รีวิวท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ไปกับทัวร์โปรไฟไหม้ ฉบับผู้เริ่มต้นเดินทาง (ตอนสุดท้ายกับหอแห่งความรัก)

อ่านรีวิวตอนที่ 1 >>> https://bit.ly/2QHvHh6

อ่านรีวิวตอนที่ 2 >>> https://bit.ly/2NYhwWo

อ่านรีวิวตอนที่ 3 >>> https://bit.ly/2ptPeVL

วันสุดท้ายแล้ว กับทริปประเทศเกาหลีใต้วันนี้เราจะพาไปอีกจุดหนึ่งที่ใครก็อยากมาที่นี่ โดยเฉพาะคู่รัก ซื้อแม่กุญแจมาคล้อง เพื่อให้ครองรักยืนนาน นั่นคือ Numsan Tower ภูเขากลางกรุงโซลที่เคยเป็นหอส่งสัญญานเตือนภัยมาก่อน ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เมื่อใครไปถึงก็ต้องถ่ายรูปกลอนคู่รักจำนวนมากที่นั่น แต่วันนี้เรายังมีรายการทัวร์อื่นๆที่ต้องไปกันก่อน ตารางทัวร์วันนี้เราจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลยครับ

เนื่องจากโรงแรมที่เราพัก Hotel L'Art ที่เราพัก อาหารเช้าเรียกได้ว่าจืดเกิ๊น ต้องหนีออกมาซื้อของกินที่ GS 25 แทน ข้าวยำเกาหลี 1 ถ้วย ราคาไม่แพงมากถ้วยละ 3,800 วอน ต้องอุ่นเองและถือกลับมาที่โรงแรม เพราะซุปเปอร์มาร์เก็ตที่นี่ไม่ให้ถุงพลาสติก ถ้าจะเอาคิดถุงละ 50 วอน แต่ก็ดูย้อนแย้งไปหน่อย เพราะร้านอาหารในเกาหลีใต้ รองโต๊ะ รองจานด้วยพลาสติกเกือบทุกร้าน เอาเป็นว่าดีกว่าไม่ลดเลยแล้วกันนะ

ข้าวยำเกาหลีแบบถ้วยของที่นี่มีความน่าสนใจ เครื่องอยู่ด้านบน ข้าวอยู่ด้านล่าง ด้านในมีไข่ดาวอยู่ 1 ฟองด้วย วิธีการปรุงคือนำซองน้ำมันงาราดลงบนข้าว เรียงเครื่องข้าวยำลงไป จากนั้นปิดท้ายด้วยซอสโคชูจัง แล้วคลุกให้เข้ากัน จะได้ข้าวยำสีแดงอมส้ม รสชาติหวานอ่อนๆ เผ็ดเล็กน้อย กรอบผัก หอมน้ำมันงา รสชาติใช้ได้เลย ดีกว่ากินอาหารที่โรงแรมตั้งเยอะ แอบเอากิมจิที่โรงแรมมาแกล้มด้วย ยิ่งอร่อยไปอีก

วันนี้ก็ยังหนีไม่พ้นร้านทัวร์พาไปแวะ เหมือนว่าจะอัดวันสุดท้ายหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์จำหน่ายน้ำมันสนแดง ฮอกเก็ตนามู ศูนย์โสม และสุดท้ายคือร้าานจำหน่ายแร่ Amethyset ราคานั้นจะไม่พูดขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนแล้วกัน แต่ขอบอกนิดนึงว่าก่อนจะซื้อให้หาข้อมูลคนที่เคยทานมาก่อน ว่ามีผลข้างเคียงกับร่างกายอย่างไรบ้าง เราบอกแค่นี้แหละ แต่ร้านสุดท้ายขายพลอยสีม่วง ราคาเมื่อเทียบกับที่ไทย สูงกว่า แต่วัสดุสร้อยตัวแหวนนั้นดูงานละเอียดดีกว่าไทยมาก คุ้มค่าคุ้มราคาอยู่ เรื่องนี้เราขอข้ามไปเลยแล้วกัน ต่อไปจะเป็นรายการอื่นที่นอกเหนือจากรายการช็อปของทัวร์ล้วนๆ (เราต้องเข้าร้านที่รายการทัวร์แนะนำทุกร้าน ไม่สามารถรอบนรถได้ มีค่าปรับ 100 US ต่อสถานที่ ตามเงื่อนไขที่บริษัททัวร์ให้มาในใบกำหนดการ)

สถานที่ต่อไปคือหมู่บ้านบุกชอนฮันบก เป็นย่านหมู่บ้านโบราณที่เป็นที่อยู่ของขุนนางสมัยก่อน ปัจจุบันก็มีคนอาศัยอยู่ มีป้ายแปะติดว่าห้ามรบกวน รวมถึงป้ายประท้วงบางส่วนตลอดทาง เข้ามาจะพบกับเนินลาดชันที่ตลอดข้างทางเป็นบ้านเกาหลีแบบโบราณ นักท่องเที่ยวนิยมใส่ชุดฮันบกมาถ่ายรูปที่นี่ นอกจากบ้านคนแล้วบ้านบางหลังยังเปิดเป็นร้านกาแฟ และ Art Gallery อีกด้วย ถ้ามีเวลาสัก 2-3 ชม. น่าจะซึมซับบรรยากาศได้ดีกว่านี้ นี่ไกด์ให้เวลาแค่ 30 นาที เดินจ้ำอ้าวไปจ้า เดินขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เก็บภาพได้บางส่วนก็หมดเวลาละ

ถนนทั้งเส้นนี้ถือว่าเป็นสายโบราณ มีร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านอาหารที่น่านั่งอีกหลายร้าน ของที่ขายที่นี่ส่วนใหญ่ราคาแพงกว่าย่านช็อปนิดหน่อย แต่ดีไซน์สวยกว่า วัสดุดีกว่า มีบางอย่างเช่นโปสการ์ด สมุดโน๊ต ของตกแต่งบ้านสไตล์เกาหลีสวยๆหลายชิ้น ที่มีขายในย่านนี้ แต่ไม่มีเวลาเดินแล้ว รีบขึ้นรถ !!!

จากนั้นไกด์พาเรามาเที่ยวที่วัดในกรุงโซล ไม่ทราบว่าวัดนี้เรียกว่าวัดอะไร แต่อยู่ท่ามกลางตึก Office ล้อมรอบ เป็นวัดนิกายมหายานแบบวัดในประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าประเทศเกาหลีนั้นชื่อว่าประชากรส่วนใหญ่ ไม่นับถือศาสนา แต่ก็ยังมีบางส่วนที่มักจะเป็นผู้สูงอายุยังเดินทางมาไหว้ ทำบุญและปฏิบัติธรรมที่นี่อยู่ การทำบุญนั้นคล้ายๆบ้านเรา มีเจ้าหน้าที่วัด ซุปเปอร์มาร์เก็ตวัด จำหน่ายอุปกรณ์ ข้าวสาร อาหารแห้ง สำหรับทำบุญ อีกทั้งยังมีเครื่องลางและองค์พระให้เช่า มีร้านขายขนมแต่เป็นขนมสไตล์เกาหลี ทั้งแพนเค้กสอดไส้ถั่วแดง ต๊อกย่างบนหินร้อนเคลือบน้ำผึ้ง ร้ายขายกาแฟแบบ 3 in 1 ดูแล้วบรรยากาศไม่ต่างจากบ้านเราสักเท่าไหร่ ถ่ายรูปมาให้ชมกันครับ

เนื่องจากในวัดไม่ค่อยมีอะไร เดินแบบเดียวก็เบื่อแล้ว ให้เวลาตั้ง 30 นาที เลยออกมาเดินเล่นหน้าวัด แต่หน้าวัดก็ไม่มีอะไรขายนอกจาก พระพุทธรูป ลูกประคำ ยันต์ต่างๆ ระหว่างยืนรอก็เจอรถคันนี้เป็นรถขนส่งคนพิการ เครื่องมือไฮเทคมาก ดูแล้วน่าสนใจ บ้านเรามีแบบนี้น่าจะดี รถยนต์ที่นี่มีแค่ไม่กี่ยี่ห้อบนท้องถนน มากสุด Hyundai และ KIA ยี่ห้ออื่นๆก็มีทั้งรถยุโรป และญี่ปุ่น แต่น้อยมาก เกาหลีใต้นี่ชาตินิยมแข็งแกร่งมาก ผลิตเองใช้เองทุกอย่าง

มื้อสุดท้ายของประเทศเกาหลีใต้คือทักคาลบี้ หรือไก่ผัดซอสเผ็ดสไตล์เกาหลีร้านตั้งอยู่บนตึกนี้ชั้น 9 ชื่อร้านอะไรไม่รู้อีกแล้ว แต่ร้านนี้ดูแล้วไม่ได้รับทัวร์อย่างเดียว เห็นมีคนเกาหลีเข้ามาทานด้วย มาถึงก็เจอไก่พร้อมผักสด และซอสพริกเกาหลีอยู่บนเตาแล้ว เรามาถึงแค่เปิดเตา ผัดเครื่องให้เข้ากัน และใส่ข้าวผสมสาหร่ายเส้นลงไป โรยด้วยสาหร่ายแห้งอีกครั้ง แล้วก็ตักใส่จานทานได้เลย รสชาติเหมือนข้าวผัดไก่หอมกลิ่นพริกอ่อนๆ หอมกลิ่นกระทะไหม้อ่อนๆ ทานกับเครื่องเคียงสไตล์เกาหลี อร่อยนะแต่สู้ทักคาลบี้ที่ไทยไม่ได้ แต่ก็ยังไม่ฟันธงเพราะทานไปแค่เจ้าเดียว ครั้งหน้ามีโอกาสมาครั้งหน้า จะหาร้านกินเปรียบเทียบอีกรอบนึงแล้วกัน

รีบกินรีบลงมาด้านล่างเจอร้านขายข้าวยำเกาหลีอยู่ 1 ร้านอยากเทียบกับที่กินในร้าน GS25 ร้านชื่ออะไรไม่รู้แต่อยู่ใต้ดินราคาชามละ 8,500 วอน ซอสที่ราดข้าวยำนั้นรสชาตินั้นเค็มกว่าเมื่อเช้า แต่สะใจตรงที่ชามใหญ่ ให้ผักสดมาเยอะ ใส่ซอสได้ตามใจ ส่วนกิมจินั้นรสชาติเฉยๆ ค่อนข้างผิดหวังนิดนึงกับร้านนี้

อิ่มของคาวเต็มที่แล้ว มาต่อของหวานกันที่ร้านกาแฟ Hollys Coffee ที่ไทยก็มีนะแบรนด์นี้ ราคากาแฟในเกาหลีใต้นั้น ทุกร้านราคาใกล้เคียงกัน ทำให้ร้านนี้ได้รับความนิยม พอกับ Starbucks ด้วยความชาตินิยมของคนที่นี่ ทำให้จำนวนคนใช้บริการเมื่อเทียบกับที่ประเทศไทยแล้ว ต่างกันมาก ระบบการซื้อกาแฟที่ร้านไม่ต่างจากที่ไทย สั่งเสร็จ จ่ายเงิน รอเรียกรับสินค้าแล้วรับมาทานที่โต๊ะได้เลย วันนี้สั่งเป็นขนมปังอบไม่รู้เรียกว่าเมนูอะไร ชี้ส่งเดชมาเห็นน่าทานดี ขนมปังด้านนอกกรอบ ด้านในชุ่มเนย เนื้อเนียนละเอียด ทานกับวิปปิ้งครีม อร่อยมาก !!! ไม่รู้เหมือนกันว่าเมนูนี้ที่ไทยมีไหม กาแฟนั้นสั่งลาเต้เย็นมา ความความหอมของเมล็ดกาแฟเทียบขั้น Starbucks ได้สบาย รสชาตินมที่ผสมมาหอมอร่อย รสหวานกำลังดี ไม่แปลกใจทำไมคนแน่นร้าน อร่อยจริงร้านนี้

เวลายังเหลือเดินเล่นบริเวณโดยรอบ ย่านนี้มีทั้งร้านอาหารข้างทางและของขายไม่มาก แต่น่าสนใจคือมีรถทดสอบสัญญาณ 5G รถสาวยาคูลท์ที่นี่ขับรถไฟฟ้าทรงแปลกตา ถัดไปเป็นห้าง Duty Free ใหญ่โตแต่ได้แค่เดินเข้าไปห้องน้ำแล้วเดินออก เพราะเวลาจะหมดอีกแล้ว เตรียมเดินทางไปที Numsan Tower กันเถอะ !!!

Numsan Tower จุดที่สูงที่สุดในโซล ทางขึ้นไปสู่หอด้านบนนั้น ชันมาก เดินจิกขาขึ้นเขาเมื่อตุ่มมาก มีเวลาให้แค่ 45 นาที คิดในใจ "อีผี เดินยังไงให้หมด" แค่ขึ้นเขาก็เหนื่อยแล้ว ที่จริงนัมซานทาวเวอร์มี 2 ส่วน คือด้านล่างประกอบด้วยจุดชมวิว ซุ้มวาดรูปเหมือน ตู้ขายแม่กุญแจ ร้านอาหาร และจุดสำหรับล็อกกุญแจที่หลากหลายสีสันสวยงาม ใครแวะมาที่นี่ก็ต้องถ่ายรูป แต่ยังมีโซนที่ 2 คือด้านบน ต้องซื้อตั๋วขึ้นไป สามารถชมวิวจุดที่สวยที่สุดของโซล ได้แบบ 360 องศา เวลาที่นิยมมากที่สุดคือช่วงพระอาทิตย์ตก แต่เราไม่มีเวลาอีกละ รีบถ่ายรูปเก็บบรรยากาศมาฝากทุกคนครับ จากนั้นต้องรีบลงไปที่รถแบบเร็วที่สุด ! เราจะไปที่สุดท้ายของทริปนี้แล้ว

สุดท้ายของรายการทัวร์เกาหลีทุกที่คือร้านละลายเงินวอน อย่างร้านที่เรามานี่ มีสินค้าขายทุกอย่างตั้งแต่ของกินยันของใช้ ราคาบวกจากปกติทั้งหมดแล้ว เดินผ่านเฉยๆไม่ได้ซื้ออะไรเพราะเราได้ครบหมดทุกอย่างแล้ว

เตรียมตัวกลับบ้านแล้วครับ ขากลับก็บินด้วย EASTAR JET เหมือนเดิม ที่สนามบินอินชอนไปลงสุวรรณภูมิบ้านเรา ก่อนขึ้นเครื่องมื้อสุดท้ายเราต้องหาทานเอง ไกด์พาเราไปจุด Tax Refund แล้วก็เตรียมกลับ

สรุปการเดินทางสิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ เกาหลีบ้านเมืองเรียบร้อย ต้นไม้ดอกไม้สวยงาม อากาศดี 20-25 องศาตลอด 4 วันที่ผ่านมา ได้เห็นสิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โตเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบไม่กี่สิบปี วัฒนธรรมการกิน การใช้ชีวิตของคนที่นี่มีความน่าสนใจไม่เหมือนชาติอื่น สิ่งที่ไม่ชอบคือ เมืองกลางภูเขา เดินเหนื่อยมาก ยังดีที่อากาศเย็น พอกล้อมแกล้มไปได้ ต้องฟิตร่างกายให้พร้อมก่อนมาเที่ยวที่นี่

การมาเที่ยวกับทัวร์ครั้งนี้เรียกได้ว่าคุ้มค่า แต่จะดีไปอีกถ้าคุณหาข้อมูลมาก่อน ว่าจะกินเที่ยวและซื้อของที่ไหนเมื่อนอกเวลาทัวร์ ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีการจองโรงแรมแตกต่างกันออกไป คอยถามย้ำสำรวจและดูสถานที่ท่องเที่ยวรอบข้างที่พักเพื่อเก็บประสบการณ์พิเศษ ดูข้อมูลตามตารางทัวร์วางแผนการซื้อของแต่ละจุด แล้วคุณจะมีความสุขกับการไปเที่ยวเกาหลีด้วยโปรแกรมทัวร์ไฟไหม้ครับ อย่างว่าของถูกทุกอย่างย่อมมีเงื่อนไข ถ้าอยากเที่ยวแบบเต็มๆ ซึมซับบรรยากาศแต่ละจุดให้เต็มที่ แนะนำว่ามาเที่ยวเอง จองตั๋วข้ามปีมา ลางานล่วงหน้า เพราะการเดินทางที่นี่สะดวก Google Maps บอกเส้นทางรถสาธารณะละเอียดทุกสาย เวลาออกรถตรงเวลา ทั้งรถไฟและรถเมลล์ รับรองสนุก ใครสะดวกแบบไหนลองพิจารณาดูจากรีวิวนี้ดูครับ การมากับทัวร์ไฟไหม้นั้นในราคาไม่ถึงหมึ่น พอคิดค่าใช้จ่ายที่ต้องมาเองทั้งตั๋วเครื่องบินไป - กลับ ค่าเดินทาง ค่าอาหารแต่ละมื้อ แลกกับเงื่อนไขเล็กน้อย ทัวร์ไฟไหม้นี่คุ้มค่าที่สุดครับ แต่สำหรับผมรอบหน้าจะเที่ยวเอง วางแผนกิน เที่ยว ซึมซับบรรยากาศ ช็อปปิ้งให้จุใจกว่ารอบนี้อีก คอยดูสิ !!!

ทัวร์ไฟไหม้เอาคะแนนไปเลย 🌟 🌟 🌟 🌟 🌟 คุ้มค่าสุดๆ

อ่านแล้วสนุก รบกวนกดไลค์เราที่เพจ FB ของเราด้วย> www.facebook.com/FoodAddictsThai <

จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘