เลื่อนฟีดบน IG เจอเพื่อนคนนึงเช็คอินพร้อมกับถ่ายรูปสวยๆที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในย่านพัฒนาการโดยภายในมีการตกแต่งน่าสนใจอยู่หลายมุมจำลองให้เหมือนอยู่ประเทศญี่ปุ่นชื่อว่า "กาแฟตึกแถว" อยู่ในซอยพัฒนาการ 30 เลี้ยวเข้ามาเพียง 60 เมตรจากปากซอยอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนวิธีการเดินทางหากนำรถยนต์ส่วนตัวมาสามารถจอดหน้าร้านหรือในซอยได้เลย ถ้าหากมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง Airport Link สถานีหัวหมาก แล้วเรียกรถให้มาตาม Google Maps ประมาณ 4.7 กิโลเมตรก็จะถึงหน้าร้านเป็นตึกแถวสีขาวดูสะอาดตา แค่ลานจอดรถด้านหน้าที่ร้านได้นำป้ายบอกทาง/ตู้โปรษณีย์/ป้ายสถานีรถไฟ/ทาสีบนพื้นถนนด้วยภาษาญี่ปุ่นชวนให้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปสวยอวดเพื่อนๆกันตั้งแต่ยังไม่เข้าร้าน ทำให้คิดถึงบรรยากาศของแดนปลาดิบที่ไม่มีโอกาสได้ไปหลังปิดประเทศมาอย่างยาวนาน ด้านนอกก็ทำให้รู้สึกอินแล้วส่วนด้านในจะมีการตกแต่งเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูพร้อมๆกันเลยครับ
เปิดประตูร้านเข้ามาครั้งแรกให้ความรู้สึกเหมือนพิพิธภัณฑ์ของเล่นย้อนยุคสไตล์ญี่ปุ่นมากกว่าร้านคาเฟ่ ทุกมุมภายในร้านถูกตกแต่งด้วยป้ายโฆษณาเก่า/ของเล่น/เก้าอี้ที่ทำให้เหมือนหลุดเข้าไปยังอีกโลก โดยชั้นแรกเป็นพื้นที่ให้นั่งทานอาหารเครื่องดื่มหลายโต๊ะหลากมุม ส่วนชั้น 2 เป็นพื้นที่สำหรับถ่ายรูปเล่นกับของเก่าที่ทางร้านจัดเป็นมุมเอาไว้ ส่วนวิธีการสั่งอาหารของร้านนี้เป็นจุดเหมือน Fast Food คือสั่งพร้อมจ่ายเงินไปรออาหารที่โต๊ะ ตอนนี้ปล่อยให้แฟนผมหามุมถ่ายรูปไปส่วนเราสนใจแต่ของกินขอเปิดเล่มเมนูดูก่อนนะครับว่ามีอาหารเครื่องดื่มอะไรที่น่าสนใจบ้าง
หน้าแรกเป็นเครื่องดื่มและน้ำผลไม้สไตล์ญี่ปุ่นมีทั้งร้อน/เย็น/ปั่น/ใส่โซดาราคาเริ่มต้นที่ 45-85 บาท โทสต์กับพิซซ่าโทสต์หรือขนมปังปิ้งหน้าหวานและคาวราคาเริ่มต้นที่ 20-95 บาท เมนูอาหารเช้า (ทางร้านให้บริการแบบ All Day) ราคาเริ่มต้นที่ 65-120 บาท ขนมหวานประจำร้านราคาเริ่มต้นที่ 30-95 บาท เบอร์เกอร์และฮอทด็อกราคาเริ่มต้นที่ 70-230 บาท เพิ่มท๊อบปิ้งอย่างละ 20 บาท เมนูข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นที่ 95-295 บาท เมนูซุปร้อนๆสไตล์ญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นที่ 60-180 บาท ข้าวหน้าสไตล์ไทย/ฝรั่งราคาเริ่มต้นที่ 85-120 บาท เมนูสปาเก็ตตี้สไตล์ไทย/ญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นที่ 95-140 บาท เมนูข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นที่ 100-160 บาท น้ำแข็งใสหรือยูกิย่าแบบญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นที่ 95-115 บาท หน้าสุดท้ายเป็นเมนูกาแฟ/โอวัลติน/ชาไทย/ชาญี่ปุ่นและชาอังกฤษมีให้เลือกทั้งร้อน/เย็นและปั่นราคาเริ่มต้นที่ 45-115 บาท ท๊อปปิ้งเครื่องดื่มราคา 15-20 บาท โดยรวมถือว่าขายไม่แพงขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้และท๊อบปิ้งที่ใส่เพิ่มลงไปในแต่ละเมนูเรียกได้ว่าราคาน่ารักชวนให้มาทานได้บ่อยๆครับผม
มื้อนี้ผมมาทานกับแฟน 2 คนและสั่งกลับบ้านไปฝากน้องที่ทำงานอีก 2 เมนู รวมทั้งหมด 14 รายการเป็น 1,470 บาท ไม่มี Vat. และ Service Charge มากวนใจ ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดจะสั่งอาหารกันเยอะขนาดนี้แต่เห็นว่าราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับร้านบนห้างใหญ่และมีอีกหลายหลายเมนูน่าสนใจไม่เหมือนกับที่ร้านอื่นๆก็เลยสั่งมาชิมอีกเพียบ ส่วนปริมาณในแต่ละเมนูจะให้เยอะและรสชาติอร่อยขนาดไหนนั้นเดี๋ยวเราไปนั่งรออาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ระหว่างนั่งชิลล์ถ่ายรูปอวดเพื่อนตามมุมต่างๆในร้านเล่นกันไปก่อนครับผม
เมนูแรกมาเสิร์ฟก่อนคือ "ข้าวหน้าเนื้อหมาล่า" ราคา 115 บาท เป็นจานใหม่ของทางร้านที่น้องพนักงานแนะนำให้ลองสั่งมาชิม มันก็คือข้าวหน้าเนื้อสูตรต้นตำรับญี่ปุ่นรสชาติหวาน-เค็มซอสตุ๋นจนเข้าเนื้อสุดกลมกล่อมเพิ่มความหอมและเผ็ดชาลิ้นด้วยพริกหมาล่า โรยลงไปด้านบนจนเต็มไปด้วยสีแดงของพริกทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นฉ่ำน้ำซอสด้านล่างช่วยลดความเลี่ยนจากไขมันวัวให้ความสดชื่นและเพิ่มความอร่อยลงตัวมากยิ่งขึ้น เหมือนที่หลายๆคนมักจะบอกว่า "หมาล่าทานคู่กับอะไรก็อร่อย" การที่เอามาโรยบนข้าวหน้าเนื้อจนกลายเป็นเมนูใหม่ไม่เหมือนร้านอื่นแบบนี้ถือว่าแปลกใหม่และดีงามมากๆครับ เมนูต่อมาเป็น "ข้าวหน้าเนื้อ" สูตรต้นตำรับของที่ร้านราคา 115 บาท เป็นข้าวหน้าเนื้อสไลด์กับหัวหอมตุ๋นในซอสญี่ปุ่นรสหวานเค็มกลมกล่อมจนเข้มข้นเข้าเนื้อมากกว่าร้านที่เป็นเฟรนไชส์มาจากประเทศญี่ปุ่นที่มาเปิดสาขาในไทยทุกร้าน เรียกได้ว่าเป็นรสชาติที่ถูกปากมากกว่าและช่วยทำให้ทานข้าวสวยญี่ปุ่นได้เยอะยิ่งขึ้นกว่าเดิม ท๊อบปิ้งด้านบนก่อนเสิร์ฟด้วยสาหร่ายช่วยให้รสชาติอูมามิตามธรรมชาติเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
ทานข้าวหน้าเนื้อไปคนละถ้วยถือว่าอิ่มในระดับกลางๆยังมีพื้นที่ในกระเพาะเหลืออีกเยอะ เมนูที่น่าสนใจมาเสิร์ฟต่อก็คือ "ข้าวหน้าสุกี้เนื้อ" ราคา 145 บาท เป็นเนื้อวัวติดมันสไลด์บางๆจับลวกในสุกี้ยากี้น้ำดำรสชาติหวานเค็มเข้าเนื้อเข้มข้นวางบนข้าวสวยญี่ปุ่นพร้อมเห็ดหอมต้มในน้ำซุปหวานๆและไข่ออนเซ็นเพิ่มความหอมมันกลมกล่อมให้กับเนื้อลวกผสมข้าวญี่ปุ่นอร่อยนวลเนียนในปาก ให้อารมณ์เหมือนทานเนื้อสุกี้ยากี้จุ่มไข่สไตล์ญี่ปุ่นง่ายๆและจบในชามเดียว เมนูต่อมาเป็นเนื้อตุ๋นนุ่มๆสไตล์เกาหลีอย่าง "ซุปเนื้อตุ๋น" ราคา 180 บาท เป็นเนื้อวัวชิ้นใหญ่ติดไขมันและเส้นเอ็นตุ๋นจนเนื้อนุ่มละมุนไม่ถึงกับละลายแต่เคี้ยวแล้วได้รสชาติออกมาเรื่อยๆ ต้มในซุปใส่พริกเกาหลี-ไข่ไก่-แครอท-ไชเท้ารสชาติเผ็ดอ่อนๆเสิร์ฟมาในหม้อร้อนให้อารมณ์เหมือนซุปแก้เมาในซีรี่ย์เกาหลี โดยรวมอร่อยโดนใจมากๆครับ
สองเมนูสุดท้ายกะว่าจะบอกในครัวห่อกลับบ้านแต่ได้ซุปร้อนๆชามเมื่อกี้ไปแล้วเหมือนรีเฟรชทำให้เจริญอาหารขึ้นอีกเลยปล่อยให้มาเสิร์ฟคือ "ข้าวหน้าปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว" ราคา 250 บาท และ "ข้าวหน้าปลาซาบะย่างซีอิ๊ว" ราคา 150 บาท เสิร์ฟมาในถาดที่แยกส่วนประกอบต่างๆออกจากกันทั้งข้าวสวยญี่ปุ่น/เนื้อปลาย่าง/ซอสซีอิ๊วหวาน เวลาทานก็แค่ประกอบทั้ง 3 ส่วนทานด้วยกันหรือจะทานทีละส่วนก็ได้ตามถนัด สิ่งที่ดีงามสุดในเมนูนี้ก็คือให้ชิ้นปลามาใหญ่อีกทั้งยังคุณภาพสูงย่างกรอบนอกเนื้อในชุ่มฉ่ำไขมันและไม่มีก้างติด ทานคู่กับซอสซีอิ๊วหวานและข้าวสวยได้อย่างอิ่มอร่อยสบายใจโดยเฉพาะปลาซาบะชิ้นใหญ่เนื้อฉ่ำไขมันหอมสุดๆ หากไม่ทานหวานก็สั่งเป็นย่างเกลือได้ครับ
เมนูคาวอย่าสุดท้ายเป็นซุปที่ไปร้านอาหารญี่ปุ่นระดับภัตตาคารไม่กล้าสั่งเพราะราคาแพงมากๆแต่ที่นี่ขายถูกก็คือ "ซุปหอยอาซาริ" หรือซุปหอยลายยักษ์ญี่ปุ่น เป็นซุปใสใส่หอยลายตัวโตเนื้อแน่นเต็มฝามีรสเค็มอ่อนๆเพิ่มความหวานกลมกล่อมด้วยสาเก (เมนูนี้บางร้านอาหารญี่ปุ่นมักจะใช้ชื่อว่าซุปหอยลายญี่ปุ่นต้มสาเก) ปกติชามนี้ถ้าไปทานร้านในเมืองต้อง 150-200 บาท แต่ที่ร้านนี้เขาขายแค่ 95 บาทเท่านั้น ส่วนเครื่องดื่มแน่นอนว่าเราเป็นสาวกส้มยูสุอยู่แล้วเห็นที่ร้านนี้มีให้สั่งก็ต้องจัดมาเป็น "น้ำส้มยูสุเย็น" ไซส์ปกติราคา 75 บาท รสชาติหวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นส้มยูสุสดชื่นถึงใจได้ดื่มทีไรก็รู้สึกดีทุกครั้งอีกเมนูคือ "คาราเมลมัคคีอาโต้" ราคา 75 บาท เป็นกาแฟผสมคาราเมลและนมแยกชั้นๆ วิธีการทานก็คือคนผสมทุกอย่างให้เป็นหนึ่งเดียวกันก็จะได้กาแฟนมกลิ่นคาราเมลหวานน้อยสไตล์ญี่ปุ่นดื่ม จุดเด่นของแก้วนี้ที่เราได้ชิมก็คือความเข้มของกาแฟและนมหอมๆเข้ากับกลิ่นคาราเมลได้อย่างลงตัวดีครับ
ของหวานในร้านคาเฟ่หลายๆที่มักจะราคาหลักสิบปลายๆไปจนถึงหลักร้อยต้นๆแต่ที่นี่เริ่มต้นเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้น โดยเมนูที่เราสั่งมาวันนี้น้องพนักงานแนะนำว่าต้องลองเพราะถูกติดไว้เป็นโปสเตอร์ข้างผนังภายในร้านนั่นก็คือ "ขนมปังสังขยาตึกแถว" ราคา 50 บาท ปริมาณที่มาเสิร์ฟบอกได้เลยว่าสุดคุ้มด้วยขนมปังอบเนยกรอบๆถึง 6 แผ่นทานคู่กับสังขยาใบเตยนวลนม/ไข่ไก่มีกลิ่นใบเตยหอมๆตัดกับความกรอบเค็มของขนมปังพูดได้คำเดียวเลยว่าสุดฟินห์ มาที่ร้านนี้ทานอาหารเสร็จแนะนำว่าให้สั่งเมนูนี้จะเป็นมื้อที่ Complete มากๆครับ และอีก 2 เมนูที่สั่งกลับบ้านก็มาเสิร์ฟคือ "ข้าวหน้าหมู" และ "ข้าวหน้าหมูพริกขี้หนู" ราคาถ้วยละ 95 บาท แยกชั้นระหว่างข้าวสวยญี่ปุ่นกับหมูต้มในซอสญี่ปุ่นไว้แบบคอนโดไม่ต้องกลัวว่าจะหกเลอะเทอะผสมกัน ในชุดแถมสาหร่ายไว้ทานกับข้าวหน้าหมูส่วนขิงดองเอาไว้ทานกับข้าวหน้าหมูพริกขี้หนู ส่วนรสชาติเราสอบถามน้องคนที่ได้ทานแล้วบอกได้คำเดียวว่าอร่อยติดใจ โดยทั้ง 2 เมนูต่างกันแค่ใส่พริกขี้หนูลงไปเท่านั้นแต่ให้รสชาติที่เปลี่ยนไปคนละแบบ และก็เพิ่งรู้ว่าข้าวหน้าเนื้อของที่ร้านนี้เขามีแบรนด์ว่า "ข้าวหน้าเนื้อจอมพลัง" มีร้านใหญ่ที่ทองหล่อ 13 และมีศูนย์กระจายสินค้าทั่วกรุงเทพฯ ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูที่ Facebook ของทางร้านเองนะครับ ส่วนที่ "กาแฟตึกแถว" วันนี้มีทั้งความอร่อย-ร้านสวย-ขายอาหารราคาถูกโดนใจอย่างนี้ก็ได้รับคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวเต็มจ้า 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เลขที่ 1144/17 ซอยพัฒนาการ 30 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. 10250
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 08.00 - 20.00 น. โทร. 082-584-4073
Facebook : https://www.facebook.com/cafetuktheaw/
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘