วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ของโรงแรม Radisson Blu Plaza Bangkok ให้เข้ามารีวิวที่ห้องอาหารจีน China Table โดยมีโปรโมชั่นพิเศษจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ/อาหารจีน ที่ราคาถูกลงมากกว่าเดิม ที่สำคัญมีให้ทานทั้งมื้อกลางวัน 11.30 - 14.30 น. และมื้อเย็น 18.30 - 22.30 น. มีตลอด 7 วันไม่มีมันหยุด เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการทานติ่มซำแบบคุ้มๆ อยากทานเมื่อไหร่แวะเข้ามาได้ จะอร่อยและคุ้มไหม? ไปที่ชั้น 3 ของโรงแรมกันครับ
เมื่อออกจากลิฟต์มาก็จะพบกับห้องอาหาร China Table บุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยง/เย็น วันจ.-ศ.จ่ายเพียง 750 Net. ถ้าเป็นวันส.-อา.ราคา 850 Net. แถมยังเสิร์ฟหมูหัน / หมูกรอบ / เป็ดปักกิ่ง / ไก่แช่เหล้า ให้ทานไม่อั้นอีกด้วย (จากราคาปกติท่านละ 1199++บาท) โปรโมชั่นนี้ มีถึงแค่วันที่ 30 พ.ย. 2562 นี้เท่านั้น แค่ได้ฟังเฉยๆก็รู้สึกว่าคุ้มแล้ว ดีกรีความอร่อยของห้องอาหารนี้ก็ได้รับใบประกาศนียบัตรมาเยอะอยู่เหมือนกัน และที่สำคัญ Dress Code ของห้องอาหารนี้คือ ห้ามใส่กางเกงขาสั้น/รองเท้าแตะ เข้ามาที่นี่เป็นอันขาดนะครับ ไปแล้วเสียเที่ยวไม่รู้ด้วยนะจ๊ะ
บรรยากาศภายในห้องอาหารถือว่าเป็นจีนโมเดิร์นที่ดูทันสมัย แต่ก็มีกลิ่นอายความเป็นจีนผสมอยู่ มีให้เลือกนั่งทั้งแบบโต๊ะแบบปกติ โต๊ะทรงสูง และโต๊ะจีนสำหรับมาทานพร้อมกันหลายๆคน และห้องส่วนตัวก็ยังคงมีให้บริการเช่นเคย แต่ไม่ฟรีนะครับ (มีค่าบริการเพิ่มเติม) แบ่งเป็นห้องใหญ่/เล็ก สอบถามราคากับห้องอาหารโดยตรงนะครับ
มาแล้วเมนูติ่มซำบุฟเฟ่ต์ของที่นี่ ทานได้ไม่จำกัดจนกว่าจะหมดเวลา (ใครที่ชอบนั่งทานยาวๆแนะนำว่าให้มามื้อเย็นจะดีกว่านะครับ) มีให้ทานทั้งหมด 31 เมนู โดย 1 คนสามารถเลือกซุปได้ 1 อย่าง ก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวผัดได้ 1 ที่ ปิดท้ายด้วยของหวานได้อีกคนละ 1 เมนู และเมนูพิเศษอีก 4 อย่างที่บอกไปข้างต้น สั่งกับพนักงานได้เต็มที่เลยครับ
เมนูแรกเป็น"เกี๊ยวปูกับชีสทอด" ชีสแน่นๆผสมกับปูอัดสอดไส้ในแป้งเกี๊ยวสีเหลือง ที่ทอดมากรอบนอกแต่เนื้อแป้งมีความเหนียวนุ่ม / ฟูเล็กน้อย อร่อยทานได้เพลินๆ ต่อมาเป็น "ขนมผักกาดเจี๋ยน" แป้งขนมผักกาดเหนียวนุ่ม ใส่ผักกาดเคี้ยวกรุบกรอบหอมกลิ่นกุ้งแห้ง ทานเปล่าๆก็อร่อย หรือเพิ่มรสชาติด้วยซีอิ๊วดำหวาน ก็ดีงามเลยครับผม
"เผือดทอดหมูแดง" ลูกโตเต็มคำ สอดไส้ด้วยหมูแดงสับ รสหวานหอมกลิ่นเครื่องเทศ ทอดมาแป้งฟูกรอบ เนื้อเผือกเนียน แต่เทคนิคการทำให้แป้งฟูของที่นี่เป็นการใช้แอมโมเนียทั้งหมด ใครที่จมูกเร็วอาจจะไม่ค่อยชอบจานนี้มากนัก ต่อมาเป็นติ่มซำนึ่งอย่าง "สาหร่ายไส้หมูและกุ้ง" หมูสับเนื้อเนียนผสมกับกุ้งสับหยาบ ห่อด้วยสาหร่าย ราดด้วยซอสรสกลมกล่อม เนื้อกุ้งและหมูเด้งในปาก หอมกลิ่นสาหร่ายและน้ำมันงาดีครับ "ฮะเก๋ากุ้ง" ที่นี่มีความคล้ายกับร้านที่เราเคยทานมาก่อนหน้านี้ คือเนื้อกุ้งกรอบหวาน หอมกลิ่นน้ำมันงาอ่อนๆ แต่ที่พิเศษคือแป้งที่ใช้ห่อ มีความเหนียวหนึบ ไม่ติดกับกระดาษรองซึ้งนึ่ง ผิดกับหลายๆโรงแรมที่แป้งจะเปื่อยติดซึ้งหมด "ขนมกุ้ยช่ายนึ่ง" ก็ไม่ใช่ธรรมดา เป็นแป้งแบบเดียวกับฮะเก๋า มีความเหนียวหนึบ เข้ากันได้ดีกับเนื้อหมูผสมกุ้งช่ายเด้งๆด้านใน อร่อยครับ
ใครที่ชื่นชอบความเผ็ดแซ่บให้สั่งเมนู "กุ้งนึ่งซอสมะนาว" รสเปรี้ยวเผ็ดแซ่บหอมกลิ่นมะนาวเตะจมูก (แต่ส่วนตัวมีห้องอาหารในใจที่แซ่บกว่านี้) ที่นี่ถือว่ารสเผ็ดกลางๆทานได้ทุกคนครับ มาต่อกันด้วย"เนื้อปลาเก๋าราดซอสเขียวหวาน" เป็นติ่มซำเนื้อหมูผสมกุ้ง ท๊อปปิ้งด้านบนด้วยเนื้อปลาเก๋าเด้งสู้ฟัน ราดด้วยซอสเขียวหวานที่มีกลิ่นบางๆพอสดชื่น ทานได้เพลินๆครับ "หอยเชลล์ห่อกุ้งนึ่งซอสเอ็กซ์โอ" เนื้อหมูผสมกุ้งสับปั้นก้อน ท๊อปปิ้งด้านบนสุดด้วยหอยเชลล์ราดด้วยซอสเอ็กซ์โอรสเข้มข้น หอมกลิ่นพริกและเครื่องทะเลผัดแห้ง อร่อยดีครับ ตามมาด้วยเนื้อปลาน้ำแดง เป็นติ่มซำแบบเดียวกับปลาเก๋าราดซอสเขียวหวานเข่งเมื่อกี้ แต่เปลี่ยนเป็นปลาดอรี่เนื้อมันนุ่ม ราดด้วยน้ำแดงรสกลมกล่อม มีความเผ็ดนิดๆ และยำสาหร่ายญี่ปุ่นกรอบหวาน เป็นติ่มซำที่แปลกใหม่แต่อร่อย ไม่เหมือนที่อื่นดีครับ
"ผัดหมี่เซี่ยงไฮ้ซีฟู๊ด" เป็นเส้นหมี่คล้ายหมี่ซั่วสีเหลือง ผัดกับซอสรสเผ็ด ใส่เครื่องซีฟู๊ดมาให้ทั้งกุ้ง/หมึก/ปลา/หอยเชลล์ เผ็ดสะดุ้งช่วยแก้เลี่ยนได้ดีเลยครับ เมนูนี้ได้แค่ 1 จากเมนูจาก 3 เมนูข้าวและเส้นนะครับ มาต่อกันด้วย "ปูนึ่งซอสผงกะหรี่" เนื้อหมูผสมกุ้งห่อในเนื้อกรรเชียงปู ราดด้วยซอสผัดผงกะหรี่ รสหวาน/มันทานได้เพลินๆครับ
เนื่องจากผมมา 2 คนเลยสั่งเมนูข้าวได้อีก 1 อย่าง เป็น "ข้าวผัดกุ้งพริกเผา" ข้าวผัดเมล็ดร่วนผสมกับกุ้งเด้ง และพริกเผา รสชาติหอม ทานได้เรื่อยๆ "ขนมจีบกุ้ง" เป็นเมนูสามัญประจำบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ ที่นี่ก็ถือว่าทำได้ดี เนื้อกุ้งเด้งกรอบ แป้งหนึบหนับ เพิ่มความกรุบกรอบด้วยไข่กุ้ง "ขนมจีบหอยเชลล์" มีความคล้ายกับฮะเก๋ากุ้งแต่เปลี่ยนเป็นหอยเชลล์แทน ความกรุบกรอบไม่เท่ากุ้ง แต่ก็มีการเพิ่มไข่กุ้งมาให้สัมผัสดีขึ้น แป้งที่ห่อด้านนอกยังอร่อยเช่นเดิม "เสี่ยวหลงเปา" แป้งอร่อย เนื้อหมูด้านในปรุงรสมาดี แต่น้ำซุปสอดไส้ด้านในน้อยไปหน่อย ถือว่าพอใช้ได้ครับ
"ซาลาเปาไส้ไหลไข่เค็ม" ซาลาเปาลูกโตสอดไส้ด้วยครีมไข่เค็มรสหวานมันเค็มกำลังดีแบบเน้นๆ แต่ตัวแป้งก็เหม็นกลิ่นแอมโมเนียเช่นเคย ต่อกันด้วย "ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้ง" แป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดบาง แต่เหนียวนุ่มสอดไส้ด้วยกุ้งเด้ง ราดซอสซีอิ๊วรสหวานกลมกล่อม อยากเปลี่ยนรสชาติก็สั่งไส้หมูแดงมาลองได้นะครับ แต่เราเน้นคุ้มกินแต่กุ้ง
"ซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่" ซี่โครงหมูผสมกับส่วนกระดูกอ่อน นึ่งจนนิ่ม ทานกับเต้าซี่รสหอมเค็ม หวานอ่อนๆ อร่อยเพลินครับผม "เกี๊ยวน้ำชา" เกี๊ยวหมูไส้แน่นแป้งบาง เสิร์ฟมาในซุปชาหอมๆ ซดแทนเกี๊ยวน้ำได้ดีทีเดียว "ซาลาเปาหมูแดง" แป้งซาลาเปาเนื้อแน่นคล้ายกับบัตเตอร์เค้ก สอดไส้หมูแดงรสชาติหวาน หอมเครื่องเทศเข้มข้น จะอร่อยมากถ้าไม่มีกลิ่นแอมโมเนีย (เชฟให้เหตุผลในเรื่องของสุขภาพไร้สารตกค้าง) แต่ส่วนตัวผมคิดว่าคนมาทานบุฟเฟ่ต์คงจะมองข้ามเรื่องนั้นไปแล้ว อันนี้แล้วแต่จะพิจารณานะครับ "โซวแป๋งไส้ถั่ว" มันคือขนมเปี๊ยะไส้สอดถั่วทอง แป้งด้านนอกกรอบอร่อย ไส้ด้านในเป็นถั่วเน้นๆทานแล้วชวนหิวน้ำ รู้สึกว่าเมนูนี้น่าจะเข้ากันได้ดีกับชาเขียวร้อนๆนะครับ
"ถุงทองไส้กุ้ง" ที่หน้าตาเหมือนเกี๊ยวกุ้งทอดกรอบ แป้งด้านนอกกรอบฟูมีความเหนียวนิดๆ (คล้ายเกี๊ยวปูเมนูแรก) ด้านในสอดไส้กุ้งเด้งหอมกลิ่นน้ำมันงา ราดน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยลงไปอีกนิด เพิ่มรสเปรี้ยวหวาน อร่อยดีครับ ต่อกันด้วย "ซาลาเปาไส้ครีม" แป้งซาลาเปาแน่นๆแบบแป้งเค้ก อัดแน่นด้านในด้วยครีมคัสตาร์ตหอมกลิ่นไข่ หวานกำลังดี ใครที่ชอบทานซาลาเปาไส้ครีมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว น่าจะชอบสูตรของที่นี่แน่นอน (แต่ก็มีกลิ่นแอมโมเนียนิดๆนะครับ)
4 เมนูพิเศษที่สามารถสั่งได้ไม่อั้น เริ่มจาก "หมูกรอบ" เป็นหมูกรอบย่างสูตรแบบฮ่องกง ที่ประมาณเนื้อ/มันและหนัง ถูกคำนวณมาเป็นอย่างดี หนังกรอบแต่เนื้อชุ่มฉ่ำ ทานกับซีอิ๊วดำหวาน จานเดียวไม่พอครับ "หมูหัน" หนังกรอบๆ เสิร์ฟมาคู่กับหมั่นโถว ทานคู่กับซีอิ๊วดำหวาน อร่อยหวานกรุบกรอบในปาก ไม่มีกลิ่นสาบหมู ประทับใจมากครับ "เป็ดปักกิ่ง" ห่อมาให้เป็นคำ ราดซอสมาให้เรียบร้อย เมื่อมาเสิร์ฟแล้วต้องทานทันที หนังเป็ดกรอบ สดชื่นด้วยแตงกวา และซอสหวานหอม คุ้มค่าเกินราคาบุฟเฟ่ต์ไปแล้วครับ "ไก่แช่เหล้า" เป็นไก่ต้มแช่ในเหล้ากลิ่นบางๆ ทานคู่กับซอสพริกผัดสไตล์จีน ช่วยเพิ่มความเผ็ดหอม ลดความเลี่ยน เข้ากันได้ดีกับกลิ่นเหล้าอ่อนๆที่อยู่ในไก่ ดีงามครับ
เมนูจานนี้ถ้าอยากทานให้ออเดอร์ล่วงหน้าครั้งละเยอะๆ เพราะอร่อยและใช้เวลาทำนานมาก "ซีฟู๊ดซอสไข่เค็ม" ติ่มซำกุ้งและหอยเชลล์ วางบนแป้งพายกระดาษอบกรอบ ราดด้วยซอสไข่เค็มแบบเข้มข้น อร่อยกรอบละมุนในปาก มาที่นี่แล้วห้ามพลาดครับ ส่วนซุปนั้นผมมากัน 2 คน ก็สั่งมาคนละเมนู ใครที่ชอบความเปรี้ยวเผ็ดแซ่บนิดๆ ให้สั่งเป็น "ซุปเสฉวนเจ" ใครที่ชอบความนุ่มนวล ซดคล่องคอ ให้สั่งเป็น"ซุปเต้าหู้ไข่ขาว" เครื่องดื่มในมื้อนี้มีชาเขียวจีน (ไม่หวาน) ร้อน/เย็น และเก๊กฮวย (หวานอ่อนๆ) ร้อน/เย็น ให้ดื่มได้ฟรี ! มีพนักงานเดินมาเติมที่ให้โต๊ะเรื่อยๆครับ
ปิดท้ายด้วยของหวาน 1 คนสามารถเลือกได้แค่ 1 จาก 3 เมนู (แต่ทางโรงแรมเสิร์ฟมาให้ครบทั้ง 3 เมนูเป็นกรณีพิเศษ) ได้แก่ "สาคูแคนตาลูป"เย็นๆ เป็นแคนตาลูปผสมกับกะทิแช่แข็ง นำมาปั่นเป็นเกล็ด ใส่เนื้อแคนตาลูปและสาคูลงไป หวานหอมอร่อยดีครับ "บัวลอยน้ำขิง" น้ำขิงอ่อนรสอ่อนๆ มาพร้อมกับบัวลอยแป้งบาง สดไส้งาดำผัดกับน้ำตาลมาแบบเน้นๆ แป้งเนื้อนิ่มละลายในปาก ไม่เหมือนใครดีครับ สุดท้ายเป็น "ผลไม้รวม" ในจานมีแตงโม/สับปะรด/และแคนตาลูปเขียวให้อย่างละชิ้น ช่วยเพิ่มความสดชื่น ล้างปาก เป็นการปิดท้ายมื้อนี้ได้เป็นอย่างดีครับ
สำหรับบุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่ห้องอาหาร China Table โรงแรม Radisson Blu Plaza Bangkok ถ้าความอร่อยของตัวติ่มซำ ผมให้คะแนนพอๆกับโรงแรมที่ผมเคยไปรีวิวมาก่อนหน้านี้ แต่ความพิเศษของติ่มซำของที่นี่อยู่ที่แป้ง เชฟมีเทคนิคการผสมแป้งที่ไม่เหมือนกับห้องอาหารไหน แป้งที่ใช้ทำติ่มซำทุกเมนูมีความเหนียวนุ่มเคี้ยวหนึบ ไม่ติดเข่ง แป้งซาลาเปาเนื้อแน่นหวาน คล้ายบัตเตอร์เค้กที่ไม่มีกลิ่นเนย แถมยังมีหมูกรอบ/หมูหัน/เป็ดปักกิ่ง/ไก่แช่เหล้า รวมในบุฟเฟ่ต์ราคาแค่ 750 บาท (ส.-อา. 850 บาท) แค่นี้ก็คุ้มค่าที่มาแล้วครับ แต่ติดอย่างนึงคือกลิ่นแอมโมเนียในเมนูที่ต้องใช้ความนุ่มฟู สำหรับใครที่รู้ตัวว่าจมูกไวเป็นพิเศษ อาจจะไม่ชอบเท่าไหร่นัก แต่โดยรวมแล้วก็ยังชอบบุฟเฟ่ต์ติ่มซำของที่โรงแรมนี้อยู่ดี เอาคะแนนความอร่อยและคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวครับดีงามมาก 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เลขที่ 489 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
บุฟเฟ่ต์ติ่มซำเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด วัน จ.-ศ. 11.30 - 14.30 น. และ 18.30 -22.30 น.
วัน ส.-อา. 11.30 - 15.30 น.และ 18.30 -22.30 น. โทร. 02-302-3333
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comentarios