top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนFood Addicts - เสพติดการกิน

รีวิวห้องอาหาร The Mulberry โรงแรม The Berkeley บุฟเฟ่ต์ติ่มซำกว่า 47 เมนูนั่งทานได้ 2 ชม.แค่ 578฿ !

อัปเดตเมื่อ 15 มิ.ย. 2564



วันนี้เราได้รับการรับเชิญพิเศษจาก PR ของโรงแรม The Berkeley ประตูน้ำให้เข้ามารีวิวบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มที่ห้องอาหารจีน The Mulberry Chinese Crusine กับเทศกาล All You Can Eat Dimsum ที่เราสามารถเข้าไปทานติ่มซำและอาหารจีนแบบไม่อั้นกว่า 47 เมนูตลอด 2 ชั่วโมงเต็มได้แบบ All Day เปิดให้บริการทุกวันเริ่มตั้งแต่เวลา 11.00-22.00น. จ่ายแค่คนละ 899++ บาท ตอนนี้เขามีโปรโมชั่นพิเศษลดอีก 50% เหลือเพียงท่านละ 587 Net. มีเงื่อนไขเพียงแค่สำรองที่นั่งก่อนเข้าไปทานที่ห้องอาหารผ่านลิงค์นี้ https://bit.ly/36nVbGW ก็ได้รับส่วนลดไปเลย ห้องอาหารนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 10 ของโรงแรม ตอนนี้ใกล้ถึงเทศกาลตรุษจีนก็มาการตกแต่งสไตล์จีนทั่วโรงแรม เพื่อเตรียมต้อนรับปีหนูทองคำที่กำลังจะถึง ภายในห้องอาหารมีขนาดกว้างขวางใหญ่โตดูหรูหรา มีให้เลือกนั่งตั้งแต่โต๊ะขนาดเล็กจนไปถึงโต๊ะจีนกลมขนาดใหญ่ 10 ที่นั่ง เหมาะแก่การยกครอบครัวมาฉลองในช่วงตรุษจีนปีนี้มากเลยครับ

ปกติที่ห้องอาหารนี้เขามักจะจัดโปรโมชั่นชุดอาหารจีนและโต๊ะจีนราคาพิเศษตามเทศกาลอยู่บ่อยๆ หากอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรไปสอบถามที่ห้องอาหารก่อนทำการจองในลิงค์ที่ให้ไป แต่ถ้าเป็นโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ติ่มมีให้ทานตลอดเวลา โดยมีการแยกเล่มเมนูเอาไว้โดยเฉพาะมีให้เลือกทานมากกว่า 47 อย่าง แบ่งออกเป็นเมนูขนมจีบนึ่งร้อนๆ 13 เมนู ซาลาเปานึ่ง 4 เมนู ติ่มซำแบบทอด 7 เมนู เมนูเนื้อสัตว์และผัดผักสไตล์จีน 8 เมนู ซุปเลิศรส 4 เมนู เมนูเส้นและข้าว 7 เมนู สุดท้ายเป็นขนมหวานสไตล์จีนอีก 4 เมนู โดย 3 หมวดแรกสามารถสั่งทานได้ไม่อั้น ส่วน 4 หมวดหลัง สามารถเลือกสั่งทานได้หมวดละ 1 เมนูเท่านั้น ถ้าให้เทียบกับห้องอาหารจีน The Mulberry กับโรงแรมคู่แข่งถือว่ามีราคาถูกกว่าก็จริง แต่มีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะกว่า (ห้องอาหารจีนที่นั่งทานได้เรื่อยๆไม่จำกัดเวลาและมีเมนูพิเศษสั่งได้เรื่อยๆก็มีนะครับแต่ราคาสูงกว่า) ก็ลองเปรียบเทียบรีวิวหลายๆที่เพื่อประกอบการตัดสินใจดูนะครับ

มาถึงทางโรงแรมก็จัดเตรียมทุกเมนูมาวางไว้ให้บนโต๊ะ เริ่มจากเมนูที่สั่งได้คนละ 1 จานในหมวดผัดผักและเนื้อสัตว์ "ขาหมูเย็น" เนื้อขาหมูตุ๋นจนสุกนุ่มเนื้อสีอมชมพู นำไปแช่เย็นจนเนื้อกระชับหนังเด้งด้วยคอลลาเจนแบบเต็มๆ ราดด้วยซอสพริกน้ำส้มรสเปรี้ยวเผ็ดอมหวานนิดๆ พร้อมกับแตงกวา /ไชเท้า /แครอทดองรสเปรี้ยวอมหวานสไตล์จีนเอาไว้ตัดเลี่ยน อร่อยลงตัวดีครับ จานต่อมาคือ "ผักกาดแก้วน้ำมันหอย" ที่ผัดมาผักยังคงความกรอบ มีรสชาติของซอสหอยนางรมอ่อนๆ ส่วนตัวว่าค่อนข้างจืดไปหน่อยครับ "ผัดคะน้าฮ่องกงกระเทียม" คะน้าก้านกรอบๆทานคู่กับกระเทียมเจียวรสเข้มข้น ดูหน้าตาธรรมดาแต่รสชาติอร่อยเกินคาดเยอะเลยครับสำหรับจานนี้ สายผักน่าจะชอบ

มาทานบุฟเฟ่ต์ใครเขาสั่งผักกันมันต้องมาลุยแต่เมนูเนื้อๆทั้ง"เป็ดย่างฮ่องกง" เป็ดย่างเนื้อนุ่มหนังเป็ดหนาเวลาเคี้ยวไขมันตรงหนังแตกในปากรสเข้มข้นโดนใจ"หมูแดงอบน้ำผึ้ง"เนื้อหมูส่วนสันนอกที่ค่อนข้างแห้งไม่ติดมันมีความหวานและหอมเครื่องหมูแดงตรงขอบด้านนอกทานได้เพลินๆ "หมูกรอบ" ที่ดูไม่น่ากรอบ แต่เวลาเคี้ยวจริงๆกรอบฟูหนังหมูหายไปในปาก ตรงส่วนเนื้อและชั้นไขมันมีความนุ่มชุ่มฉ่ำโดนใจสุดๆเลยครับ "ยำแมงกะพรุนน้ำมันงา" ลวกไม่ค่อยสะเด็ดน้ำทำให้รสชาติน้ำยำอ่อนไปนิดแต่ก็พอทานได้ สุดท้าย "ไก่แช่เหล้า" ไก่สับเนื้อแน่นหนังบางกว่าปกติ ไม่เหม็นกลิ่นเหล้าจนกลบกลิ่นรสชาติของไก่จะทานเปล่าๆก็ดีงาม จิ้มน้ำพริกเผาสไตล์จีนก็อร่อยเด็ดมากๆเลยครับ

ต่อกันด้วยเมนูซุปที่สั่งได้เพียงคนละ 1 ถ้วยทั้ง "ซุปสามแซ่ปูอัด" ซุปข้นสีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยเห็ดหอม/สันนอกหมูแบบเส้นหมักนุ่มและปูอัด รสชาติเค็มหอมกลิ่นเครื่องทะเลเบาๆซดได้เพลินๆ "ซุปเสฉวนทะเล" ซุปรสเปรี้ยวเผ็ดเข้มข้น ใส่ทั้งเนื้อเห็ดหอม/เห็ดเข็มทอง/กุ้งขาวสับ จี๊ดจ๊าดโดนใจ "ซุปผักโขมไข่เยี่ยวม้า" ซุปรสชาติเบาๆมีความซดคล่องคอคล้ายน้ำราดหน้าที่ใส่ไข่เยี่ยวม้าสับ และผักโขมลงไปในซุปที่ตีไข่ไก่ราดลงไปเป็นเส้น เมนูสุดท้ายก็คือ "ซุปปลาเก๋าต้มบ๊วย" ถ้าใครชอบทานรสเปรี้ยวเผ็ดร้อนอ่อนๆ มีความกลมกล่อมแนะนำให้สั่งซุปนี้ เนื้อปลาเก๋าเด้งสู้ฟันต้มในซุปใสรสเปรี้ยวอ่อนๆหอมกลิ่นบ๊วย/ขิง ถูกโหวตจากทั้งโต๊ะแล้วว่าอร่อยและคุ้มค่าที่สุด แนะนำให้สั่งเลยครับ

เปลี่ยนหมวดมาเป็นเมนูข้าวและเส้นที่สั่งได้คนละ 1 เมนูเช่นเดียวกัน"ข้าวผัดเป็ดย่างซอส XO"เนื้อเป็ดติดหนังฉ่ำๆผัดลงในข้าวใส่ซอสXO หอมกลิ่นเครื่องทะเลแห้งผสมกับกลิ่นหอมของกระทะผัด เวลาเคี้ยวน้ำมันจากหนังเป็ดย่างผสมกับข้าวสวยและซอสคือสุดยอดแห่งความลงตัวเลยครับ จานต่อมาคือ "ข้าวผัดหยางโจว" ข้าวผัดไข่หอมๆใส่เนื้อหมูแดงอบน้ำผึ้งย่างและกุนเชียงให้รสหวานมันก็อร่อยไปอีกแบบ "ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม" ก้านคะน้าอ่อนที่มีความกรอบ เข้ากันได้ดีกับข้าวผัดที่หอมไข่และปลาเค็มอ่อนๆ ไม่ค่อย Wow แต่ก็ก็ถือว่าเป็นข้าวผัดที่พื้นฐานดีงาม

"ข้าวห่อใบบัว" ถ้าหากใครอยากทานจานนี้ต้องใช้เวลารอนานเป็นพิเศษ (15-20 นาที) ข้าวผัดกับเครื่องสไตล์จีนคล้ายกับบะจ่าง ข้าวเคี้ยวเหนียวหนึบและเครื่องต่างๆที่อัดแน่นลงไปให้ความหลากหลายในเมนูเดียว ถือว่าคุ้มค่าแก่การรอคอยครับ "บะหมี่ผัดฮกเกี้ยน" หมี่ซั่วสีเหลืองเส้นเล็กสไตล์จีนผัดมาหอมกลิ่นกระทะรสเค็มอ่อนๆ อัดแน่นไปด้วยเครื่องที่หั่นมาเป็นเส้นยาวทั้ง หมูแดงอบน้ำผึ้ง/กุนเชียง/เห็ดหอม/แครอท/ถั่วงอกไม่มีหัว/โรยด้วยงาขาว ได้หลากหลายสัมผัสการเคี้ยวไม่เหมือนที่ไหน "โกยซี่หมี่" เส้นหมี่เหลืองทอดกรอบหอมกลิ่นไข่ ราดด้วยน้ำซอสคล้ายราดหน้าที่มีต้นหอม/กุ้ยช่ายขาว/เห็ดหอม/แครอท/ถั่วงอกไร้หัว/หมูสันนอกหมักนุ่ม รสชาติโดยรวมค่อนข้างเบาไปหน่อย ต้องเพิ่มพริกไทยและเหยาะจิ๊กโฉ่วลงไปอีกนิด อร่อยกำลังดีเลยครับ สุดท้ายคือเมนู"ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมู" เส้นใหญ่ผัดจนหอมกลิ่นกระทะ ราดด้วยน้ำราดหน้ารสเค็ม-หวานกลมกล่อม เต็มไปด้วยก้านคะน้าอ่อน/ แครอท/เห็ดฟาง/และหมูสันนอกหมักนุ่มชิ้นใหญ่หอมกลิ่นน้ำมันงา ใครเป็นราดหน้า Lover อยู่แล้ว ต้องหลงรักแน่นอนครับ

เข้าสู่หมวดติ่มซำทอดที่สามารถสั่งทานได้ไม่อั้นกันบ้าง เมนูแรกคือ "ซาลาเปาอบหิมะ" หรือถ้าคนที่เคยทานร้าน Tim Ho Wan มาก่อน มันก็คือซาลาเปาหมูแดงอบกรอบที่เป็น Signature ของที่ร้านเขานั่นเอง แป้งตรงด้านนอกมีความกรอบ ไส้หมูแดงแน่นๆมีความติดมันชิ้นใหญ่เคี้ยวอร่อย รสชาติโดยรวมถือว่าพอฟัดเหวี่ยงกับร้านชื่อดังจากฮ่องกงได้อยู่ครับ "กุยช่ายทอด" แป้งด้านนอกกรอบฟู ด้านในมีความเหนียวหนึบ อัดแน่นไปด้วยกุยช่ายสับเต็มๆชิ้น ทานกับซอสรสหวานเข้มข้นอร่อยดีครับ "ฟองเต้าหู้ทอด" เนื้อกุ้งแน่นเด้งหดมกลิ่นน้ำมันงาสอดไส้ในฟองเต้าหู้ ทอดจนกรอบนอกเนื้อกุ้งเด้งสู้ฟันด้านในทานคู่กับซอสบ๊วยเจี่ยรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ เป็นอีกจานที่แนะนำให้สั่งเลยครับ

"ฮะเก๋าวาซาบิ" ฮะเก๋าทอดจนกรุบกรอบแป้งสีเขียว ที่ด้านในอัดแน่นไปด้วยเนื้อกุ้งทานคู่กับซอสวาซาบิมาโย ที่ให้ความเปรี้ยวหวาน/ฉุนวาซาบิขึ้นจมูกเบาๆเป็นอีก 1 เมนูที่ไม่เคยเห็นที่ไหนแนะนำว่าให้สั่งลองครับ "เกี๊ยวกุ้งทอด" กุ้งเนื้อแน่นหอมกลิ่นน้ำมันงาในเกี๊ยวทอดกรอบๆ ความอร่อยคงไม่ต้องบรรยายเยอะ "ขนมผักกาดทอดหน้ากุ้ง"ดูๆไม่น่าจะเข้ากัน แต่ความนุ่มของขนมผักกาดที่อัดผักกาดขาวลงไปจนเนื้อหวานฉ่ำ ทานคู่กับกุ้งชุปเกล็ดขนมปังทอดกรอบๆและซอสแบบเดียวกับขนมกุ้ยช่ายรสหวานเข้มข้น กลายเป็นว่าความกรอบและนุ่มทำให้จานนี้อร่อยไม่เหมือนใครดีครับ ติ่มซำทอดเมนูสุดท้ายเป็น "เผือดทอด" สอดไส้หมูสับและเผือกบดผัดกับผงแกงกะหรี่ จนคล้ายๆกับไส้กระหรี่พัฟ แป้งห่อด้านนอกค่อนข้างหนาไปนิด ส่วนที่ฟูด้านบนมีกลิ่นแอมโมเนียอ่อนๆ ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบครับ

ต่อกันด้วยซาลาเปานึ่งในเข่งเสิร์ฟร้อนๆ 4 เมนูได้แก่"ซาลาเปาไส้หมูแดง"แป้งหวานนุ่มมีกลิ่นแอมโมเนียอ่อนๆ (ถ้าคนจมูกไม่ดีก็แทบไม่รู้สึก) ด้านในอัดแน่นด้วยหมูแดงติดมันแบบเดียวกับซาลาเปาอบหิมะจานแรกๆ แต่ปริมาณไส้น้อยกว่า ก็อร่อยดีครับ "ซาลาเปาไส้หมูสับ" หมูสับเนื้อเด้งปรุงรสมาหวานนำหอมกลิ่นเครื่องเทศ 3 เกลอ ยัดไส้มาพร้อมกับไข่ต้มที่ดูกินพื้นที่หมูสับด้านในไปประมาณ 50% แต่รสชาติเข้มข้นดีให้อภัย "ซาลาเปาไข่เค็มลาวา" ถึงแม้ว่าฉีกแล้วไส้จะไม่ระเบิดเยิ้มแบบห้องอาหารอื่น แต่มีความเข้มข้นคล้ายซาลาเปาไข่เค็มลาวาจาก 7-11 แบบ X3 (รสชาติแทบไม่ต่างกันแต่มีความหอมมันมากกว่า) "ซาลาเปาไส้เผือก" แป้งซาลาเปาเนื้อฟูอมหวานสอดไส้เผือกบด ที่มีรสชาติคล้ายกับขนมปังไส้เผือกหอมๆเนื้อเหนียวหนืบด้านใน รสชาติไม่หวานจนเกินไป เคี้ยวสนุกกำลังดีเลยครับ

หมวดสุดท้ายเป็นขนมจีบนึ่งร้อนๆเสิร์ฟมาพร้อมแข่งวางเรียงเต็มโต๊ะ เข่งแรก "แซลมอนกุ้งเทริยากิ" ขนมจีบที่นี่เบสคือหมูผสมกุ้งและมันหมูจนเนื้อเด้งเนียน ท๊อปปิ้งด้านบนด้วยเนื้อปลาแซลมอนราดซอสเทริยากิและงาดำ เนื้อปลาสุกเกินไปนิดนึง แต่พอทานคู่กับเนื้อขนมจีบและซอสรสหวานสไตล์ญี่ปุ่นถือว่าใช้ได้ครับ "บล๊อกโคลี่มันปู"ขนมจีบผสมมันปูปั้นรวมกับบล๊อกโคลี่ท๊อปปิ้งด้วยไข่กุ้ง รสชาติเบาๆกรุบกรอบไข่ปลา "ขนมจีบกุ้ง" เป็นขนมจีบพื้นฐานที่บ่งบอกถึงฝีมือของเชฟในแต่ละห้องอาหารได้เป็นอย่างดี รสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นกุ้งและน้ำมันงาหอมๆ แต่ว่าเมนูพื้นฐานของที่นี่อร่อยกว่าขนมจีบประยุกต์อยู่หลายเมนูเหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะเมนูถัดมา "กุ้งนึ่งมะนาว"ที่สมควรจะเผ็ดเปรี้ยวแซ่บ หอมกลิ่นมะนาวเตะจมูกรสชาติจัดจ้านสไตล์ไทย แต่สูตรของที่นี่นอกจากรสชาติเผ็ดและเด้งของหอมของเนื้อกุ้งแล้ว ก็หารสชาติอื่นไม่เจอเลยครับ เฉพาะเมนูนี้อย่างเดียวที่ถือว่ายังต้องปรับปรุงอีกนิดครับ

"ก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูแดง" ท๊อปปิ้งผักต่างๆมาแทบมิดชิดมองเกือบไม่เห็นตัวก๋วยเตี๋ยวหลอด แต่รสชาติอร่อยเกิดคาดมากๆ แป้งใสเหนียวนุ่มห่อหมูแดงติดมันที่อัดลงไปด้านในจนแน่น ทานกับซอสรสหวานหอมกลิ่นซีอิ๊วนวลๆแบบร้านติ่มซำฮ่องกงชื่อดัง ดีงามสุดๆเลยครับ "ปลากระพงนึ่งซีอิ๊ว" ปลากระพงเนื้อแน่นนึ่งในซอสซีอิ๊วรสหวาน/เค็มหอมกลิ่นขิงและต้นหอมช่วยเพิ่มความสดชื่นและดับกลิ่นคาวของตัวปลาได้เป็นอย่างดี "เสี่ยวหลงเปา" อร่อยมากๆ ขอเบิ้ลอีก 5 เข่งเลยครับ แป้งบางแต่เหนียวหนึบสอดไส้ด้านในด้วยหมูเด้งรสชาติแบบร้านโจ๊กพร้อมน้ำซุปรสหวานกลมกล่อมหอมกลิ่นขิง ทานร้อนๆยิ่งทำให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า แต่ควรทิ้งเวลาเอาไว้นิดนึง ระวังลวกลิ้นนะครับ "ขาเป็ดเป๋าฮื้อน้ำแดง" ขาเป็ดนึ่งจนเนื้อหลุดออกจากกระดูกอย่างง่ายดาย เสิร์ฟพร้อมเนื้อเป๋าฮื้อกระป๋อง 1 ชิ้น ราดด้วยซอสน้ำแดงหอมกลิ่นเห็ดหอม ข้อดีของเข่งนี้คือได้ทานเป๋าฮื้อเนื้อแน่นหวานแต่ต้องแทะขาเป็ดให้หมดด้วย ใครที่อยากทานเนื้อเป๋าฮื้อเยอะแบบคุ้มๆอย่าลืมพกเพื่อนสายแทะขาเป็ดมือฉมังไปด้วยสักคน คุ้มแน่นอนครับ

"เกี๊ยวผักโขมชีส" เกี๊ยวกุ้งเนื้อแน่นผสมผักโขมและชีสห่อในแป้งสีเขียวให้ดูมีความเป็นยุโรปนิดๆ อร่อยลงตัวดีครับ "เบคอนซอสพริกกระเทียม" จานนี้เกือบทำได้ดีแล้วเชียวถ้าลดความเค็มอีกนิดจะดีงามสุดๆ มันคือเนื้อขนมจีบแบบพื้นฐานห่อด้วยเบคอนรมควัน ราดด้วยซอสพริกผสมกระเทียมที่มีความเผ็ดฉุนแบบซอสพริกศรีราชา ลดความเลี่ยนจากไขมันเบคอนได้ดีงามสุดๆ แต่เชฟทำซอสมาเค็มเกินไปต้องปรับปรุงอีกหน่อยครับ "สาหร่ายกุ้งมันปู" ขนมจีบกุ้งห่อสาหร่ายที่มีความหอมมันปูและกรุบกรอบไข่กุ้ง ความหอมของสาหร่ายที่ห่อด้านนอกทำให้เข่งนี้มีความอูมามิ ทานได้เรื่อยๆเลยครับ สำหรับใครที่ชอบทานขนมจีบสาหร่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วน่าจะชอบสุดๆเลยล่ะ "ฮะเก๋ากุ้ง" ขนมจีบแป้งสีขาวบางจนเห็นเนื้อกุ้งด้านใน มีความเหนียวหนึบนิดๆ ทานคู่กับเนื้อกุ้งกรอบๆหอมกลิ่นน้ำมันงาหอมๆเป็นอีก 1 เมนูพื้นฐานที่ทางห้องอาหารทำมาได้ค่อนข้างดีเลยครับ ปกติเวลาไปทานบุฟเฟ่ต์ติ่มซำแบบนี้ผมมักสั่งเมนูซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่ แต่ที่นี่มีให้ทานแต่ "ปลากระพงนึ่งเต้าซี่" ส่วนตัวแล้วคิดว่าอร่อยพอกันกับห้องอาหารจีนโรงแรม อื่นๆ แต่การเปลี่ยนจากซี่โครงหมูอ่อนเป็นปลานี่ถือว่าเป็นมิตรกับคนที่ฟันไม่ค่อยดีมากกว่า แล้วแต่คนชอบเลยครับ

ทานจนอิ่มแทบขยับตัวไม่ไหวก็ได้เวลาสั่งขนมหวานมาทาน ห้องอาหารมีให้เลือก 4 เมนูได้แก่ "สาคูแคนตาลูป" เนื้อแคนลาลูปหอมๆปั่นรวมกับน้ำเชื่อมและน้ำแข็ง ราดด้วยกะทิหอมๆ ทานคู่กับเนื้อแคนตาลูปลูกกลมและเนื้อสาคูเคี้ยวหนึบ ท๊อปปิ้งด้วยเชอรี่เชื่อมสีแดงอีก 1 ซีก ถือว่าหอมอร่อยใช้ได้ครับ "เต้าฮวยฟรุ๊ตสลัด" เหมือนเอาเต้าฮวยแบบกระป๋องมาเปิดใส่น้ำแข็งให้ทาน แต่ก็หอมหวานอมเปรี้ยวรสผลไม้ดีครับ "บัวลอยน้ำขิง"เสิร์ฟมา 2 ลูกแต่ใหญ่มาก เนื้อแป้งนุ่มหนึบสอดไส้งาดำผัดน้ำตาลทรายรสหวาน ทานคู่กับน้ำขิงรสหวานอ่อนๆแต่เผ็ดฉุนสุดๆ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบ แต่ผู้ใหญ่ที่มาทานด้วยกันชอบมากครับ สุดท้ายคือ "แปะก๊วยรวมมิตรร้อน" แปะก๊วย / พุทราเชื่อม / เนื้อมะพร้าวอ่อนต้มในน้ำเชื่อมรสหวานอ่อน ซดคล่องคอกำลังดี สำหรับเมนูนี้สามารถสั่งทานได้ทั้งร้อนและเย็นนะครับ โดยรวมแล้วรสชาติอาหารของที่นี่ไม่ค่อยเข้มข้น เหมาะสำหรับการพาผู้ใหญ่มาทานมากกว่า และเป็นห้องอาหารจีนที่มีบริการบุฟเฟ่ต์ติ่มซำบนโรงแรมที่มีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับโรงแรมอื่นๆที่เคยทานมา (แต่ก็ต้องแลกกับบางเมนูที่ถูกจำกัดในการสั่งและเวลาการทานที่ลดลง) เอาคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไป 4 ดาวครับ 🌟🌟🌟🌟

พิกัด : เลขที่ 559 ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400

บุฟเฟ่ต์ติ่มซำเปิดให้บริการทุกวัน 11.00 - 22.00 น. โทร. 02-309-9999

Facebook : https://www.facebook.com/theberkeleybkk/

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘



ดู 266 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page