ฟ (ถ้าชอบเมนูไหนเป็นพิเศษก็สามารถสั่งแยกได้) อยากซดน้ำซุปร้อนๆให้คล่องคอทางร้าน "Gukinju กูกินจุ" มีเพียงแค่รายการเดียวนั่นคือ "ซุปสาหร่าย" พื้นฐานใช้คัตสึโอะดาชิผสมคอมบุตากแห้งใส่สาหร่ายทะเล-ต้มหอมซอยละเอียดน้ำดูใสแต่รสชาติกลมกล่อมอูมามิกว่าที่เห็นมากๆ สาวกคาร์โบไฮเดรตซึ่งชีวิตนี้ขาดข้าวไม่ได้ทางร้านก็มีให้เลือกทั้ง "ข้าวสวยญี่ปุ่น" อัปเกรดเข้าสู่ "ข้าวผัดกระเทียม" ซึ่งใช้เนยแทนน้ำมันจึงมีกลิ่นหอมใส่กระเทียมจำนวนมากท็อปปิ้งกระเทียมเจียว/ต้นหอมเพื่อความสวยงามก่อนเสิร์ฟครับ

น้ำจิ้มสูตรของทางร้าน "Gukinju กูกินจุ" สามารถเปลี่ยนความอร่อยไปได้เรื่อยๆมากกว่า 4 แบบก็คือ 1. ซอสยากินิคุสีน้ำตาลขวดใหญ่วางอยู่บนโต๊ะมีลักษณะภายนอกคล้ายของร้านมังกรเขียวชื่อดังไม่ใสแจ๋วอย่างเจ้าอื่นที่เคยทานมา 2. ซอสพอนสึสีสันคล้ายกับโชยุขวดเล็กแบบบีบวางประจำอยู่ที่โต๊ะเช่นเดียวกันถือเป็นพื้นฐานให้ลูกค้าหยิบเทผสมพริกสด/กระเทียมสับ/น้ำมะนาวด้วยตนเองได้ตลอดเวลา 3. น้ำจิ้มซีฟู้ดต้องสั่งตรงจากน้องพนักงานเท่านั้นเพราะถูกจัดเก็บอยู่ในตู้เย็นของครัวเพื่อคงความสดใหม่ใส่ถ้วยสแตนเลสแช่เย็นเข้ากับอาหารทะเลได้เป็นอย่างดี 4. น้ำจิ้มแจ่วฉบับอีสานเหนียวข้นด้วยน้ำมะขามเปียกคั้นก็ต้องสั่งจากครัวเพราะทางเชฟเขาจะปรุงใหม่ โดยการใส่พริกป่นกับข้าวคั่วลงไปทีหลังไม่ให้อวบบวมน้ำแบบร้านที่ทำทิ้งใส่ขวดไว้จำนวนมากจึงมีกลิ่นหอมชัดเจนกว่าเยอะ สักพักเตาถ่านก็ถูกยกออกมาวางในหลุมตรงกลางโต๊ะพร้อมเปิดระบบเครื่องดูดควันที่ด้านบนเสร็จพร้อมลุยกับบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างมื้อนี้แล้ว แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อยสำหรับผู้ที่ชอบนั่งเขย่า,เหยียดขาและมีเด็กเล็กวัยกำลังซุกซนว่าด้านล่างโต๊ะไม่มีฉนวนติดกันรังสีความร้อนที่แผ่ออกมาเพียงแค่เทน้ำสะอาดหล่อตรงขอบข้างบนเพื่อป้องกันไฟไหม้เฉยๆนะครับ

ไม่รอช้าจับเนื้อวัวและหมูพร้อมซีฟู้ดต่างๆที่อยากทานลงไปย่างจนได้ตามระดับความสุกที่ต้องการแล้วมาอร่อยกับน้ำจิ้มสูตรต้นตำรับขวดใหญ่วางบนโต๊ะของร้าน "Gukinju กูกินจุ" ก่อนเลยนั่นก็คือ "ซอสยากินิคุ" ถ้ามองด้วยสายตาจากลักษณะภายนอกและสีสันก็เหมือนของร้านมังกรเขียวบนห้างชื่อดังไม่มีผิดแต่รสชาติเมื่อตอนเข้าปากนั้นเป็นสไตล์ญี่ปุ่นของแท้รสชาติเค็มหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อยแค่พอกลมกล่อม หอมกลิ่นซีอิ๊วโชยุ,ขิงสด,น้ำมันงา,น้ำส้มสายชู,มิริน,สาเกครบทุกด้าน ส่วนความเหนียวข้นนั้นได้มาจากธรรมชาติล้วนๆทั้งหัวหอมใหญ่,กระเทียมและเนื้อผลไม้สดปั่นจนละเอียดจำนวนมากจึงออกมาหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จิ้มเนื้อย่างใหม่ๆจับใส่ปากทานทันทีก็อร่อยหรือจะปรุงเพิ่มด้วยพริกสด/กระเทียมสับ/น้ำมะนาวลงไปก็ถูกปากคนไทยหรือจับราดลงบนข้าวสวยแบบฉ่ำๆเพื่อทานแบบข้าวหน้าเนื้อยากินิคุแบบภัตตาคารชื่อดังใจกลางกรุงเทพมหานครก็ดีงามไม้แพ้กัน หากอยากได้อารมณ์ความเป็นสายเกาหลีที่แท้ทรูในเมนู "ชุดผักซันจุ" มีซัมจังปรุงรสสูตรพิเศษคล้ายมิโสะรสชาติหวานเค็มเผ็ดแค่ปลายลิ้นหอมกลิ่นน้ำมันงาเหนียวเข้มข้นให้วางเนื้อย่างลงบนผักกาดกรอบพร้อมกิมจิใส่ปากคำใหญ่ๆอร่อยสะใจมากครับ

น้ำจิ้มสูตรอื่นก็มีให้สลับเปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆเพื่อที่ลูกค้าจะได้สนุกกับการกินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างยาวนานตลอด 7 ชั่วโมงเต็มทั้ง "ซอสพอนสึ" ของร้าน "Gukinju กูกินจุ" นั้นไม่เหมือนชาบูทั่วไปเพราะเน้นรสเค็มหวานเปรี้ยวน้อยมากต้องเหยาะน้ำมะนาวคั้นสดบนโต๊ะเพิ่มลงไปเองจนกว่าจะพอใจช่วยตัดเลี่ยนจากไขมันสไตล์ญี่ปุ่นช่วยให้ลุยเนื้อ/หมูได้เยอะยิ่งขึ้น สำหรับสายลิ้นไทยแท้เป็นคนทานยากกลัวเข้าร้านอาหารสไตล์นี้แล้วจะรู้สึกกร่อยก็หมดห่วงได้เลยเพราะเขามี "น้ำจิ้มแจ่ว" สูตรอีสานแท้ใส่น้ำมะขามเปียกหอมกลิ่นข้าวคั่ว/พริกป่นสดใหม่เพราะในครัวจะปรุงให้เมื่อลูกค้าสั่งเท่านั้นถ้ารู้สึกว่าเผ็ด-เปรี้ยวไม่พอก็ขอพริกสด,เทน้ำมะนาวบนโต๊ะลงไปได้อีกยังไงก็แซ่บถูกใจแน่นอน และสุดท้าย "น้ำจิ้มซีฟู้ด" สำหรับกินคู่กับกุ้ง-ปลาหมึกย่างร้อนๆต้องสั่งจากพนักงานโดยตรงเท่านั้นเพราะถูกจัดเก็บอยู่ข้างในตู้เย็นเพื่อป้องกันกรดของมะนาวแท้กัดกร่อนส่วนประกอบต่างๆจนเปลี่ยนสีดูไม่สวยงามเน้นรสชาติอันเปรี้ยวตัดหวานกลมกล่อมหนักพริกสด,กระเทียมเค็มน้ำปลาแค่พอละมุนเข้ากับอาหารทะเลหรือจะจิ้มเนื้อย่างแทนยำก็เด็ดไปอีกแบบ ปิดท้ายจบมื้อแสนพิเศษนี้ด้วยไอศครีมยี่ห้อแมกโนเลียให้ตักเองหลากหลายรสชาติทั้งช็อกโกแลต/วานิลลา/เซอร์เบตมะนาว/นมฮอกไกโดใส่ถ้วยพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งลงถังขยะที่วางไว้ประจำในแต่ละโต๊ะได้เลยครับผม

มื้อนี้ผมมาทานกับแฟน 2 คนเลือกเฉพาะบุฟเฟ่ต์เนื้อวัว 259 น้ำรีฟิลอีก 39 จ่ายไปรวม 616 บาท (ไม่มี Vat. กับ Service Charge มากวนใจ) เฉลี่ยเพียงท่านละ 308 บาทแต่ถ้าใช้โครงการคนละครึ่งของรัฐบาลโดยชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังเติมเข้าบัญชีพร้อมเพย์อีกแค่ 158 บาทเท่านั้นถือว่าคุ้มค่าสุดๆ ตอนแรกคิดว่าร้านนี้น่าจะมีดีแค่ราคาถูกส่วนความอร่อยน่าจะรสชาติแบบงั้นๆสุดท้ายดีเกินคาดไปเยอะมากๆ เพราะบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเปิดใจกลางกรุงเทพฯราคาถูกสุดที่เคยเจอน่าจะประมาณ 399++ ก็ยังไม่เสิร์ฟวัตถุดิบคุณภาพสูงขนาดนี้หรือกินได้แค่หมูล้วนๆ ก่อนเดินทางกลับบ้านพนักงานแจ้งว่าอนาคตจะมีเมนูสไตล์เกาหลีเพิ่มขึ้นแต่จ่ายราคาเท่าเดิมยังไงคอยติดตามที่เพจด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ "Gukinju กูกินจุ" ได้รับคะแนน 5 ดาวเต็มอย่างไร้ข้อติเตียนไปเลยจ้า🌟🌟🌟🌟🌟

พิกัด : เลขที่ 458 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160

เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 16.00-23.00 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)

โทร. 083-262-4979


ปัจจุบัน "Gukinju กูกินจุ" เปิดถึง 4 สาขานั่นคือ ท่าข้ามซอย 9/บางบัวทอง/พานทอง(ชลบุรี)และบางแคครับผม

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘



ดู 4,613 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page