ปัจจุบันห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแคประกาศว่าปรับปรุงโฉมเสร็จเรียบร้อยพร้อมเปิดให้บริการแล้วโดยนำทัพเอาภัตตาคารชื่อดังเจ้าต่างๆมาอยู่รวมกันซึ่งแบรนด์ที่เราเฝ้ารอคอยมากที่สุดนั่นก็คือ "Red Panda Yakiniku" อัปเกรดด้านความคุ้มค่าด้วยบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นคอร์สใหม่ชื่อว่า "Art Of Yakiniku" เสิร์ฟเนื้อวัววากิวและวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศคุณภาพระดับพรีเมียมมีให้เลือกเยอะอลังการยิ่งกว่าเดิมรวม 120 อย่างตลอด 90 นาทีในราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 469 บาท++ วิธีการเดินทางถ้าเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวกดปักหมุดแล้วขับตามระบบแผนที่บนมือถือจอดฟรีเฉพาะ 4 ชั่วโมงแรกนานเกินกว่านั้นคิดทันทีชั่วโมงละ 20-50 บาท สำหรับขนส่งสาธารณะแนะนำว่านั่ง MRT สายสีน้ำเงินลงสถานีหลักสองบริเวณประตูทางออก 4 เดินต่อบนสะพาน Sky Walk เชื่อมเข้าสู่ตัวอาคารทันทีด้านซ้ายมีลิฟต์กดขึ้นไปยังชั้น 3 ผ่านหน้า Fitness First จะพบจุดสังเกตได้แก่ป้ายไฟรูปการ์ตูนน้อง "แพนด้าแดง" สัญลักษณ์ของแบรนด์มองเห็นชัดเจนตั้งแต่ระยะไกลๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วควรโทรหรือส่งข้อความจองโต๊ะล่วงหน้าแบ่งเวลาออกเป็น 5 รอบเหมือนเดิมนั่นก็คือ 11:00/13:00/15:00/17:00 และ 19:00น. พิเศษเฉพาะนักเรียนนักศึกษาแค่แสดงบัตรประจำตัวรับสิทธิ์ส่วนลดเหลือแค่คนละ 399 บาท++ ครับผม
บรรยากาศภายในร้าน "Red Panda Yakiniku" สาขาล่าสุดเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแคชั้น 3 แห่งนี้เน้นการตกแต่งสไตล์คล้ายโรงแรมเรียวกังของประเทศญี่ปุ่นเหมือนเดิมเพิ่มเติมนั่นก็คือภาพวาดศิลปะเหล่าน้องแพนด้าแดงซึ่งเป็นการ์ตูนมาสคอตประจำแบรนด์ตามกำแพงถึง 2 รูปขนาดใหญ่สีสันสวยงามโดยสื่อความหมายถึงการเดินทางข้ามทะเลจากฝั่งดินแดนอาทิตย์อุทัยเพื่อเอาวัตถุดิบคัดสรรพิเศษคุณภาพระดับพรีเมียมจัดเสิร์ฟถึงมือลูกค้าทุกท่านและเคาน์เตอร์บาร์จัดเตรียมอาหารสามารถมองเห็นได้ทุกขั้นตอนด้วยแนวคิดใหม่ชื่อ "Art Of Yakiniku" สำหรับโต๊ะต่างๆกระจายหลากหลายมุมเลือกนั่งกันเลยตามใจทั้งริมหน้าต่างกระจกใสด้านหน้า,โซฟาไม้เสริมเก้าอี้เบาะหนังทรงกลม,ฉากกั้นแบ่งเหมือนห้องเล็กๆให้อารมณ์แบบส่วนตัวข้างหลังบ้านรองรับลูกค้าได้ครั้งละประมาณ 4-6 คน ถ้าคุณคิดจะพาสมาชิกเพื่อนฝูงหรือครอบครัวมาฟินเยอะกว่านั้นแนะนำว่าควรโทรสำรองล่วงหน้าตามรอบที่กำหนดเพื่อจองโต๊ะยาวพิเศษสูงสุดถึง 20 คน ราคาบุฟเฟ่ต์ที่เราเห็นทุกๆระดับนั้นยังไม่รวมค่าเครื่องดื่มรีฟิลอีกคนละ 39 บาทบริการตัวเองบริเวณบาร์เติมไม่อั้นตลอด 90 นาทีได้แก่ชาเขียวผงมัทฉะจืด,โค้กออริจินัล,โค้กไร้น้ำตาล,สไปรท์ไม่มีน้ำตาล,แฟนต้าน้ำส้ม,FuzeTea ชามะนาว,โซดาเปล่าพร้อมถังบรรจุน้ำแข็งชนิดก้อนสี่เหลี่ยมเย็นสดชื่นครับผม
จัดการเลือกโต๊ะที่เราอยากนั่งให้เสร็จเรียบร้อยพนักงานก็เดินเข้ามาบริการตามปกติโดยแจ้งก่อนว่าบุฟเฟ่ต์ของทางแบรนด์ "Red Panda Yakiniku" สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแคชั้น 3 ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 ระดับราคาได้แก่ Standard 469 บาท++ Premium 699 บาท++ กับแพ็กเกจใหม่ล่าสุด Art Of Yakiniku 999 บาท++ ยังไม่รวมเครื่องดื่ม 39 บาท / Vat. 7% และ Service Charge อีก 10% ใช้มือถือสแกน QR Code เพื่อกดรับชมเล่มเมนูฉบับออนไลน์หรือกดเข้าไปตรงลิงก์นี้ > https://citly.me/3FC1D < วิธีออเดอร์ใช้ระบบใบสั่งอาหารแบ่งง่ายๆตามสีสันนั่นก็คือแดง(Art Of Yakiniku) /ทอง(Premium) /ว่างเปล่า(Standard) เขียนจำนวนลงช่องว่างด้านขวามือยกเว้นบางรายการจำกัดเพียง 2 จานต่อรอบเท่านั้นรวมกว่า 120 เมนูตลอด 90 นาที เด็กมีส่วนสูงน้อยกว่า 110 ซม. ทานฟรี 110-130 ซม. คิดแค่ 50% อุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกๆอย่างวางเตรียมเอาไว้ครบถ้วนทั้งจานส่วนตัว/ถ้วยน้ำจิ้ม/ตะเกียบไม้/ที่คีบเหล็ก/กระดาษทิชชู่/แก้วน้ำ/ที่รองแก้ว/หลอดพลาสติก/น้ำจิ้มยากินิคุ/เกลือหิมาลายันสีชมพู/พริกไทยดำบดด้วยมือ สำหรับพริกขี้หนูสด/กระเทียมจีนสับ/ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่นโชยุ/วาซาบิชนิดบดละเอียด/น้ำจิ้มซีฟู้ดตำรับไทยสามารถขอเพิ่มได้ฟรีรอเพียงสักพักอาหารต่างๆก็ทยอยวางเสิร์ฟแล้วครับผม
วันนี้เราเลือกออเดอร์เป็นแพ็กเกจใหม่ล่าสุด "Art Of Yakiniku" ราคาคนละ 999 บาท++ ประเดิมสาขาแรกที่ร้าน "Red Panda Yakiniku" เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแคชั้น 3 แห่งนี้ สั่งได้ไม่อั้นทุกๆอย่างกว่า 120 รายการตลอด 90 นาที เริ่มต้นกันด้วย "Red Panda Moriawase" ประกอบไปด้วยเนื้อวัวพรีเมียมสายพันธุ์ทาจิมะวากิวลูกครึ่งญี่ปุ่นผสมออสเตรเลียซึ่งมีรสชาติเข้มข้นกลิ่นหอมเด่นชัดแทรกไขมันระดับ MBS 8-9 รวมกันถึง 5 ชิ้นส่วนได้แก่ Misuji ใบพาย , Harami กระบังลม , Kata Rosu บริเวณสันไหล่ , Brisket สามชั้นตรงท้อง , Gyu Tan โคนลิ้นสัมผัสเด้งกรุบกรอบเหมือนที่เราเคยทานเพราะอยู่ในหมวด "Premium" 699 บาท++ แต่ถ้าอยากฟินระดับสูงสุดต้องเน้นชุด "Bijutsu No Yakiniku" เกรดชั้นยอดพิเศษผ่านวิธีการคัดสรรมาแล้วว่าย่างเตาถ่านอร่อยสุดๆทั้ง Zabuton เนื้อสันคอใกล้ขาหน้าระหว่างซี่โครงไขมันคล้ายลายหินอ่อนผสานคอลลาเจนละลายเร็วเมื่อโดนความร้อน , Kata Rosu กล้ามเนื้อตั้งแต่คอถึงไหล่เหมือนจานก่อนซึ่งปริมาณ MBS สูงถึงขั้น Prime , Kurimi ช่วงสันไหล่จนถึงขาหน้าเนื้อค่อนข้างสีแดงลีนๆหน่อยเพราะออกกำลังกายมากลักษณะเด่นคือรสชาติดีเคี้ยวสนุก , Tomo Sankaku เนื้อก้อนใหญ่อยู่บริเวณสะโพกหว่างขาฝั่งพับในมองภายนอกดูน่าจะเหนียวแต่นุ่มละมุนเกินคาดเลยครับ
รายการต่อไปเป็น Signature เมื่อมีโอกาสแวะมาถึงร้าน "Red Panda Yakiniku" ต้องออเดอร์ทุกๆครั้งนั่นก็คือ "Negidare Wagyu" เนื้อวัววากิวสายพันธุ์ทาจิมะสันนอก MBS ระดับ 4-5 นำเข้าจากออสเตรเลียมีจุดเด่นอยู่ตรงไขมันแทรกและติดตรงขอบดูสวยงามปิ้งแค่พอสุกด้านเดียวแล้วห่อเนกิดาเระหรือต้นหอมญี่ปุ่นดองเกลือบดพริกไทยดำอีกหน่อยช่วยตัดเลี่ยนน้ำเนื้อกระจายชุ่มฉ่ำเต็มปาก / "Yakisuki Akami" ส่วนเดียวกับจานก่อนสไลซ์แผ่นบางเหมือนชาบูย่างสีอมชมพูอ่อนจิ้มซอสสุกี้ยากี้สูตรเฉพาะชนิดเข้มข้นพิเศษใส่ไข่แดงไก่ยี่ห้อโมริทามะเกรดรับประทานสดปลอดภัยช่วยส่งเสริมรสชาติเค็มอมหวานให้ละมุนกลมกล่อมยิ่งขึ้น / "Gyu-Tan Moriawase" ลิ้นวัวรวมหลายแบบทั้งโรยเกลือหิมาลายันพริกไทยดำธรรมดาๆ,ท็อปปิ้งต้นหอมไทยสด,ต้นหอมขนาดใหญ่ซอยดองเกลือเนกิดาเระ,ซอสไซเคียวชิโระมิโซะสีขาวหอมมันนัวแต่ยังอีกหนึ่งวิธีฟินซึ่งเราอยากแนะนำได้แก่บีบน้ำเลมอนลงไปเพื่อตัดเลี่ยนกลิ่นหอมเปลือกฟุ้งชวนฝัน / "Wagyu Liver" ตับวัววากิวดิบแล่ชิ้นพอดีคำเกรดซาชิมิเหมือนที่เสิร์ฟตามภัตตาคารอิซากายะราคาแพงราดน้ำมันงา,กระเทียมสับ,ต้นหอมช่วยดับคาวกลืนง่ายเคี้ยวเบาๆก็ไหลลื่นลงคออย่างง่ายดายถ้าหากคุณรู้สึกว่าใจยังไม่แข็งพอจับย่างเตาถ่านอีกนิดหน่อยสัมผัสเนียนนุ่มคล้ายฟัวกราส์ฝรั่งเศสเลยครับ
ถ้าคุณเริ่มรู้สึกเบื่อข้าวสวยหรือข้าวผัดกระเทียมธรรมดาซึ่งจัดเสิร์ฟตามภัตตาคารบุฟเฟ่ต์แนวปิ้งย่างทั่วไปทางร้าน "Red Panda Yakiniku" ได้คิดค้นเมนูใหม่ล่าสุดอย่าง "Wagyu Hitsumabushi" ใช้ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์โคชิฮิคาริเมล็ดอ้วนกลมสั้นสัมผัสเหนียวหนึบเคี้ยวสู้ฟันคลุกเคล้าซอสปลาไหลย่างอบหม้อดินสไตล์เอโดะโบราณท็อปปิ้งไขมันวัวเจียวกรุบกรอบ,เนื้อวากิวสไลซ์บาง,ไข่แดงสดโมริทามะโรยงาขาวคั่ว,ต้นหอมซอยละเอียดตักแบ่งใส่ถ้วยขนาดเล็กกลิ่นหอมเด่นชัดฟุ้งกระจายเต็มปากตราตรึงหัวใจ / "Wagyu Yukke" ยำเนื้อวากิวสับหยาบๆใส่ต้นหอมน้ำมันงากับซีอิ๊วโชยุโปะไข่แดงดิบด้านบนช่วยเพิ่มความอร่อยนัวกลมกล่อมแนะนำให้ผสมรวมกันก่อนรับประทาน / "Aburi Wagyu Shiru" ซุปใสสาหร่ายคอมบุปลาแห้งคัตสึโอะต้มๆร้อนวางเนื้อวากิวแทนฝาปิดลนไฟติดกลิ่นไหม้ปลายจมูกเล็กน้อยปล่อยเวลาแช่สักพักให้สุกกำลังพอมีรสชาติอูมามิแทรกซึมเข้าไปชุ่มฉ่ำซดคล่องคออุ่นสบายท้อง / "Wagyu Tsukune" เนื้อวากิวสับปั้นก้อนเสียบเหล็กช่วยนำความร้อนและสุขอนามัยที่ดีขึ้นอีกหนึ่ง Signature เมื่อแวะมาแล้วห้ามพลาดเด็ดขาดย่างแค่พอสุดด้านนอกแต่ข้างในอมชมพูระเบิดน้ำเนื้อ,ไขมันแน่นเต็มปากสุดฟิน / "Wagyu Hamburg Kushiyaki" คล้ายก่อนหน้าโดยเพิ่มหอมหัวใหญ่-เกล็ดขนมปังปิ้งแค่อุ่นก็พร้อมฟินแล้วครับ
เมนูต่อมาอยู่ในหมวด Foil And Cup Grill ย่างบนเตาถ่านโดยใส่ภาชนะเป็นแผ่นฟลอยด์และถ้วยโลหะที่ช่วยนำความร้อนได้ดีเริ่มต้นกันด้วย "Wagyu Curry Hamburg" เนื้อวัววากิวบดละเอียดผสมหอมหัวใหญ่ไข่ไก่เกล็ดขนมปังปั้นก้อนทรงกลมแบนย่างนาบบนกระทะจนสุกสไตล์แฮมเบิร์กวางบนน้ำแกงกะหรี่ญี่ปุ่นตำรับโฮมเมดรสชาติกลมกล่อมหวานผักนานาชนิดกลิ่นเครื่องเทศปานกลางยิ่งอุ่นร้อนๆช่วยเพิ่มสัมผัสเหนียวเข้มข้นถูกปาก / "Butter Corn" เมล็ดข้าวโพดสีเหลืองแกะออกจากฝักตักทานง่ายหวานฉ่ำปิ้งพร้อมเนยทำจากนมวัวแท้เกรดไร้ไขมันทรานซ์อันตรายต่อสุขภาพแนะนำว่าลองบิดเกลือหิมาลายันสีชมพูบนโต๊ะลงไปอีกหน่อยตัดเค็มเคี้ยวเพลินดี / "Seafood Udon Gratin" อุด้งผัดไวท์ซอสสีขาวผสานเหล่าซีฟู้ดสดใหม่ทั้งกุ้งเด้ง,ปลาหมึกกระดอง,หอยแมลงภู่ชิลีไซส์เล็กๆโรยมอสซาเรลล่า-พาร์เมซานชนิดผงตกแต่งยอดพาสลี่ย์สับละเอียดบรรจุพับใส่แผ่นฟลอยด์ชีสเยอะๆยืดยาวสะใจสไตล์กราแตงฝรั่งเศส คูชิยากิเสียบไม้โรยเกลือพริกไทยดำสั่งแบบรวมหลายอย่างได้แก่ "Gyu Niku" เนื้อวัวสไลซ์บางซ้อนรวมหลายชั้น / "Hotate" หอยเชลล์ฮอกไกโดไซส์ยักษ์เคี้ยวเต็มคำ / "Bara Niku" หมูสามชั้นเสียบรวมหลายแผ่น / "Hoki Shirayaki" ปลาโฮกิเนื้อแน่น นอกนั้นคือวัตถุดิบพื้นฐานทั่วไปอย่าง "Salmon" แซลมอนแล่แบบติดหนัง / "Shime Saba" ปลาซาบะดองเปรี้ยว / "Shiitake" เห็ดหอมสดกับมะเขือเทศเสียบแท่งเหล็กครับ
สำหรับใครมีเพื่อนสมาชิกร่วมโต๊ะไม่ทานเนื้อวัวก็ยังสามารถแวะมาฟินที่ร้าน "Red Panda Yakiniku" ได้อีกหลายอย่างทั้งหมูคุโรบูตะ,ไก่เกรดอนามัยและซีฟู้ดทะเลไซส์ยักษ์อีกเพียบเลือกโดยวันนี้เราเลือกสั่งเมนูใหม่ๆมาลองชิมนั่นก็คือ "Ton Toro Shiodare" คัดเฉพาะส่วนคอหมูของแท้ราคาต่อกิโลกรัมค่อนข้างสูงสีชมพูอ่อนแทรกชั้นไขมันสวยงามเหมือนลายหินอ่อนหมักซอสเกลือกระเทียมสับละเอียดจนเข้าเนื้อย่างจนสุกติดเกรียมส่งกลิ่นหอมสัมผัสเด้งสู้ฟันรับประทานคู่ต้นหอมญี่ปุ่นดองเกลือเนกิดาเระช่วยตัดเลี่ยน / "Bara Asparagus Maki" สามชั้นบริเวณพื้นท้องตัดแต่งให้เนื้อปริมาณสมดุลกับไขมันม้วนพันยอดหน่อไม้ฝรั่งเคี้ยวกรุบกรอบฉ่ำน้ำผักหวานๆตามธรรมชาติ / "Bara Cabbage Maki" สอดไส้ใบกะหล่ำปลีคละก้านเล็กน้อยลวกน้ำร้อนพอนิ่มเพื่อให้จัดทรงม้วนง่ายดีแปลกไม่เหมือนภัตตาคารบุฟเฟ่ต์แห่งอื่นที่เคยรีวิว / "Bara Enoki Maki" พันเห็ดเข็มทองธรรมดาไม่หวือหวาแต่จัดเก็บรัดแน่นช่วยดูดซึมความอูมามิสะสมเอาไว้ข้างในระเบิดอัดแน่นเต็มๆปาก / "Yakitori" สะโพกไก่อนามัยล้วนแล่ติดหนังหมักซอสสูตรพิเศษโรยเกลือสมุทร,พริกไทยดำเสียบไม้จริงได้อารมณ์สไตล์อิซากายะ / "Yakitori Negima" วิธีเตรียมคล้ายจานก่อนเพียงสลับต้นหอมญี่ปุ่นก้านใหญ่ลงไปช่วยเพิ่มรสหวานเมื่อถูกความร้อนตอนปิ้งนั่นเองครับ
สายซีฟู้ดตัวจริงบอกเลยว่าถ้าแวะมาร้าน "Red Panda Yakiniku" รับรองไม่ผิดหวังปกติเขาจัดเสิร์ฟเฉพาะกุ้งขาวไซส์ยักษ์เคี้ยวแน่นเต็มคำปัจจุบันได้พัฒนาคิดค้นเป็นเมนูใหม่ล่าสุดนั่นก็คือ "Mantei Ebi" ดึงหัวผ่าครึ่งตรงกลางเหมือนผีเสื้อพร้อมดึงเส้นสีดำบริเวณสันหลังทิ้งราดซอสเมนไทโกะหรือไข่ปลาค็อดดองรสเผ็ดเค็มผสมมายองเนสหอมมันย่างพอสุกเพียงด้านเดียวเนื้อสัมผัสเด้งสู้ฟันให้อารมณ์สไตล์ญี่ปุ่น / "Kaki Shoyu" หอยนางรมนำเข้าจากเกาะฮอกไกโดขนาดปานกลางราดซีอิ๊วโชยุก่อนยกเสิร์ฟวิธีรับประทานแนะนำต้องย่างแล้วบีบน้ำเลมอนคั้นสดๆลงไปเพื่อตัดเลี่ยนเพิ่มกลิ่นหอมติดใจขอสั่งอีก 10 ตัว / "Debasaki" ปีกกลางไก่โรยเกลือสมุทรกับพริกไทยดำบดธรรมดาต้องใช้เวลาปิ้งนานหน่อยเหมือนปีกไก่ทอดเกลือหนังสีเหลืองกรอบ / "Sankyodai Kushiyaki" เนื้อสัตว์รวม 3 ชนิดสับละเอียดคลุกเคล้าหัวหอมใหญ่และเครื่องเทศสูตรลับปรุงรสชาติปั้นก้อนทรงกลมหน้าตาคล้ายลูกชิ้นทั้งกุ้ง,หมู,เนื้อวัว / "Red Panda Sashimi Salad" ใบผักสลัดรวมหลากหลายชนิดวางใส่ชามก้นลึกท็อปปิ้งปลาแซลมอน,หอยเชลล์โฮตาเตะ,กุ้งแดงอากะเอบิเกรดซาชิมิราดน้ำสลัดโชยุญี่ปุ่นยำสาหร่ายแช่เย็นสดชื่น / "Grilled Seafood Salad" สลัดผักรวมซีฟู้ดย่าง,รากบัวทอดราดน้ำส้มสายชูบัลซามิก,น้ำมันมะกอก,ผงพาร์เมซานชีสครับ
ใครที่ใช้บริการบุฟเฟ่ต์ ณ ภัตตาคาร "Red Panda Yakiniku" หลายครั้งน่าจะทราบกันดีว่าทางร้านเขาไม่ได้มีแค่เนื้อวัววากิวคุณภาพระดับพรีเมียมอย่างเดียวเท่านั้นเพราะยังจัดเต็มทั้งเหล่าซีฟู้ดและซาชิมิต่างๆนำเข้าจากต่างประเทศอีกมากมายแต่ถ้าเลือกไม่ถูกแนะนำให้สั่งเป็น "Sashimi Set" จัดเสิร์ฟชุดขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างสวยงามอลังการสมฐานะประกอบไปด้วยแซลมอนแอตแลนด์ติกเนื้อสีส้มเปล่งประกายแวววาว,แซลมอนโทโร่ส่วนท้องไขมันแตกระเบิดเต็มปาก,ซาบะดองเปรี้ยวลนไฟช่วยเพิ่มกลิ่นหอมหนังกรอบ,อากะเอบิกุ้งแดงหวานไซส์ยักษ์เคี้ยวเต็มคำสะใจ,โฮตาเตะหอยเชลล์ฮอกไกโดแล่บางวางบนเลมอน,ทาโกะหนวดหมึกยักษ์ญี่ปุ่น,ทูน่าอากามิเนื้อแดงไร้มัน,ปูอัดกับไข่หวานเรียงใส่ชามวางบนน้ำแข็งช่วยรักษาความสดใหม่ / "Salmon Usuzukuri Ponzu" สลัดแซลมอนซอสพอนสึผสมมิโซะไซเกียวเปรี้ยวเค็มหวานมันครบทุกรสชาติท็อปปิ้งไข่แซลมอนอิคุระเปลือกเลมอนฝานบางผักอีกนิดหน่อยสไตล์ Fine Dining / "Salmon Yukke" เนื้อปลาสับละเอียดพร้อมเครื่องสมุนไพรไซเกียวมิโซะเจาะไข่แดงโมริทามะเกรดกินดิบปลอดภัยด้านบนคลุกให้เข้ากันก่อนรับประทานอร่อยมากจนต้องขอเบิ้ลอีกหลายจาน / "Aka Ebi Ponzu Tzuke" อากะเอบิสีแดงดองโชยุเค็มเปรี้ยวหวานกุ้งธรรมชาติจิ้มซีฟู้ดอีกหน่อยบอกเลยว่าเด็ดครับผม
เฉพาะลูกค้าที่เลือกบุฟเฟ่ต์ระดับสูงสุด "Art Of Yakiniku" ราคาคนละ 999 บาท++ เท่านั้นถึงจะได้รับสิทธิ์สั่งเมนูใหม่ล่าสุดหมวด "Wa-Shoku" โดยทางร้าน "Red Panda Yakiniku" เลือกใช้เฉพาะข้าวซูชิสายพันธุ์โคชิฮิคาริจุดเด่นอยู่ตรงเมล็ดอ้วนกลมสั้นสัมผัสเหนียวนุ่มสู้ฟันมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวคุณภาพอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่นเพาะปลูกบนภูเขาสูงในจังหวัดนีงาตะปรุงรสชาติด้วยน้ำส้มสายชูพิเศษเปรี้ยวอมหวานกลมกล่อมวางบนสาหร่ายโนริตัดแผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกำลังพอดีคำสไตล์ Temaki (เทมากิ) ท็อปปิ้งเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆรวมกว่า 7 แบบนั่นก็คือ "Salmon Spicy" ซาชิมิปลาแซลมอนหั่นตามแนวยาวเหมือนเส้นโซเมงราดซอสสไปซี่มายองเนส-ไข่แซลมอนอิคุระเผ็ดมันนัวกลมกล่อม / "Nama Aka Ebi" กุ้งสีแดงอากะเอบิตัวยักษ์เนื้อสัมผัสเด้งสู้ฟันผ่ากลางหลังราดซอสเมนไทโกะมาโยหรือไข่ปลาค็อดดองเค็มละมุนลงตัว / "Nama Hotate" หอยเชลล์โฮตาเตะจากเกาะฮอกไกโดไซส์ใหญ่สไลซ์ทาโชยุธรรมดาเพื่อสัมผัสความหวานธรรมชาติ / "Shime Saba Aburi" ปลาซาบะดองน้ำส้มสายชูข้าวเปรี้ยวเค็มเบิร์นไฟช่วยให้หนังกรอบส่งกลิ่นหอมเฉพาะฟุ้งกระจายเต็มปาก / "Unagi Tamago" ปลาไหลย่างซอสสูตรพิเศษห่อไข่หวานย่างคล้ายภัตตาคารชื่อดัง / "Unagi Kabayaki" เนื้อปลาไหลล้วนชิ้นโตย่างถ่านนุ่มฟูเตรียมละลายในปาก / "Nama Wagyu" ยุกเกะวากิวสดไร้ไข่แดงท็อปปิ้งเพิ่งสังเกตว่าฐานทำจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติครับ
อาหารทุกรายการที่เราสั่งไปถูกยกมาเสิร์ฟวางบนโต๊ะครบหมดแล้วได้เวลาเรียกน้องพนักงานช่วยลงเตาสำหรับย่างตรงกลางโดยทางร้าน "Red Panda Yakiniku" เลือกใช้เฉพาะถ่านกะลามะพร้าวชนิดอัดแท่งเกรดบริสุทธิ์ซึ่งเปอร์เซ็นต์ความชื้นต่ำมีจุดเด่นอยู่ตรงการเผาไหม้หมดจดจึงเกิดควันน้อยมากไร้เขม่าสีดำช่วยลดโอกาสก่อมะเร็งไฟรุนแรงสม่ำเสมอสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียสทำให้เนื้อวากิวคุณภาพระดับพรีเมียมสุกเร็วทันใจแต่ยังคงรักษาความนุ่มชุ่มฉ่ำหอมละมุนอบอวลเต็มปากพร้อมระบบท่อดูดควันด้านล่างขนาดใหญ่ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดฝังแน่นตามเส้นผมหรือเสื้อผ้าตัวโปรดของคุณ เคล็ดลับวิธีการปิ้งวัตถุดิบเสียบไม้แนะนำให้คว่ำถ้วยสแตนเลสเอาไว้เพื่อไม่ให้สัมผัสไฟโดยตรงแต่ถ้าขี้เกียจทำเองแนะนำว่าต้องเลือกบุฟเฟ่ต์ "Art Of Yakiniku" ราคาคนละ 999 บาท++ เท่านั้นสามารถแจ้งเชฟช่วยปรุงสุกจากห้องครัวฟรี ทานคู่น้ำจิ้มยากินิคุใส่พริกสด-กระเทียมสับเพิ่มรสเผ็ดแซ่บหรือน้ำจิ้มซีฟู้ดไทยแท้หอมมะนาวจี๊ดจ๊าดถึงใจ ระหว่างรอก็นั่งคีบเครื่องเคียงอื่นเข้าปากพลางๆทั้ง "Tamago Yaki" ไข่หวานม้วนน้ำซุปคัตสึโอะ / "Kani Kamaboko" ปูอัดซาชิมิแป้งน้อย / "Chuka Hotate Hire" ครีบหอยเชลล์ยำซอสงาญี่ปุ่น / "Kurage Kimchi" แมงกะพรุนซอสกิมจิเปรี้ยวหวาน / "Kimchi" กิมจิใบผักกาดขาวล้วนครับผม
ปิดท้ายด้วยขนมหวานเมนูพิเศษเฉพาะที่ร้าน "Red Panda Yakiniku" สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแคชั้น 3 แห่งนี้บุฟเฟ่ต์นักเรียน,นักศึกษาต้องแสดงบัตรประจำตัวและอายุไม่เกิน 22 ปีราคาคนละ 399 บาท++ (จำหน่ายเฉพาะวันจันทร์ถึงพฤหัสบดีตั้งแต่เวลา 10:00-16:00น. เท่านั้น) / ระดับ Standard 469 บาท++ / Premium 699 บาท++ รับทันที "Japanese Melon" เมลอนสายพันธุ์ญี่ปุ่นเปลือกสีเขียวเนื้อนุ่มหวานฉ่ำเสิร์ฟไม่อั้น กดถ่ายรูปแชร์อวดเพื่อนๆพร้อมเช็กอินลงโซเชียลช่องทางไหนก็ได้ยื่นแก่พนักงานเพื่อยืนยันสิทธิ์แลกรับไอศครีมโฮมเมดทำเองแบบเข้มข้นเนื้อสัมผัสเนียนละเอียดฟรีอีกหนึ่งถ้วยจากทั้งหมด 2 รสชาติได้แก่ "Strawberry Cheesecake" ชีสเค้กกลิ่นวานิลลาหอมมันนัวเปรี้ยวอมหวานซอสสตรอว์เบอร์รี่กรุบบัตเตอร์คุกกี้ครัมเบิ้ลอบกรอบอร่อยเด็ดไม่แพ้แบรนด์ชื่อดังๆนำเข้าของต่างประเทศ / "Premium Matcha" ชาเขียวมัทฉะชนิดบดละเอียดบริสุทธิ์เกรดพรีเมียมคุณภาพอันดับหนึ่งแห่งจังหวัดชิซูโอกะผสานนมวัวฝั่งฮอกไกโดเทลงเครื่องผสมรวมกันละลายค่อนข้างเร็วเพราะไร้สารเคมีช่วยรักษารูปทรงระหว่างขนส่งเหมือนโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตักแบ่งใส่ถ้วยรับประทานง่าย ยกเว้น Art Of Yakiniku ราคาหัวละ 999 บาท++ ออเดอร์ได้หมดไร้ข้อจำกัดทุกรายการจนกว่าจะรู้สึกพอใจเลยครับผม
มื้อนี้ผมพาเพื่อนมานั่งฟินด้วยกันรวม 4 คนสั่งอาหารต่างๆไปค่อนข้างเยอะหลายรายการแต่ยังไม่ครบทุกอย่างเอาไว้ครั้งหน้าต้องแวะซ้ำอีกรอบโดยพวกเราเลือกเป็นระดับสูงสุด "Art Of Yakiniku" ราคาหัวละ 999 บาท++ คิดเงินรวมทั้งหมด 4,886 บาท (รวม Vat. 7% / Service Charge 10% / เครื่องดื่มรีฟิล 39 บาทเรียบร้อย) กดเครื่องคำนวณเฉลี่ยท่านละ 1,221.50 สุทธิ ส่วนตัวถือว่าคุ้มค่าเพราะทางร้านอัปเกรดคุณภาพวัตถุดิบพร้อมคิดค้นพัฒนาเมนูใหม่ๆเพื่อลูกค้ามากมายเพื่อตอบโจทย์สายเนื้อวากิวแทรกไขมันลายหินอ่อนและซาชิมิที่ต้องการความสดใหม่ตกแต่งแลดูสวยงามอลังการได้อารมณ์แบบโรงแรมเรียวกังญี่ปุ่นแท้เดินเข้า "Red Panda Yakiniku" รับรองต้องชื่นชอบประทับใจแน่นอน สำหรับแฟนคลับที่รู้ตัวว่ากำลังหลงแบรนด์สุดน่ารักนี้อย่าลืมเปิดแอปพลิเคชั่น Line Official Account สมัครสมาชิกผ่านระบบออนไลน์เพื่อสำรองโต๊ะล่วงหน้า,สะสมคะแนนแลกของรางวัลพรีเมียมครบทุก 800 บาทเท่ากับ 1 แต้มมีทั้งพวงกุญแจทำเอง,กระเป๋าผ้ารักษ์โลก,ร่มพับกันแสงแดดลายพิเศษ,ตุ๊กตาน้องแพนด้าแดงขนาดใหญ่กอดฟรีๆถึงบ้านระยะเวลาร่วมสนุกกิจกรรมจำกัดแค่ปีเดียวเท่านั้น (หมดเขต 01 กุมภาพันธ์ 2568) อร่อยเสิร์ฟรวดเร็วดีงามครบถ้วนทุกด้านยิ่งกว่าเดิมรับคะแนนไปเลย 5 ดาวเต็มครับผม🌟🌟🌟🌟🌟
พิกัด : เดอะมอลล์บางแค ชั้น 3 เลขที่ 518 ถนนเพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดเริ่มตั้งแต่เวลา 10:00-21:00 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)
เบอร์โทรศัพท์ : 098-836-6363
Facebook : https://www.facebook.com/RedPandaYakiniku
ร้าน "Red Panda Yakiniku" มีอีก 2 สาขาทั้ง BTS พญาไท / ดีไซน์วิลเลจเกษตร-นวมินทร์ ใกล้จุดไหนไปลอง
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ
ค่อยตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘