Food Addicts - เสพติดการกิน
รีวิวร้าน Umeno Cafe บุฟเฟ่ต์อาหาร-ของหวานที่มีวัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นเต้าหู้ แต่รสชาติออกมาดีเกินคาด !
อัปเดตเมื่อ 15 มิ.ย. 2564
ร้าน Umeno Cafe เอาจริงๆ ตอนแรกไม่ได้เป็นร้านที่น่าสนใจเลยเพราะว่าเมนูหลายอย่างทำด้วยเต้าหู้เกือบทั้งหมด (ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ได้โปรดปรานเต้าหู้เท่าไหร่) แต่พอมาอ่านรีวิวใน Hungry Hub คะแนนรีวิวกลับค่อนข้างดีมาก แปลว่ารสชาติต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และด้วยความที่ร้านอยู่ใกล้บ้าน (Silom Complex) เลยตัดสินใจจองและเดินทางไปชิมกันครับ (มัวแต่ดองรีวิวไว้นานมากจนสาขานี้ยกเลิกทำบุฟเฟ่ต์ไปแล้ว หากใครอยากทานก็ใช้บริการที่สาขาเมกะบางนาแทนนะครับ) ดูเมนูก่อนเข้าไปทานที่ร้านได้ที่ลิงค์นี้ https://bit.ly/2HTA9XA

เมื่อมาถึงแล้วยอมรับตามตรงเลยว่าหาร้านไม่เจอ เดินหาจนทั่วห้าง เลยต้องโทรถามว่าพนักงานที่ร้านว่า ร้านอยู่ตรงไหนกันแน่? เมื่อมาถึงหน้าร้านแล้วบอกเลยว่าป้ายร้านเล็กมากมองผ่านๆนึกว่าเป็นร้านกาแฟธรรมดา แต่มีป้ายเขียนว่า Umeno Cafe ถ้าเห็นรูปคุณกระต่ายอยู่แปลว่ามาถูกร้านแล้วครับ หายากมาก ! เดินจนเหนื่อยเลย
เดินเข้ามาถึงในร้านพนักงานถามว่าจะทานบุฟเฟ่ต์ราคาไหนดีคะ? เริ่มต้นที่ 599 บาท ได้ทานทุกเมนูในร้านยกเว้นซูชิ ซาซิมิและข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนเครื่องดื่มจะได้เป็นน้ำเปล่าอย่างเดียว แต่ถ้าจ่ายราคา 950 บาทจะได้รับประทานทุกอย่างภายในร้านพร้อมเครื่องดื่มที่หลากหลายมากกว่า สามารถทานได้ไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม แต่วันนี้ผมอยากลองเมนูเต้าหู้ของที่ร้านมากกว่าครับเลยสั่งแค่ 599 บาทก็พอ สั่งอาหารไปแล้วพนักงานยกน้ำดื่มมาเสิร์ฟขวดน้ำน่ารักดีครับและอุปกรณ์การทานมื้อนี้ก็ถูกยกออกมาตามลำดับ ไม่ชอบที่ร้านใช้ตะเกียบไม้แบบนี้เลย น่าจะใช้แบบแกะใหม่แล้วทิ้งแบบร้านอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ ดูจะถูกสุขอนามัยมากกว่านำตะเกียบไม้มาวนใช้แบบนี้นะ
เมนูแรก คาปาลินี่เย็นซาชิมิ สปาเก็ตตี้เส้นเล็ก โป๊ะหน้าด้วยซาชิมิแซลมอน ทูน่า ปลาหมึก โรยหน้าด้วยสาหร่ายเส้น ไข่แซลมอน และวาซาบิ ทานคู่กับซอสโซบะรสเค็มหวาน หอมกลิ่นปลาโอและโชยุ อร่อยสดชื่นดีครับ ตามมาด้วยยําปลาหมึกรสจัด เป็นปลาหมึกยักษ์ญี่ปุ่นนำมายำใส่เครื่องพริกสดและกระเทียมแบบเต็มๆ แต่รสชาติกลางๆไม่ได้เปรี้ยวเผ็ดแซ่บอย่างหน้าตาที่เห็น เต้าหู้ปลาทอดสไตล์ฟุกุโอกะ ทอดมาร้อนๆ เนื้อปลาแน่นเคี้ยวหนึบอร่อยดีครับ ( แต่ทั้ง 3 เมนูนี้ก็ถูกตัดออกจากบุฟเฟ่ต์ไปแล้วครับ ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร แต่น่าเสียดายมากๆ )
เมนูต่อไป D.I.Y Yuba ชุดทําฟองเต้าหู้สด โดยทางร้านนำน้ำเต้าหู้เข้มข้นมาต้มในอุณหภูมิต่ำจนเกิดเป็นฟองเต้าหู้แผ่นสวยงาม จากนั้นเมื่อจะทานก็คีบใส่ชาม ปรุงรสด้วยงาขาว ขิงบดและซอสซีอิ๊วได้ตามใจชอบ หรือจะใช้ช้อนตักทานน้ำเต้าหู้เปล่าๆ ก็รสชาติเข้มข้นสะใจดีครับ มีความหอมของเต้าหู้ (แต่ไม่มีกลิ่นเหม็นสาบของถั่วเหลือง) รสชาติหวานอ่อนๆตามธรรมชาติ (พนักงานบอกว่าความหวานของเต้าหู้ที่นี่ไม่ได้ใส่น้ำตาลเพิ่มเติมแต่อย่างใด) แปลกและอร่อยดีครับ ไม่เคยทานแบบนี้มาก่อน เปิดประสบการณ์ใหม่สุดๆ สมกับเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน
ฟองเต้าหู้ห่อชีสทอด เป็นการนำฟองเต้าหู้ มาห่อด้วยมอสซาเรลล่าชีส ทอดจนเหลืองกรอบ ทานคู่กับมายองเนสหรือซอสมะเขือเทศ อร่อยได้อารมณ์แบบ Fast Food ดีครับ (เมนูนี้ปัจจุบันไม่มีบริการในบุฟเฟ่ต์เช่นเดียวกัน) และเมนูอาหารเซตในบุฟเฟ่ต์มื้อนี้ผมสั่งมาเป็น เชตซุปสุกี้หมู ในชุดประกอบไปด้วยสุกี้หมูสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมหมูสไลด์บางและเต้าหู้ต้มจนเข้าเนื้อ รสชาติหวานเค็มอร่อย มาพร้อมกับไข่ออนเซ็น ซุปมิโซะใส่ฟองเต้าหู้ สลัดเต้าหู้ และข้าวสวยญี่ปุ่นอีก 1 ถ้วยครับ ถ้าคนปกติเจอเซตนี้เข้าไปก็คงจอดแล้ว แต่สำหรับเรานั้นทำอะไรไม่ได้ ลุยต่อเลย
ต่อกันด้วยของทานเล่นอย่างเกี๊ยวซ่า รสชาติค่อนข้างผิดหวังไปหน่อย เพราะด้านในเป็นไส้หมูและกุ้ยช่ายเนื้อโปร่งๆ ทอดมากรอบแค่ด้านเดียว ทานกับซอสรสเค็มหวานใสๆรสชาติแปลกๆ เหมือนกำลังทานเกี๊ยวซ่าแช่แข็งสำเร็จรูปทั่วไป จานนี้ผมไม่ให้ผ่านครับ ข้าวหน้าหมูไข่ออนเซ็น ตอนแรกนึกว่าจะได้ทานแค่ข้าวหน้าหมูต้มซีอิ๊วธรรมดาแบบร้านทั่วไป แต่สังเกตดูดีๆก็ดันมีเต้าหู้ผสมมาอีกด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ารสชาติไม่อร่อยแต่อย่างใด ความมันของเต้าหู้ผสมกับซอสรสหวานหอมของเนื้อหมู เข้ากันได้ดีกับข้าวสวยและไข่ออนเซ็น อร่อยดีครับ
ตามมาด้วยสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าครีมโทนิ ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันว่าเจ้าครีมโทนิ นี่คืออะไร? พอได้ลองทานดูก็รู้แล้ว ว่ามันคือน้ำเต้าหู้แบบเข้มข้นใช้แทนวิปปิ้งครีมจากสูตรปกตินั่นเอง รสชาติของสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าจานนี้จึงมีความหอมมันแต่สดชื่น ไม่หนักหน่วงเท่าสูตรแบบปกติ ใส่เบคอนและแฮมมาเยอะสะใจ เส้นสุกกำลังดี จึงทำให้ทานหมดได้อย่างรวดเร็ว แต่ส่วนตัวแล้วก็ชอบคาโบนาร่าแบบปกติมากกว่าครับ นั่งทานไปเรื่อยๆพนักงานบอกว่าตอนนี้เต้าหู้สดได้ที่แล้ว นั่นคือเมนูชุดทำเต้าหู้สดพร้อมซอสมาโบ โดยตอนแรกนั้นจะเป็นน้ำเต้าหู้เปล่าๆรสชาติเข้มข้นแบบเดียวกับที่เราทานฟองเต้าหู้เมื่อกี้ นำมาใส่สารบางอย่างเพื่อทำให้เกิดเป็นเต้าหู้รสชาติหวานเนียนละมุน และนำมาปรุงรสด้วยงาขาวขิงสดและซอสมาโบรสเค็ม ตอนนี้ก็อร่อยอีกแล้วสมกับเป็น Signature ของที่ร้านจริงๆ
ของคาวเมนูสุดท้ายของมื้อนี้ ข้าวเต้าหู้แฮมเบิร์กซอสเดมิกลาสไข่ออนเซ็น ตอนแรกก็ไม่กล้าสั่ง กลัวจะไม่อร่อย แต่ก็อยากลองไหนๆก็มาแล้ว เมื่อยกมาเสิร์ฟ มันคือข้าวหน้าแฮมเบิร์กหมูปกติ แต่ผสมเต้าหู้ ทานกับเดมิกลาสซอสรสเข้มข้น และตัดความเข้มข้นด้วยไข่ออนเซ็น แฮมเบอร์เกอร์เนื้อนุ่ม ผสมความหอมมันของเต้าหู้และเนื้อหมูบด ทานกับข้าวสวยและซอสร้อนๆอร่อยมากครับ เรียกได้ว่าเป็นจานที่ดีเกินคาดจริงๆ ไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้
เพราะที่ร้าน Umeno Cafe มีอีกอย่างนึงที่ขึ้นชื่อคือของหวาน เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเก็บกระเพาะส่วนหนึ่งเอาไว้กินด้วย เริ่มต้นเมนูแรก โทนิวคัสตาร์ตผงน้ำตาลทรายแดงญี่ปุ่น มันคือน้ำเต้าหู้ผสมกับคัสตาร์ดและโรยหน้าด้วยน้ำตาลทรายแดงและซอสน้ำตาลทรายแดงญี่ปุ่น ได้อารมณ์เหมือนกำลังทานขนมเต้าหู้ญี่ปุ่นที่มีความนุ่มเนียน สัมผัสเย็น รสหวานหอมสดชื่น ไหลลื่นลงคอ อร่อยมากครับ ตามมาด้วยอัฟกาโต้ไอศครีมโทนิว ซอสมัจฉะ หรือพูดง่ายๆคือไอศครีมรสเต้าหู้ ราดด้วยซอสมัทฉะแบบเข้มข้น เหมือนจะผสมไวท์ช็อกโกแลตลงไปในซอสด้วย เพราะเมื่อราดลงบนไอศครีมแล้วมีการเคลือบตัวแข็งทำให้ได้รสสัมผัสกรอบอร่อยหอมกลิ่นชาเขียวและเต้าหู้ ดีมากครับ
มาทานของหวานกันต่อด้วยเมนู พาเฟ่ต์วาราบิโมจิ ไอศครีมโทนิว เป็นไอศครีมรสเต้าหู้ทานกับวาราบิโมจิ (โมจิเคลือบผงถั่ว) และถั่วแดงบด รสหวานกำลังดี เข้ากันได้อย่างลงตัว พาเฟ่ต์พุดดิ้งมิเนโอกะ ไอศครีมมัจฉะ ด้านล่างเป็นพุดดิ้งรสเต้าหู้ผสมกับคอร์นเฟลกส์ สตอเบอรี่สด และถั่วแดงบด ทานพร้อมกับไอศครีมรสชาเขียวมัทฉะ ได้หลายสัมผัสในถ้วยเดียว พาเฟ่ต์คัสตาร์ตโทนิว ไอศครีมวานิลลา ด้านล่างของแก้วเป็นครีมรถเต้าหู้ผสมกับซอสสตอเบอร์รี่ใส่กีวีสดและสตอเบอรี่สดด้านบนทานกับไอศกรีมวนิลาให้ความหอมมัน ตัดรสเปรี้ยวจากผลไม้เล็กน้อยสดชื่นดีครับ (ทั้ง 3 เมนูนี้ถูกตัดออกจากรายการบุฟเฟ่ต์ไปแล้วครับ) เมนูสุดท้ายนี่รอนานมาก ครีมชีสผงคินาโกะ-โทนิวครีมชีสผงมัจฉะ-โทนิวครีมชีสผมช๊อกโก้ ทานกับซอสทั้ง 3 แบบ หน้าตาค่อนข้างสวยงาม ถ่ายรูปแล้วชิมกัน
ทั้ง 3 คือครีมเต้าหู้ผสมครีมชีส อันแรกเป็นการโรยด้วยผงถั่วเหลืองญี่ปุ่น ทานคู่กับซอสน้ำตาลดำ ให้ความเย็นหอมมันตัดเปรี้ยวเล็กน้อย อันที่ 2 โรยหน้าด้วยมัทฉะชาเขียวเข้มข้น และราดด้วยซอสชาเขียวอีกครั้งหนึ่ง ให้ความหอมมันรสชาเขียวเต็มๆปาก ส่วนเมนูสุดท้ายโรยหน้าด้วยโกโก้ทานกับนมข้นหวาน อย่างสุดท้ายนี้รู้สึกว่าจะหวานเลี่ยนไปหน่อยความเปรี้ยวของครีมชีสไม่เข้ากันกับรสชาติของโกโก้เลยรู้สึกค่อนข้างแปลกประหลาดไปนิด
(ปัจจุบันทั้ง 3 เมนูนี้ยังสามารถสั่งได้เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเงื่อนไขเป็น 1 คนสั่งได้ 1 ถ้วย เท่านั้น น่าเสียดายจริงๆ)

สรุปร้าน Umeno Cafe วันนี้สั่งไปทั้งหมด 19 เมนู แต่จ่ายไปแค่ 1,198 บาท ถามว่าร้านนี้อาหารรสชาติเป็นอย่างไรบ้าง ก็ค่อนข้างอร่อยครับ แต่คนที่ไม่ชอบทานเต้าหู้ อาจจะไม่ปลื้มนัก เพราะเกือบทุกเมนูมีเต้าหู้ผสมด้วย ทำให้คนที่ทานได้น้อยอยู่แล้วอาจจะทานได้น้อยลงไปอีก (แต่มื้อนี้เราก็กินไปเยอะนะ) น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สาขานี้ยุบบุฟเฟ่ต์ออกไป และมีการปรับเปลี่ยนตัดออกไปหลายเมนูเยอะอยู่เหมือนกัน สำหรับผมร้านนี้คงจะไม่ซ้ำครับ ไม่ใช่ว่าไม่อร่อยนะ แต่เป็นคนไม่อินกับเต้าหู้มากกว่า เก็บกระเพาะไว้กินของที่อร่อยและแพงกว่านี้ดีกว่าเนอะ สำหรับวันนี้เอาไป 4 ดาวครับผม 🌟🌟🌟🌟
พิกัด : Silom Complex ชั้นใต้ดิน ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เปิดทุกวัน 10.30 - 22.00 น. โทร.02-231-3168
Facebook : https://www.facebook.com/umenocafe/
อ่านแล้วถูกใจ อย่าลืมกดไลค์เพจของเราด้วยที่นี่ >https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/< และอย่าลืมกด See First จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่สนุกๆแบบนี้ของเรานะ 😘😘😘