วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ร้าน Cafe De Flore ให้เข้ามารีวิวอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านนี้ ตัวร้านนั้นตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ใกล้กับแยกวงเวียนราชพฤกษ์เปิด Google Maps เดินทางตามแผนที่มาได้เลย (สามารถมาที่นี่ด้วยรถส่วนตัวหรือแท๊กซี่ก็ได้) บริเวณด้านหน้าร้านมีลานจอดรถได้ประมาณ 10-15 คัน ถึงแม้ว่าร้านจะอยู่ติดริมถนนแต่พอมาเห็นหน้าร้านจริงๆแล้ว เหมือนวาร์ปไปอยู่ต่างประเทศชั่วคราว(ถึงอากาศจะร้อนกว่าก็เถอะ) แต่การจัดสวนหน้าร้านมีความเป็นยุโรปดูอบอุ่นมีมุมต่างๆให้ได้ถ่ายรูปเยอะอยู่เหมือนกัน รวมๆแล้วความคล้ายร้านกาแฟแถวเขาใหญ่แต่ไม่ต้องเดินทางไปไกลขนาดนั้น โดยเมนูที่ทางร้านเขาแนะนำเป็นพิเศษนั่นคือ กาแฟสด/เค้ก/เบียร์นำเข้า/เบียร์คราฟต์(สูตรของที่ร้าน)และอาหารแบบฟิวชั่นอีกหลายเมนู ภายในร้านจะสวยขนาดไหนเข้าไปชมพร้อมกันครับ
บรรยากาศภายในร้านเป็นแบบ Loft ผสมผสานกับต้นไม้จริงและของประดับแบบ Vintage ตามจุดต่างๆ แบ่งออกเป็นโซนนั่งรับประทานอาหาร/ดื่มเบียร์นั่งชิลล์ และโซนร้านกาแฟที่ผสมความเป็นยุโรปที่มีต้นไม้จริงอยู่ใจกลางร้านให้ความสวยงามแปลกตา ตามผนังมุมต่างๆมีขวดเบียร์ที่ทานจนหมดแล้ววางประดับเอาไว้เพียบ(น่าจะเป็นขวดยี่ห้อเบียร์ต่างๆที่ทางร้านคัดเข้ามาจำหน่าย) มีตู้เบียร์แช่เย็นที่รวบรวมเบียร์ไทยและต่างประเทศยี่ห้อไม่คุ้นหูอยู่เยอะมาก ส่วนด้านข้างตู้มีหัวกดเบียร์ดราฟต์สูตรพิเศษของทางร้านด้วย (ใครเป็นสายดื่มมาร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน) แต่ถ้าคุณเป็นสายคาเฟ่เน้นดื่มกาแฟ/ทานเค้กและถ่ายรูปสวยๆภายในร้านก็มีมุมให้ถ่ายรูปได้อีกเพียบ นอกจากนี้ใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหน่อยหรือพาเพื่อนมานั่งเล่นกันที่ร้านเยอะๆทางร้านเขาก็มีชั้น 2 ให้บริการอีกด้วยนะครับ
ในส่วนของชั้น 2 นั้นมีทั้งโซฟานุ่มๆไปจนถึงโต๊ะไม้ยาวสำหรับนั่งได้หลายๆคนขนาดใหญ่พร้อมจอทีวีส่วนตัว ไว้สนุกกับคาราโอเกะหรือจะปิดพื้นที่นี้เป็นห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวได้อีกด้วย เมื่อเปิดผ้าม่านที่กั้นห้องออกไปก็ยังสามารถมองลงมาที่ชั้นล่างเห็นลานกว้างของมุมกาแฟสดได้อย่างชัดเจน โดยโซนนี้ทางร้านไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่ให้ดีที่สุดทางร้านแนะนำว่าให้จองมาก่อน เพราะมักมีลูกค้าประจำขึ้นมาดื่มกาแฟ/นั่งทำงานเงียบๆที่ชั้น 2 นี้อยู่ด้วยครับ
ก่อนละลุยอาหารต่างๆตอนนี้เรามาเหนื่อยๆต้องเพิ่มพลังด้วยกาแฟกันก่อนเริ่มจาก Espresso ร้อน ราคาแก้วละ 55 บาท เบสของกาแฟที่นี่เป็นรสขมอมเปรี้ยวนิดๆไม่มีกลิ่นเบอรี่หรือโกโก้ดื่มง่ายไม่ได้พิเศษอะไร แก้วต่อมาคือมินต์มอคค่าช๊อกชิพเฟรปเป้ราคา 90 บาท เป็นกาแฟมอคค่าปั่นใส่ช๊อกโกแลตชิพเพิ่มไซรัปกลิ่นมินต์ รสหวานเย็นๆหอมกลิ่นโกโก้มีสัมผัสของช๊อกโกแลตชิพเคี้ยวกรุบๆแนะนำว่าให้สั่งครับ แก้วต่อมาก็คือแบล๊คแอนด์ออเร้นจ์คอฟฟี่ราคา 95 บาท ด้านล่างสุดเป็นน้ำส้มคั้นรสหอมหวานเทกาแฟดำไว้ด้านบนท๊อปปิ้งด้วยส้มเชื่อม รสชาติที่หวานหอมของส้มเข้ากันได้ดีกับความขมอมเปรี้ยวของกาแฟกลายเป็นรสชาติที่คล้ายกับช๊อกโกแลตส้มดื่มง่าย อีกแก้วนั่นก็คือ ยูสุเลมอนคอฟฟี่ ราคา 95 บาท เป็นกาแฟแบบเดียวกับแก้วเมื่อกี้ แต่เปลี่ยนจากน้ำส้มเป็นน้ำเลมอนผสมกับส้มยุสุ ท๊อบปิ้งด้านบนสุดด้วยเลมอนหั่นซีกให้ความเปรี้ยวและหอมขึ้นจมูกที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สดชื่นดีมากครับ
เรามารีวิวกันหลายคนก็เลยสั่งเครื่องดื่มมาชิมได้อีกหลายแก้วสั่งมาเป็น แบล๊คโคโค่คอฟฟี่ ราคา 95 บาท เป็นกาแฟเอสเปรสโซ่ผสมน้ำมะพร้าวอ่อนที่ภายในแก้วใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน ประดับขอบแก้วด้วยเนื้อมะพร้าวคั่วท๊อบปิ้งด้วยฟองกะทิเวลาทานสามารถใส่ไซรัปน้ำตาลมะพร้าวเพิ่มความหวานได้ตามใจ ได้รสชาติความหวาน/มันและหอมของมะพร้าวเข้ากับความขมของกาแฟได้ดีเลยครับ ต่อกันด้วยคาราเมลมัคคิอาโต้เย็นราคา 75 บาท สำหรับแก้วนี้มีกลิ่นคาราเมลที่อ่อนไปหน่อย เพราะเมื่อผสมเข้ากันหมดแล้วรสชาติและกลิ่นแทบไม่เหลือเลยแนะนำว่าให้ดูดเป็นชั้นจะดีกว่าครับ ทานแต่กาแฟจนตาจะแข็งแล้วแก้วสุดท้ายเลยสั่งเป็นบ๊วยลิ้นจี่สมูทตี้ราคา 85 บาท เป็นสมูทตี้ใส่บ๊วยดองรสเค็มเปรี้ยวและเพิ่มความเป็นเนื้อด้วยลิ้นจี่สดๆ เปรี้ยวหวานเค็มครบรสช่วยลดอาหารมึนกาแฟกลับมาพร้อมชิมอาหารคาวของที่ร้านนี้กันแล้วครับ จัดการหาที่นั่งแล้วไปดูเมนูของที่ร้านกันเลยครับ ว่ามีอะไรให้เราสั่งทานบ้าง ?
เมนูที่ร้านประกอบไปด้วยอาหารไทย/ฝรั่ง/ญี่ปุ่นและแบบฟิวชั่นอีกหลากหลายเมนู เปิดหน้าแรกเป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยและอาหารทานเล่นราคาเริ่มต้นที่ 65-145 บาท เมนูสลัดและยำเริ่มต้นที่จานละ 125-195 บาท เมนูซุปต่างๆราคาเริ่มต้นที่ 79-89 บาท เมนูอาหารจานหลักมีให้ทานเพียบเลยตั้งแต่ข้าวสวยเปล่าๆจานละ 15 บาท ไปถึงสเต็กเนื้อชั้นดีจานละ 390 บาท ราคาอาหารจานหลักส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราคา 125-185 บาท หน้าท้ายนั้นสุดเป็นเมนูเครื่องดื่มต่างๆทั้งกาแฟ/ชา/น้ำอัดลม/น้ำผลไม้และไปจนถึงเบียร์ของที่ร้าน แต่ราคาในเมนูเล่มนี้ไม่ได้มีรายการครบทุกเมนู แต่ก็มีป้ายราคาอาหาร/เครื่องดื่มที่อยู่ในจุดอื่นๆในร้านอีกด้วย ราคาก็ถือว่ากลางๆระดับร้านที่เป็นคาเฟ่ทั่วไป ตอนนี้บรรยากาศร้านและกาแฟถือว่าดีแล้วเรามาลองชิมอาหารกันครับว่าจะอร่อยพอให้ฝากท้องได้แค่ไหน ?
เมนูชุดแรกมาเสิร์ฟแล้วจานแรกเป็น คัตสึโทจิหรือหมูทอดสไตล์ทงคัตสึตุ๋นในน้ำซุปรสกลมกล่อมสไตล์ญี่ปุ่นมาหม้อใหญ่อัดแน่นมาด้วยเนื้อหมูเต็มชิ้นและไข่ไก่อีก 1 ฟอง ชุดนี้เขาแถมข้าวสวยให้ฟรีอีก 1 จานเป็นเมนูขายดีที่ทางร้านแนะนำมาว่าให้สั่งครับ(ราคา 240 บาท) จานต่อมาคือเกี๊ยวทอดชีสปูราคา 95 บาท เป็นเกี๊ยวทอดสอดไส้ด้วยปูอัดเส้นและชีสแบบแน่นๆเวลาทานก็จิ้มซอสรสเปรี้ยวหวานช่วยลดความเลี่ยนของชีสได้เป็นอย่างดีเลยครับ เมนูถัดมาคือไก่ผัดซอสนัมบังราคา 135 บาท จานนี้แนะนำว่าให้สั่งเลยเพราะเขาใช้ไก่ส่วนสะโพกชิ้นใหญ่ๆชุบแป้งทอดจนกรอบผัดกับซอสนัมบังรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ใส่รากบัว/แครอท/บล๊อกโคลี่ทานเปล่าๆก็อร่อยหรือจะจิ้มกับมายองเนสสักหน่อยก็ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีเลยครับ ดีทั้งรสชาติและปริมาณเพราะจานนี้เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยอีก 1 จานเช่นกันครับ มีแต่ของทอดๆมันๆเลยสั่งเป็นสลัดมาลองชิมสักจานเป็นสลัดผักรวมท๊อปปิ้งด้วยเห็ดโคนญี่ปุ่นย่างและราดน้ำสลัดแบบใสราคา 165 บาท ผักสลัดทานกับเห็ดโคนย่างญี่ปุ่นโรยชีสน้ำสลัดรสเปรี้ยวหอมกลิ่นบัลซามิกสดชื่นดีแต่ต้องรีบทานหน่อย เพราะถ้าทิ้งไว้นานๆน้ำจากเห็ดโคนจะไหลออกมาทำให้น้ำสลัดรสชาติจืดลงต้องระวังด้วยนะครับ
กลัวว่าทานแต่กับจะไม่ค่อยอิ่มเลยสั่งเมนูจานหลักที่เป็นข้าวมาบ้างอย่าง ข้าวผัดปลาเค็มใส่ปลาแซลมอนราคา 125 บาท เป็นข้าวผัดปลาเค็มแบบปกติที่เพิ่มเนื้อสัมผัสของความเป็นเนื้อปลาด้วยแซลมอนหั่นเต๋า ทานกับข้าวผัดที่ใส่เนื้อปลาเค็มกำลังดีและก้านคะน้ากรอบๆแค่เพิ่มพริกดองน้ำปลาลงไปอีกนิดก็อร่อยแล้วครับ อีกจานคือข้าวผัดกระเพราเนื้อร่องซี่โครงราคา 180 บาท จานนี้ดีทุกอย่างติดแค่เนื้อส่วนที่ทางร้านนำมาใช่ติดเอ็นเยอะไปหน่อยทำให้เคี้ยวยากไปนิดนึง นอกนั้นถึงเครื่องกระเพราตามปกติ วนกลับมาที่เมนูทานเล่นกันบ้างอย่างปลาหมึกทอดราคา 95 บาท ที่ร้านนี้เขาใช้เนื้อปลาหมึกยักษ์เฉพาะส่วนหนวดนำมาชุบแป้งทอดทานกับทาร์ทาร์ซอสถ้าได้เบียร์ทานคู่กันแจ่มเลยครับ ของทานเล่นจานนี้ดูชื่อแปลกๆแต่พอเอามาทานคู่กันก็ดีใช่ย่อย พริกหนุ่มยัดไส้แอมชีสราคา 85 บาท เป็นเมนูที่นำแฮมหั่นแบบลูกเต๋ายัดใส่ลงในพริกหนุ่มภาคเหนือโรยด้วยชีสและนำไปเข้าเตาอบ ความเผ็ดอ่อนๆของพริกหนุ่มช่วยลดความเลี่ยนของแฮมชีสได้เป็นอย่างดี แต่ถ้ายังไม่หายเลี่ยนอีกยังมีซอสมะเขือเทศเข้มข้นให้ทานคู่กันอีกถือว่าเป็นอีก 1 เมนูที่ไม่เคยเจอขายที่ร้านไหน และเมื่อรวมร่างกันแล้วรสชาติดีเกินคาดมากๆครับแนะนำให้สั่งเลย !
อาหารชุดสุดท้ายสั่งมาให้เต็มโต๊ะเลยเริ่มจากสปาเก็ตตี้น้ำพริกกะปิกุ้งสดราคา 195 บาท ที่ตอนแรกนั้นเราคิดว่าคงจะมาสีสันดุดัน แต่พอเสิร์ฟมาจริงๆกับดูธรรมดากว่าที่คิดส่วนรสชาตินั้นก็เหมือนกับกำลังทานข้าวคลุกกะปิที่เปลี่ยนจากข้าวเป็นเส้นสปาเก็ตตี้แทนทานคู่กับกุ้งเด้งและผักลวกต่างๆ ถ้าจานนี้ผัดรสชาติจัดจ้า่นกว่านี้จะดีมากๆเลยครับ ต่อมาคือครอกเก้เนื้อปูราคา 165 บาท เป็นมันฝรั่งบดผัดกับเนย/ครีมและเนื้อปูแบบแทรกทุกอนูเนื้อนำไปชุบเกล็ดขนมปังทอดจนกรอบ ราดด้วยซอสทงคัตสึ+มายางเนส 1 จานเสิร์ฟมาให้ถึง 4 ชิ้นใหญ่ๆ หน้าตานั้นก็ถือว่าผ่านแต่มันฝรั่งด้านในมีความอัดแน่นเกินไปทำให้อิ่มเร็วไปหน่อย (ร้านก่อนหน้าที่เคยทานไม่ได้อัดมันฝรั่งแน่นขนาดนี้) ถ้าปรับปรุงให้เนื้อโปร่งกว่านี้หน่อยจะดีมากครับ เห็นว่าแฮมของที่ร้านนี้เขาหั่นเป็นเต๋าชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำดีเลยสั่งเป็นปอเปี๊ยะแฮมชีสราคา 85 บาท จานนี้ก็ขอแนะนำว่าให้สั่งเลยเป็นเมนูง่ายๆที่ใส่ไส้แฮมและชีสมาแบบล้นๆ ถ้าคุณเป็นสาวกแฮมชีสตัวจริงจานนี้ห้ามพลาดเลยครับ ทานเปล่าๆก็เพลินแกล้มเบียร์เย็นๆก็ดีงามแต่ถ้ากลัวจะเลี่ยนก็จิ้มซอสมะเขือเทศนิดหน่อยแจ่มว้าวเลยครับ จานต่อมาไม่ได้คาดหวังว่าจะอร่อยแค่อยากทานอะไรแซ่บๆแค่นั้นแต่ดีเกินคาดจนต้องแนะนำให้สั่งอีกแล้ว ยำเนื้อย่างราคา 125 บาทเป็นเนื้อส่วนเสือร้องไห้ติดมันย่างนำไปยำใส่น้ำพริกเผาแบบพล่ารสชาติเปรี้ยว/หวาน/เค็มกลมกล่อม เพิ่มความกรุบกรอบด้วยมะเขือสไลด์สดๆเคี้ยวกรุบกรอบ เหมาะกับเครื่องดื่มเย็นๆทานคู่กันอีกแล้วครับท่าน จานสุดท้ายคือลาบหมูทอดห่อใบชะพลูราคา 115 บาท จานนี้ก็ผิดคาดเพราะตอนแรกกะว่าคงเสิร์ฟมาเป็นลาบทอดปกติแล้วเอามาห่อใบชะพลูทานเอง แต่นี่เขาสับใบชะพลูลงไปเป็นเส้นเล็กๆทำให้กลิ่นตีกับลาบหมูอย่างรุนแรงกลายเป็นรสชาติที่ชวนงงงวยสุดๆ ตอนนี้อิ่มละมาต่อของหวานกันเลยครับ
เค้กที่นี่หน้าตาดีมากๆสอบถามกับทางเจ้าของร้านแล้วได้ความมาว่าเค้กทั้งหมดเป็นของเพื่อนเอามาฝากขายที่ร้าน ส่วนรสชาตินั้นรับรองว่าอร่อยไม่ผิดหวังทุกเมนูซึ่งในตู้แช่เย็นของที่ร้านมีให้เลือกมากกว่า 12 เมนู แต่ถ้าเราชิมทั้งหมดมีหวังน้ำตาลในเลือดพุ่งแน่นอนเลยสั่งมาเฉพาะที่อยากชิมก็แล้วกันครับ จานแรกนั่นก็คือ Classic Cheese Cake ราคา 115 บาท เป็นชีสเค้กรสหวานอ่อนๆอมเปรี้ยวนิดๆฐานข้างล่างเป็นครัมเบิ้ลหอมกลิ่นเนย ที่เราสามารถเลือกซอสราดได้ 2 แบบคือซอสสตรอเบอรี่และก็ที่เราสั่งมาเป็นคาราเมลแมคคาดิเมียที่ช่วยเพิ่มความหอมมันให้กับชีสเค้กได้อีกหลายเท่า จานแรกว่าดีมากแล้วมาต่อกันด้วย Le Blance Traigier ราคา 125 บาท เป็นเค้กบัตเตอร์เนื้อนุ่มฟูล้มรอบด้วยครีมสอดไส้ด้วยแยมสตรอเบอรี่ โรยด้วยผงไวท์ช๊อกโกแลตท๊อปปิ้งด้วยครีมสด/สตรอเบอรี่ 1 ลูกและไวท์ช๊อกโกแลตทำเป็นยอดแหลมดูอลังการ รสชาติโดยรวมคล้ายกับ Strawberry Shotcake แต่ถูกนำมาเล่าในรูปแบบใหม่ก็อร่อยดีครับ จานต่อมาถูกใจคนรักช๊อกโกแลตส้มแบบผมสุดๆคือ Choccolate Orange ราคา 105 บาท เป็นเค้กช๊อกโกแลตหน้านิ่มฉ่ำช๊อกโกแลตทั้งซอสและตัวแป้งสอดไส้ด้วยซอสส้มรสเปรี้ยวอมหวานคล้ายน้ำส้มยี่ห้อซันควิก 2 ชั้นระหว่างกลาง ทานคู่กันให้ครบทุกชั้นในคำเดียวกันผสมกันได้อย่างลงตัวดีงามสุดๆเลยครับ
ของหวานชุดสุดท้ายจานต่อมาคือ Bon Honore เป็นเค้กช๊อกโกแลตที่เคลือบช๊อกโกแลตตกแต่งหน้าด้วยไวท์ช๊อกโกแลตและบราวนี่มาทำคล้ายกับเค้กกำลังใส่หมวกสไตล์ฝรั่งเศส ส่วนรสชาตินั้นไม่ต้องสงสัยมันคือรสช๊อกโกแลตเต็มปากในทุกๆคำใครรักช๊อกโกแลตต้องชิ้นนี้เลยครับ ส่วนเค้กชิ้นสุดท้ายเป็นรูปสตรอเบอรี่ลูกใหญ่หน้าตาน่ารักและทางร้านบอกว่าขายดีมากๆด้วยอย่าง Sweet Valentine ราคา 125 บาท เป็นครีมเค้กเนื้อนุ่มฟูทั้งชิ้นที่ด้านในตรงกลางสอดไส้ซอสสตอเบอรี่รสเปรี้ยวอมหวานเหมือนกำลังทานเค้กสตรอเบอรี่เวอร์ชั่นไม่มีแป้ง เป็นเค้กอีกชิ้นที่ผมขอแนะนำให้สั่งเช่นกันครับ ของหวาน 2 ถ้วยสุดท้ายเป็นพุดดิ้งนมสดและพุดดิ้งกาแฟราคาถ้วยละ 45 บาท 3 ถ้วยราคาพิเศษ 130 บาท เป็นพุดดิ้งเนื้อนุ่มละเอียดทานกับนมรสหอมมันอร่อยดี แต่ตัวพุดดิ้งกาแฟตัวเนื้อมีความเป็นวุ้นเนื้อแข็งมากกว่า ใครอยากทานวุ้นนิ่มละลายในปากก็เป็นพุดดิ้งนมสดหรือเนื้อแข็งสู้ฟันหน่อยๆก็พุดดิ้งกาแฟ
ถึงแม้เราจะอิ่มแล้วแต่ทางร้านอยากให้เราได้ถ่ายรูปเค้กครบทุกๆเมนู โดยมีเมนูที่เราไม่ได้สั่งมาชิมอย่าง Fres Choutte ราคา 120 บาท Lemon Sunrise ราคา 125 บาท Petit Chaperon Rouge ราคา 125 บาท Berry Mousse ราคา 120 บาท และ Passion White Choccolate ราคา 115 บาท หน้าตาน่าทานทุกเมนูแต่ตอนนี้เราทานกันไม่ไหวแล้วครับ โดยรวมแล้วอาหารที่ร้านนี้อาจจะมีจานที่ไม่ถูกใจบ้าง (แต่โดยรวมแล้วถือว่าดี) แต่ที่ไม่อยากให้พลาดที่สุดคือเค้กและกาแฟที่ร้านนี้ดีงามทุกเมนู แค่แวะมาทานเค้ก/ดื่มกาแฟและถ่ายรูปตามมุมต่างๆที่ร้านก็คุ้มแล้วครับ ส่วนเบียร์ของที่นี่ไม่แน่ใจว่ารสชาติจะดีแค่ไหนเพราะไม่ได้ชิมแต่มีกับข้าวหลายอย่างชวนให้นึกถึงอยู่บ่อยๆ ใครที่ต้องการร้านนั่งดื่มที่มีบรรยากาศเงียบสงบหน่อยร้านนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยครับ ส่วนตัวแล้วคิดว่าร้านนี้ตอบโจทย์ลูกค้าได้เกือบครบทุกกลุ่ม รับเอาคะแนนความอร่อยกับความคุ้มค่าไปเลย 4 ดาวครับผม 🌟🌟🌟🌟
พิกัด : ทางคู่ขนาน ถนนนครอินทร์ ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
ร้านเปิดทุกวัน 09.00-21.30 น. โทร.081-444-9848
Facebook : https://www.facebook.com/CafeDeFloreFanpage/
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments