top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนFood Addicts - เสพติดการกิน

รีวิว "อำแดงไต้ฝุ่น" ร้านอาหารไทย-จีนดีกรีมิชลิน 2 ปีซ้อน ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาในบางกอกสแควร์พระราม3

อัปเดตเมื่อ 21 มิ.ย. 2566



วันนี้เราได้รับคำเชิญจาก PR ของร้าน "อำแดงไต้ฝุ่น" ให้เข้ามารีวิวสถานที่ตั้งใหม่ล่าสุดอันสวยงามอลังการอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในโครงการบางกอกสแควร์ถนนพระราม 3 โดยปัจจุบันได้รับการการันตีเรื่องความอร่อยเด็ดจาก Michelin Guide ประเภท The Plate ถึง 2 ปีซ้อน (2020 และ 2021) ซึ่งเราเคยแวะมาทานก่อนหน้าที่จะได้รับรางวัลก็ยืนยันได้อีกเสียงเลยว่าของเขาดีมากจริงๆ ส่วนวิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดแผนที่มาตามชื่อร้านจะพบกับลานจอดขนาดกว้างขวางสามารถเลือกช่องว่างได้ตามสะดวก ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะก็นั่ง BRT ลงสถานีวัดปริวาสแล้วออกแรงเดินเท้าอีกประมาณ 300 เมตรก็จะพบเรือนไทยเก่าสีน้ำตาลโบราณ 2 ชั้นติดสวนสาธารณะติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมสัญลักษณ์รูปกังหันทำจากก้ามปูบนตราหกเหลี่ยมสีแดงกับชื่อร้านที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาไทย/อังกฤษสีทองบนพื้นสีน้ำเงินเข้มแบบนี้แสดงว่ามาถึงแล้ว ซุ้มทางเข้าเป็นหลังคาทำจากผ้าใบสีเทายื่นแนวตรงนำทางไปสู่ตัวบ้าน มีจุดเช็กอินแรกชวนให้ถ่ายรูปอวดเพื่อนนั่นก็คือป้ายทำจากหลอดไฟนีออนสีฟ้าบนพื้นกระเบื้องสีแดงสดใสดูทันสมัย สำหรับการตกแต่งด้านในจะเป็นอย่างไรนั้นเราเข้าไปดูพร้อมๆกันเลยครับ

เปิดประตูเข้ามาในบ้านก็จะพบกับลานชั้นหนึ่งของเรือนไม้ริมน้ำเจ้าพระยาถูกตกแต่งอย่างสวยงามให้กลายเป็นคลับและบาร์สไตล์วินเทจสุดย้อนยุคซึ่งเหมาะสมกับร้าน "อำแดงไต้ฝุ่น" ที่เน้นเมนูอาหารไทย-จีนสูตรตำรับโบราณเป็นแนวคิดดั้งเดิมอยู่แล้ว เริ่มต้นจากผนังตกแต่งด้วยรูปศิลปะวาดด้วยมือบนผ้าใบผืนใหญ่ดูทันสมัย/เข้าถึงยากให้ขัดกับบุคลิกที่ตั้งไว้เล็กน้อย ตามมาด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเน้นหนังแท้สีน้ำตาลขัดมันวาวให้อารมณ์แบบผับเก่าในยุค 80-90's ส่วนของประดับตกแต่งร้านก็ยังเน้นไอเดียแปลกๆทั้งลิ้นชักใส่สมุนไพรแห้งในร้านยาจีนนำมาทาสีเหลืองสดใสดูแปลกตาหน้าทางเข้า/กล่องเก็บของขนาดใหญ่สมัยสงครามโลกเอามาวางแทนโต๊ะกลางห้องนั่งเล่น ใส่ความธรรมชาติอีกเล็กน้อยด้วยต้นไม้พันธุ์พิเศษเน้นใบใหญ่สีเขียวสดกระจายตามมุมทั่วบ้าน แสงสว่างโดยรวมแม้จะเปิดผ้าม่านสีแดงเลือดหมูออกให้หน้าต่างสาดแดดบางส่วนลอดเข้ามาก็ยังดูสลัว จึงเพิ่มความอบอุ่นไม่ให้ดูวังเวงจนเกินไปด้วยโคมไฟแก้วโบราณดวงสีเหลืองอมส้มทั่วทั้งร้านพร้อมเปิดแอร์ตัวใหญ่ลมแรงเย็นฉ่ำชวนนั่งนานๆ สำหรับชั้นที่ 2 ทางร้านยังไม่เปิดให้บริการแต่ถ้าในอนาคตมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมากอาจจะพิจารณาตกแต่งเพิ่มเติมครับ

นอกจากมุมคลับบาร์สไตล์วินเทจดูย้อนยุคในบรรยากาศชวนนั่งดื่มชวนพูดคุยกันแบบชิลๆแล้วมาถึงร้านนี้เราก็ต้องกินได้อาหารไทย-จีนรสชาติความอร่อยระดับมิชลิน โดยแบ่งพื้นที่ทานข้าวเอาไว้ 3 โซนใหญ่นั่นก็คือ 1. ในเรือนไม้เปิดแอร์เย็นฉ่ำโดดเด่นด้วยโซฟาหนังขัดมันวาวสีน้ำตาลเข้มขนาดยาวพิเศษพร้อมรูปวาดสาวชาวจีนใส่แว่นดำถือตะเกียบพร้อมปูทะเลในมือขนาดใหญ่เต็มฝาผนังซึ่งบ่งบอกตัวตนของทางร้านได้เป็นอย่างดี ส่วนโต๊ะทำจากหินอ่อนและไม้แท้ดูหรูหราเข้ากับเก้าอี้โครงเหล็กสีดำแข็งแรงรองเบาะนุ่มมีพนักพิงโอบรัดแผ่นหลังช่วยให้นั่งผ่อนคลายสุดๆ เหมาะสำหรับเพื่อนฝูง,ครอบครัว,คู่รักที่ไม่ชอบอากาศร้อนหรือเสี่ยงกับฤดูกาลอันไม่ค่อยแน่นอน 2. ชายคาใต้เรือนไม้รับอากาศจากธรรมชาติเย็นๆพร้อมพัดลมตั้งพื้นและเพดานขนาดใหญ่โดดเด่นด้วยม้านั่งริมระเบียงยาวพิเศษที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังชิลอยู่บ้านพักตากอากาศแถวนอกตัวเมือง พร้อมเก้าอี้ทำจากไม้หวายสานมือและโต๊ะหินอ่อนบรรยากาศปลอดโปร่งโล่งสบายเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบห้องทึบๆข้างใน 3. โต๊ะริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งปัจจุบันมีคิวจองยาวนานกว่า 1 เดือน เป็นลานโล่งกว้างปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ทอดยาวไปจนเกือบถึงสวนสาธารณะข้างๆกัน เหมาะสำหรับการมาดินเนอร์ใต้แสงจันทร์มองวิวแม่น้ำกับสะพานภูมิพล 1 เห็นจากระยะนี้ถือว่าโรแมนติกมากๆครับ

ระหว่างนั่งรออาหารต่างๆที่ทางร้านกำลังจัดเตรียมมาให้ขึ้นโต๊ะก็ขอเล่มเมนูใหม่มาอัปเดตกันหน่อยว่าปัจจุบันมีอะไรให้เราทานบ้าง เริ่มจากหน้าแรกอธิบายความหมายของชื่อร้านพอสรุปสั้นๆได้ว่า "อำแดง" คือคำใช้เรียกผู้หญิงในสมัยก่อนแทนคำว่านาง-นางสาวในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยพื้นบ้านสืบทอดจากครัวยุคโบราณชวนให้ระลึกถึงความอร่อยและโหยหาในรสชาติแห่งอดีตอีกครั้ง ส่วน "ไต้ฝุ่น" เป็นชื่อผัดปูทะเลของหมู่บ้านชาวประมงพื้นเมืองของฮ่องกงในช่วงมรสุมถูกคิดค้นโดยใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นผสมกับปูทะเลสดๆออกมาเป็นเมนูอันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมกันเป็นคำว่า "อำแดงไต้ฝุ่น" เสิร์ฟอาหารตำรับไทยแท้ๆกับจีนโบราณรสชาติจัดจ้านถึงใจปรุงจากความตั้งใจแบบเดียวกับญาติผู้ใหญ่ทำให้เราทานในความทรงจำ มี Signature ถ้ามาแล้วห้ามพลาดหลายรายการก็คือ "กุ้งแม่น้ำเผา" ตัวยักษ์หัวมันเยิ้มขนาดตั้งแต่ 4 ตัว 1 โลไปจนถึงตัวละ 6 ขีด ราคาเริ่มต้นที่ 400-1,200 บาท "ขนมอำแดงไต้ฝุ่น" ทำจากเต้าหู้เนื้อเนียนชุบแป้งทอดโรยถั่วลิสงบดน้ำตาลอ้อยจานละ 160 บาท และ "เนื้อปูก้อนจัมโบ้ผัดไต้ฝุ่น" อาหารในตำนานแห่งอ่าวอะเบอร์ดีนบนเกาะฮ่องกงที่ทางร้านแสนจะภูมิใจนำเสนอสุดๆราคาจานละ 1,680 บาท วันนี้นอกจากเราจะได้ลองชิมจานแนะนำครบทุกอย่างแล้วยังมีรายการอื่นอันน่าสนใจอีกเพียบเลยครับ

หน้าต่อไปคือหมวดของปูไข่เอามาดอง,แกงเหลืองหรือนึ่งนมสดราคาเริ่มต้นที่ขีดละ 150 ไปจนถึงจานละ 850 บาท / เนื้อปูก้อนหรือกรรเชียงปูจัมโบ้นอกจากจะนำมาผัดไต้ฝุ่นแล้วยังสามารถเอามาเนรมิตได้อีกหลายๆเมนูราคาจานละ 480 บาท / หมวดของทอดรวมทุกอย่างทั้งจากหลัก,เรียกน้ำย่อยและอาหารทานเล่นต่างๆราคา 150-220 บาท / ถ้าชอบกินรสแซ่บนัวก็ต้องสั่งในหมวดนี้ที่รวมสารพัดวัตถุดิบเอามาคลุกเสิร์ฟเป็นยำราคาจานละ 180-250 บาท / สำหรับคนคลั่งไคล้กุ้งทางร้านได้แยกหมวดเอาไว้ซึ่งรวมทุกอย่างทั้งต้ม,ผัด,แกง,ทอดสไตล์ไทยกับจีนหลายๆเมนูราคาจานละ 150-390 บาท / หอยแมลงภู่เอามาอบ,ผัดฉ่าราคาจานละ 250 บาท / นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดหอยทั้งหอยนางรม,หอยแครง,หอยลายนำมาปรุงอาหารต่างๆราคา 180-330 บาท ถ้าเทียบกับรายการเมนูเล่มเก่าแล้วถือว่าอัปเดตมาใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการอันแตกต่างของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้เป็นอย่างดีเลยครับผม

หมวดต่อไปเป็นปลากะพงเอามาทอด,นึ่ง,ต้มยำเสิร์ฟยกมาทั้งตัวราคาเมนูละ 420-450 บาท / ปลาสลิดแดดเดียวทอดกรอบแกะเฉพาะเนื้อมาทำแกงคั่ว,ต้มข่ากับต้มโคล้งราคาหม้อละ 280 บาท / ปลาช่อนไซส์ใหญ่ๆปรุงเป็นแกงส้มแป๊ะซะหรือลาบทอดราคา 390-450 บาท / ปลาตาเดียวขนาดพิเศษทอดธรรมดาๆ,ลุยสวน,ทอดกระเทียมราคาเดียว 420 บาท / หากใครที่ชื่นชอบไข่ปลาริวกิวร้านนี้มีให้ทานตลอดปีทำได้ทั้งแกงส้ม,ผัดฉ่าพริกสดราคาจานละ 350-380 บาท / ปลาอินทรีหั่นมาชิ้นหนาๆชั้นไขมันแทรกสวยงามทอดในน้ำมันราดซอสน้ำปลา,ผัดฉ่าใส่เครื่องสมุนไพรแน่นๆราคา 300-350 บาท / มานั่งทานข้าวริมแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้ทำให้ชวนนึกปลาคังสดๆปรุงออกมาเป็นต้มยำ,ผัดฉ่า,ลวกจิ้มราคาจานละ 250-350 บาท / ปลาหมึกสดผัดต้นหอม,ไข่เค็ม,พริกเผา,แดดเดียวและผัดฉ่าราคาจานละ 250-300 บาท / ปลาเก๋าตัวใหญ่ๆคัดมาเฉพาะเนื้อกับหัวทำต้มยำ,ผัดฉ่าทุกเมนูราคา 420 บาท / ปลาทูทอดทั้งตัว,เอาไปต้มยำหรือถ้าใครที่ชอบทานหัวมากๆเขาก็มีส่วนแก้มทอดกรอบให้สั่งด้วยราคาจานละ 150-250 บาท / ปลาทรายทอดกระเทียม,ทอดน้ำปลา,ต้มแกงป่ารสแซ่บราคา 250-280 บาท เรียกได้ว่ามีสารพัดปลาทั้งน้ำจืดน้ำเค็มคุณภาพดีให้สั่งอีกเพียบโดยไม่ต้องดิ้นรนขับรถไปทานถึงถิ่นสมกับเป็นร้านอาหารริมแม่น้ำจริงๆครับ

นอกนั้นก็เป็นหมวดย่อยอื่นๆเช่นประเภทของผัดมีทั้งสายบัวกุ้งสด,ใบเหลียงคั่วไข่,ถั่วหวานพริกแห้ง,กะหล่ำปลีใส่กากหมู,มะเขือเหยาปลาเค็ม,บวบไข่ปลาเค็ม,ยอดมะพร้าวน้ำมันหอยกุ้งสด,ผักกระเฉด-ผักบุ้งไฟแดง,ผัดเผ็ดใบยี่หร่าใส่หมูหรือเนื้อ,ห่อหมกทะเลแห้ง,ไก่เม็ดมะม่วงหิมพานต์,ผัดสามหอมกุ้งกับกากหมูเขียวหวานแห้งราคา 100-320 บาท / หมวดต่อไปเป็นแกงและต้มจืดต่างๆซึ่งได้รวบรวมเมนูทั้งหมดตั้งแต่หน้าแรกมาไว้ให้เลือกสั่งง่ายขึ้นแต่จะมีรายการพิเศษบางอย่างเช่นเต้าหู้ทรงเครื่องเสฉวน,แกงจืดสาหร่ายเต้าหู้หมูสับ,หม้อไฟพลนิกรกิมหงวน,แกงจืดบ๊วยหมูสับใบโหระพา,แกงรัญจวนเสริมเข้ามาราคา 220-680 บาท / เปิดอีกหน้าคือหมวดน้ำพริก,หลนกะทิจิ้มผักสดราคาชุดละ 250 บาท / ข้าวสวย,ข้าวผัดสำหรับกินคู่กับอาหารรสจัดจ้าน เริ่มต้นถ้วยละ 20 บาทไปจนถึง 480 บาท หน้าสุดท้ายคือเครื่องดื่มทั้งแบบปกติ-มีแอลกอฮอล์ราคา 25-250 บาท และขนมหวานทั้งไอศครีม,สละลอยแก้ว,สตรอว์เบอร์รี่ลอยแก้ว,ข้าวเหนียวมะม่วงตามกระแสก็มีขายตลอดราคา 65-180 บาท โดยรวมมีอาหารให้สั่งมากขึ้นแต่คิดราคาเท่าเดิมถึงแม้จะย้ายตัวร้านมาสถานที่ใหม่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันสวยงามกว่าก็ตามครับผม

อาหารจานแนะนำต่างๆทยอยมาเสิร์ฟบนโต๊ะเริ่มต้นกันที่ "กุ้งแม่น้ำเผา" ขนาด 3 ตัว 1 โลราคา 567 บาท เป็นกุ้งจับจากแม่น้ำสดๆตัวใหญ่เท่าฝ่ามือผ่ากลางหลังแล้วกางออกให้เป็นทรงผีเสื้ออย่างสวยงาม ย่างลงบนเตาถ่านไม้แบบโบราณด้วยวิธีการลับให้เปลือกด้านนอกติดไหม้นิดๆส่งกลิ่นหอมกับเนื้อข้างในสีขาวอวบแน่นพร้อมมันบนหัวซึ่งสุกฉ่ำกำลังดี เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรพริกสีเขียวสดใสหนักกระเทียมรสเปรี้ยวหอมเปลือกมะนาวนำเค็มอมหวานจี๊ดจ๊าดโดนใจ ส่วนวิธีการทานสามารถทำได้หลายสูตรทั้ง 1. ใช้ช้อนตักมันจากหัวกุ้งนำเข้าปากทันทีเพื่อลิ้มรสความหอมนวลจากธรรมชาติแล้วตัดความเลี่ยนด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดอีกคำ 2. ใช้ส้อมค่อยๆเลาะเนื้อกุ้งให้หลุดจากเปลือกอย่างง่ายดายแล้วนำเข้าปากเพื่อสัมผัสถึงความหวานเด้งกรุบกรอบดังสนั่นประสาทสู้ฟันสุดๆ 3. ราดมันกุ้งพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดบนข้าวสวยแบบฉ่ำๆก่อนคลุกให้เข้ากันแล้วนำเข้าปากสุดฟิน 4. เอาเนื้อกุ้งจิ้มกับมันแทนซอสก็อร่อยสะใจไปอีกแบบเพราะที่ร้านเขารับมาเฉพาะตัวใหญ่สดเป็นๆทุกวันจึงไม่ต้องขับรถไปถึงจังหวัดอยุธยาก็ได้อารมณ์เดียวกันครับ

จานต่อมาเป็นเมนูเอาใจสายดองสุดฮิตอย่าง "ปูไข่ดอง 2 แซ่บ" ราคา 850 บาท โดยทางร้านจะเลือกใช้เฉพาะตัวเมียขนาดวัยรุ่นไซส์กลางๆแต่ไข่แน่นสีส้มเต็มกระดองเกรดคัดพิเศษ นำมาตัดปลายเล็บที่สกปรกออก/ตกแต่งให้สวยงามพร้อมทำความสะอาดแล้วแช่ในน้ำซอสซีอิ๊วสูตรเกาหลีรสชาติเค็มนำอมหวานหอมกลิ่นน้ำมันงาสุดแซ่บด้วยพริกสดหั่นประโคมสาดลงไปให้ทั่วก่อนเสิร์ฟ วิธีการกินให้ราดด้วยซอสซีฟู้ดสูตรหนักพริกสด-กระเทียมสีแดงลงไปแบบเน้นๆแล้วตักไข่สีส้มเข้าปากยกส่วนก้ามขึ้นมาดูดเนื้อหรือราดบนข้าวสวยราดซีอิ๊วฉ่ำๆก็อร่อยโดนใจ ส่วนอีกตัวทางร้านได้แยกมาอีกจานเป็นสูตรลิ้นเต้นแบบไทยก็คือปูไข่ดองน้ำปลาแท้รสชาติเค็มอมหวานราดด้วยซอสซีฟู้ดพริกสดสีเขียวหนักกระเทียมยกขึ้นมาทานได้ทันทีโดยไม่ต้องเรียกหาน้ำจิ้มอื่นๆเพิ่มเติม ถ้าเทียบกับร้านนอกปูไข่ดองไซส์ประมาณขนาดนี้ถือว่าราคาไม่ห่างกันมากนัก (เฉลี่ยประมาณตัวละ 350-450 บาท) แต่ได้บรรยากาศสุดชิลพร้อมนั่งรับลมริมแม่น้ำเจ้าพระยา-ชมวิวสะพานภูมิพลแบบนี้ คิดรอบคอบแล้วมากินที่ "อำแดงไต้ฝุ่น" ยังไงก็คุ้มกว่าครับ

มาต่อกันด้วยจานถัดไปซึ่งเป็นเมนู Signature ที่คุณไม่สมควรพลาดอย่างยิ่งเลยนั่นก็คือ "เนื้อปูก้อนจัมโบ้ผัดไต้ฝุ่น" หรือเรียกอีกชื่อว่า Spicy Crab สูตรต้นตำรับจากชาวประมงแห่งอ่าวอะเบอร์ดีนใกล้ๆกับเกาะฮ่องกงที่ร้านแสนจะภูมิใจนำเสนอเพราะใส่จานแบบพิเศษมีหูหิ้วทำจากไม้สีแดงสวยงามยกมาวางบนโต๊ะอย่างอลังการ ราคาจานละ 1,680 บาท ส่วนประกอบหลักที่ดึงดูดให้ทุกคนมาแล้วต้องสั่งก็คือเนื้อก้อนปูจัมโบ้ขนาดใหญ่พิเศษคัดมาเฉพาะกรรเชียงแบบเน้นๆผัดใส่ทั้งกระเทียมเจียว/พริกแห้ง/พริกไทยดำจัดเต็มและเพิ่มสีสันให้สวยงามอีกเล็กน้อยด้วยต้นหอมหั่นเป็นท่อนๆ ปรุงรสชาติมาเค็มกลมกล่อมหนักเครื่องเทศตัดด้วยความหวานตามธรรมชาติของก้อนปูเคี้ยวเด้งสู้ฟันกินพร้อมข้าวสวยหรือทานเป็นกับแกล้มก็อร่อยเพลินทั้ง 2 แบบ รายการต่อไปอยู่คู่ทางร้านมาอย่างยาวนานคือ "ผัดแม่สายบัวรอเก้อ" ราคา 200 บาท ทำจากสายบัวอ่อนกรุบกรอบผัดใส่มันหัวกุ้งแม่น้ำและเนื้อกุ้งสดเด้งรสชาติเค็มอมหวานกลมกล่อมฉ่ำน้ำเวลาเคี้ยว สำหรับกินคู่ข้าวสวยหรือเคียงเมนูที่มีความเผ็ดร้อนให้สมดุลกันดีมากยิ่งขึ้น

เมนูต่อไปถูกยกมาเสิร์ฟบนจานใหญ่พิเศษคือ "เมี่ยงปลากะพง" ราคา 450 บาท เอามีดเลาะแต่เนื้อล้วนมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าแบบไร้ก้างชุบแป้งบางๆทอดจนสีน้ำตาลกรอบแล้วเรียงให้สวยงามเป็นปลากะพงทั้งตัวพร้อมเครื่องเมี่ยงอีกมากมายทั้งหอมแดง/ขิงสด/พริกขี้หนู/มะนาวติดเปลือก/ถั่วลิสงคั่ว/ใบชะพลูและน้ำจิ้มรสชาติหวานนำหอมกลิ่นมะพร้าวคั่วผสมกะปิกับเครื่องสมุนไพรต่างๆสัมผัสเข้มข้น-เหนียวหนืด ส่วนวิธีการทานเพียงแค่หยิบใบชะพลูพับทรงกรวยแล้วใส่เครื่องที่ชอบพร้อมราดซอสสูตรเด็ดลงไปตามใจชอบก็นำเข้าปากได้ทันที อร่อยฟินได้ครบทุกรสชาติทั้งเปรี้ยว,หวาน,เค็ม,เผ็ดสะท้อนถึงความเป็นอาหารไทยสูตรต้นตำรับแท้ หม้อถัดไปเอาใจสายแซ่บที่ชอบซดซุปร้อนๆชวนโล่งคอก็คือ "ต้มยำปลาเก๋าน้ำใส" ราคา 420 บาท ทางร้านเลือกใช้เฉพาะตัวใหญ่ไซส์พิเศษคัดเอาแค่เนื้อสีขาวติดหนังชิ้นจัมโบ้เคี้ยวเต็มคำมาทำต้มยำแบบโบราณ ใส่เครื่องสมุนไพรสดกลิ่นรุนแรงต่างๆลงไปเพียบมีทั้งตะไคร้,ข่า,ใบมะกรูด,หอมแดง,พริกขี้หนูสด,ผักชีฝรั่งและเห็ดฟาง ปรุงรสชาติให้เค็มเปรี้ยวเผ็ดตัดหวานพอกลมกล่อมวางบนหม้อไฟพร้อมจุดแอลกอฮอล์ก้อนยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะให้เดือดพร้อมทานอยู่ตลอดเวลา เหมาะสำหรับสั่งมาทานคู่กับข้าวสวยหรือจะซดเปล่าๆให้สร่างเมาก่อนกลับบ้านพร้อมเนื้อปลาเก๋าเหนียวหนึบๆสู้ฟันคือดีงามครับผม

จานต่อไปเป็นเมนูขายดีของทางร้านคือ "หอยลายผัดพริกขี้หนู" ราคา 180 บาท คัดมาเฉพาะหอยลายตัวใหญ่เนื้อแน่นเด้งเต็มฝาผัดพริกขี้หนูสดตำละเอียดสุดเผ็ดร้อนกับใบโหระพาหอมๆปรุงรสชาติให้เค็มอมหวานกลมกล่อมลงตัว วิธีการทานให้ใช้มือหรือช้อนตักขึ้นมาดูดเอาเฉพาะเนื้อส่วนน้ำซอสที่เหลือก็ราดลงบนข้าวสวยได้เลยตามชอบ สำหรับสายดื่มที่กำลังหากับแกล้มเด็ดๆแนะนำว่าห้ามพลาด "ยำมะเขือเปราะหมูย่าง" ราคา 180 บาท น้ำยำเปรี้ยวหวานตัดเค็มพอกลมกล่อมใส่คอหมูแท้ย่างเตาถ่านหั่นชิ้นพอดีคำ คลุกเครื่องสมุนไพรพร้อมผักสดต่างๆทั้งพริกขี้หนูแดง/หอมแขก/มะเขือเทศสด/ตั้งโอ๋และเด็ดสุดๆก็คือมะเขือเปราะสไลด์บางให้สัมผัสกรุบกรอบแปลกใหม่ไม่เหมือนร้านไหนที่เคยทานมาก่อน เมนูสุดท้ายเป็น Signature ซึ่งอยู่คู่ร้าน "อำแดงไต้ฝุ่น" นี้มาตั้งแต่เปิดใหม่ช่วงแรกเลยก็คือ "ข้าวผัดมันกากหมู" จานใหญ่ราคา 180 บาท ข้าวสวยหอมมะลิแท้คุณภาพสูงผัดใส่น้ำมันหมูผสมกากเจียวหมูกรุบกรอบเค็มนัวกลมกล่อมเหมาะสำหรับทานคู่กับอาหารต่างๆให้รู้สึกพิเศษกว่าข้าวเปล่าตามปกติ เพิ่มรสชาติด้วยน้ำปลาพริกสีแดงสดใส่กระเทียมโฮมเมดลงไปได้ตามใจ แล้วมาปิดท้ายกันมื้อนี้ด้วยขนมหวานและเครื่องดื่มกันครับ

ขนมหวานหน้าตาแปลกประหลาดจานนี้ก็มีชื่อเดียวกับทางร้านนั่นก็คือ "อำแดงไต้ฝุ่น" ราคา 160 บาท ทำจากเต้าหู้ถั่วเหลืองญี่ปุ่นเนื้อนิ่มสีขาวสะอาดดูเนียนละเอียดรสชาติหอมมันเข้มข้นราวกับพุดดิ้งนมสด นำมาชุบด้วยแป้งบางๆทอดกรอบจนมีสีเหลืองทองด้านนอกพร้อมจับเรียงใส่จานอย่างสวยงาม โรยด้วยงาขาวผสมถั่วลิสงคั่วบดและน้ำตาลอ้อยโบราณพร้อมตัดเกลือนิดหน่อยให้รสชาติหวานมันกลมกล่อมหอม ได้หลากหลายสัมผัสทั้งนุ่มละมุนกรุบกรอบชวนละลายในปากสุดฟินไม่เหมือนใคร มีข้อควรระวังนิดหน่อยคือควรรีบทานตอนร้อนๆเพราะเต้าหู้จะเริ่มคายความชื้นออกมาทำให้ผิวแป้งทอดด้านนอกนิ่มลง ส่วนเครื่องดื่มทางร้านก็มีน้ำสมุนไพรต้มต่างๆรสชาติหวานกำลังดีให้เราสั่งมาลองทั้ง "อัญชันมะนาวสด" สีม่วงเปรี้ยวมะนาวราคา 65 บาท / "น้ำตาลสด" เคี่ยวใหม่มีกลิ่นหอมชื่นใจราคา 55 บาท / "น้ำลำไย" ทำจากเมล็ดอบแห้งแบบไม่เติมน้ำตาลเพิ่มราคา 55 บาท และสุดท้ายคือ "มะพร้าว" ที่ร้านคัดมาจากสวนในอำเภออัมพวาแช่เย็นทั้งลูกแล้วเฉาะใหม่ทันทีเมื่อมีลูกค้าสั่งเท่านั้นราคาลูกละ 95 บาทครับผม

มื้อนี้มากัน 2 คนเกือบทานไม่หมดรวมค่าอาหารโดยกดเครื่องคิดเลขออกมาแล้วอยู่ที่ทั้งหมด 5,137 บาท (ไม่มี Vat. 7% / Service Charge 10% เพิ่ม) ดูตัวเลขแล้วอาจจะรู้สึกแพงแต่ถ้าเทียบกับวัตถุดิบที่ร้านเลือกใช้ไปจนถึงปริมาณและความอร่อยแซ่บโดนใจรับประกันด้วยมิชลิน The Plate 2 ปีซ้อน พร้อม บรรยากาศซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยารับลมสบายๆได้ชมวิวสะพานภูมิพล 1 ตอนค่ำคืนได้ชัดเจนจากมุมนี้คิดยังไงก็คุ้มค่ากับที่จ่ายสำหรับ "อำแดงไต้ฝุ่น" ได้รับคะแนนไปเลย 5 ดาวเต็มครับ 🌟🌟🌟🌟🌟


พิกัด : เลขที่ 762/7 โครงการบางกอกแสควร์ ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. 10125

เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 11.00-22.30 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)

โทร. 095-716-4712

Facebook : www.facebook.com/amdangtyphoon

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘



ดู 14,868 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page