Food Addicts - เสพติดการกิน
รีวิว Yuzuki Izakaya & Sushi Bar สาขาสุรวงศ์ บุฟเฟ่ต์ซูชิไข่หอยเม่น/โอโทโร่ไม่อั้น แต่จ่ายแค่ 1500++
อัปเดตเมื่อ 15 มิ.ย. 2564
วันนี้ได้รับเชิญจากร้าน Yuzuki Izakaya & Sushi Bar ให้เข้ามารีวิวบุฟเฟ่ต์ซูชิระดับพรีเมี่ยม ราคาคนละ 1,500++ โดยจุดเด่นของที่ร้านนี้คือมีไข่หอยเม่นชั้นดี กับโอโทโร่เสิร์ฟไม่อั้น ร้านนี้มี 2 สาขาคือที่สุขุมวิท 26 และสาขาถนนสุรวงศ์ แน่นอนว่าผมต้องเลือกสาขาที่อยู่ใกล้บ้านมากที่สุด แต่พอมาถึงแล้วบอกตามตรงว่าหาร้านแทบไม่เจอ (เปิด Google Map ตามแผนที่มา) ต้องสังเกตป้ายคำว่า All You Can Eat อยู่ตรงตึก Sunshine Place มองป้ายตรงหน้าตึกเห็นเขียนว่า Buffet Premium โอเค แปลว่าอยู่ในตึกนี้แน่นอน เดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านในกันครับ
เดินเข้ามาในตึก Sunshine Place ชั้นล่างสุดและเดินตรงเข้าไปด้านใน จนเกือบทะลุด้านหลังโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน มองไปทางซ้ายมือก็จะพบกับร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งมีผ้าปิดไว้อยู่ร้านเดียวตรงนี้ ด้วยความไม่แน่ใจเลยสอบถามพนักงานในร้านว่าร้านนี้ใช่ Yuzuki หรือไม่เพราะว่าป้ายหน้าร้านไม่มีชื่อบอก ? พนักงานบอกว่าใช่ค่ะเชิญเข้ามาได้เลย เมื่อเข้ามาถึงพนักงานก็จะให้เลือกว่าจะนั่งตรงบาร์ซูชิ ที่เห็นเชฟกำลังปั้นทำซูชิให้เราทานสดๆคำต่อคำหรือว่าที่โต๊ะใหญ่ดี ? เลยวันนี้ผมเลือกนั่งตรงบริเวณโต๊ะแล้วกัน เวลานี้ไม่มีลูกค้าสักคน ถ่ายรูปสะดวกดีครับ
โดยเมนูซูชิที่เราจะมาลุยกันวันนี้เป็นแบบ All You Can Eat (แบบ A La Carte ก็มีให้บริการเช่นเดียวกัน) ราคา 1,500 บาท++ นั่งทานได้ทั้งหมด 1 ชั่วโมงเต็ม (ส่วนตัวคิดว่าให้เวลาน้อยไปหน่อยน่าจะให้ประมาณสัก 90 นาทีกำลังดีเหมือนร้านคู่แข่ง) โดยมี First Order ให้ทานทั้งหมด 7 เมนู โดยหนึ่งคนจะได้รับ 1 เซตเป็นปกติอยู่แล้ว จุดเด่นของเซตแรกนี้คือมีไข่หอยเม่นให้ทาน ส่วนเมนูที่เป็นบุฟเฟ่ต์สั่งได้เรื่อยๆนั้นก็จะมีตั้งแต่โอโทโร่ ชูโทโร่และวัตถุดิบ premium อื่นๆอีก สั่งได้ไม่อั้น และหน้าหลังเป็นซูชิโรล/ยําปลาแซลมอน/ยำปูอัด/สลัดเต้าหู้และของทานเล่นต่างๆรวมไปถึงของหวานอย่างแตงโมเย็นๆและน้ำชาเขียวก็รวมในบุฟเฟ่ต์แล้วเรียบร้อยนั่งดื่มได้เรื่อยๆครับ
เมื่อเรามาถึงก็ไม่รอช้า เชฟเริ่มลงมือทำเมนูต่างๆที่เราสั่งเอาไว้ โดยสังเกตจากวัตถุดิบต่างๆภายในตู้แล้วถือว่าคุณภาพเยี่ยมสมราคาเลยทีเดียว โดยเฉพาะปลามากุโร่ที่นี่ใช้แบบเต็มชิ้น เป็นบลูฟินทูน่าแท้ 100% (ทางร้านยืนยันมาว่าแบบนั้น) เนื้อปลาชนิดต่างๆถูกตัดให้สวยงามบรรจงเสิร์ฟ ทีเด็ดสุดก็คงจะเป็นไข่หอยเม่นสีเหลืองทอง ที่เปิดกล่องใหม่มาให้เราได้ชมกัน นำเข้าจากญี่ปุ่นแน่นอน แต่จะเป็นภูมิภาคไหนรสชาติเป็นยังไง ? แต่ละพื้นที่จะมีความเป็นเอกลักษณ์ในรสชาติไม่เหมือนกัน ส่วนตัวไม่เคยเห็นกล่องไข่หอยเม่นยี่ห้อนี้มาก่อน เดี๋ยวค่อยไปชิมดูกันครับ
7 เมนูแรกมาเสิร์ฟแล้วครับ เริ่มจากเมนูแรกเป็นซาซิมิรวม มีให้เลือกทานตั้งแต่ปลาฮามาจิเสิร์ฟมาชิ้นหนาไขมันเพียบ/ปลาแซลมอนเนื้อลายสวย/ทูน่าส่วนเนื้อแดงอาคามิและปลาซาบะดองลนไฟ คุณภาพสดหวานทุกคำ แต่ถูกใจที่สุดคงจะเป็นปลาซาบะดองลนไฟนี่แหละ หนังกรอบหอมอร่อยเข้ากับความเปรี้ยวหวานของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี เมนูที่ 2 เป็นซูชิโรลที่ใส่แต่ของคุณภาพพรีเมี่ยมอย่างไข่ปลาแซลมอน/ไข่หอยเม่นและโทโร่สับปรุงรส รวมของพรีเมี่ยมที่สุดในร้านเอาไว้ใน 1 จาน และความพรีเมี่ยมยังไม่หมดแค่นั้นไข่หอยเม่นที่เราเห็นเมื่อกี้ถูกนำมาเสิร์ฟเป็นซูชิ ถ้าเมนูนี้อยู่ในร้านข้างนอกไม่ต่ำกว่าคำละ 500 บาทอย่างแน่นอน!!! เมนูถัดมาเสิร์ฟมาทีเดียว 2 เมนูใน 1 จาน เป็นโอโทโร่ท๊อปปิ้งด้วยไข่หอยเม่นและคาเวียร์/หอยเชลล์ญี่ปุ่นราดด้วยซอสเมนไทโกะและคาเวียร์ลนไฟ ช่วยเพิ่มนวลกลมกล่อมเวลาเคี้ยวเป็นอย่างดี และ 2 เมนูสุดท้ายเป็นเนื้อนิวซีแลนด์ย่างซอสมิโซะ/กราแตงปู กราแตงปูใส่เส้นมักกะโรนีรสชาติหอมมันชีส มีเนื้อปูผสมอยู่เล็กน้อย แต่เมนูที่อร่อยเกินคาดก็คือเนื้อนิวซีแลนด์ย่างมิโซะนั่นแหละ รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นไขมันวัวและมิโสะ ยิ่งทานกับเห็ดออรินจิช่วยเพิ่มความสดชื่น เข้ากันได้เป็นอย่างดี สำหรับเซตเมนูที่ทางร้านเสิร์ฟให้ทุกคน 1 ที่ต่อ 1 คนถือว่าอร่อยและคุ้มค่ามากครับ (ถ้าทานร้านอื่นวัตถุดิบต่างๆที่เสิร์ฟมาให้ก็ราคาเกือบเท่าบุฟเฟ่ต์ของร้านนี้แล้ว) ต่อจากนี้จะเป็นเมนูที่เราสามารถสั่งได้ไม่อั้นตลอด 1 ชม. กันครับ
ชุดแรกจะเป็นเหล่าปลามากุโร่ส่วนต่างๆ เริ่มจากเมนูแรกที่ใครๆพุ่งเป้าเพื่อจะเข้ามาทานที่ร้านนี้ ซูชิโอโทโร่เนื้อสีชมพู แทรกไขมันสวยงามเป็นลายหินอ่อน ส่วนชูโทโร่ที่มีความเป็นเนื้อแทรกไขมันกำลังดี (มีรสชาติปลาที่มากกว่า) และส่วนเนื้อแดงล้วนอย่างอาคามิรสชาติเข้มข้นเนื้อปลาแบบเต็มๆ และเมนูพิเศษอีกอย่างของที่ร้านนี้ คือเนื้อแดงอาคามิท็อปด้วยโทโร่สับ ด้านบนสุดเป็นวาซาบิดอง ช่วยเพิ่มไขมันรสชาติปลาลงไปจากเนื้อแดงปกติ และตัดเลี่ยนด้วยวาซาบิดอง ที่มีความฉุนอมเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นอีกเมนูหนึ่งที่แนะนำให้สั่งลองสั่งมาชิมดูครับ รสชาติลงตัวจริงๆ
ชุดที่ 2 เริ่มจากซูชิหน้าโทโร่สับปรุงรส เป็นปลามากุโร่สับผสมทั้งส่วนเนื้อและส่วนมัน โรยหน้าด้วยต้นหอมช่วยทำให้สดชื่นเวลาเคี้ยวในปาก ต่อกันด้วยซูชิหน้าปลาไหลน้ำจืดญี่ปุ่นย่าง ลนไฟมากรอบนอก เนื้อในเด้งชุ่มฉ่ำราดซอสมาหวานนิดๆไม่ต้องจิ้มโชยุก็อร่อยลงตัวแล้วครับ และของโปรดอีกอย่างที่ผมชอบคือซูชิหน้าปลาไหลทะเล (ส่วนใหญ่ในไทยไม่ค่อยจะเห็นนำปลาชนิดนี้มาทำเป็นบุฟเฟ่ต์เท่าไหร่) ปลาจะมีความมันน้อยและนุ่มเด้งของเนื้อปลาน้อยกว่าปลาไหลน้ำจืด) แต่ส่วนตัวแล้วชอบมากกว่าครับทานง่ายดี เข้าปากปุ๊บละลายปั๊บไม่ต้องออกแรงเคี้ยวมาก ลนไฟมาหอม ซอสหวานอร่อย และใครที่ชอบทานปลามีไขมันมากเป็นพิเศษ ต้องนี่เลยซูชิหน้าเอ็นกาวะชิิ้นโต เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสปรุงรสด้านบนออกเปรี้ยวๆ ช่วยตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี แต่ยังไงกินไปเยอะๆก็ยังรู้สึกเลี่ยนอยู่ดีนะ
ใครที่เป็นสาวกปลาสีส้ม ซูชิหน้าปลาแซลมอนที่นี่ก็ถือว่าอร่อยเนื้อแทรกไขมันดี ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน และอีกหนึ่งเมนูราคาแพงที่ทางร้านใช้นำมาเสิร์ฟคือซูชิหน้าฟัวกราลนไฟ ที่ไม่มีการพันด้วยสาหร่ายแต่อย่างใด เป็น การนำตับห่านชิ้นใหญ่ มาวางบนข้าวซูชิขนาดกำลังดี จากนั้นนำไปลนไฟจนกรอบนอกด้านในฉ่ำ จากนั้นราดด้วยซอสรสหวานหอมกลิ่นโชยุ ใครที่เป็นสาวกฟัวกรา ต้องหลงรักร้านนี้อย่างแน่นอนเพราะนอกจากจะอร่อยเต็มคำแล้ว ยังไม่มีรสชาติของสาหร่ายมากวนแต่อย่างใด เมนูถัดมามองอยู่ตั้งนานว่ามันคือปลาอะไร ? เชฟบอกว่ามันคือปลาฮามาจินั่นแหละ แต่ว่าที่นี่มีการตัดแต่งไม่เหมือนกับที่อื่นเลยไม่มีขอบสีแดงมาให้เห็นด้วย แต่ความมันของปลาและรสชาติก็คือปลาฮามาจิชั้นดีนี่แหละ ใครที่อยากทานซูชิหน้าธรรมดาพื้นฐานบ้าง ที่นี่ก็มีให้เลือกเช่นเดียวกันทั้งซูชิหน้าหอยปีกนกที่มีความกรุบกรอบเวลาเคี้ยว และซูชิหน้าปลาซาบะดองที่ทางร้านบอกว่าเป็นคนลงมือแล่และดองปลาด้วยตัวเอง รสชาติของเนื้อปลาเปรี้ยวอมหวานและมีความหอมไขมันปลากำลังดี แต่ส่วนตัวแล้วชอบแบบลนไฟที่เสิร์ฟในเมนูชุดแรกมากกว่า เพราะกลิ่นไขมันปลาที่ชัด/ความหอมไหม้/หนังกรอบนิดๆ อร่อยไม่เหมือนที่ไหนดีครับ
ต่อกันด้วยซูชิหน้าหมึกทาโกะ ที่ร้านใช้ปลาหมึกชิ้นใหญ่แต่หั่นมาบาง เคี้ยวกรุบกรอบเนื้อฉ่ำน้ำเล็กน้อยกำลังดี ตามด้วยซูชิหน้าไข่หวาน ที่หอมกลิ่นน้ำซุปปลา รสหวานอ่อนๆกลมกล่อมดีครับ และอีก 1 เมนูซูชิพรีเมี่ยมได้แก่ ซูชิหน้าไข่ปลาแซลมอน ที่ร้านนี้ก็มีวิธีการเสิร์ฟไม่เหมือนใคร นำข้าวซูชิมาปั้นเป็นก้อน รองด้วยสาหร่ายแห้ง และราดด้วยไข่ปลาแซลมอนลงไปด้านบนแบบเยิ้มๆ โดยไข่ปลาแซลมอนของที่นี่เป็นแบบดองโชยุ เม็ดเล็กแต่เนื้อสัมผัสค่อนข้างแน่นต้องลงแรงเวลาเคี้ยวเพื่อให้ไข่ปลาแตกออกมาในปาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดองแบบพิเศษเหมือนร้านอื่นๆที่เคยทานมาก่อนหน้านี้แต่ก็ถือว่าคุณภาพเยี่ยมเลยครับ และเมนูซูชิจานสุดท้ายเป็นซูชิหอยเชลล์โฮตาเตะ โดยทางร้านใช้หอยเชลล์ทั้งตัว ผ่าครึ่งตรงกลงและวางไว้บนหน้าข้าว เคี้ยวหนึ่งคำได้สัมผัสเนื้อหอยที่รสหวานแบบเต็มๆคำดีครับ
หมดไปแล้วกลับเมนูซูชิที่เป็นนิกิริ ต่อกันด้วยซูชิแบบโรล ที่ไส้ด้านในจะเป็นปูอัด/ไข่หวานและแตงกวาสดทุกชิ้น เปลี่ยนแค่ท็อปปิ้งโดยเมนูแรกเป็นเอนกาวะลนไฟท๊อบปิ้งด้วยซอสเปรี้ยวแบบเดียวกับนิกิริจานแรก เมนูถัดมาเป็นโรลซูชิที่พิเศษแตกต่างจากหน้าอื่น ซูชิโรลหน้าแซลมอนลนไฟราดด้วยซอสสไปซี่สูตรของที่ร้าน (ซอสสไปซี่ของที่ร้านนี้มีกลิ่นคล้ายๆมินต์ผสมอยู่เล็กน้อยทานแล้วสดชื่น ไม่เหมือนร้านอื่นดีครับ) ต่อกันด้วยซูชิโรลแซลมอนแบบปกติไม่ได้พิเศษอะไร และซูชิโรลหน้าปลาไหลญี่ปุ่นซึ่งรสชาติไม่แตกต่างจากซูชิปลาไหลแบบนิกิริเมื่อกี้เลย ถ้าให้เราแนะนำ จะบอกว่าให้สั่งซูชิปลาไหลนิกิริดีกว่า เพราะว่าเป็นแบบโรลนั้นคำค่อนข้างใหญ่ ไส้แน่น ทำให้อิ่มเร็วไปหน่อย
อาหารมาเต็มโต๊ะแล้ว ได้เวลาชิมเมนูเด็ดของที่นี่ได้แก่ซูชิหน้าไข่หอยเม่น ไข่หอยเม่นที่นี่ไม่เหมือนกับที่ร้านอื่นตรงที่มีความมันหอม แต่รสชาติไม่ค่อยหวาน มีกลิ่นน้ำทะเลเล็กน้อย ใครที่ชอบทานไข่หอยเม่นสัมผัสแบบคัสตาร์ดที่นี่รับรองว่าถูกใจอย่างแน่นอน ตามมาด้วยซูชิหน้าโอโทโร่ที่ทางร้านบอกว่าใช้บลูฟินทูน่าแท้ อันนี้พอชิมมเข้าไปต้องยอมรับเลยว่าใช้ของจริงแน่นอน เพราะไขมันหอมละลายในปาก ไม่มีกลิ่นสาบคาวเลือด ทานได้เยอะกว่าร้านซูชิพรีเมี่ยมที่เป็นคู่แข่ง กลิ่นของไขมันมีความสดชื่นมากกว่า ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าไขมันที่นี่ไม่ค่อยทำให้จุกอกเท่าไหร่ ทานได้มากกว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะใช้บลูฟินทูน่าเหมือนกันแต่คนละน่านน้ำหรือไม่(กลิ่นไขมันคนละแบบ) ส่วนใครที่รู้สึกว่ามันเลี่ยนเกินไปหน่อย แต่อยากทานซูชิแบบพรีเมี่ยมแนะนำให้สั่งเป็นซูชิส่วนชูโทโร่ ที่มีไขมันแทรกเล็กน้อยมีรสของปลามากุโร่อัดแน่น ทานได้เรื่อยๆไม่ค่อยรู้สึกเลี่ยนมาก ซูชิไข่ปลาแซลมอนอย่างที่บอกไปแล้วว่าที่นี่ใช้ไข่ปลาลูกเล็กคล้ายๆกับที่ญี่ปุ่น มีสัมผัสในการเคี้ยวที่ค่อนข้างเหนียวหนึบกว่า แต่ดองมาด้วยโชยุจะมีความเค็มนำมากกว่าร้านอื่น ถ้าใครไม่ชอบทานไข่ปลาที่มีความเค็มมากนัก ที่นี่อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ซูชิหน้าโทโร่สับเป็นเนื้อปลาสับปรุงรสโรยหน้าด้วยต้นหอม มีความมันเลี่ยนอยู่ในตัว แต่พอกัดต้นหอมเข้าไปทำให้รู้สึกสดชื่นและทานได้เรื่อยๆครับ
หากทานเมนูซูชิและของดิบไปนานๆจนรู้สึกว่าร่างกายเริ่มไม่ไหว ทางร้านก็ยังมีเมนูอาหารร้อนให้ช่วยตัดความเลี่ยนได้อีกด้วยเริ่มจากเมนูปลาไข่ย่างตัวเล็กแต่เนื้อแน่นไข่อัดแน่นเต็มท้อง ก่อนทานบีบด้วยน้ำมะนาวช่วยตัดความเลี่ยนอีกเล็กน้อยอร่อยกรอบดีครับ ปลาซาบะย่างเกลือก่อนทานบีบมะนาวลงไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติ ปลาเนื้อมันหนังด้านนอกกรอบ ทานได้เพลินๆ แต่สำหรับคนไทยที่ชีวิตขาดความแซ่บไม่ได้ หรือจะสั่งมาไว้เป็นของแกล้มแก้เลี่ยนทางร้านก็มียำให้เลือกถึง 2 เมนูคือยําปลาแซลมอนและยำปูอัด ที่ใส่หอมใหญ่มาให้ค่อนข้างเยอะ (ส่วนตัวแล้วคิดว่าลดปริมาณหอมใหญ่ลงหน่อยก็ได้เพราะทานแล้วรู้สึกฉุนไปหน่อย) แต่โดยรวมแล้วก็รู้สึกว่าอร่อยแซ่บดีครับ
เมนูสามัญประจำร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างยำสาหร่ายเย็นๆโรยหน้าด้วยไข่กุ้ง รสชาติหวานนำ หอมกลิ่นสาหร่าย เคี้ยวกรุบกรอบเย็นๆ ถั่วแระญี่ปุ่นนึ่งโรยเกลือรสชาติหวานมันทานได้เพลินๆ ซุปมิโซะที่ใส่สาหร่ายและเต้าหู้มาให้สดร้อนๆช่วยเพิ่มพลังในการกินได้อีกเยอะ เมื่ออิ่มแล้วของหวานของที่ร้านนี้คือแตงโมชิ้นใหญ่ เสิร์ฟมาเย็นๆสั่งได้เรื่อยๆ เป็นขนมหวานปิดท้ายง่ายๆแต่ว่าช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นได้ดีเลยครับ สำหรับความอร่อยของร้าน เรียกได้ว่าใช้วัตถุดิบคุณภาพดี มีเมนูให้เลือกค่อนข้างเยอะแถมมีของหวานปิดท้ายให้ด้วย(อีกร้านไม่มีอันนี้ชอบมาก)แต่ข้อเสียก็มีอยู่เหมือนกัน รู้สึกว่าให้เวลาค่อนข้างน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แถมขายราคาสูงกว่า ถ้าปรับปรุงเรื่องเวลาให้เพิ่มอีกนิดจะช่วยให้ทานมื้อนี้ได้อย่างมีความสุขมากขึ้นครับ เอาคะแนนความอร่อยไปเลย 4 ดาวจ้า 🌟🌟🌟🌟

พิกัด : อาคาร Sunshine Place ชั้นใต้ดิน ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เปิดทุกวัน 12.00 - 14.00 น. และ 17.00 - 22.00 น. (ปิดทุกวันอาทิตย์) สาขาสุขุมวิท 26 ปิดทุกวันจันทร์
กรุณาโทรสำรองที่นั่งก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้งที่เบอร์ 095-456-4821
Facebook : https://www.facebook.com/YUZUKIsushibar/
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘