Food Addicts - เสพติดการกิน
รีวิวร้าน"Jukkumi"ปลาหมึกผัดรสเผ็ดในกระทะร้อนและอาหารเกาหลีแบบครบวงจร ได้อารมณ์แดนโสมใจกลางทองหล่อ!
อัปเดตเมื่อ 15 มิ.ย. 2564
เปิดทีวีดูซีรี่ย์สเรื่องวุ่นรักสาวนักกินแล้วเกิดอยากอาหารเกาหลีขั้นขีดสุด ! ไม่ไหวแล้วฉันจะต้องทานให้ได้ เปิด Google หาร้านอาหารเกาหลีน่าสนใจ ต๊อกโปกี/บูเดจิเก/จาจังมยอน/บีบิมบับ มันธรรมดาเกินไป อยากกินเมนูที่มีความ Advance มากกว่านั้น จนเจอกับร้าน Jukkumi เป็นร้านปลาหมึกผัดเผ็ดสไตล์เกาหลี ได้ยินแล้วเปรี้ยวปาก เพราะเคยทานตอนไปเที่ยวเกาหลีจำได้ว่ารสชาติแซ่บมาก คลุกข้าวทานได้หลายจาน และไม่ค่อยมีร้านอาหารเกาหลีในไทยที่ขายเมนูเฉพาะทางแบบนี้ โดยปัจจุบันมี 2 สาขาคือ เดอะมอลล์งามวงศ์วานชั้น 5 และโครงการ J Avenue ทองหล่อชั้น 2 เลยเลือกสาขาที่ใกล้บ้านที่สุด เดินทางด้วย BTS ลงสถานีทองหล่อ แล้วต่อรถเข้ามาในซอยสุขุมวิท 55 อีกเล็กน้อยเข้ามาในโครงการ J Avenue ชั้น 2 ก็จะพบกับหน้าร้านที่เป็นประตูไม้ขนาดใหญ่/หลังคากระเบื้องแบบบ้านเกาหลีโบราณ สัญลักษณ์เป็นปลาหมึกยักษ์ตามเมนู Signature ของที่ร้าน แสดงว่าเรามาถึงแล้วครับผม
ก่อนเข้าไปในร้านขอดูราคาและเมนูก่อนว่ามีอะไรให้ทานบ้าง? เมนูปลาหมึกผัดรสเผ็ดกระทะร้อนเริ่มต้นที่ 520 บาท มีทั้งแบบเนื้อปลาหมึกล้วน/ผสมเนื้อสัตว์(เนื้อหมู/เนื้อวัว) และอาหารทะเลต่างๆเพื่อความความหลากหลายในกระทะ ท๊อปปิ้งสำหรับเพิ่มลงในกระทะเริ่มต้นที่ 30 บาทแพงสุด 200 บาท ข้าวสวยผสมไข่ปลาบินสำหรับปิดท้ายเริ่มต้น 120 บาท บูเดจิเกหม้อไฟเริ่มต้นที่ 580 บาท ท๊อปปิ้งเริ่มต้นที่ 30-100 บาท เมนูหม้อและกระทะร้อนจะมี 2 ราคา(500g.-800g.หรือไซส์M-L)สำหรับทาน 2 และ 3 คนตามลำดับ ถ้าหากใครมาคนเดียวสั่งแล้วเป็นกระทะใหญ่กลัวทานไม่หมด ทางร้านก็มีอาหารเกาหลีเป็นแบบ Set Menu ผัดให้เสร็จพร้อมทานเริ่มต้นที่ 140-200 บาท อาหารทานเล่นเมนูเกาหลีเริ่มต้นที่ 120 - 160 บาท เมนูสำหรับเด็ก/เมนูสั่งทานกลับบ้าน พร้อมเครื่องดื่มและของหวาน ดูจากราคาแล้วถือว่ากลางๆ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไปสำหรับร้านอาหารในย่านทองหล่อ เข้าไปด้านในกันครับ
เข้ามาภายในร้านบรรยากาศคล้ายกับบ้านเกาหลีโบราณ ที่ตกแต่งด้วยสีขาวตัดลายไม้สีอ่อนดูสว่างสดใส พื้นร้านปูด้วยกระเบื้องหินสีดำและเทา ต้นไม้ภายในร้านก็ใช้เป็นต้นไม้จริงๆ เปิดไฟสว่างและมีหน้าต่างเปิดรับแสงแดดขนาดใหญ่ดูสบายตา และทุกโต๊ะจะมีเตาไฟฟ้าพร้อมอยู่เสมอ ไม่ดำอึมครึมแบบร้านอาหารเกาหลีเจ้าตลาดหลายๆร้าน และมีลูกค้าสาวชาวเกาหลีใช้บริการอยู่ด้วย แปลว่าปลาหมึกผัดเผ็ดของที่ร้านนี้รสชาติมันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
วันนี้ยกเพื่อนๆผู้คลั่งไคล้อาหารเกาหลีมาเปิบด้วยกันถึง 4 คน เลือกโต๊ะที่จะนั่งเรียบร้อย บนโต๊ะมีกระดาษรองจานที่มีการบ่งบอกถึงเรื่องราวความดีๆของเมนูปลาหมึกผัดเผ็ดอันเป็นพระเอกของร้านนี้ (เรื่องราวโดยรวมคือมันดีต่อสุขภาพ) และมีป้ายบอกวิธีกินอย่างถูกต้องไว้ถึง 9 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกที่เราต้องทำคือสั่งอาหารโดยเลือกระดับความเผ็ดได้ 3 ระดับ พนักงานแนะนำว่าระดับ 2 ได้รับความนิยมที่สุดในร้าน แต่เราสายทานเผ็ดอยู่แล้วขอเบอร์ 3 เลยละกัน ก่อนที่จะเริ่มทานทางร้านจะแจกผ้ากันเปื้อนหลากหลายสีสันดูสดใสให้เราใส่ก่อนอาหารจะออกมา และที่โต๊ะยังมีปุ่มกดเรียกพนักงานไม่ต้องยกให้เมื่อยมือสะดวกมากๆ ระหว่างนี้เราก็นั่งเม้าท์มอยรออาหารไปก่อนครับผม
เครื่องดื่มมาเสิร์ฟก่อน 3 เมนูคือ"บลูเลมอนโซดา"น้ำเชื่อมรสบลูฮาวายผสมมะนาวมีความหวานอมเปรี้ยวหอมซ่าสดชื่น "ลูกพลัมโซดา" น้ำเชื่อมรสบ๊วยเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดหอมเตะจมูกท๊อปปิ้งด้วยโซดาเย็นซ่าสดชื่นลงตัว และ"ส้มยูสุโซดา" แยมส้มยูสุใส่ทั้งเนื้อและเปลือกรสหวานหอม อมขมเปลือกส้มนิดๆทานคู่กับโซดาเย็นๆ รสหวานหอมลงตัว (ทุกแก้วราคาแก้วละ 90 บาท) และทางร้านก็ยกเครื่องเคียงมาให้(ไม่มีคิดเงินเพิ่ม) เริ่มจาก "ซุปสาหร่ายเกาหลี"รสหอมหวานกลมกล่อม/"ซอสซัมจัง"รสเค็มหอมกลิ่นเต้าเจี้ยวสำหรับทานกับปลาหมึกผัด/"กิมจิผักกาดขาว"เปรี้ยว-เค็มผักกาดขาวมีความกรอบฉ่ำน้ำลงตัว น้องพนักงานบอกว่ากิมจิที่ร้านนำเข้าจากเกาหลีโดยตรง(อร่อยมากครับ)/เส้นแก้วสาหร่ายคลุกมายองเนสรสหวานนำกรุบกรอบในปาก/ถั่วงอกผัดน้ำมันงาหอมๆรสเค็มนิดๆลงตัว/หัวไชเท้าสไลด์ดอง รสหวานเปรี้ยวฉุนน้ำส้มสายชูเสิร์ฟมาเย็นๆทานแล้วกรอบเย็นสดชื่นสุดๆ/ผักสดรวมทั้งแตงกวาญี่ปุ่น-ผักกาดหอม-แครอทและใบงา ทั้งหมดนี้ขอเติมได้ 3 รอบต่อโต๊ะ รู้สึกเหมือนให้เติมน้อยแต่พอทานจริงๆก็พอดีครับ
เมนูแรกที่เป็นพระเอกของทางร้าน "จุซัมยับ" เผ็ดระดับ 3 ขนาดสำหรับทาน 2 คน(500กรัม) ราคา 580 บาทให้กระทะประกอบด้วยปลาหมึกขนาดกำลังดีหมักซอสรสเผ็ดสไตล์เกาหลีสูตรของทางร้าน เนื้อไม่เหนียวเพื่อนๆผมเป็นคนจัดฟันสามารถทานได้อย่างสบายๆ /แป้งต๊อกโปกีแบบแท่งใหญ่/เห็ดหอมสด/ใบงาหั่นท่อน/ต้นหอมหั่นท่อน/กระหล่ำปลีฝอยและหมูสามชั้นสไลด์ล้อมรอบกระทะ มาถึงพนักงานจะเปิดเตาและผัดทุกอย่างให้เข้ากัน และรอจนน้ำงวดเล็กน้อย(พอซอสเคลือบปลาหมึก) จากนั้นห่อด้วยผักต่างๆได้ตามใจ แต่ทางร้านแนะนำให้ทานกับใบงาถือว่าดีงามมาก ปลาหมึกเนื้อกรอบทานกับเนื้อหมูสามชั้นและแป้งต๊อกนุ่มๆ หอมกลิ่นใบงาขึ้นจมูกเข้ากันได้ดีกับซอสรสหวานเผ็ด (ถึงจะเผ็ดเบอร์ 3 แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าเผ็ดกำลังดี) ไม่เหม็นกลิ่นคาวปลาหมึก(ทางร้านล้างมาเป็นอย่างดี) และกลิ่นเฉพาะของโคชูจัง ทานเคียงกับผักดองต่างๆเปลี่ยนรสชาติไปเรื่อยๆ บอกเลยว่าอร่อยฟินห์ถึงใจเลยครับ
เมนูต่อไปมาเสิร์ฟคือ "บูลเดจิเก" หรือหม้อไฟทหารเกาหลี(ใครอยากรู้ว่าทำไมถึงชื่อนี้ไปค้นหาใน Google เอา) ราคา 580 บาท หม้อนี้สำหรับทาน 2 คน ในหม้อประกอบไปด้วยแฮม/ไส้กรอกรมควัน/ไส้กรอกชีส/โบโลน่า/เต้าหู้ขาว/มันดู(เกี๊ยวไส้หมูสไตล์เกาหลี)/เบคอน/แป้งต๊อกสไลด์/กิมจิ/เส้นบะหมี่เกาหลี/ต้นหอมญี่ปุ่น/กุ้ยช่าย รวมๆคือแน่นเต็มหม้อ ราดด้วยน้ำซุปกระดูกปลาและสาหร่ายที่ต้มนานจนคอลลาเจนปลาออกมาเป็นสีขาวขุ่น ไม่เหมือนร้านไหน วิธีการทานคือไม่ต้องรีบร้อน ปล่อยต้มไปเรื่อยๆจนน้ำเริ่มงวดจะอร่อยกว่า หม้อนี้ไม่ได้ปรุงรสด้วยโคชูจังอย่างเดียว แต่ใส่เต้าเจี้ยวสูตรเฉพาะที่รสเค็มอ่อนๆผสมพริกป่นเกาหลีลงไปเพื่อให้น้ำข้น/เผ็ด ซดแล้วสะใจ ไม่เหม็นกลิ่นเฉพาะของโคชูจัง เปลี่ยนรสชาติและสัมผัสการเคี้ยวด้วยการเปลี่ยนวัตถุดิบในหม้อเรื่อยๆ ซดเพลินจนหยดสุดท้าย
เมนูอาหารทานเล่นเกาหลีออกมากันแบบรัวๆทั้ง "จับแช" ราคา 160 บาท ผัดวุ้นเส้นสไตล์เกาหลีเส้นเหนียวนุ่มสู้ฟัน ผัดในน้ำมันงาหอมๆ หวานด้วยรสผัดต่างๆทั้งหอมหัวใหญ่/ต้นหอม/แครอท/พริกหวาน และเพิ่มสัมผัสในการเคี้ยวด้วยเนื้อหมูอีกนิดนึง อร่อยดีแต่ชุ่มน้ำมันงาไปหน่อยนึง ต่อกันด้วย "คาลบีชิคเก้น" ราคา 120 บาท ปีกบนไก่ชุบแป้งทอดกรอบเคลือบด้วยซอสฮันนี่การ์ลิครสหวานหอมกระเทียมกลมกล่อม ราดซอสมาชุ่มฉ่ำดูเหมือนจะหวานเกินไปแต่รสชาติกลับอร่อยลงตัวกว่าที่คิด ดีงามไม่แพ้ไก่ทอดเกาหลีเจ้าดังเลยครับ สุดท้ายเป็น "ไข่ม้วนชีส" ราคา 150 บาท ไข่เจียวม้วนสไตล์เกาหลีนุ่มๆสอดไส้ด้วยชีสเพิ่มความหอมมัน ท๊อปปิ้งด้วยไข่ปลาบินปรุงรสกรุบกรอบๆมาด้านบน เสิร์ฟมาพร้อมซอสมะเขือเทศรสเปรี้ยวหวานเข้มข้น ช่วยลดความเลี่ยนจากไข่และชีสลงได้เยอะเลยครับ
ทานไปเรื่อยๆจนถึงโค้งสุดท้ายที่ใครเป็นคออาหารเกาหลีต้องชอบขั้นตอนนี้มากที่สุด นั่นคือการทำข้าวผัดจากซอสที่เหลือในกระทะ สั่งเป็นข้าวสวยผสมไข่ปลาบินไซส์เล็กราคา 120 บาท ข้าวญี่ปุ่นเม็ดกลมอ้วนผสมน้ำมันงา/สาหร่ายเส้น ผัดให้เข้ากับซอสปลาหมึกรสเผ็ดที่เหลืออยู่ในกระทะ เพิ่มความหรูหราด้วยการโรยไข่ปลาปรุงรสสไตล์ญี่ปุ่นลงไปถ้วยใหญ่ แผ่ให้ข้าวสุกกรุบกรอบแบบข้าวตังเพื่อความหอมกระทะเวลาทาน จะตักทานเปล่าๆหรือสั่งผักสดมาห่อทานคู่กันก็อร่อยสดชื่น หอมกลิ่นข้าวเกรียมๆ/น้ำมันงา/สาหร่าย/กรุบกรอบและกลมกล่อมด้วยไข่ปลาปรุงรส ทานคู่กับผักดองและเครื่องเคียงรสอื่นๆไปเรื่อยๆ เป็นการปิดท้ายมื้อที่เป็นนิพพานของสายเกาอย่างแท้จริงครับ
ของหวานที่ร้านเป็นบิงซู 2 รสชาติ แต่ดูแล้วเหมือนจะหนักท้องเกินไปหน่อย เลยสั่งเป็นมิลค์เชครสวนิลาราคา 90 บาท เป็นไอศครีมรสวนิลาผสมน้ำแข็งและนมปั่นจนเนื้อเนียน รสหวานกำลังดีหอมวนิลาและซอสช๊อกโกแลตที่ตกแต่งเป็นลาย ท๊อปปิ้งด้วยเวเฟอร์สอดไส้ช๊อกโกแลตสดชื่นดีครับ อีกแก้วเป็นมิลค์เชครสเนยถั่ว ราคา 110 บาท คล้ายกับแก้วแรกแต่ผสมเนยถั่วลงไปปั่น และไม่มีซอสช๊อกโกแลตตกแต่งรอบแก้ว มีความหอมมันของถั่วลิสงเพิ่มขึ้นมา ต้องช่วยกันทานแก้วละ 2 คนเพราะทานไปได้ครึ่งแก้วก็รู้สึกหนาวซะแล้ว ดับร้อนได้ดีเลยครับสำหรับแก้วนี้

มื้อนี้มากัน 4 คน ราคาค่าอาหารที่สั่งไปทั้งหมด 2,270 บาท เมื่อรวม Vat. และ Service Charge อีก 17% แล้วอยู่ที่ 2,656 บาท ตกคนละ 664 บาทถือว่าอยู่ในราคาที่รับได้อยู่ เพราะเคยไปทานบุฟเฟ่ต์ถึงแม้ว่าจะราคาถูกกว่านี้ แต่ต้องทำเวลาในการทานทำให้ความอร่อยลดลง (อาหารเกาหลีต้องรอน้ำงวดก่อนถึงจะทานอร่อย แต่บุฟเฟ่ต์หม้อไฟเติมน้ำเข้าไปเรื่อยๆ รสชาติเลยไม่ค่อยเข้มข้น เหมือนทานวัตถุดิบต้มเปล่าๆ) แต่ที่นี่ไม่ต้องรีบจึงได้ทานรสชาติที่อร่อยแซ่บโดนใจเพื่อนสายเกาหลีที่มาด้วยกันวันนี้ทุกๆคน ร้านนี้เขาปรุงเมนูรสชาติค่อนข้างเผ็ดร้อนมีความเข้มข้นกว่าร้านอื่น (หากใครไม่ทานเผ็ดก็ขอลดเลเวลได้) ไม่มีกลิ่นเฉพาะอย่างโคชูจังที่แรงแบบร้านเกาหลีแท้ๆ ทำให้ถูกปากคนไทยมากกว่า ขนาดปลาหมึกที่ใช้ถึงแม้ว่าจะขนาดเล็กกว่าที่เกาหลี แต่เป็นมิตรกับคนที่จัดฟัน โดยรวมแล้วถือว่าดีงามโดนใจสุดๆ สมกับที่เดินทางมาทานให้หายอยาก ได้รับคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวครับ🌟🌟🌟🌟🌟

พิกัด : โครงการ J Avenue ชั้น 2 ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
ร้านเปิดทุกวัน 10.00 - 22.00 น. โทร. 097-123-0484
Facebook : https://www.facebook.com/jukkumithailand/
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘