top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนFood Addicts - เสพติดการกิน

รีวิว "ภัตตาคารทองฟู" (ท่าพระ) บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ/อาหารจีนเสฉวน 30 เมนู 499 ฿+ มา 5 แถมเป็ดปักกิ่งอีกจาน

อัปเดตเมื่อ 26 ก.พ.



อีกหนึ่งร้านประจำของครอบครัวเพราะตั้งอยู่ไม่ไกลบ้านเรามากนักนั่นก็คือ "ภัตตาคารทองฟู" จำหน่ายอาหารจีนสูตรต้นตำรับมณฑลเสฉวนแท้รสชาติอร่อยจัดจ้านถูกปากชาวไทย โดยปัจจุบันกลับมาให้บริการบุฟเฟ่ต์ติ่มซำอีกครั้งหลังจากห่างหายไปเนิ่นนานเกือบ 2 ปีเต็มรอบนี้ปรับเปลี่ยนกติกาใหม่สุดจ่ายราคาคนละ 499 บาท+ เสิร์ฟเมนูรวมกว่า 30 รายการ ฟินได้ไม่อั้นตลอด 01.30 ชั่วโมง มาครบทุกๆ 5 ท่านรับ "เป็ดปักกิ่ง" ฟรีอีกจานทันที วิธีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงปักหมุดแล้วขับตามระบบนำทางบนแผนที่ในมือถือมีลานจอดกว้างขวางขนาดใหญ่พิเศษจอดฟรีเฉพาะลูกค้ากับคลินิกเสริมความงามแบรนด์ "AMORN" ตลอดทั้งวัน ถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะลง BTS สถานีตลาดพลูประตูทางออกฝั่งข้างหน้าห้างสรรพสินค้า The Mall LifeStore ท่าพระจากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 600 เมตร มีจุดสังเกตได้แก่อาคารกระจกสองชั้นริมถนนหลักพร้อมป้ายชื่อภัตตาคารเขียนภาษาไทยและจีนตัวอักษรสีแดงมองเห็นชัดตั้งแต่ระยะไกลๆตรงปากซอยรัชดาภิเษก 8 แบบนี้แสดงว่ามาถึงเรียบร้อยแล้วครับผม

บรรยากาศและการตกแต่งภายในร้าน "ภัตตาคารทองฟู" (ท่าพระ) แห่งนี้เน้นสไตล์ Chinese Luxury โดยได้จำลองประตูพระราชวังต้องห้าม ณ กรุงปักกิ่งสีแดงสดใสสลับทองคำขนาดใหญ่มาเป็นกำแพงตรงหน้าทางเข้าเชิญชวนให้ลูกค้าอยากหยิบมือถือเปิดกล้องถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพความประทับใจ รองรับกลุ่มครอบครัวที่พาผู้สูงอายุหรือบุคคลบกพร่องทางร่างกายซึ่งไม่สามารถขึ้นลงบันไดอย่างสะดวกมาร่วมมื้อด้วยโต๊ะกลมบริเวณชั้นล่างนั่งชมตู้ปลาพร้อมวิวริมถนนรัชดาภิเษกแบบเพลินๆ สำหรับชั้นสองเป็นลานกว้างวางโซฟายาวเบาะนุ่มกับโต๊ะจีนแน่นทั้งพื้นที่รับจำนวนสมาชิกได้ตั้งแต่ 4-10 ท่าน แต่ถ้ายังไม่จุใจหรือต้องการความส่วนตัวระดับพิเศษยังมีห้องเครื่องคาราโอเกะสนุกยาวกันสุดเหวี่ยงเต็มที่ถึง 30 คน (แนะนำว่าควรโทรจองล่วงหน้า) ปัจจุบันเปิดให้บริการอาหารจีนตำรับเสฉวนแท้และชาบูหม่าล่าเผ็ดร้อนแสบลิ้นในรูปแบบ A La Carte เช่นเดิมเพิ่มเติมนั่นก็คือบุฟเฟ่ต์ติ่มซำก็ยังคงแนวคิดปั้นสดนึ่งใหม่เมื่อลูกค้าสั่งแล้วเท่านั้น จะมีเมนูอะไรดูน่าลิ้มลองกันบ้างเดี๋ยวมาเริ่มออเดอร์รายการต่างๆกันเลยครับผม

เมนูรอบนี้เสิร์ฟติ่มซำกับอาหารจีนตำรับเสฉวนรวม 30 รายการได้แก่ขนมจีบหยกไส้หมู/ขนมจีบกุ้ง/ขนมจีบปู/ปลานึ่งซีอิ๊ว/ปลานึ่งสามรส/ปลาหมึกสามรส/ปูอัดยัดไส้/เป๋าฮื้อยัดไส้/สาหร่ายห่อกุ้ง/เห็ดหอมไส้กุ้ง/ขาไก่ฮ่องกง/ซี่โครงหมูฮ่องกง/กุ้งอบวุ้นเส้น/คากิเสฉวน/หมูตุ๋นน้ำแดง/ปอเปี๊ยะทอด/ซาลาเปาลาวา/ซาลาเปาครีม/ซาลาเปาหมูสับ/เต้าหู้ผัดสไตล์เสฉวน/ต้มเผ็ดหมูหม่าล่า/ซุปเห็ดหอม/ซุปเป๋าฮื้อ/ข้าวผัดหยางเจา/ข้าวสวยเปล่า/กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา/ผักปวยเล้งผัดกระเทียม/ยำแตงกวาตำรับจีน/หูฉลามน้ำแดงแจกคนละถ้วย ราคาหัวละ 499 บาท+ พิเศษมาครบทุกๆ 5 ท่านแถมฟรีเป็ดปักกิ่ง 1 จานเลยทันที เนื่องจากไม่รวมเครื่องดื่มวันนี้เลยสั่งมาเป็นน้ำชาจีน 20 บาทและน้ำเก๊กฮวยหวานน้อย 30 บาทแบบรีฟิลเติมไม่อั้นตลอด 90 นาทีเต็ม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆบนโต๊ะวางเอาไว้ครบถ้วนทั้งตะเกียบไม้ห่อพลาสติกใช้แล้วทิ้ง/จาน-ถ้วยแบ่งอาหารส่วนตัว/ช้อนซุปสั้นวัสดุเป็นกระเบื้อง/กระดาษทิชชู่อเนกประสงค์/ไม้จิ้มฟันซองกระดาษ พร้อมน้ำจิ้มเปลี่ยนรสชาติได้เรื่อยๆกว่า 5 สูตรนั่นคือซอสเปรี้ยวจิ๊วโฉ่ว/น้ำจิ้มขนมจีบเสฉวนเฉพาะภัตตาคารทองฟู/น้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทย/น้ำราดเป็ดปักกิ่งและน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยครับผม

นั่งรอเพียงไม่นานนักติ่มซำนึ่งใหม่ชุดแรกก็ถูกยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะเริ่มต้นกันด้วย "ขนมจีบหมูหยก" ใช้เนื้อหมูสับล้วนผสมไขมันปริมาณพอเหมาะเพิ่มรากผักชี,กระเทียม,พริกไทยดำห่อแป้งเกี๊ยวสีเขียวปั้นชิ้นเล็กๆขนาดกำลังพอดีคำเพื่อให้สุกอย่างรวดเร็วทันใจมากขึ้น สำหรับเข่งถัดไปนั่นก็คือ "ขนมจีบกุ้ง" กุ้งทะเลสดเด้งจับน็อกน้ำแข็งใส่เกลือสมุทรสับบดละเอียดและชิ้นเล็กหั่นหยาบเพื่อสัมผัสกรุบกรอบสู้ฟันมีกลิ่นของสามเกลอหอมน้ำมันงาห่อแป้งบางชิ้นจิ๋วกินเพลินเผลอแป๊บเดียวก็หมดสั่งแค่ถาดเดียวไม่เคยพอ ชั้นต่อมาได้แก่ "ขนมจีบปู" ลักษณะภายนอกเหมือนกับเข่งก่อนหน้านี้ทุกประการไส้ด้านในเป็นหมูบะช่อสูตรเฉพาะของหัวหน้าเชฟร้าน "ภัตตาคารทองฟู" ผสมปูม้าชิ้นส่วนอกเคี้ยวหนึบสู้ฟันรสชาติหวานเบาบางตามธรรมชาติสุดลงตัว ส่วนเมนูซึ่งถูกห่อแป้งสีเหลืองดูสดใสไม่เหมือนใครนี้เรียกว่า "ขนมจีบหมูกุ้ง" หมูสับเด้งคลุกเคล้ากุ้งกระจกและต้นหอมซอยละเอียดแต้มจุดสีส้มโดยรวมเอาข้อเด่นของทั้งสองอันแรกมาไว้ด้วยกันก้อนจิ๋วนึ่งใช้เวลาแป๊บเดียวจึงช่วยแก้ปัญหารอนานเมื่อ 2 ปีก่อนได้อย่างสิ้นเชิงเลยครับ

รายการถัดไปเอาใจสายสุขภาพหรือผู้ใหญ่ที่เน้นโปรตีนย่อยง่ายอิ่มสบายท้องอย่าง "ปลานึ่งซีอิ๊ว" เลือกใช้ปลาแพนกาเซียสดอร์รี่เฉพาะส่วนเนื้อขาวล้วนๆไม่ติดไขมันหั่นชิ้นขนาดพอดีคำวางลงบนถาดนึ่งจนสุกราดซอสซีอิ๊วสูตรจีนแท้รสชาติเค็มอมหวานกลมกล่อมหอมกลิ่นขิงสด,เหล้าจีน,น้ำมันงาพร้อมโรยผักขึ้นฉ่ายช่วยดับคาวเล็กน้อยก่อนเสิร์ฟ ถ้ารู้สึกว่าเริ่มเลี่ยนต้องการเมนูเผ็ดแซ่บถูกปากคนไทยก็ต้องสั่ง "ปลานึ่งสามรส" เปลี่ยนซอสราดด้านบนเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดพริกขี้หนูสีเขียวผสมกระเทียมปั่นละเอียดจนเข้มข้นพิเศษเปรี้ยวตัดหวานหอมมะนาวคั้นสดแท้สุดจี๊ดจ๊าดสะใจ อีกเข่งก็ปรุงคล้ายๆกันนั่นก็คือ "ปลาหมึกสามรส" ใช้ปลาหมึกสายตัวขนาดเล็กจับผ่าหัวดึงเขี้ยวปากทำความสะอาดอย่างดีนึ่งสุกราดน้ำยำแบบง่ายๆอร่อยไม่ซับซ้อน จานต่อมาได้แก่ "ปูอัดยัดไส้" หน้าตาที่จินตนาการเอาไว้ในสมองค่อนข้างแตกต่างจากของจริงพอสมควรประกอบไปด้วยหมูสับบดหยาบปรุงรสคนละสูตรกับขนมจีบก่อนหน้าปั้นก้อนจิ๋วแปะปูอัดด้านบนนึ่งสุก 100% แล้วแต่มีสีชมพูเกิดจาก "ฮีโมโกลบิน" รับประทานได้อย่างไร้กังวลครับผม

สำหรับคนที่อยากเน้นความคุ้มค่าแนะนำว่าต้องสั่ง "เป๋าฮื้อยัดไส้" หมูสับหยาบปั้นก้อนปรุงรสชาติใส่รากผักชี/กระเทียม/พริกไทยดำท็อปปิ้งด้านบนสุดด้วยเนื้อหอยเป๋าฮื้อคุณภาพสูงนำเข้าจากประเทศเม็กซิโกหั่นเส้นๆนึ่งจนสุกราดน้ำซุปสีเหลืองทองกลมกล่อมเล็กน้อยก่อนเสิร์ฟ สายชอบกุ้งเยอะแป้งน้อยควรจะออเดอร์เมนู "สาหร่ายห่อกุ้ง" เนื้อกุ้งกระจกผ่านการน็อกน้ำแข็งกับเกลือสมุทรบดละเอียดผสมเครื่องสามเกลอ/น้ำมันงาและแครอทเล็กน้อยช่วยเพิ่มสีสันสวยงามห่อแผ่นสาหร่ายโนริม้วนทรงกลมนึ่งสุกหั่นชิ้นขนาดพอดีคำสัมผัสเด้งสู้ฟันเคี้ยวสนุก อีกรายการใช้วัตถุดิบเหมือนกันเกือบ 100% นั่นก็คือ "เห็ดหอมยัดไส้กุ้ง" นำส่วนประกอบของเข่งก่อนหน้านี้มาปั้นก้อนให้รูปทรงกลมคล้ายลูกชิ้นวางเห็ดหอมสดแปะข้างบนนึ่งสุกพร้อมรับประทานได้เลยทันที นอกจากติ่มซำปั้นสดใหม่แล้วก็ยังมีเนื้อสัตว์ตุ๋นเปื่อยนุ่มสไตล์จีนเริ่มต้นกันที่ "ขาไก่ฮ่องกง" ส่วนเท้าตัดเล็บทิ้งตุ๋นซอสซีอิ๊วหวานเค็มกลมกล่อมจนแทบไม่ต้องเคี้ยวเพียงรูดผ่านลิ้นเบาๆเนื้อก็หลุดแยกจากกระดูกสุดง่ายดายถูกในสายชอบแทะดูดเพลินๆแน่นอนครับผม

ถ้าคุณแพ้วัตถุดิบของทะเลแต่ก็ยังสามารถมาฟินกับบุฟเฟ่ต์ติ่มซำพร้อมอาหารจีนเสฉวนที่ร้าน "ภัตตาคารทองฟู" ได้อีกหลากหลายเมนูเริ่มต้นกันด้วย "ซี่โครงหมูฮ่องกง" ใช้เฉพาะส่วนซี่โครงหั่นชิ้นใหญ่ตุ๋นซอสบาร์บีคิวฮ่องกงรสชาติหวานอมเปรี้ยวจนเนื้อนุ่มเปื่อยหลุดล่อนออกจากกระดูกสุดง่ายพร้อมซดน้ำซุปร้อนชวนคล่องคอมีไขมันน้อยลงกว่าสูตรก่อน รายการต่อมานั่นก็คือ "คากิเสฉวน" บริเวณอุ้งเท้าตรงขาหน้าเต็มไปด้วยคอลลาเจนธรรมชาติแน่นเต็มผิวหนังและไขข้อต่อต้มซีอิ๊วตำรับจีนเสฉวนเค็มหวานนัวกลมกล่อมท่อนยักษ์จับแทะเพลิน อยากกินเนื้อล้วนๆไม่ติดกระดูกชวนรำคาญใจต้องลองสั่ง "หมูตุ๋นน้ำแดง" ส่วนพื้นท้องหรือสามชั้นลอกหนังแข็งเคี้ยวติดฟันออกเหลือไว้เฉพาะเนื้อแดงสลับชั้นไขมันอย่างสมดุลหนักเครื่องเทศคล้ายต้มพะโล้ช่วยดับกลิ่นคาวตามธรรมชาติของหมูตุ๋นเวลานานจนเปื่อยนุ่มนิ่มละลายไหลลงคออย่างง่ายดาย เข่งถัดไปเป็นเมนูใหม่ยังไม่บรรจุลงในใบออเดอร์แต่น้องพนักงานยกออกมาให้เพราะเราขอทุกอย่างมาถ่ายรีวิวได้แก่ "ข้าวโพดอ่อนยัดไส้" หมูสับบดหยาบๆผสมสามเกลอนึ่งท็อปปิ้งข้าวโพดอ่อนราดน้ำซุปสีเหลืองทองซึ่งอนาคตจะมีเพิ่มอีกหลายรูปแบบต้องคอยสอบถามตัวเชฟในแต่ละวันครับผม

เมื่อนึกถึงบุฟเฟ่ต์ติ่มซำอีกเมนูที่หลายๆคนไม่ค่อยชอบนักแต่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ "ซาลาเปาหมูสับ" ตำรับโฮมเมดทำเองแป้งนุ่มสีขาวเนื้อนุ่มละเอียดไม่เหม็นกลิ่นแอมโมเนียเพราะใช้ยีสต์ธรรมชาติช่วยให้ขึ้นฟูแทนสอดไส้หมูสับบดหยาบปรุงรสชาติเค็มหวานกลมกล่อมสมดุลกำลังดีนึ่งเสิร์ฟร้อนพร้อมอร่อยทันที รายการถัดไปได้แก่ "ซาลาเปาไส้ครีมลาวา" แป้งเปลือกด้านนอกบางตรงกลางสอดไส้ครีมผสมไข่แดงเค็มหวานลงตัวอัดแน่นฉีกออกแล้วไหลเยิ้มเหมือนภูเขาไฟปะทุสวยงามแต่ระวังลวกปากหรือมือหน่อยเพราะควบคุมทิศทางค่อนข้างยาก สองเข่งต่อมาเป็นเมนูเดียวกันแต่สั่งได้ทั้งแบบนึ่งและทอดตามใจเราอย่าง "ซาลาเปาไส้ครีม" ครีมคัสตาร์ดสีเหลืองเข้มข้นหวานมันห่อหุ้มด้วยแป้งสีขาวสัมผัสฟูนุ่มปริมาณกำลังดีนึ่งสดใหม่ส่วนทอดในน้ำมันร้อนๆช่วยเพิ่มความกรอบเหมือนขนมพร้อมรับประทานโดยไม่ต้องเรียกหานมข้นเพิ่มอีก เนื่องจากมื้อนี้ทางร้าน "ภัตตาคารทองฟู" ไม่รวมขนมจึงแนะนำว่าออเดอร์ซาลาเปาไส้ต่างๆไว้ช่วงท้ายกินดื่มพร้อมชาจีนร้อนถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ตามสะดวกครับผม

น้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยไว้ทานคู่กับของทอดโดยบุฟเฟ่ต์รอบนี้มีเสิร์ฟเพียงเมนูเดียวได้แก่ "ปอเปี๊ยะทอด" ไส้วุ้นเส้นผสมหมูสับหยาบซึ่งหัวหน้าเชฟของทางร้าน "ภัตตาคารทองฟู" ใช้เฉพาะแผ่นแป้งปอเปี๊ยะเวียดนามของแท้ราคาแพง ไม่เหมือนบางแห่งแอบลดต้นทุนแอบเปลี่ยนเป็นโรตีสายไหมแทนทอดกรอบนอกด้านในเคี้ยวหนึบไส้รสชาติอ่อนไม่โดดเด่นนักไว้กินเคี้ยวเพลินๆ รายการถัดไปจะเป็นอาหารจีนตำรับเสฉวนประมาณต่อเสิร์ฟค่อนข้างจานใหญ่เริ่มต้นด้วย "กุ้งอบวุ้นเส้น" เจียวมันหมูแข็งเพิ่มรากผักชี/กระเทียม/เม็ดพริกไทยซวงเจีย/ขิงแก่สด/เหล้าจีนคลุกวุ้นเส้นถั่วเขียวปรุงรสชาติเค็มหวานกลมกล่อมสีน้ำตาลเงางามเปล่งประกายท็อปปิ้งกุ้งขาวสดอีก 3 ตัวเปิดเตาอบไฟอ่อนจนสุกในหม้ออะลูมิเนียมโรยต้นหอมหั่นท่อนก่อนเสิร์ฟเส้นเหนียวนุ่มหนึบอร่อยไม่แพ้เจ้าดัง เมนูตัวแทนแห่งมณฑลเสฉวนซึ่งคนไทยรู้จักกันดีนั่นก็คือ "ผัดเต้าหู้เสฉวน" หรือหม่าโผ่วโตฟูนำเต้าหู้ขาวมาหั่นชิ้นลูกเต๋าผัดพริกสด/กระเทียม/ซวงเจีย/น้ำมันงา/เหล้าจีนราดน้ำผสมแป้งข้าวโพดผัดจนเหนียวข้นโรยต้นหอมซอยละเอียดเหมาะแก่การทานคู่ข้าวสวยร้อนๆ ถ้ารู้สึกเลี่ยนต้องการเครื่องเคียงช่วยกระตุ้นความสดชื่นต้องลอง "ยำแตงกวา" แตงกวาสายพันธุ์ญี่ปุ่นคว้านไส้ออกหั่นท่อนยำใส่พริกสด/กระเทียม/ใบผักชี/ซีอิ๊วขาว/น้ำส้มสายชู/น้ำมันงากรุบกรอบแช่เย็นจัดๆก่อนเสิร์ฟครับ

เมนูต่อมายังคงอยู่ในหมวดอาหารจีนต้นตำรับมณฑลเสฉวนเหมือนเดิมเริ่มต้นกันด้วย "ข้าวผัดหยางเจา" หรือข้าวผัดไข่ไก่ใส่กุนเชียงหมู/ถั่วฝักยาว/แครอท/ต้นหอมลงกระทะเปิดไฟรุนแรงพิเศษเรียงเมล็ดสวยงามติดกลิ่นไหม้เล็กน้อยโดยในรีวิวนี้เราสั่งรวม 5 ที่น้องพนักงานเลยจัดเสิร์ฟใส่จานทรงเปลขนาดใหญ่สุดอลังการให้ รายการถัดไปสมาชิกร่วมโต๊ะทุกท่านติดใจจนต้องขอเบิ้ลแม้จะมองข้ามช่วงแรกนั่นก็คือ "กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา" คัดกะหล่ำเฉพาะส่วนใบติดก้านลงทอดน้ำมันร้อนจัดพอสุกตักขึ้นราดน้ำปลาดีดน้ำตาลและพริกขี้หนูตากแห้งผัดรสชาติเค็มอมหวานเคลือบทั่วทั้งหมดคีบกินเพลินเรื่อยๆแบบไม่สามารถบังคับหยุดมือได้ เพิ่มกากใยไฟเบอร์ธรรมชาติช่วยให้ระบบย่อยทำงานปกติต้องสั่ง "ผักปวยเล้งกระเทียม" กระบวนการโดยรวมคล้ายกับจานก่อนแต่เปลี่ยนวิธีปรุงรสชาติเป็นซีอิ๊วขาวแทนจึงกลิ่นน้อยอยู่ในระดับธรรมดาไม่ค่อยโดดเด่น รับประทานบุฟเฟ่ต์ครบทุก 5 คนฟรี "เป็ดปักกิ่ง" หนังบางสีน้ำตาลกรุบกรอบวิธีฟินเพียงห่อแป้งนึ่งใหม่ใส่แตงกวา/ต้นหอม/พริกชี้ฟ้าเทซอสสูตรเข้มข้นเอาเข้าปากคำโตสะใจถ้าอยากกินเพิ่มมีแบบ A La Carte ราคาตัวละ 699 บาท(ปกติ 1,200) เนื้อเอาไปทอดกระเทียม/เมี่ยงได้ครับผม

ปิดท้ายด้วยเหล่าเมนูซุปเสิร์ฟบรรจุใส่ในถ้วยขนาดเล็กซดตอนร้อนๆชวนสดชื่นคล่องคอทั้ง "ซุปเห็ดหอม" เห็ดหอมสดหั่นชิ้นแล่บางให้สัมผัสคล้ายเนื้อสัตว์ตุ๋นน้ำแดงราดแป้งมันจนเหนียวข้นหนืดปรุงรสชาติเค็มละมุนบางเบาไม่ซับซ้อน / "ซุปเป๋าฮื้อ" พื้นฐานใช้กระดูกหมูต้มนานจนน้ำสีเหลืองทองสวยงามใส่เนื้อเป๋าฮื้อหั่นเส้นเรียวเล็กคุณภาพสูงนำเข้าจากประเทศเม็กซิโกจำนวนมากเคี้ยวหนึบสะใจ / "ซุปหมูเผ็ดเสฉวน" อย่างที่เราบอกไว้เมื่อเบื้องต้นแล้วว่าปัจจุบันร้าน "ภัตตาคารทองฟู" นอกจากจะมีอาหารจีนต้นตำรับเสฉวนแท้แล้วยังจำหน่ายหม้อไฟหม่าล่าแบบ A La Carte โดยชามนี้เป็นสูตรเดียวกันต้มใส่ผักกะหล่ำปลีและสันคอหมูสไลซ์แผ่นบางปรุงรสชาติให้เผ็ดร้อนชาลิ้นหนักเครื่องสมุนไพรพร้อมรับประทานได้เลยทันที พิเศษเฉพาะลูกค้าเมื่อสั่งบุฟเฟ่ต์ติ่มซำคนละ 499 บาท+ เท่านั้นรับฟรี "หูฉลามน้ำแดง" (จำกัดคนละ 1 ถ้วย) น้ำซุปเข้มข้นกลมกล่อมใส่เนื้อหูฉลามผสมเป๋าฮื้อเส้นชิ้นขนาดกำลังพอดีคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป ถ้ารู้สึกไม่สะใจทางร้านมีขายสไตล์ A La Carte ถ้วยเล็กและหม้อใหญ่เบิ้มระดับจักรพรรดิซึ่งราคาจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัตถุดิบในแต่ละรอบรบกวนสอบถามกับพนักงานเลยครับผม

น้ำจิ้มของทางร้านมี 5 สูตรได้แก่ "จิ๊กโฉ่ว" เปรี้ยวเค็มฉุนขึ้นจมูกตัดเลี่ยนจี๊ดจ๊าดสะใจแต่เมื่อมาถึง "ภัตตาคารทองฟู" แล้วห้ามพลาด Signature ซึ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่เฉพาะของหัวหน้าเชฟนั่นก็คือ "ซอสติ่มซำเสฉวน" ลักษณะภายนอกคล้ายน้ำจิ้มขนมกุยช่ายเพิ่มพริกสด/กระเทียม/ต้นหอมสับละเอียดรสชาติเปรี้ยวละมุนเค็มหวานหอมน้ำมันงาเบาบางกลมกล่อมลงตัวกว่าถ้วยแรกชวนให้หายคิดถึงเพราะห่างเหินความอร่อยสไตล์นี้ไปยาวนานเกือบ 2 ปีเต็ม ถ้าเริ่มรู้สึกเลี่ยนก็สลับเปลี่ยนไป "น้ำจิ้มซีฟู้ด" พริกขี้หนูเขียวปั่นใส่กระเทียมสดหอมมะนาวน้ำแท้คั้นสดถูกปากชาวไทย สำหรับซอส "เป็ดปักกิ่ง" ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างเข้มข้นหวานเค็มโดดเด่นแนะนำว่าควรใส่เพียงแค่ 1 ช้อนชาต่อแป้งและหนังเป็ดอย่างละแผ่นจะกำลังพอดี สุดท้าย "บ๊วยเจี่ย" สัมผัสเหนียวหนืดหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อยหอมบ๊วยตามธรรมชาติเข้ากันดีกับพวกของทอดซึ่งมีให้ทานไม่กี่เมนูเท่านั้น โดยรวมถือว่าดีงามเหมือนเดิมทุกรายการแต่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเพราะเน้นชิ้นจิ๋วนึ่งสุกเร็วเสิร์ฟขึ้นโต๊ะทันใจจึงต้องขอตัดคะแนนด้านความสวยงามนิดหน่อยครับ

มื้อนี้พาครอบครัวมาทานกัน 5 คนสั่งอาหารเต็มโต๊ะจ่ายแค่เพียงท่านละ 499 บาท + Vat. 7% เฉลี่ยคนละ 533.93 บาทถ้วน เพิ่มน้ำชาเขียวจีน,เก๊กฮวยรีฟิลแก้วละ 20-30 บาทเติมไม่อั้นตลอด 1.30 ชม. โดยร่วมลงความเห็นกันว่ารสชาติยังดีงามเหมือนเดิมแม้ว่าหน้าตาโดยรวมจะไม่สวยงามน่ารับประทานเท่าเมื่อ 2 ปีก่อนเพราะต้องรีบปั้นชิ้นขนาดจิ๋วนึ่งใหม่เน้นสุกรวดเร็วทันใจแลกกับการไม่ต้องเสียเวลาคอยนานเกินจนหลายๆท่านต้องรู้สึกหงุดหงิด ได้คะแนนความอร่อยสุดคุ้มค่าไปเลย 4 ดาวครับผม 🌟🌟🌟🌟


พิกัด : เลขที่ 199 หน้าปากซอยรัชดาภิเษก 8 ถนนรัชดาภิเษก (ท่าพระ) แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. 10600

เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 12.00 - 20.00 น. (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของรัฐบาล)

โทร. 02-066-4035

Facebook : https://www.facebook.com/tongfu888

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share อวดเพื่อนๆของคุณ

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘



ดู 238 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page