วันนี้กลับมาพบปะกับครอบครัวแถวรามอินทรา จะกลับมาเฉยๆก็ดูแปลกๆ เลยหาร้านอาหารอร่อยๆแถวนี้ทานข้าวด้วยกันแบบครอบครัวสุขสันต์ดีกว่า จำได้ว่ามีบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลราคาไม่แพงมากอยู่ นั่นคือร้านเพราะดี Restaurant ตั้งอยู่ในซอยพระยาสุเรนทร์ เข้ามาในซอยมองหาหมู่บ้านเดอะรีเจ้นท์สตรีท จากนั้นเลี้ยวตรงเข้าไปในหมู่บ้านสังเกตด้านขวามือจะพบตัวร้านอยู่ (ถ้าหาไม่เจอก็เปิด Google Maps เอา) เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดชื่อดัง ที่ไม่รับลูกค้าหน้าร้านที่ Walk in เราต้องจองมาก่อนจากบ้าน (ทางร้านให้เหตุผลเพื่อการจัดเตรียมวัตถุดิบอย่างเพียงพอ และได้คุณภาพที่สดใหม่อยู่เสมอ) ในวันจันทร์ - วันพฤหัสบดี ร้านจะเปิดให้บริการเวลา 16.00น. - 21.00 น. ส่วนวันศุกร์ - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้บริการวันละ 3 รอบ ได้แก่ 11.00 น., 16.00 น. และ 19.00 น. รอบนึงทานได้ 2 ชั่วโมง ผู้ใหญ่จ่ายค่าบุฟเฟ่ต์ราคา 1,088 บาท++ / เด็กสูงต่ำกว่า 90 เซนติเมตร รับประทานฟรี ! (แต่ทางร้านจำกัดครั้งละไม่เกิน 2 สิทธิ์) โดยวันนี้ทางผมได้จัดการโทรมาจองล่วงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวแวะหาที่จอดรถ(ซึ่งมีให้จอดค่อนข้างกว้างขวาง แต่อย่าไปจอดขวางหน้าร้านแถวนี้นะครับ) เดินเข้าไปที่ร้านกันดีกว่า
ตัวร้านหาไม่ยากเพราะมีป้ายชื่อร้าน"เพราะดี"เขียนไว้ค่อนข้างใหญ่โต ดีกรีความอร่อยของที่ร้านนี้ก็ไม่ธรรมดาได้ทั้งตราอร่อยเลิศและWongnai User Choice 2019 ของปีล่าสุดมาด้วย ดูแล้วก็เป็นร้านห้องแถวเล็กๆที่หน้าร้านไม่ได้โดดเด่น แต่เคยเห็นรีวิวก่อนหน้านี้การจัดแต่งข้างในก็ค่อนข้างสวยงามอยู่นะเดี๋ยวเราต้องไปดูกันสักหน่อย
เข้ามาภายในร้านเหมือนย้ายเข้ามาอยู่อีกที่หนึ่ง โดยสีหลักที่ใช้ในการตกแต่งร้านนี้คือสีน้ำเงินเข้ม ตัดด้วยลายไม้ ใช้ไฟสีเหลือง บรรยากาศคล้ายกับร้านอาหารแนวครอบครัว ดูอบอุ่นนั่งสบาย เมื่อเข้ามาถึงแล้วพนักงานก็จะสอบถามว่าเราชื่ออะไรและมากี่ท่าน เมื่อคอนเฟิร์มทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปนั่งที่โต๊ะของเรากันเลยครับ
มานั่งที่โต๊ะเรียบร้อยพนักงานก็จะยกเล่มเมนูออกมาให้โดยเราสามารถสั่งทุกอย่างได้จากเมนูเล่มนี้ (พนักงานคอยรับ Oder ให้) แต่จะมีการแจ้งค่าบริการบุฟเฟ่ต์ในมื้อนี้อย่างที่บอกไว้เบื้องต้น และถ้าทานไม่หมดทางร้านขอคิดในราคา Take home พร้อมกับของกลับบ้านให้(มีราคา A La Carte เขียนไว้ในเมนู) และในเล่มเมนูยังเขียนอีกว่าทางร้านใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลเป็นหลักซึ่งขออนุญาตปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมและบางเมนูอาจไม่สามารถให้บริการได้ (ก็คือบางวัตถุดิบอาจจะไม่มีให้ทานถ้าหาไม่ได้ ถ้าอยากทานเมนูไหนจริงๆ ตอนจองก็โทรมาสอบถามล่วงหน้าก่อนนะครับ) ลูกค้าที่มาจำนวน 5 คนขึ้นไปสามารถใช้ห้องจัดเลี้ยงได้ด้วย (เดี๋ยวค่อยขอขึ้นไปดูที่ชั้น 2) และยังมีการเตือนอีกด้วยว่าอาหารบางเมนูเนื่องจากเป็นของสด อาจมีความเสี่ยงในเรื่องของปัญหาท้องเสียได้ ถ้าใครรู้ตัวว่าท้องไส้ไม่ค่อยดี ก็พยายามสั่งเมนูปรุงสุกนะครับ ฟังเงื่อนไขทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็รีบสั่งเลย มีเวลาทาน 2 ชม.
นอกจากอาหารในเล่มเมนูที่เราสามารถสั่งได้ไม่อั้นแล้ว ทางร้านยังมีไลน์บุฟเฟ่ต์เพิ่มเติม ที่เป็นเมนูนอกเหนือจากในเล่มเมื่อกี้ สามารถเดินมาตักตรงนี้ได้เลย (ไม่ต้องสั่งผ่านพนักงาน) เริ่มจากเมนูแรกได้แก่ น้ำพริกไข่ปู (ที่ดูสีออกจืดๆ แต่เดี๋ยวค่อยตักไปชิมที่โต๊ะ) หอยนางรมตัวยักษ์ สอบถามกับทางร้านแล้ว ว่าที่ร้านนี้ใช้หอยนางรมจากสุราษฎร์ธานี ตัวใหญ่ เนื้ออวบสีขาวเต็มมือ ส่วนเครื่องเคียงสำหรับทานกับหอยนางรมสด ก็จะมีแค่หอมเจียวกับน้ำพริกเผา (ส่วนใครที่ชอบทานกับยอดชะอมนั้นที่นี่ไม่มีให้บริการนะครับ) ต่อกันด้วยเมนูกุ้งสะดุ้งที่คล้ายๆกับกุ้งแช่น้ำปลาแต่มีการนำกุ้งไปลวกพอสุกเพื่อป้องกันการท้องเสีย ถัดมาเป็นโซนขนมหวานมีให้เลือกตั้งแต่แคนตาลูปสดตัดแต่งพร้อมทาน วุ้นกะทิรูปปลาและขนมลอดช่องวางบนน้ำแข็ง ซึ่งดูเหมือนจะหมดแล้วแต่ก็ยังไม่หมดก็กลับหลังหันมาก็จะพบกับขนมจีนน้ำยาปูหม้อใหญ่วางอยู่ตรงนี้ อยากทานขนมจีนหรือราดน้ำยาเยอะแค่ไหนก็ตักกันได้ตามใจ
เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะพบกับห้องรับประทานอาหารแบบส่วนตัว สำหรับใครที่คิดจะยกเพื่อนฝูงหรือครอบครัวมาทานที่ร้านนี้ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ก็สามารถจองเป็นห้องส่วนตัวที่อยู่ชั้น 2 ของร้านอาหารได้ โดยมีให้เลือกตั้งแต่โต๊ะขนาดเล็ก 6 ที่นั่ง ขนาดกลาง 8 ที่นั่งรวมไปถึงโต๊ะใหญ่สุดขนาด 10 ที่นั่ง โดยไม่มีคิดค่าบริการเพิ่มเติมแต่อย่างใด (แค่ต้องจองมากกว่า 5 คนขึ้นไปและแจ้งทางร้านล่วงหน้าก็จะได้ใช้บริการแล้ว) ลงไปรออาหารด้านล่างดีกว่าครับ
เดินลงมาถึงด้านล่างอาหารต่างๆเริ่มมาเสิร์ฟแล้ว ถือว่าทางร้านปรุงมาได้ค่อนข้างรวดเร็วมาก แต่ก่อนที่จะเริ่มทานอาหาร ทุกคนที่โต๊ะสั่งเครื่องดื่มกันหมดแล้วเหลือแค่ผมคนเดียว เลยสอบถามว่ามีอะไรบ้าง มีให้เลือกทั้งเป๊ปซี่/เซเว่นอัพ/ชามะนาวชาลิปตัน/น้ำเปล่าและ Signature ของที่นี่ก็คือน้ำอัญชันมะนาว ซึ่งขอบอกเลยว่ารสชาติดี ไม่เหมือนที่อื่น คล้ายกับกำลังทานชาลิปตันที่มีสีม่วง รสเปรี้ยวหอมมะนาวสดชื่นดีครับ ได้เวลาเริ่มชิมอาหารกันแล้วจ้า
เริ่มจากเมนู Signature อย่างแรกที่ใครมาร้านเพราะดีต่างก็อยากจะทานเมนูนี้กันทั้งนั้น นั่นก็คือปูม้านึ่งแกะเปลือกพร้อมทาน เสิร์ฟทั้งหมด 3 size คือ S/M/ L สำหรับทานตั้งแต่ 2 ถึง 5 ท่าน โดยทางร้านจะพิจารณาจากแต่ละโต๊ะว่ามากันกี่คน อย่างเช่นวันนี้โต๊ะผมมา 4 คนทางร้านก็จะจัดให้เป็น Size M จัดจานมาอย่างสวยงาม โดยมีปูม้าส่วนต่างๆให้ทานทั้งตัว ได้แก่กรรเชียงปู/ก้ามปูและเนื้อปูชิ้นเล็กๆ ส่วนเรื่องความหวานสดนั้นอาจจะไม่เท่าปูเป็นๆ แต่ก็เนื้อแน่น เคี้ยวอร่อย ยิ่งทานพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเปรี้ยวแซ่บหอมกลิ่นมะนาวอบอวลในปาก ไม่เหมือนกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ร้านไหน (เวลากลืนลงคอแล้วกลิ่นมะนาวตีขึ้นจมูก) แล้วบอกเลยว่าบรรลุสวรรค์แห่งปูแล้วครับผม
ต่อกันด้วยชุดรวมทะเล ในถาดใหญ่นี้เสิร์ฟมาทั้งกุ้งขาวย่างตัวใหญ่เนื้อแน่น/หอยเชลล์ที่ดูตัวเล็กแต่หวานสดย่างมาหอมกลิ่นเนย/หอยแมลงภู่ไทยตัวเล็กแต่เนื้อหวานทานง่าย/หอยหวานราคาสุดแพงที่เนื้อแน่นหวานกรอบและไม่มีกลิ่นแอมโมเนียแบบบุฟเฟ่ต์ที่อื่น/ปลาหมึกย่าง ย่างมาจนแห้งเนื้อหวานเด้ง ยิ่งทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดกลิ่นมะนาวของทางร้าน ไม่แปลกใจเลยว่าตอนนี้ลูกค้าเต็มร้าน แถมชุดรวมหอยถือว่าได้รับความนิยมอยู่เหมือนกัน มีแต่คนสั่งเมนูนี้เกือบทุกโต๊ะ (หอยหวานสดไม่มีกลิ่นแบบนี้ในกรุงเทพฯได้ค่อนข้างยากแต่ที่นี่มีให้ทานไม่อั้น) ดีงามครับ
นอกจากอาหารทะเลเมนูนึ่งและย่างกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูซีฟู้ดปรุงสุกอีกหลายอย่าง รสชาติค่อนข้างดีเลยทีเดียว เริ่มจากเมนูแรกปลากระพงทอดน้ำปลา ไม่ใช่ปลากระพงตัวเล็กๆราคาตัวละ 200-300 บาทตามร้านซีฟู๊ดปกติ แต่มันคือปลากระพงยักษ์ที่นำเนื้อเพียงเสี้ยวหนึ่ง มาชุบแป้งทอดจนกรอบ ด้านในเนื้อสีขาวหวานฉ่ำราดด้วยซอสน้ำปลารสหวานเค็ม เพิ่มความสดชื่นด้วยยำมะม่วงรสเปรี้ยวหวาน เนื้อปลาชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำแบบไร้ก้างมากวนใจ ทานกับซอสน้ำปลาสูตรเด็ด กินเปล่าๆหรือทานกับข้าวสวยร้อนๆก็อร่อยเด็ดครับ ตามมาด้วยเมนูกุ้งทอดราดซอสมะขาม เป็นกุ้งขาวขนาดกลางนำไปชุบแป้งทอด จนกรอบทั้งเนื้อและเปลือกกุ้ง ราดด้วยซอสมะขามรสหวานเปรี้ยวกลมกล่อม มีความเข้มข้น ปิดท้ายด้วยการโรยด้วยหอมเจียว ทานได้ทั้งตัวกรุบกรอบอร่อยมากครับ
ต่อกันด้วยเมนูไข่เจียวฟูไส้ปู เป็นไข่เจียวที่เหมือนกับนำไปทอดในหม้อขนาดเล็ก ด้านในอัดแน่นด้วยเนื้อปูแน่นเต็มไปหมด ทานกับซอสพริกศรีราชารสหวานเผ็ด เข้ากันได้เป็นอย่างดี และเมนูใหม่ที่ไม่มีเสิร์ฟในเล่มของทางร้าน แต่พนักงานแนะนำมานั่นก็คือปอเปี๊ยะลาวา เป็นปอเปี๊ยะทอดกรอบสอดไส้ด้วยปูอัดมายองเนสแบบเข้มข้น ปูอัดแน่นๆกับน้ำสลัดรสเปรี้ยวหวานมัน อร่อยลงตัวดีครับ เมนูนี้น่าจะเหมาะกับเด็กๆมากกว่าไม่ต้องจิ้มซอสอะไร ทานได้ง่ายๆ เคี้ยวกรอบอร่อยเพลินๆ เมนูพิเศษนี้จะมีอัพเดทอยู่ใน Facebook ของทางร้าน หรือสามารถสอบถามกับทางหน้าร้านโดยตรงได้ครับ (เห็นว่าเมนูพิเศษจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าช่วงนั้นจะมีวัตถุดิบอะไรดี)
กับข้าวของที่นี่รสชาติค่อนข้างเข้มข้น เลยสั่งเมนูข้าวมาทานสัก 1 จาน เป็นข้าวผัดปูรสชาติกลมกล่อมเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำปลาพริกขี้หนู ใส่เนื้อปูมาให้พอสมควร ทานกับอาหารรสชาติเข้มข้นเข้ากันได้เป็นอย่างดี มีเมนูหน้าตาแปลกๆมาเสิร์ฟที่โต๊ะ เปิดออกมาดูก็คือกุ้งอบวุ้นเส้นเสิร์ฟมาในฟอยล์ห่ออย่างมิดชิด รสชาติของกุ้งอบวุ้นเส้นที่นี่ มีความหวานเค็มเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพร ใครเป็นแฟนกุ้งอบวุ้นเส้นมาทานที่นี่ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
ต้มยำทะเลรวมสีแดงสวยงามดูเผ็ด แต่รสชาติอยู่ในระดับกลางๆไม่ค่อยเผ็ด/เปรี้ยวหรือว่าหอมกลิ่นสมุนไพรแต่อย่างใด เมนูนี้ผมให้ความอร่อยไว้ในระดับกลางๆครับ ต่อกันด้วยเมนูปูนิ่มทอดกระเทียม เป็นปูนิ่มขนาดกลางทั้งตัวอนำไปชุบแป้งทอดกรอบ โรยด้วยกระเทียมเจียว ทานกับซอสพริกศรีราชารสหวานเผ็ด กรอบอร่อยทานได้ทั้งตัว
เมนูระดับเหลาก็มีเสิร์ฟให้เช่นเดียวกันอย่างเนื้อปูผัดผงกะหรี่ คัดเฉพาะเอาแต่เนื้อปูม้าล้วนๆ ผัดในซอสผงกะหรี่เข้มข้น ส่วนตัวแล้วก็ถือว่าร้านนี้ทำได้รสชาติค่อนข้างดี แต่อาจจะหนักเค็มไปนิดนึง เหมาะกับการทานกับข้าวสวยมากกว่า ตามมาด้วยเมนูกระเพาะปลาเนื้อปู กระเพาะปลาชิ้นใหญ่และเห็ดหอมเสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อปูส่วนกรรเชียงโรยมาด้านบน รสชาติอยู่ในระดับกลางๆไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่ ไว้สำหรับซดทานเพื่อความสดชื่นมากกว่า
เมนูนี้เป็นเมนูพิเศษที่เราไม่ได้สั่ง แต่ทางร้านนำมาเสิร์ฟให้นั่นก็คือกุ้งแม่น้ำตัวโต โดยตอนนี้โปรโมชั่นนี้เพียงแค่จองสำรองที่นั่งมา 2 คนก็จะได้รับทันทีกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ 1 ตัวเฉพาะราคาผู้ใหญ่เท่านั้นถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2562 นี้ บอกเลยว่ากุ้งแม่น้ำ 1 ตัวนี้ก็คุ้มราคาบุฟเฟ่ต์ไปแล้ว เพราะว่าเคยไปทานที่ร้านกุ้งเผาริมแม่น้ำเจ้าพระยามา ตัวนี้ไม่ต่ำกว่าตัวละ 800 บาทอย่างแน่นอน ส่วนความแน่นสดของเนื้อกุ้ง/ความหอมมันของหัวกุ้งขอบอกเลยว่าเทียบกับร้านริมแม่น้ำได้เลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าร้านบุฟเฟ่ต์ราคาแค่นี้เอาของดีระดับนี้มาเสิร์ฟให้ทาน ประทับใจมากครับ ต่อกันด้วยเมนูในไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์ที่เราจะต้องเดินไปตักเอง ทั้งขนมจีนน้ำยาปู เป็นขนมจีนแบบแกงเผ็ดแดงแต่ไม่ใช่สไตล์ปักษ์ใต้แต่รสชาติเผ็ดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ใส่เนื้อปูมาให้ค่อนข้างเยอะ ทานแล้วเผ็ดสดชื่นใจสะใจดี ต่อกันด้วยเมนูน้ำพริกไข่ปู ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีไข่ปูเท่าไหร่ เพราะทางร้านนำไข่ปูลงไปบดรวมกับเนื้อน้ำพริกให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ว่าจะเอาผักอะไรลงไปจิ้ม ก็จะได้รสชาติไข่ปูแน่นๆเต็มปากทุกคำ ต่อกันด้วยกุ้งสะดุ้ง เป็นกุ้งลวกพอสุกด้านในยังมีความเด้งใส ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของทางร้าน เนื้ออร่อยกรอบเด้ง และปิดท้ายด้วยหอยนางรมสุราษฎร์ธานีตัวใหญ่ ราดด้วยซอสน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของทางร้าน แค่นี้ก็อร่อยสุดๆแล้วครับ หอยตัวใหญ่เนื้อแน่นเคี้ยวเต็มปากเต็มคำ พูดถึงว่าใครที่เป็นสายหอย จะมาถล่มหอยกันที่ร้านนี้ก็ถือว่าคุ้มราคาบุฟเฟ่ต์แล้วนะ
นอกจากของหวานที่วางอยู่ในไลน์บุฟเฟต์แล้ว ยังมีเมนูของหวานพิเศษที่อยู่ในเล่มเมนู ให้เราได้สั่งเพิ่มได้อีกด้วย นั่นก็คือเมนูข้าวเหนียวมะม่วงนั่นเอง บอกว่าเป็นข้าวเหนียวมะม่วงธรรมดาก็ไม่ใช่ โดยข้าวเหนียวมะม่วงของที่นี่จะใช้เป็นข้าวเหนียวหุงกับใบเตยได้ข้าวเหนียวใบเตย ที่มีความหอมหวาน ราดด้วยกระทิ เสิร์ฟพร้อมกับมะม่วงสุกหวานหอมบอกเลยว่าจานเดียวไม่พออย่างแน่นอนครับ เพราะโต๊ะเราสั่งไปอย่างน้อยคนละ 2 จานอร่อยเพลินสุดๆ
วันนี้เรามากัน 4 คนหมดค่าเสียหายไป 4,352 บาท (ไม่มี Vat.) แต่มีค่าเซอร์วิสชาร์จอีก 10% คือ 435.20 บาทรวมทั้งหมดเป็น 4,787.20 บาท โดยข้างล่างเขียนว่าเวลาที่ใช้ไปอย่างมีความสุขเวลานั้นไม่สูญเปล่าถือว่าเป็นเรื่องจริงครับ เพราะประมาณ 90 % ของเมนูที่เราทานไปทั้งหมดในวันนี้ บอกเลยว่ารสชาติเข้มข้นอร่อยถูกใจทั้งผม และผู้ใหญ่ในบ้านของผมเป็นอย่างมาก มีแต่เมนูต้มต่างๆที่อาจจะไม่ค่อยถูกใจบ้านเรากันเท่าไหร่ (เพราะรสชาติค่อนข้างอ่อนไปนิด) แต่โดยรวมแล้วรสชาติของอาหารต่างๆ/วัตถุดิบที่ใช้/การบริการที่ได้รับ (พนักงานคอยเติมน้ำดื่มให้ตลอดๆ ไม่มีหยุด) รวมถึงความคุ้มค่าโดยรวม เมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไปในมื้อนี้แล้วถือว่าเกินคุ้มไปเยอะเลยครับ ใครที่กำลังหาบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดชั้นดี ที่เสิร์ฟแต่อาหารระดับพรีเมี่ยมอยู่แล้วล่ะก็ ผมขอแนะนำร้านเพราะดี Restaurant เป็นตัวเลือกความอร่อยอันดับแรกที่ผมขอขึ้นแท่นไว้ให้เลยครับ เอาคะแนนความอร่อยไปเลย 5 ดาวเต็มจ้า 🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : โครงการเดอะรีเจ้นท์สตรีท เลขที่ 93-94 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. 10510
บุฟเฟ่ต์เปิดให้บริการทุกวัน จ.-พฤ. 16.00-21.00 น. วันศ.-อา.และนักขัตฤกษ์ 11.00 น.16.00 น.19.00 น.
โทรสำรองที่นั่งก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้งที่เบอร์ 092-947-8987
Facebook : https://www.facebook.com/becausegood888/
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘
Comments