รีวิว Haru Kappo บุฟเฟ่ต์แซลมอน-อาหารญี่ปุ่นเกือบ 100 เมนูใน Siam Discovery ชั้น 4 เพียงคนละ 499 บาท

วันนี้เป็นวันเกิดของตัวผมเองเลยจัดการนัดครอบครัวมาทานอาหารด้วยกันแถว BTS สถานีสยามเพราะตอนนี้การเดินทางมาจากรามอินทราด้วยรถไฟฟ้านั้นสะดวกสบายมากกว่าเมื่อก่อน โดยร้านที่เรานัดมาทานกันเป็นบุฟเฟ่ต์ปลาแซลมอนและอาหารญี่ปุ่นที่ราคาถูกสุดในย่านสยามนั่นคือ Haru Kappo ตั้งอยู่บนห้างสยามดิสคัฟเวอรี่ชั้น 4 ไปหารีวิวเก่าๆถือว่าเป็นร้านดังที่ได้รับความนิยมเพราะจ่ายเงินไม่ถึง 500 บาทก็ได้ทานปลาแซลมอนสดและอาหารญี่ปุ่นหลากหลายเมนู ปัจจุบันที่ร้านได้เพิ่มเมนูมาเยอะเกือบ 100 รายการแต่จ่ายราคาเท่าเดิมถือว่าคุ้มค่าแก่การมาทานมากๆ วิธีการเดินทางมานั้นก็ง่ายหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวจอดรถภายในห้าง Siam Discovery นำบัตรจอดรถมาสแตมป์ตราร้านจอดได้ฟรี 4 ชั่วโมง (แต่จะหาที่จอดได้หรือไม่นั้นอีกเรื่อง) หากมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะก็สะดวกหน่อยเพียงแค่ลง BTS สถานีสยามแล้วเดินเข้าห้าง Siam Center ทะลุทางเชื่อมระหว่างตึกชั้น 2 มาโผล่ถึงห้าง Siam Discovery ได้ทันที ส่วนป้ายชื่อหน้าร้านนั้นไม่มีและถ้าไม่ได้อ่านรีวิวเก่าๆมาก่อนก็จะไม่ทราบเลยว่าพื้นที่ Food Court เก่าตรงนี้ได้สู่ขิตกลายเป็นร้าน Haru Kappo อย่างเต็มตัว โดยบริเวณบางส่วนก็ถูกแบ่งเป็นที่จัด Meeting แฟนคลับศิลปินเกาหลีด้วย (ที่รู้เพราะมีเด็กฝึกงานที่ Office มาร่วมกิจกรรมที่นี่บ่อยๆ) ส่วนอีกโซนก็แบ่งเป็นร้านอาหารสังเกตได้จากพื้นกระเบื้องหินอ่อนและฝ้ากระจกตัดเป็นวงกลมสีขาวทั้งหมดคือพื้นที่ของร้านนี้ ตอนแรกต้องยอมรับเลยว่าถ้าไม่อ่านรีวิวมาก่อนก็ไม่รู้เลยว่าในนี้มีร้านบุฟเฟ่ต์แซลมอนราคาถูกแบบนี้ตั้งอยู่ด้วย จุดสังเกตคือเดินเข้ามาจะพบกับเคาท์เตอร์บาร์สีขาวมีเชฟยืนทำซูชิแบบนี้อยู่แสดงว่ามาไม่ผิดร้านอย่างแน่นอนครับผม

บรรยากาศร้านของที่นี่คือความโปร่งสีขาวสบายตาและดูทันสมัยเพราะว่าเมื่อก่อนเป็น Food Court ไฮโซที่มีพนักงานคอยรับออเดอร์ด้วย Tablet จ่ายเงินด้วยระบบทันสมัยพร้อมกับเดินมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะแบบไม่ต้องขยับไปไหน พื้นร้านก็เป็นหินอ่อนสีขาวตัดวงกลม/โต๊ะ-เก้าอี้ไม้แท้สีขาวที่แข็งแรงแต่พอจะลากออกมานั่งมีเสียงดังลั่นร้าน/ฝ้าและระบบไฟด้านบนเป็นกระจกผสมไฟ LED ดูทันสมัย ที่กระจกด้านนึงสามารถมองเห็นวิวเมืองกับรางรถไฟฟ้า BTS ได้จากมุมริมหน้าต่างถือว่าหรูหราไฮโซมากๆ โดยพื้นที่อันกว้างขวางของทางร้านถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนใหญ่ๆก็คือ 1. โซนพื้นที่ให้เช่าสำหรับจัด Meeting (ส่วนเงื่อนไขการใช้พื้นที่ลองสอบถามทางร้านดูนะครับ) 2.พื้นที่ Cafe และอาหารแบบ A La Carte เท่าที่สังเกตดูลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนจากโซน 1 มาสั่ง และ 3.โซนอาหารบุฟเฟ่ต์ที่เรามานั่งทานกันในวันนี้ ตอนนี้ทางร้านมีโปรโมชั่นพิเศษลดราคาจาก 499++ หรือ 588 Net. เหลือแค่ 499 Net. ถ้าเป็นน้องๆนักศึกษาเพียงแสดงบัตรประจำตัวก็เหลือแค่เพียงคนละ 470 บาท พร้อมกับได้เพิ่มเมนูใหม่มาให้เลือกทานมากมายเกือบๆ 100 รายการ จะมีอะไรมาเพิ่มเติมบ้างเราจัดการหาที่นั่งแล้วนำเล่มเมนูมาสั่งอาหารกันครับผม

เมนูเล่มที่วางไว้กลางโต๊ะคือแบบเก่าที่ทางร้านใช้มาหลายปีส่วนอาหารเมนูใหม่ๆเป็นป้ายสามเหลี่ยมวางโชว์ไว้ที่โต๊ะเรียงกันหลายๆใบ ถ้าหากไม่อยากหยิบเพื่อพลิกดูไป-มาจนตาลายบนโต๊ะก็มีกระดาษพิมพ์ตารางรายการอาหารบุฟเฟ่ต์ให้สั่งเริ่มจากแผ่นแรกมีหัวข้อใหญ่เขียนว่า "Haru Kappo Buffet" ก็คือเล่มเมนูเก่าทั้งหมดของที่ร้านมีให้เลือกทานตั้งแต่ ซาชิมิ/สลัด/ซูชิ/ข้าวห่อสาหร่าย/เมนูจากครัวร้อนและขนมหวานรวมทั้งหมด 59 รายการ ส่วนเมนูใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่กระดาษแผ่นหลังในกระป๋องเดียวกันมี 32 รายการคือ Gunkan Sushi หรือซูชิข้าวห่อสาหร่ายหลากหลายหน้า/ซูชิเนื้อวากิว/มากิเนื้อวากิว/มากิแบบใหม่/คุชิคัตสึ(ของเสียบไม้ทอดสไตล์โอซาก้า)/เทปันยากิ/ยำแซ่บสไตล์ไทยและซูเฟล่แพนเค้กรวมแล้วเกือบ 100 เมนูเรียกได้ว่าคุ้มจัดหนักยิ่งกว่าเดิม ส่วนวิธีการสั่งอาหารนั้นก็เพียงแค่เขียนจำนวนที่ต้องการทานลงในช่องขวามือสุดของเมนู มีข้อควรสังเกตนิดหน่อยคือที่ท้ายชื่อจะมีวงเล็บเพื่อบอกจำนวนคำที่มาเสิร์ฟอย่าง (1) หรือ (3) เท่ากับ 1 ชิ้นและ 3 ชิ้น ทำให้การคำนวนพื้นที่ในกระเพาะง่ายขึ้นครับผม

ส่วนเครื่องดื่มที่รวมในบุฟเฟ่ต์นั้นมีชาเขียวเย็นและชาเขียวร้อน (มีความหอมคล้ายกันกับชาเขียวบรรจุขวดยี่ห้อภูเขาไฟญี่ปุ่นในร้านสะดวกซื้อ) เป็นแบบจืดส่วนใครต้องการดื่มน้ำหวานก็มีน้ำอัดลมให้บริการและพิเศษตลอดเดือนธันวาคม 63 นี้รับชุด Special Premium Sushi ฟรีคนละ 1 ชุด เพียงแค่กดปุ่มแชร์โพสต์ที่ทางร้านกำหนดพร้อมกับแจ้งน้องพนักงานก็รับไปเลยฟรีๆ ในชุดนี้ประกอบไปด้วยซูชิหน้ากุ้งยักษ์อาเจนติน่าท๊อบปิ้งด้วยไข่แซลมอนใส่วาซาบิมาให้พร้อมทาน/ซูชิหน้าเอนกาวะลนไฟเนื้อมันๆและซูชิหน้าปลาไหลญี่ปุ่นย่างชิ้นหนา วัตถุดิบที่นำมาใช้เทียบชั้นได้กับบุฟเฟ่ต์ราคา 699 หรือ 899 บาทร้านอื่น แต่ที่นี่มีให้ทาน 1 ชุดฟรีๆก็ถือว่าคุ้มค่าเกินราคาไปมากแล้วครับผม

เมนูจานแรกมาเสิร์ฟเป็นแซลมอนซาชิมิที่ไขมันแทรกเนื้อกำลังดี/รสชาติเข้มข้นทำให้ทานได้ไม่รู้สึกเลี่ยนมากนักมาพร้อมกับไข่หวานซาชิมิชีสรสเค็มมันกลมกล่อมไข่กุ้งแตกในปากไม่เหมือนร้านไหนและหมึกทาโกะซาชิมิไว้ทานจิ้มโชยุ-วาซาบิแบบฟินห์ๆ แต่ถ้าทานไปนานๆแล้วรู้สึกเลี่ยนที่ร้านมีไอเทมลับอีกอย่างนั่นก็คือ "น้ำจิ้มซีฟู๊ด" ที่ทางร้านทำเป็นสูตรพิเศษมีกลิ่นหอมพริกย่างหอมสดชื่นคล้ายกับกำลังทานน้ำพริกรสชาติเข้มข้นทำให้สดชื่นทานได้เยอะขึ้น ใครทานแซลมอนซาชิมินานๆแล้วแรงเริ่มถดถอยเพราะไขมันจากตัวปลาทำให้อิ่มเร็วน้ำจิ้มนี้ช่วยชีวิตได้เยอะเลยครับ

เมนูต่อมาเป็นมากิหรือข้าวห่อสาหร่ายแบบรวมพื้นฐานไส้ด้านในเป็นเหมือนกันก็คือปูอัด/ไข่หวาน/แตงกวาม้วนด้วยข้าวซูชิปรุงรสแบบกลับด้านท๊อบปิ้งด้วยหน้าต่างๆทั้ง ปลาแซลมอนสด/ปลาแซลมอนเบิร์นไฟ/ปลาทูน่า/อโวคาโด/กุ้งต้ม/ปลาแซลมอนเบิร์นไฟราดซอสหวาน/ปลาแซลมอนชีสลนไฟราดซอสหวาน/ซาบะเบิร์นไฟราดซอสสไปซี่/ซาบะเบิร์นไฟราดซอสเทริยากิ+มายองเนสและหน้าปลาสับรวมราดซอสสไปซี่จานนี้รวม 10 คำได้ความหลากหลายในจานเดียว เมนูต่อมาก็เป็นซูชิแบบนิกิริรวมกัน 11 คำคือ ซูชิไข่หวาน/ซูชิปูอัด/ซูชิกุ้งต้มราดซอสเทริยากิ/ซูชิกุ้งชีสเบิร์นไฟ/ซูชิซาบะเทริมาโย/สไปซี่ซาบะซูชิเบิร์นไฟ/สไปซี่แซลมอนซูชิเบิร์นไฟ/ซูชิแซลมอนสไปซี่มาโย/ซูชิหนวดหมึกยักษ์ซอสสไปซี่และซูชิหนวดหมึกยักษ์ซอสเทริยากิ โดยรวมแล้วที่ร้านนี้เขานำวัตถุดิบที่มีอยู่แล้วมาผสมกับซอสและลนไฟออกมาเป็นเมนูใหม่รสชาติเข้มข้นไม่เหมือนใคร พื้นฐานวัตถุดิบทุกอย่างของที่ร้านนี้ดีอยู่แล้วแต่ที่ดีเกินคาดนั้นก็คือปลาซาบะดองชิ้นใหญ่เนื้อมันรสชาติเข้มข้น พอเบิร์นไฟกลิ่นของไขมันยิ่งหอมฟุ้งในปากแนะนำว่าให้สั่งเลยครับ

ชุดต่อมาเป็นเมนูที่อยู่ในหมวดเล่มใหม่คือ Gunkan Sushi แบบรวมทั้ง แซลมอนแอนด์เอ้กกันคัน หรือ ซูชิข้าวห่อสาหร่ายหน้าแซลมอนสับกับไข่ดิบ/แซลมอนโอบะแอนด์เอ้กกันคัน หรือ ซูชิข้าวห่อสาหร่ายหน้าแซลมอนสับผสมใบงากับไข่ดิบ/ทามาโกะแซลมอนกันคัน หรือ ซูชิแซลมอนห่อข้าวท๊อบปิ้งด้วยไข่หวานสับและไข่กุ้งเบิร์นไฟ/ชีสซี่-ทามาโกะแซลมอนกันคัน หรือ ซูชิแซลมอนห่อไข่หวานชิ้นใหญ่ท๊อบปิ้งด้วยชีสเบิร์นไฟ/ชิราชิคันคัน หรือ ไข่หวานซาชิมิราดด้วยปลาดิบรวมและซอสสไปซี่มาโยเสิร์ฟมาคำเล็กๆทานได้หลากหลายไม่ต้องกลัวอิ่ม เมนูต่อมาเป็นเนื้อวากิวที่ถูกเพิ่มขึ้นมาใหม่มี 4 เมนู วากิวซูชิชิโอะเปเปอร์ หรือซูชิเนื้อวากิวย่างเกลือ-พริกไทยแบบสเต็ก/มิโสะวากิวซูชิ หรือ โรลซูชิเนื้อวากิวซอสมิโสะหวาน/บาร์บีคิวมัสตาร์ตวากิวซูชิ หรือ โรลซูชิเนื้อวากิวราดซอสบาร์บีคิวกับมัสตาร์ต/เทริยากิวากิวซูชิ หรือ โรลซูชิเนื้อวากิวราดซอสเทริยากิรสหวานกลมกล่อม คุณภาพเนื้อวากิวที่ใช้รสชาติเข้มข้นคล้ายๆกับเนื้อวากิวออสเตรเลียไม่มีความเหนียวหรือพังพืดเนื้อมากวนใจ อร่อยตอบโจทย์สายเนื้อวัวอย่างแน่นอนครับผม

คุณแม่ผมติดใจปลาซาบะดองที่นี่มากเลยสั่งมาเพิ่มอีก 3 คำโดยเพิ่มเมนูที่ยังไม่ได้ชิมมาอีกอย่างคือ ซูชิซาบะที่ร้านนี้มีการเบิร์นไฟให้หนังปลาเกรียมนิดๆหอมกลิ่นไขมันตัดเลี่ยนด้วยเลมอนไม่เหมือนร้านไหน ตามมาด้วยเมนูใหม่เสิร์ฟมาจานใหญ่อย่าง ซีฟู๊ดเทปันยากิ ในจานประกอบด้วยแซลมอน/กุ้ง/ปลาหมึก/หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ราดด้วยซอสกระเทียมทานคู่กับโควสลอว์และผักสไตล์ญี่ปุ่น จุดเด่นของจานนี้คือซีฟู๊ดหลากหลายความสดปานกลางแต่นั่งทานได้เพลินๆ จานต่อไปก็เป็นไก่ย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่เสิร์ฟมาแบบเดียวกับเทปันยากิ จุดเด่นของจานนี้ก็คือเนื้อสะโพกไก่ที่ชุ่มฉ่ำหนังกรอบทานกับซอสกระเทียมได้อย่างเพลินๆ ต่อจากนี้เป็นเมนูปลาย่างเริ่มจากซาบะราดซอสเทริยากิที่เสิร์ฟมาชิ้นใหญ่ย่างมาหนังกรอบแถมเลาะก้างออกทานได้ง่ายๆคู่กับซอสเทริยากิรสหวาน-เค็มลงตัวมากๆเลยครับ

ปกติไปทานบุฟเฟ่ต์แซลมอนร้านอื่นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสุดคือแซลมอนย่างเพราะหลายร้านมักจะทำมาแห้งสุดๆแต่ที่ร้านนี้ต้องสั่งเพราะเขาย่างมาหนังกรอบเนื้อในชุ่มฉ่ำหอมไขมันสุดๆ สั่งมาทั้งแซลมอนย่างเกลือและแซลมอนเทริยากิเสิร์ฟมาชิ้นใหญ่ทานกับข้าวสวยได้อย่างฟินห์ ที่รสชาติดีแบบนี้ส่วนตัวคาดว่าน่าจะเป็นเพราะเนื้อปลาแซลมอนคุณภาพสูงอยู่แล้วเอามาปรุงแบบไหนก็อร่อยไปหมดทำให้คนที่ไม่ชอบทานแซลมอนดิบก็ฟินห์กับแซลมอนย่างได้ไม่แพ้กันครับ ตามมาด้วยของทอดเริ่มจากไก่คาราเกะทอดชิ้นใหญ่หมักรสหวาน-เค็มหอมกลิ่นขิงหนังกรุบกรอบเคี้ยวเต็มคำ เรียกได้ว่าอร่อยได้แบบไม่ต้องถามหาซอสใดๆทั้งสิ้นเป็นเมนูที่หลานสาวผมชอบมากๆต้องสั่งมาเพิ่มครับผม

เมนูต่อไปเห็นรูปในเป็นชีสยืดๆดูน่าอร่อยเลยสั่งมาลองชิมก็คือ มันม่วงหวานญี่ปุ่นสอดไส้ชีสที่ทอดมากรอบๆสีเหลืองทองสวยงามแต่มีปริมาณชีสน้อยมากๆถ้าเพิ่มให้อีกสักหน่อยจะอร่อยฟินห์มากยิ่งขึ้นครับ จานต่อไปเป็นของทอดอย่าง เทมปุระรวมประกอบไปด้วยกุ้ง/มันสีม่วง/มันสีเหลืองและฟักทองเนื้อมันทานแล้วไม่ติดฟัน ส่วนน้ำจิ้มที่ร้านนี้ก็รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นขิงสดชื่นแบบไม่ต้องซดตามแบบหลายๆร้าน เป็นอีกจานที่หลานสาวผมชอบมากครับ

ตามมาด้วยเมนูฟิวชั่นที่ทางร้านเพิ่มขึ้นมาใหม่คือ เนื้อวากิวม่วนชีสย่างเกลือ-พริกไทยรสชาติเค็มมันๆหอมกลิ่นชีสผสมกับเนื้อวัวออสเตรเลียทานคู่กับข้าวโพดและบล็อกโคลี่ต้มหวานกรุบกรอบเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือใครที่ไม่ชอบทานผักก็สามารถบอกน้องพนักงานขอแต่เนื้อล้วนๆได้เช่นเดียวกัน เมนูต่อไปจำชื่อไม่ได้แต่ดูแล้วน่าจะเป็นจานอาหารฝรั่งเศสที่ประกอบไปด้วย ขนมปังฝรั่งเศสสไลด์ย่างเนยกระเทียมกรอบๆวางด้านบนด้วยหน่อไม่ฝรั่งย่างเนยท๊อปปิ้งด้วยแซลมอนย่างราดด้วยซอสคล้ายๆกับน้ำสลัดซีซ่าร์ เพิ่มความกรุบกรอบด้วยกุ้งกับปลาหมึกชุบแป้งทอดก่อนจะเพิ่มความนัวด้วยผงชูรสฝรั่งหรือพาเมซาชีสผงหอมๆ ได้หลายสัมผัสและรสชาติของชีสแบบเต็มๆในทุกๆคำ

หมดเมนูจานไขมันเลี่ยนๆมาต่อกันที่ของทอดสไตล์ญี่ปุ่นอย่างเกี๊ยวซ่าไส้หมูทานกับซอสโชยุรสเปรี้ยวหอมกลิ่นน้ำมันงาทานได้เพลินๆ ข้าวผัดของที่ร้านมี 2 สูตรคือข้าวผัดกระเทียมและข้าวผัดแซลมอนที่รสชาติพื้นฐานเหมือนๆกันคือกลมกล่อมหอมกลิ่นเนยแค่เพิ่มเนื้อแซลมอนกับไข่ลงไป เมนูต่อไปเป็นซุปใสที่ดูหน้าตาธรรมดาๆแต่อร่อยเกินคาดเป็นซุปสาหร่ายวากาเมะใส่ต้นหอมญี่ปุ่นหวานๆคล้ายซุปไก่หอมๆผสมสาหร่ายไม่เหมือนร้านไหนดีครับ ส่วนยำสาหร่ายญี่ปุ่นก็รสชาติมาตรฐานเสิร์ฟมาใส่ถ้วยตักทานได้เพลินๆ ใครเป็นสาวกเมนูนี้ต้องชอบอย่างแน่นอนครับผม

เมนูต่อไปเป็นเมนูที่พี่สาวผมสั่งแบบส่งเดชแต่ดันอร่อยเฉยนั่นก็คือ ยำมาม่ารวมมิตรใส่มาทั้ง หมูสับ/ไส้กรอก/หมูยอโดยจุดเด่นของยำร้านนี้คือมันนัวมาก มีความหวาน/เปรี้ยว/เค็มลงตัวเข้ากันได้ดีกับเครื่องต่างๆที่ใส่ลงไปแต่จุดที่ทำให้ประทับใจสุดคือเส้นไวไวปรุงสำเร็จที่ทางร้านลวกมากำลังดีมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเข้ากับน้ำยำได้เป็นอย่างดีไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้เลยสั่งมาอีกจานเป็น ยำไข่แดงเค็มที่ดูแล้วน่าจะคุ้มราคาสุดเพราะร้านยำขายแพงมาก สูตรที่ร้านนี้เขานำไข่แดงเค็มไปลวกสุกก่อนนำมายำทำให้เคี้ยวง่านไม่ติดในซอกฟันแต่จานนี้เหมือนแม่ครัวได้ลดความนัวของน้ำยำลงเพื่อให้เข้ากับไข่แดงเค็มเลยไม่ค่อยถูกใจ จานต่อมาก็เลยสั่งมาเป็นยำมาม่าหมูสับล้วนทานกับซาชิมิปลาแซลมอนบอกเลยว่าถ้ามีปราร้าจะฟินห์มาก แต่นี่ก็อร่อยแซ่บเข้ากับแซลมอนสดได้ดีถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ทานได้คุ้มขึ้นครับ เมนูต่อมาก็เป็นอาหารฝรั่งที่ร้านเพิ่มมาใหม่คือสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศหมูสับ(ถ้าใครทานเนื้อวัวจะสั่งเป็นเนื้อสับก็ได้) รสชาติหวานเปรี้ยวกลมกล่อมหอมกลิ่นพริกหวานทานได้ง่ายๆทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จานสุดท้ายก็เป็นชุดคุชิคัตสึหรือของเสียบไม้ทอดสไตล์ญี่ปุ่น มีเนื้อสะโพกไก่/ปูอัด/ไส้กรอก/ข้าวโพดอ่อนและมะเขือม่วง (จานต่อไปถ้าชอบทานอะไรสามารถสั่งเฉพาะเจาะจงได้) ทานคู่กับซอสของทอดรสหวานหอมกลิ่นผลไม้คล้ายๆกับร้านในสีลมประมาณ 95% ทานแล้วทำให้นึกถึงเครื่องดื่มมีฟองเย็นๆอยากนำมาทานคู่กันมากๆแต่ทางร้านไม่มีให้บริการนะครับ

ปิดท้ายด้วยขนมหวานที่ร้านมีให้เลือก 3 เมนูคือ บลูสตรอบลูเล่เพนเค้ก และ ฮันนี่เลมอนซูเฟล่แพนเค้ก แนะนำว่าให้สั่งล่วงหน้าก่อนจะอิ่มเพราะใช้เวลาในการทำอย่างน้อย 20 นาที เป็นซูเฟล่แพนเค้กไข่ขาวตีฟูหอมกลิ่นนม-เนยราดด้วยครีมนมและผลไม้สดทานคู่กับวิปครีมและไอศครีมสตรอเบอรี่ ส่วนอีกสูตรเป็นครีมเลมอนโรยน้ำตาลลนไฟเพิ่มความกรุบกรอบด้วยแอลมอนสไลด์โรยน้ำตาลไอซิ่งทานกับวิปครีม-ไอศครีมรสคุกกี้แอนด์ครีม ส่วนอีกเมนูคือไอศครีมที่สั่งแยกมาทานได้เรื่อยๆจนกว่าจะอิ่มไม่ได้จำกัดของหวานแบบหลายๆร้านที่ผ่านมา นั่งทานครบ 2 ชั่วโมงแล้ว (น้องพนักงานจะเดินมาบอกก่อนหมดเวลาทานบุฟเฟ่ต์ประมาณ 15 นาที) ก็ได้เวลาให้ที่ร้านคิดเงินแล้วครับผม

มื้อนี้เรามาทานกัน 4 คน เป็นผู้ใหญ่ 3 และเด็กอีก 1 บุฟเฟ่ต์ราคาผู้ใหญ่คนละ 499 บาท ส่วนเด็กมีส่วนสูงมากกว่า 120 ซม. ที่ร้านคิดครึ่งแค่ราคาคือ 235 บาท จากราคาเต็ม 470 บาท (ราคานักศึกษา) รวมทั้งหมดคือ 1,732 บาท ไม่มี Vat. กับ Service Charge มากวนใจ (โปรโมชั่นนี้จัดแค่จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 63 เท่านั้น) ถือว่าเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ปลาแซลมอนที่มีเมนูเยอะแต่จ่ายราคาไม่ถึง 500 บาท คุ้มสุดๆในย่านสยามและหลายๆพื้นที่ในกรุงเทพฯ ได้รับคะแนนอร่อยและคุ้มค่าไป 5 ดาวเลยจ้า 🌟🌟🌟🌟🌟

พิกัด : ห้างสยามดิสคัฟเวอรี่ชั้น 4 เลขที่ 989 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. โทร. 094-429-6393

Facebook : https://www.facebook.com/harukapposiam

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘