รีวิว "Cook By Food Identity" (ราชพฤกษ์-พุทธมณฑล) ร้านสเต๊ก-อาหารฟิวชั่นบรรยากาศสบายๆโดยเชฟชื่อดังระดับโลก Martin Blunos
- Food Addicts - เสพติดการกิน
- 24 เม.ย.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 25 เม.ย.
นอนเล่นมือถืออยู่คอนโดเลื่อนหน้าจอเรื่อยๆก็พบโฆษณาร้านอาหารใกล้เคียงเด้งขึ้นมาน่าสนใจเพราะแต่ละเมนูรังสรรค์โดยเชฟชื่อดังระดับโลกคุณ Martin Blunos (มาร์ติน บลูโนส) ดีกรีเชฟกระทะเหล็กแห่งเกาะอังกฤษแถมยังเคยได้รับมิชลินสตาร์สองดาวนั่นก็คือ "Cook By Food Identity" (คุกบายฟู้ดไอเดนติตี้) โดดเด่นเรื่องสเต๊ก-อาหารยุโรปฟิวชั่นเน้นรสชาติเข้มข้นถูกปากชาวไทยพร้อมขนมหวานสไตล์คาเฟ่ไปจนถึงวางจำหน่ายวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพระดับพรีเมียมเอาใจเหล่าสายกินตัวจริงและชื่นชอบการเข้าครัวเป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันกำลังเปิดบริการเข้าสู่ปีที่ 8 สะสมคะแนนรีวิวจากลูกค้าทุกเว็บไซต์จำนวนกว่า 100 ท่านสูงถึง 4.3 เต็ม 5 ดาวบ่งบอกถึงความอร่อยเด็ดไม่ธรรมดา วิธีเดินทางถ้าเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวค้นหาชื่อแบรนด์ปักหมุดขับตรงตามระบบแผนที่บนสมาร์ตโฟนของคุณลานกว้างข้างหน้าจอดฟรีสามารถรองรับได้แค่เพียง 6 คัน สำหรับผู้โดยสารขนส่งสาธารณะแนะนำให้นั่ง MRT สายสีน้ำเงินลง ณ สถานีไฟฉายประตูทางออกลำดับสองข้ามสะพานลอยผ่านสี่แยกค่อยโบกมือเรียกแท็กซี่หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 เลี้ยวสู้เส้นราชพฤกษ์ไปอินทราวาสจุดหมายอยู่ด้านขวามือปากซอย 28 (ประดู่) อาคารสีดำสถาปัตยกรรมนอร์ดิกสุดแปลกตาไม่เหมือนใครอย่างนี้แสดงว่าถึงแล้วแน่นอนครับผม
กดปุ่มผ่านประตูบานเลื่อนเพื่อเดินเข้ามาภายในร้าน "Cook By Food Identity" อาคารสูงสีดำสนิทแนวนอร์ดิกที่เห็นนั้นคือบ้านน็อกดาวน์สำเร็จรูปดีไซน์ทันสมัยจับต่อเรียงกัน ตกแต่งโดยปูพื้นด้วยแผ่นกระเบื้องเหมือนหินฝาผนังทาสีเขียวสไตล์เอิร์ทโทนเพดานสูงโปร่งติดตั้งระบบเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำหน้าต่างกระจกใสขนาดใหญ่พิเศษช่วยปล่อยให้แสงแดดธรรมชาติคอยสาดส่องยาวตลอดวัน พร้อมเฟอร์นิเจอร์อีกหลายรูปแบบสามารถรองรับลูกค้าได้ตั้งแต่คู่รัก,ครอบครัวจนถึงกลุ่มเพื่อนฝูงประมาณ 2-10 ท่านถ้าจำนวนสมาชิกเยอะกว่านั้นขอแนะนำว่าโทรศัพท์แจ้งล่วงหน้าเพื่อปิดเหมาโซนจัดเลี้ยงโอกาสพิเศษต่างๆและครอบคลุมบริการถึง Pet Friendly โดยมีเงื่อนไขเพียงต้องบรรจุลงกระเป๋าหรือรถเข็นห้ามปล่อยลงเดินเล่น,ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น ประดับโคมไฟโทนสีเหลืองแลดูอบอุ่นแขวนต้นไม้ห้อยระย้าสวยงามอลังการพอถึงช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆของปีก็จะสลับเปลี่ยนเช่นวันนี้เป็นเหล่าดอกไม้กระดาษสีสันสดใสต้อนรับสงกรานต์ นอกจากรับประทานมื้อหลักอาหารอย่างจริงจังแล้วถ้าอยากดื่มกาแฟ,กินขนมหวานนั่งทำงานชิลๆใต้โต๊ะเราเห็นปลั๊กไฟกระจายเกือบทุกจุดสุดท้ายสายช็อปปิ้งต้องแวะซื้อวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพระดับพรีเมียมบริเวณตู้แช่แข็งกลับไปปรุงต่อวางป้ายโปรฯลดราคาอีกมากมายต้องคอยติดตามบนเพจหลักครับผม
จุดเริ่มต้นของทางร้าน "Cook By Food Identity" เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งลูกค้าสามารถเลือกหยิบวัตถุดิบในตู้แช่แข็งมาให้น้องพนักงานช่วยปรุงตามที่กำหนดโดยเน้นพวกสเต๊ก-อาหารยุโรปฟิวชั่นตั้งแต่ช่วง 2017 จนกระทั่งเดือนเมษายน 2023 จึงจับมือร่วมกับเชฟชื่อดังระดับโลกคุณ Martin Blunos กดค้นหาบนเว็บไซต์ Wikipedia ประวัติย่อเกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2503 ปัจจุบันอายุ 65 ปี เป็นชาวอังกฤษมีผลงานโทรทัศน์ Iron Chef UK / America เคยได้รางวัลมิชลินไกด์ 2 ดาวจากภัตตาคารเลตโตนี (Lettonie) เรียนรู้ทักษะครัว-ฝึกอบรม ณ วิทยาลัย Cheltenham และ Cambridge พัฒนาฝีมือเรื่อยๆจนมีโอกาสปรุงเครื่องเสวยถวายแก่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 / เจ้าชายฟิลิปดยุคแห่งเอดินบะระก่อนจะย้ายมาสู่ประเทศไทยนั้นทำงานตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวฝ่ายบริหารของ Bespoke Hotels จนถึงปี 2560 เข้าร่วมแข่งขันรายการ Iron Chef Thailand หลายครั้งฐานะผู้ท้าชิง (สถิติชนะ 2 แพ้ 2) เรียกว่าดีกรีนั้นไม่ธรรมดา รายการอาหารทุกอย่างร่วมคิดค้นควบคุมจดสูตรตามมาตรฐานที่กำหนดรับรองว่าอร่อยเท่าเทียมกันทุกจานแต่ละเดือนบนเพจหลักจะประกาศตารางแวะเข้าร้านใครเจออยากถ่ายรูปด้วยต้องวางแผนกันหน่อย กดเพื่อรับชมเล่มฉบับออนไลน์เลยตรงลิงก์นี้ > https://citly.me/584Nn < ครับผม
วันนี้ก่อนออกจากบ้านเปิดดูตารางบนเพจหลักแล้วเชฟ Martin Blunos (มาร์ติน บลูโนส) จะต้องแวะเข้ามาที่ร้าน "Cook By Food Identity" พอดีจึงแจ้งน้องพนักงานช่วยแนะนำเมนูพร้อมเสิร์ฟแบบเป็นคอร์สฉบับอังกฤษให้หน่อยเริ่มต้นกันด้วย "Mushroom Cream Soup" ราคา 145 บาท เลือกใช้เห็ดหลายชนิดผสมเข้ารวมกันจนมีกลิ่นรุนแรงซับซ้อนคล้ายทรัฟเฟิลผัดเนยจืดเพิ่มหอมหัวใหญ่,กระเทียม,วิปปิ้งครีมเข้าเครื่องปั่นจนเนื้อสัมผัสเหนียวหนืดเล็กน้อยปรุงแค่เกลือพริกไทยเรียบง่ายแต่อร่อยกลมกล่อมนัวละมุนเข้มข้น ต้องรับประทานคู่ขนมปังเพสตรี้อบกรอบฟองอากาศแทรกลักษณะเหมือนครัวซองต์ฝรั่งเศสเคลือบทุกอณูแตกสลายหายไปทันทีเมื่อเข้าปากชวนฝัน / "Caesar Salad With Crispy Chicken" ราคา 385 บาท หัวผักกาดคอสผ่าแบ่งครึ่งแบบยกทั้งต้นค่อยบรรจงทาน้ำสลัดซีซ่าร์สูตรคิดค้นเองทีละใบประดุจกระบวนการหมักกิมจิเกาหลีหันหลังเตรียมสะโพกไก่ฟาร์มอนามัยลอกหนังเพื่อเจียวรีดไขมันออก ส่วนเนื้อคลุกข้าวพองญี่ปุ่นทอดน้ำมันล้นควบคุมไฟระดับปานกลางประมาณ 180 องศาเซลเซียสสีเหลืองทองสวยงามจับประกอบร่างโดยทุบกากกรุบกรอบโรยด้านบนท็อปปิ้งพาร์เมซานชีสสไลซ์บางแผ่นใหญ่กับน้ำสลัดวางริมจาน วิธีกินต้องถือมีดให้กระชับมือหั่นผัก,จิ้มเนื้อสัตว์แตะซอสนิดหน่อยฟินสดชื่นทุกๆคำครับ
มาต่อกันด้วยจานคาร์บหรือเมนูเกี่ยวกับคาร์โบไฮเดรตซึ่งคุณเชฟ Martin Blunos (มาร์ติน บลูโนส) ภูมิใจนำเสนอมากที่สุดนั่นก็คือ "Grill Pumkin With Risotto Rice" ราคา 295 บาท เลือกใช้เฉพาะข้าวสายพันธุ์คาร์นาโรลลีเพาะปลูกบริเวณทางตอนเหนือของประเทศอิตาลีลักษณะภายนอกอ้วนกลมสั้นปริมาณแป้งสูงยางน้อยสัมผัสแน่นกว่าฝั่งเอเชียปกติค่อนข้างกระด้างผ่านกระบวนการต้มน้ำซุปผักรวมหลากหลายชนิดเวลานานจนดูดซึมเข้าเนื้อรับประทานง่ายกว่าภัตตาคารเจ้าอื่นๆใส่เห็ดออเร็นจิหั่นชิ้นลูกเต๋าขนาดเล็กแทนเนื้อสัตว์ผสมชีสถึง 3 ชนิดผสานกับฟักทองสัญชาติญี่ปุ่นรสชาติเค็มกลมกล่อมสีเหลืองสวยงามท็อปปิ้งด้วยฟักทองย่างปักชีสอบกรอบลักษณะเหมือนปะการังสวยงามถือเป็นจานมังสวิรัติที่อร่อยเกินคาดประดุจผลงานศิลปะห้ามพลาดเด็ดขาด / "Spaghetti With Hotate Ebiko & Seaweed In Japanese Sauce" ราคา 395 บาท สปาเก็ตตี้ไซส์มาตรฐานประมาณเบอร์ 3 ลวกสุกกำลังพอเหมาะระดับ Al Dente ตั้งน้ำเดือดจับเวลาประมาณ 8-10 นาทีเหนียวนุ่มสู้ฟันคลุกเคล้าซอสสูตรพิเศษซึ่งคิดค้นเองตำรับดินแดนอาทิตย์อุทัยกลิ่นซีอิ๊วโชยุเด่นชัดตกแต่งหอยเชลล์โฮตาเตะฮอกไกโดเกรดซาชิมิแบ่งครึ่งลนไฟ,ไข่ปลาบินสีส้ม,ผงปลาคัตสึโอะและสาหร่ายโนริคล้ายยากิโซบะฟิวชั่นกันอย่างลงตัวมีเอกลักษณ์ครับผม
อีกหนึ่งรายการ Signature ซึ่งอยู่คู่กับทางร้าน "Cook By Food Identity" มัดใจลูกค้ามาได้อย่างยาวนานปกติก่อนจับมือร่วมกับเชฟ Martin Blunos (มาร์ติน บลูโนส) เขาใช้ระบบซูเปอร์มาร์เก็ตช็อปปิ้งหยิบเองบริเวณตู้แช่แข็งชั่งน้ำหนักพร้อมปรุงให้โดยคิด Service Charge แค่ 5% ปัจจุบันต้องออเดอร์ผ่านเล่มเมนูเหมือนภัตตาคารทั่วไปนั่นก็คือ "Australian Black Angus Ribeye" ราคา 795 บาท เนื้อบริเวณสันแหลมของวัวสายพันธุ์แบล็กแองกัสนำเข้าจากฟาร์มเลี้ยงควบคุมตามมาตรฐานส่งออกแห่งประเทศออสเตรเลียเกรด Grin-Fed ขุนด้วยธัญพืชแทรกไขมันสีขาวสวยงามประดุจลายหินอ่อนขนาด 220 กรัมกลิ่นค่อนข้างเข้มข้นรสชาติเด่นชัด โรยเกลือสมุทร,บิดพริกไทยเล็กน้อยย่างบนกระทะเหล็กหล่อปรับไฟแรงอุณหภูมิสูงสุดควันโขมงเต็มครัวเลือกความสุกได้รวม 5 ระดับเช่น 1. Rare ค่อนข้างดิบ 2. Medium Rare ผิวนอกสุกภายในแดง 3. Medium อมชมพูนิดหน่อย 4. Medium Well ชุ่มฉ่ำกำลังพอดี 5. Well Done สุกเกรียม 100% ราดเนยใส่ก้านสมุนไพรโรสแมรี่สดเพื่อดับคาวรับประทานคู่ซอสเกรวี่,แจ่วฉบับอีสานเปรี้ยวหวาน เคียงเห็ดออเร็นจิผัดเนยกระเทียมมะเขือเทศย่างไฟและ Signature เฉพาะสาขาราชพฤกษ์-พุทธมณฑลเท่านั้นได้แก่ "Pommes Anna" มันฝรั่งอบแผ่นบางเรียงพันชั้นสไตล์ฝรั่งเศสครับผม
สำหรับใครที่กำลังมองหาคาเฟ่หรือสถานที่นั่งทำงานบรรยากาศสบายๆทางร้าน "Cook By Food Identity" ได้จัดเตรียมกาแฟสด,ขนมหวานและเครื่องดื่มเอาไว้พร้อมติดตั้งปลั๊กไฟเปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำตลอดวัน โดยเราสามารถรับประทานภายในภัตตาคารปล่อยอารมณ์ชิลหรือออเดอร์บริเวณข้างหน้าเคาน์เตอร์ฉบับ Take Away ใส่กล่องกลับไปฝากคนที่รักตามใจคุณ เราขอปิดท้ายมื้อแสนพิเศษนี้ด้วย "Basque Burnt Cheesecake" ราคา 115 บาท อีกชื่อเรียกนั่นก็คือชีสเค้กหน้าไหม้ต้นกำเนิด ณ แคว้นบาสก์ตอนเหนือของประเทศสเปนช่วงปี 1988 แต่เพิ่งได้รับความนิยมเมื่อช่วงคริสต์ศักราช 2010 ชั้นด้านล่างใช้คุกกี้บดละเอียดผสานเนยละลายทำเป็นรากฐานตามด้วยครีมชีส,น้ำตาลทราย,แป้งข้าวโพด,วิปปิ้งครีม,ไข่ไก่สด,เติมกลิ่นวานิลลาเล็กน้อยเข้าเตาอบรอผิวเกรียมพักในตู้เย็นแช่ยาวนานรอข้ามคืนก่อนเสิร์ฟเนื้อสัมผัสแน่นละมุนอร่อย / "Premium Chocolate Soft Cake" ราคา 95 บาท พื้นฐานใช้สปันจ์เค้กโฮมเมดทำเองบางเบานุ่มฟูแทรกฟองอากาศละเอียดกระจายทั้งก้อนสีน้ำตาลเข้มเพราะใส่ผงโกโก้แท้คุณภาพสูงอัดแน่นปริมาณเยอะหอมเนยธรรมชาติเด่นชัดตีขึ้นจมูกผ่าครึ่งตรงกลางตามแนวขวางทาซอสช็อกโกแลตละลายกับแผ่นเจลาติน หวานน้อยปนขมอย่างล้ำลึกเปล่งประกายแวววาวเมื่อวางกระทบแสงไฟครับผม
ปิดท้ายมื้อพิเศษนี้ให้สมบูรณ์มากแบบยิ่งขึ้นด้วยหมวดเครื่องดื่มและขนมหวานโดยทางร้าน "Cook By Food Identity" เขาจัดเตรียมเอาไว้บริการลูกค้าทุกวันเริ่มต้นกันด้วย "Magic Rainbow Crape Cake With Berry Sauce" ราคา 95 บาท แป้งเครปนิ่มสไตล์ฝรั่งเศสทาเนยบนกระทะเคลือบเทฟลอนเปิดไฟอ่อนร่อนแผ่นบางผสมสีวางสลับกันรวม 3 โทนได้แก่เขียว,ส้ม,แดงแทรกวิปปิ้งครีมชนิดเข้มข้นตีขึ้นฟูปาดวางเรียงตกแต่งหลายชั้นจนกลายเป็นก้อนใหญ่ลักษณะเหมือนเค้กสายรุ้งสวยงามอย่าลืมราดซอสเบอร์รี่เปรี้ยวอมหวานช่วยตัดเลี่ยนชวนรับประทานอีกเรื่อยๆ / "Thai Tea Lava Cake" ราคา 125 บาท พื้นฐานคือสปันจ์สูตรโฮมเมดทำเองบางเบานุ่มฟูแทรกฟองอากาศละเอียดกระจายทั้งก้อนผสมชาไทยสกัดเข้มข้นสีส้มกลิ่นหอมโดดเด่นชัดเจนครึ่งตรงกลางตามแนวขวางแล้วทาซอสลาวาเยลลี่บราวน์ชูการ์เมื่อออกแรงหั่นไหลเยิ้มติดขมนิดหน่อยเคี้ยวสนุกเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร / "Ruby Sky" ราคา 155 บาท น้ำทับทิมแท้ 100% ปั่นเกล็ดน้ำแข็งราดครีมชีสเหมือนแบรนด์ชานมไข่มุกชื่อดังบนห้างสรรพสินค้าเปรี้ยวหวานเค็มนัว / "Mango Sunrise" ราคา 185 บาท มะม่วงน้ำดอกไม้ปั่นสไตล์สมูทตี้ตัวละมุนโยเกิร์ตธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีเมล็ดกาแฟสด,มัทฉะเอาใจคนต้องการคาเฟอีนเพียบรับรองไม่รู้สึกเบื่อง่ายแน่นอนครับผม

มื้อนี้มากับคุณแฟนสั่งอาหารกับเครื่องดื่มเต็มโต๊ะกว่า 13 รายการ พิมพ์บิลคิดรวมทั้งหมด 3,173 บาทสุทธิ (บวก Service Charge อีก 5% เรียบร้อยแล้ว) ส่วนตัวถือว่าเหมาะสมแก่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่วัตถุดิบซึ่งเลือกใช้เฉพาะคุณภาพสูงระดับพรีเมียมจริงผสานยอดฝีมือกับเทคนิคพิเศษของเชฟชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกคุณ Martin Blunos (มาร์ติน บลูโนส) ให้ออกมาเป็นเมนูฟิวชั่นใหม่รสชาติอร่อยแสนเข้มข้นล้ำลึกลอกเลียนยากรับรองต้องถูกปากคนไทยส่วนใหญ่แน่นอน ดีครบถ้วนทุกด้านอย่างนี้เราจึงต้องขอมอบคะแนนรีวิวครั้งนี้ไปเลย 5 ดาวเต็มๆแน่นอนครับผม🌟🌟🌟🌟🌟

พิกัด : บ้านเลขที่ 77 ถนนอินทราวาส (ซ.อินทราวาส 28) แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดเริ่มตั้งแต่เวลา 11:00-20:30 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)
หมายเลขโทรศัพท์ : 090-971-4654
Facebook : https://www.facebook.com/foodidentity
ปัจจุบัน "Cook By Food Identity" คิดค้นเมนูอาหาร-โปรฯใหม่อีกเรื่อยๆต้องคอยติดตามที่หน้าเพจร้านครับผม
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกดปุ่ม Share เพื่ออวดเพื่อนของคุณ
ค่อยตามไปกดถูกใจเพจเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
ความคิดเห็น