Food Addicts - เสพติดการกิน
รีวิว JQ Seafood Buffet ปูม้าเดลิเวอรี่เจ้าดังมาทำบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดระดับพรีเมี่ยม 1,299 ทานได้ 1.30 ชม.
อัปเดตเมื่อ 15 มิ.ย. 2564
ร้านเจคิวปูม้านึ่งหันมาทำบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดระดับพรีเมี่ยมแล้ว นี่ได้ข่าวมาจากใน Instagram กำลังเลื่อนฟีดเล่นแล้วเจอโดยบังเอิญ ที่สำคัญราคาไม่แพงเพียง 990++ (มี Vat. และ Service Charge อีก 10%) เป็น 1,099 ฿ แต่วันที่เราลงรีวิวนั้นมีการปรับเปลี่ยนราคาขึ้นเป็น 1,299 ฿ Net. พร้อมมีเมนูมาเสริมทัพอีกหลายอย่าง ใครอยากรู้ว่ามีอะไรมาเพิ่มบ้างก็เข้าไปได้ที่ Facebook ของทางร้าน>>> www.facebook.com/JQPUUMANUNG/ <<< นี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในวงการซีฟู๊ดบุฟเฟ่ต์ระดับพรีเมี่ยม(ปัจจุบันมีอยู่แค่ไม่กี่ร้าน) เพราะร้านเจคิวก็ถือว่ามีชื่อเสียงด้านความสดของปูม้าที่เลือกใช้ รวมไปถึงน้ำจิ้มสุดแซ่บที่มัดใจลูกค้ามายาวนาน หน้าร้านก็ไม่ได้อยู่ข้างทางทั่วไป แต่ตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ของโรงแรม Vince ประตูน้ำ ใจกลางเมือง เดินทางมาด้วย BTS ลงสถานีราชวิถีเดินเข้าซอยเพชรบุรี 11 มาประมาณ 200 เมตรก็จะถึงโรงแรมแล้วจ้า เห็นป้ายJQ สีส้มๆแบบนี้ แปลว่ามาถูกแล้ว เข้าไปที่ล๊อบบี้กันครับ
เมื่อถึงล๊อบบี้กำลังจะขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 8 แต่ลิฟต์ตัวหลักมีถึงแค่ชั้น 7 เลยเดินออกมาสอบถามพนักงานที่ล๊อบบี้ ต้องเดินไปใช้ลิฟต์ตัวด้านหลังสุด เมื่อเข้ามาที่ล๊อบบี้ให้เลี้ยวขวา เดินลงบันไดไปผ่านห้องน้ำแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะพบลิฟต์ตัวพิเศษที่สามารถขึ้นไปที่ชั้น 8 ได้แล้วครับ ล๊อบบี้โรงแรมนี้อาจจะดูวุ่นวายไปหน่อย เพราะอยู่ใกล้กับคิงพาวเวอร์รางน้ำ มีแต่คนจีนพักเต็มไปหมด ลืมบอกไปว่าก่อนเข้ามาใช้บริการที่ JQ Seafood Buffet รับเฉพาะลูกค้าที่จองล่วงหน้ามาก่อนอย่างน้อย 1 วันนะครับ ลูกค้า Walk In ไม่รับทุกกรณี เพราะมีเหตุผลเรื่องการเตรียมวัตถุดิบให้เพียงพอความต้องการของลูกค้า และรักษาคุณภาพให้สดใหม่อยู่เสมอนั่นเอง โทรจองที่เบอร์ 02-105-4205 หรือที่ล๊อบบี้ของทางโรงแรมโดยตรง (เพราะระหว่างนั่งทานอยู่ มีคนจีนขึ้นมาจะทานแต่ทางร้านก็ไม่รับเพิ่มนะครับ)
เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงที่ชั้น 8 ออกจากลิฟต์มาจะเป็นชั้นสระว่ายน้ำของทางโรงแรม มองหาป้ายสีส้มๆเขียนว่า JQ แล้วเดินตามไปเลยครับ เห็นประตูทางเข้าก็ผงะอยู่เหมือนกัน ไม่เหมือนเป็นประตูร้านอาหาร แต่เป็นประตูเข้าไปที่ครัวหลังร้านอาหารมากกว่า แต่ก็มีป้ายหน้าชัดเจนนะ มาไม่ผิดห้องหรอก เมื่อเปิดประตูเข้ามานี่มันผับสไตล์ร้านที่ขายมื้อเย็นของอเมริกัน บรรยากาศร้านทำให้นึกถึงเบอร์เกอร์เนื้อชิ้นโตๆมากกว่าร้านซีฟู๊ดบุฟเฟ่ต์ สอบถามทางร้านได้ความว่า ห้องอาหารนี้ทางโรงแรมเปิดให้ทางร้าน JQ มาเช่าใช้สถานที่ครับ ถึงบรรยากาศจะดูแปลกๆแต่ก็สะอาดและกว้างขวางมากครับ เรามาตั้งแต่เปิดร้าน 18.00 น. ยังไม่มีลูกค้าคนไหนมาเลย วางกระเป๋าที่โต๊ะกันก่อนครับ
เมนูอาหารทะเลของที่นี่ถือว่ามีให้เลือกทานค่อนข้างเยอะเลย เต็ม 2 หน้ากระดาษแผ่นใหญ่ ราคาวันที่ผมไปทาน(ก่อนวันที่ 14 ต.ค. 62) คนละ 1,099 Net. นั่งทานได้เต็มที่ 90 นาที เด็กสูงตั้งแต่ 100 - 120 ซม. ราคา 550 บาท ถ้าเป็นเด็กตัวเล็กกว่านี้ทานฟรีไปเลยจ้า ส่วนตอนนี้ราคา 1,299 Net.และ เด็กสูงตั้งแต่ 100 - 120 ซม. ราคาเพิ่มเป็นคนละ 650 บาท เด็กตัวเล็กกว่านี้ยังทานฟรีเช่นเดิม และจะมีการเพิ่มเมนูมาอีกหลายรายการ แต่วันนี้จะรีวิวเฉพาะรายการอาหารเมนูเก่าก่อนที่ทางร้านจะปรับปรุง จะสดและคุ้มกับเงินที่จ่ายไปไหมนั้น มาดูกันครับ
ได้เวลาเปิดไลน์บุฟเฟ่ต์แล้ว จัดมาได้สวยงามอลังการทีเดียว เมื่อเข้ามาก็จะพบกับวัตถุดิบสดๆที่ทางร้านนำมาโชว์จากในครัวครับ ทั้งปลากระพงตัวใหญ่ตาใสแจ๋ว/ปลาหมึก/กุ้งแม่น้ำตัวโตและปูม้าที่ถือว่าเป็น Signature ของที่นี่ เหมือนเป็นการโชว์ให้เห็นความสดของวัตถุดิบที่จะใช้ในมื้อนี้ก่อน ส่วนของที่ต้องตักเองจริงๆอยู่ถัดไปจากนี้ครับ
เริ่มจากโซนของทะเลทานสดอย่างซาชิมิปลาแซลมอน เสิร์ฟมาจานละ 3 ชิ้น เท่าที่สังเกตด้วยสายตาคุณภาพของปลาแซลมอนที่ทางร้านใช้ถือว่าสีส้มนวลสวย ลายไขมันแทรกชัดเจน ที่สำคัญรสชาติดีงามมาก ใครที่เป็นสาวกปลาส้มนอกจากจะทานแบบซาชิมิแล้ว ที่นี่มีเมนูยำรสแซ่บ สามารถเอาแซลมอนสดไป Mix & Match ได้อีกดีงามมาก กุ้งแช่น้ำปลาถูกเสิร์ฟมาในแก้วขนาดเล็กด้านในมีกระเทียมสดและมะระไว้ให้พร้อม แค่เทน้ำจิ้มซีฟู๊ดลงไปก็อร่อยฟินห์ได้แล้วครับ หอยนางรมสดตัวใหญ่มาก สอบถามทางร้านว่าใช้ของที่ไหน ได้ความมาว่าเป็นของเกาหลีจ้า แต่ตามสเปคจริงๆแล้วที่นี่เขาใช้หอยนางรมสุราษฎร์ธานี แต่หน้านี้เป็นหน้ามรสุม ชาวประมงลงไปเก็บหอยให้ไม่ได้ ทางร้านเลยเลือกใช้เป็นหอยนางรมเกาหลีเกรดใหญ่ที่สุดแทน ใหญ่โตกว่าที่เคยทานในโรงแรมหลายๆที่มากครับ มาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด สูตรเด็ดแบบเดียวกับที่ใช้เสิร์ฟในปูม้าเดลิเวอรี่/น้ำพริกเผา/หอมแดงเจียว/ยอดกระถิน/โชยุ/วาซาบิมีมาให้แบบครบถ้วย ใครอยากได้มะนาวซีกทานคู่กับหอยนางรมก็สามารถขอน้องพนักงานเพิ่มได้เลยนะครับ
โซนต่อมาเป็นขนมจีนพร้อมน้ำยา ที่นี่มีให้เลือกทาน 2 เมนูได้แก่ ขนมจีนน้ำยาปู ที่ดูผิวเผินแล้วสีน้ำแกงไม่ค่อยสวยแต่พอตักลงไปด้านล่าง เนื้อกรรเชียงปูอัดแน่นเต็มหม้ออยู่นะ ข้างๆกันเป็นแกงเขียวหวานฃลูกชิ้นปลากรายขูดเนื้อแน่น สัมผัสเนื้อปลาเด้งสู้ฟันสุดๆ หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรอย่างยี่หร่า ไม่เหมือนแกงเขียวหวานที่อื่นดี จากการที่ได้ชิมขนมจีนทั้ง 2 เมนูนี้รู้เลยว่าพริกแกงของที่นี่ตำเองแน่นอน เพราะรสเผ็ดและกลิ่นเครื่องเทศแรงเตะจมูกมาก
โซนต่อมาเป็นเครื่องดื่มและของหวาน เครื่องดื่มตรงโซนนี้จะไม่รวมในราคาบุฟเฟ่ต์ (แต่ก็มีเครื่องดื่มฟรีหลากหลายอย่างรวมในรายการบุฟเฟ่ต์นะ) ส่วนราคาก็ค่อนข้างโหดน่าดู (ก็เป็นราคาน้ำดื่มในโรงแรมนั่นแหละ) ใครไม่ซีเรียสหรืออยากสั่งทานจริงๆ ทางร้านเขาก็มีให้บริการครับ ชั้นถัดมาเป็นของหวาน 2 ชนิดคือลอดช่องน้ำกะทิ และวุ้นกะทิรูปเป็ด เดินมาตักทานได้ไม่อั้น ส่วนของหวานชั้นสุดท้ายต้องสั่งแล้วน้องพนักงานจะไปเสิร์ฟที่โต๊ะ มีให้เลือกทาน 2 เมนูคือ โรตีเนยสด และข้าวเหนียวมะม่วง ไม่ต้องรอคิวเพื่อจะทานนานๆแบบร้านที่เจ๊งไปแล้ว ดีงามมากครับ
หันหลังกลับมาจะเป็นโซนข้าวและซุป แต่ก่อนหน้านี้เราเห็นมีป้ายเมนูพิเศษให้สั่งได้ด้วย ทั้งยำกุ้งไข่เค็ม/ยำแมงกะพรุน/ยำมาม่าทะเล/ส้มตำ (เดี่ยวสั่งมาชิม) กลับมาที่ซุปมีทั้งซุปกะเพาะปลา รสชาติเข้มข้น ใส่ถุงลมปลามาให้ชิ้นใหญ่มาก ซุปต้มยำน้ำใสเอาไว้ซดคล่องคอ รสชาติแซ่บเบาๆ หอมกลิ่นได้รสเครื่องต้มยำแบบครบรส ซุปเยื่อไผ่ก็รสชาติเบาๆ มีความกลมกล่อม ใส่เยื่อไผ่มาให้ชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำ White Soup อันนี้เด็ดมาก เป็นซุปครีมหอมกลิ่นนมเนย มีความเค็มเบาๆ ใส่เครื่องทะเลลงไป ความหอมของทะเลและนมเข้ากันได้ดีมาก ส่วนหม้อสุดท้ายถึงจะเขียนว่าข้าวสวย แต่พอเปิดดูแล้วเป็นเหมือนข้าวผัดไข่ครับ สำหรับคนที่กลัวไม่อยู่ท้องก็ตักเพิ่มไปได้เลย โดยรวมแล้วซุปที่นี่ทำมารสชาติกลมกล่อม บางอันก็เข้มข้นถึงใจ รสชาติไม่ครึ่งๆกลางๆแบบที่อื่น ได้รสชาติแบบเต็มๆดีครับ
น้ำดื่มที่รวมในบุฟเฟ่ต์มีให้เลือกเยอะเลยครับ ทั้งน้ำแดง ชามะนาว (คล้ายชามะนาวลิปตัน หวานเปรี้ยวอ่อนๆ) น้ำเปล่าใส่เลมอน (อันนี้หอมกลิ่นเลมอนเวลาดื่มแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี) น้ำเปล่าธรรมดา ชาเขียวใส่นม (หอมกลิ่นชาเขียว นมไม่ค่อยเข้มข้น รสหวานใสๆแต่ก็ทานได้เรื่อยๆ) สุดท้ายเป็นน้ำใบเตย(ถึงสีจะไม่สวย แต่หอมชื่นใจดีครับ)
ระหว่างที่เราไปถ่ายรูปไลน์อาหาร อาหารต่างๆก็ถูกทยอยมาเสิร์ฟ เริ่มจากเมนูแรกเป็นตำไทยรสเปรี้ยวหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งแม่น้ำเนื้อแน่น ตัวใหญ่ เข้ากับส้มตำได้เป็นอย่างดี ต่อมาเป็นผัดไทยกุ้งแม่น้ำ (จานนี้ถ้าทานร้านด้านนอกไม่ต่ำว่า 200 บาทแน่นอน)ผัดไทยรสชาติหวานเค็มกลมกล่อมหอมกลิ่นน้ำมะขามเปียก เส้นจันทร์เหนียวนุ่ม เข้ากันได้ดีกับกุ้งแม่น้ำตัวโตมากครับ จากการทานกุ้งแม่น้ำเมื่อกี้เข้าไป ต้องยอมรับอย่างนึงว่า กุ้งแม่น้ำที่นี่เนื้อแน่นมาก มันที่หัวก็เยอะ ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเผ็ดแซ่บฉุนกระเทียม หวานเค็มกำลังดีของที่ร้าน บอกเลยว่าสุดยอดมากครับ ส่วนหอยนางรมถึงจะเปลี่ยนเป็นเกรดเกาหลี แต่ถ้าเป็นความเต็มปากเต็มคำ ถือว่าทดแทนได้อยู่ สัมผัสอาจจะไม่สู้ฟันและรสหวานเท่าหอยนางรมสุราษฎร์ธานี แต่ก็ถือว่าคุณภาพสูงกว่าที่ทานตามโรงแรมทั่วไปมากครับ
วันนี้หอยเชลล์ไม่เข้า ทางร้านเลยจัดมาเป็นหอยนางรมอบชีสแทน เป็นหอยนางรมเกาหลี นำไปอบชีส (เหมือนจะไล่ความชื้นในตัวหอยออกไปส่วนนึงแล้ว) ทานไปได้สัมผัสของชีสผสม รสเค็มหอม (ชีสผสมจะหอมเค็มกว่ามอสซาเรลล่าอย่างเดียว) และเนื้อหอยนางรมเป็นเนื้อครีมด้านใน อร่อยม๊าก อันนี้สั่งมาเบิ้ลเลยครับ ต่อมาเป้นปลากระพงทอดน้ำปลา ปลากระพงส่วนหาง (ส่วนต่างๆมีการสลับกันไป) ทอดจนหนังกรอบเนื้อในฉ่ำ ราดด้วยซอสน้ำปลารสหวาน เค็มอ่อนๆ ปลากระพงที่นี่ถือว่าสดไม่มีกลิ่น แต่เนื้อไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ (ไม่แน่ใจว่าเป็นปลากระพงเลี้ยงหรือเปล่า) ยำแมงกระพรุน อันนี้เปรี้ยวเผ็ดแซ่บ ให้แมงกระพรุนชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำมาก น้ำยำดีงามจนต้องเอาซาชิมิปลาแซลมอนลงไปคลุกเป็นยำปลาแซลมอนอีกจาน ถูกใจสุดๆครับ ตามมาด้วยเนื้อปูผัดผงกะหรี่ ที่นี่แกะเนื้อมาให้แล้วประมาณ 90% ทานง่าย รสชาติเค็มหวานหอมกลิ่นผงกะหรี่กำลังดี และกุ้งขาวทอดกระเทียม ใช้กุ้งขาวตัวใหญ่ แกะเปลือกมาให้ใช้ช้อนส้อมแกะเอาแต่เนื้อได้ง่าย รสชาติหวานเค็มหอมกระเทียม ทานกับกุ้งแน่นๆ อร่อยมากครับ
เมนู Signature ของที่นี่ออกมาแล้วครับ JQ เขาขึ้นชื่อเรื่องปูม้ามาอย่างยาวนาน กับเมนูปูม้านึ่งแกะเนื้อ มีให้ทานครบทุกส่วน ทั้งกรรเชียง ก้าม และเนื้อเล็กๆตามปล้องต่างๆถูกรวมเอาไว้ในกระดอง ส่วนความสดนั้นที่นี่ผมให้เป็นอันดับ 1 ครับ สดจริงเหมือนนั่งทานที่ชายทะเล ถามว่าทำไมถึงรู้ เพราะผมเวลาอยากทานปูจะไปที่ตลาดต้นโพธิ์เมืองพัทยา ซื้อปูเป็นๆช๊อกน้ำแข็งมาทีละ 3-4 กก. มานึ่งทานกับครอบครัวที่กทม.บ่อยๆ เพราะปูที่สดจริงๆในกทม. ราคาแพงมาก และ 90 % ของบุฟเฟ่ต์ปูม้าที่เคยทานมา ไม่สดเท่าไปซื้อเองที่พัทยา แต่ที่นี่สดหวาน เนื้อแน่นระดับเดียวกัน แถมแกะเนื้อมาให้พร้อมทานแบบเสร็จสรรพแล้วด้วย เอาเงินค่ารถค่าโรงแรมไปพัทยามาลงบุฟเฟ่ต์ที่นี่ 1 มื้อก็คุ้มแล้วครับ ราดน้ำจิ้มซีฟู๊ดแบบฉ่ำๆ ตักเนื้อปูล้วนๆเข้าปากรัวๆ นี่มันสวรรค์ชั้น 7 ของคนรักปูชัดๆเลยครับ สอบถามกับทางร้าน ปูม้าที่เสิร์ฟในบุฟเฟ่ต์นี้ ใช้เกรด เดียวกับที่เสิร์ฟเดลิเวอรี่ แต่ใช้ตัวเล็กกว่า โดยให้เหตุผลว่า หาได้ง่าย มีให้จับเยอะกว่า ไม่ต้องกลัวว่าจะของขาด หากใช้ตัวใหญ่แบบเดลิเวอรี่ทางร้านกลัวว่าของจะขาดส่งครับ
ต่อกันด้วยเมนูกุ้งแช่น้ำปลา กุ้งของที่นี่เหมือนเอาไปแช่โซดาจนเนื้อสุกกระชับ ล้างกลิ่นคาวและกลิ่นมันกุ้งจดหมดจด ขอดีคือทานแล้วไม่ท้องเสีย ข้อเสียคือความหวานและกลิ่นของกุ้งหายไป อันนี้แล้วแต่คนชอบนะครับ แต่พอทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บของทางร้าน ก็ถือว่าโอเคอยู่ครับ ปลากระพงขาวนึ่งซีอิ๊วถูกยกออกมา ซอสซีอิ๊วหวานเค็ม หอมกลิ่นขิงอ่อนๆอร่อยดี แต่เนื้อปลามันยุ่ยๆ ไม่ค่อยแน่น แต่ไม่มีกลิ่นสาบ (ส่วนตัวแนะนำว่าถ้าอยากทานปลา กระพงให้สั่งเป็นทอด เนื้อปลาจะกระชับและแน่นกว่าครับ) ขนมจีนน้ำยาปู ดูสีไม่ค่อยสวย แต่อย่างที่บอกไปตอนแรกแล้วว่า ที่นี่น่าจะใช้พริกแกงทำเอง สีแดงที่เห็นนั่งก็คือพริกแดงพริกเขียวผสมกันครับ รสเผ็ดจัดจ้านกลมกล่อมเลยแหละ กระเพาะปลาชิ้นใหญ่ น้ำซุปเข้มข้นและสัมผัสหนืดดีมาก แต่ใครที่ปากเล็กๆน่าจะทานลำบากหน่อยครับ และซุปขาวใส่เครื่องทะเลทั้งปูม้า/กุ้ง/ปลาหมึก อันนี้อร่อยมาก รสนมหอมๆกับกลิ่นเครื่องทะเลต่างๆเข้ากันดีสุดๆ
และของคาวชุดสุดท้ายก่อนที่จะอิ่มก็มาเสิร์ฟแล้วครับ เป็นปลาหมึกผัดไข่เค็ม รสชาติซอสมีความหวานนวลไข่เค็ม (แต่อันดับ 1 ในชีวิตที่ทำหมึกผัดไข่เค็มได้อร่อยที่สุดคือร้านมุมอร่อยพัทยา) แต่ความสดของปลาหมึกที่นี่ดีมาก เนื้อเด้งหอมกลิ่นหมึกเต็มปาก (เห็นลูกค้าหลายๆคนมักจะสั่งหมึกไข่ย่างมาทาน เพราะปลาหมึกที่นี่อร่อยขนาดนี้นี่ เอง) สั่งมาเพิ่มเลยแล้วกัน ตามมาด้วยเมนูอาหารไทยโบราณอย่างปลาแห้งแตงโม เป็นแตงโมเนื้อหวานเย็น ทานกับปลาแห้งป่นผสมน้ำตาล เกลือ หอมเจียวตามอัตราส่วนของทางร้าน อร่อยสดชื่นหอมกลิ่นปลาและหอมเจียวในปาก ได้กัดเนื้อน้ำตาลกรุบๆ ดีงามเลยครับ เมนูยำแซ่บอีกอันก็ตามออกมาเป็น ยำกุ้งสดไข่เค็ม เป็นน้ำยำที่ผสมเข้ากันกับไข่แดงเค็ม มีความหอมนุ่มนวล เข้ากันได้ดีกับน้ำยำเผ็ดแซ่บ และกุ้งสัมผัสเดียวกับกุ้งแช่น้ำปลาเมื้อกี้ อร่อยโดนใจอีกแล้วครับ ถึงจะอิ่มแล้วแต่ถ้าไม่ได้ทานเมนูนี้อาจจะรู้สึกเสียใจ ปลาหมึกไข่ย่าง ย่างมาดีมาก หมึกเนื้อหวานกรอบเด้ง ไข่หมึกรสชาติเข้มข้น ยิ่งทานกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้านด้วยแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่โต๊ะข้างๆสั่งมา 3 จาน
ปิดท้ายด้วยของหวาน เอาจริงๆเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับของหวานร้านซีฟู๊ดบุฟเฟ่ต์หรอก แต่มันดีเกินคาด มากๆ โรตีทอดมากรอบนอก นุ่มใน ราดด้วยนมข้นหวาน อร่อยจนต้องสั่งมาอีก 1 จาน โรตีว่าดีแล้วเจอข้าวเหนียวมะม่วงของที่นี่เข้าไป ขอเบิ้ล 3 จานเลยครับ มะม่วงรสหวานหอม อมเปรี้ยวนิดๆ (น่าจะเป็นน้ำดอกไม้) ทานกับข้าวเหนียวมูนที่สุกกำลังดี เป็นเมล็ดสวยงาม หวานหอมกลิ่นน้ำกะทิแบบนุ่มนวล โอ้ย ! ทานจานเดียวก็บ้าแล้วคุณเอ้ย

เดินไปจ่ายเงินแบบยิ้มแก้มปริ อาหารดีงามมาก ทำรสชาติจัดจ้านทุกอย่าง วัตถุดิบที่เลือกใช้ก็ถือว่าตัวใหญ่ คุณภาพดีมาก ก่อนหน้านี้ก็เคยทานบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ดระดับพรีเมี่ยมมาหลายเจ้า แต่ที่นี่ขอยกให้เป็นอันดับ 1 อาหารถูกปากมากกว่า 95% สอบถามกับน้องพนักงานว่าทำไมของสดขนาดนี้ ได้ความว่าที่นี่เขามีแพของทะเลและซัพพลายเออร์ที่รู้จัก ส่งของคุณภาพดีมาให้กันอย่างยาวนาน ทำให้ได้ของที่ดี ราคาคุ้ม มาจัดให้เราได้ทานเป็นบุฟเฟ่ต์กันที่สาขานี้ มื้อนี้ทานกัน 2 คน จ่ายไป 2,198 บาท (ถูกมากเพราะทานกันไปดุมาก) เอาคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวครับ 🌟🌟🌟🌟🌟

พิกัด : เลขที่ 26/2 ซอยเพชรบุรี 11 ถนนพญาไท แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
เปิดทุกวัน 18.00 - 21.00 น. สำรองที่นั่งก่อนเข้าใช้บริการ"ทุกครั้ง"ที่เบอร์ 02-105-4205
Facebook : https://www.facebook.com/JQPUUMANUNG/
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘