รีวิวร้านลับของอดีตเชฟมิชลินสตาร์ 2 ดาว 13 สาขาในฮ่องกง เกษียณตัวเองมาอยู่ที่พัทยา Comfort By Harlan

วันนี้ผมจะพาทุกคนมาพบกับร้านอาหารลับในเมืองพัทยา ของอดีตเชฟมิชลินสตาร์ 2 ดาวจากเกาะฮ่องกง ผู้มีประสบการณ์ทำอาหารมาแล้วทั่วโลก โดยเชฟมีชื่อว่า Harlan Goldstein’s ร้านนี้เพื่อนเจ้าถิ่นแห่งเมืองพัทยาเป็นคนแนะนำผมมา พอได้ยินว่าเป็นร้านเชฟมิชลินสตาร์ ลองเปิด Google เพื่อหาข้อมูลดู ข้อมูลร้านนี้ภาษาไทยถือว่าน้อยมากแทบไม่มีเลย แต่คะแนนรีวิวสูงมากอยู่ที่ 4.5-4.9 ดาว เกือบทุกสำนัก นั่นแสดงว่ารสชาติต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ร้านนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 16:00 น. ถึง 23:00 น. ส่วนวันอาทิตย์จะเปิดตั้งแต่ 12:00 น.ถึง 23.00 น. และร้านปิดทุกวันอังคาร ตัวร้านนั้นก็ไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองพัทยา แต่อยู่บนเขาพระตำหนัก แถมตั้งอยู่ในซอยลึกลับที่ดูท่าทีแล้วไม่น่าจะมีร้านอาหารอยู่ในซอยนี้แม้แต่ร้านเดียว แต่กลับว่ามีร้านนี้ตั้งอยู่ หน้าร้านก็เหมือนกับร้านอาหารฝรั่งทั่วไปที่อยู่ในเมืองพัทยาไม่ได้มีความโดดเด่นใดๆ ส่วนด้านบนก็เป็นเหมือนกับโรงแรมเล็กๆ ถ้าขับรถผ่านไปมาสำหรับผมแล้วร้านนี้ไม่ได้มีความน่าสนใจอะไรเลย แต่เจ้าถิ่นเขาแนะนำมา เดี๋ยวเราเข้าไปด้านในร้านกันเลยครับผม

เปิดเข้ามาภายในร้านบรรยากาศไม่เหมือนกับภายนอกเลยแม้แต่น้อย มีการตกแต่งมุมต่างๆไม่เหมือนกันโดยสอบถามกับเด็กเสิร์ฟของทางร้าน น้องพนักงานบอกว่าการตกแต่งของที่นี่เป็นการแสดงถึงทุกอย่างในชีวิตของเชฟ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าคนแรก รูปภาพของคุณแม่และสิ่งที่สำคัญต่างๆถูกประดับตกแต่งเป็นรูปภาพใส่กรอบเอาไว้ในมุมหนึ่ง รูปการ์ตูนที่เป็นคิงคองตัวใหญ่อุ้มผู้หญิงสูบซิการ์ใจกลางเมืองพัทยา เป็นการ์ตูนที่แสดงถึงตัวตนของเชฟที่อยากให้ทุกคนมาที่ร้านแล้วเกิดความสนุกสนาน ถูกนำมาเป็นตัวการ์ตูนประดับไว้ในอีกมุมหนึ่ง มีรูปภาพใบใหญ่อีกใบเป็นรูปสุนัขที่เชฟเลี้ยงเอาไว้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตจึงถูกนำมาประดับตกแต่งในร้านอีกมุมนึง ส่วนตัวเชฟร้านเคยทำงานมาแล้วทั่วโลกทั้งที่ ฮาวาย / ชิคาโก / นิวยอร์ก / ไมอามี่ / ฟอริด้า / เม็กซีโก / ฝรั่งเศส / สวิตเซอร์แลนด์ / อิตาลี / ปักกิ่ง / ฮ่องกงและที่ไทย เกิดเป็น Harlan’s World Tour แต่ละที่ไม่ได้ทำงานแบบฉาบฉวยแต่ใช้เวลาแต่ละที่ 5-10 ปี ในการทำงานแต่ละที่ เมนูอาหารแต่ละจานของที่ร้าน เชฟจะนำเอาประสบการณ์ที่เคยทำอาหารจากประเทศต่างๆมารวมไว้ในเมนูของที่ร้านนี้ ประสบการณ์ที่เชฟเคยทำงานมายาวนานที่สุดคือที่เกาะฮ่องกงเป็นเวลา 24 ปีก่อนที่จะเกษียณตัวเองมาอยู่ที่พัทยากับภรรยาของเขา โดยก่อนหน้านี้เชฟเคยหาสถานที่มาหลายประเทศว่าสุดท้ายแล้วตัวเองจะใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน มาตกลงกันที่เมืองพัทยา เนื่องด้วยจากว่าแกเป็นคนรักสนุก ชอบชีวิตที่มีสีสัน ที่พัทยานี้จึงเหมาะกับตัวตนของเค้ามากที่สุด (พูดง่ายๆว่าเหมือนแกเกษียณตัวเองจากที่ฮ่องกงมาเพื่อใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่นี่) ส่วนร้าน Comfort ที่ฮ่องกงเคยได้รับมิชลินสตาร์ 2 ดาวทั้งหมด 13 สาขา ในปี 2010 โดยเชฟเป็นหัวหน้าเชฟที่คอยควบคุมทั้งหมด แต่เนื่องจากว่าแค่ต้องการเกษียณตัวเองจึงขายหุ้นทั้งหมดที่ถือไว้ครึ่งหนึ่งของร้าน Comfort ให้กับเจ้าของคนเดิมที่ฮ่องกง และเมื่อเจ้าของที่ฮ่องกงนำไปบริหารก็กลายเป็นว่าตำนานของร้าน Comfort ก็ถูกปิดตัวลงหลังจากเชฟ Harlan ออกมา เท่าที่สังเกตลูกค้าในร้านนี้ นอกจากจะมีชาวต่างชาติแล้ว ยังมีชาวฮ่องกงเดินทางมาเพื่อทานอาหารที่ร้านนี้ฝีมือเชฟโดยเฉพาะ เหมือนเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจอยู่อีกทั้งเชฟพูดได้ทุกภาษาที่แปะไว้ (ยกเว้นภาษาไทยกำลังฝึกอยู่) ได้ยินแบบนี้แล้วทำให้ร้านนี้น่าสนใจขึ้นไปอีกครับ

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่ใช้ประดับตกแต่งภายในร้านนั้นก็ดูดีมีระดับ แต่ก็ซ่อนความสนุกสนานเล็กๆเอาไว้อยู่ภายในร้าน เช่นมีโต๊ะสีแดงอยู่กลางร้าน/พื้นกระเบื้องเป็นแบบไล่สีแตกต่างกัน/ครัวที่นี่เป็นแบบเปิด ทำให้ลูกค้าทุกคนสามารถเห็นเชฟทำอาหารได้ตลอดเวลา/รวมถึงบาร์เครื่องดื่มที่ใหญ่โต และใครที่อยากได้ห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวสำหรับปาร์ตี้กันกับเพื่อนๆ ก็มีห้องส่วนตัวแบบมีผ้าม่านกั้นเอาไว้ พร้อมกับตกแต่งผนังเป็นลายการ์ตูน ที่บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของร้าน ที่รักความสนุกสนาน/เฮฮาและขี้เล่นแบบเช่นเคย (ต้องโทรมาจองห้องล่วงหน้าก่อนนะครับ)

เปิดเมนูกำลังจะสั่งอาหารถึงกับกลั้นขำ เพราะ Concept ของที่ร้านนี้เป็นแบบ Security "ปกป้องคุณจากอาหารที่ไม่ดี" เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าอาหารทุกจานจะต้องอร่อยอย่างแน่นอน (ชอบแนวคิดนี้แฮะ) มีอาหารทั้งแบบเป็นจาน เริ่มต้นที่ 290 บาท และแบบเป็นคอร์ส รวมถึงเครื่องดื่มที่เยอะมาก ราคาถือว่าพอรับได้ เพราะเป็นอาหารจากเชฟมิชลินสตาร์ 2 ดาว ส่วนรสชาติอาหารและปริมาณจะเยอะสักแค่ไหนนั้น เดี๋ยวสั่งมาลองชิมดูครับผม

ส่วนใครที่อยากรู้ว่าเชฟเคยทำงานที่ไหนมากี่ปี มีประสบการณ์ที่ร้านไหนมาบ้าง รวมถึงสูตรอาหารที่เชฟคิดค้นขึ้นก็มาเปิดหนังสือเล่มสีทองนี้ที่ร้านได้เลย (เหมือนเป็นชีวประวัติของเชฟ Harlan Goldstein’s) ด้านในเล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ สอบถามพนักงานว่าเชฟไม่หวงสูตรหรอ ? พนักงานว่าไม่ค่ะ ใครอยากได้สูตรก็เข้ามาทานที่ร้านและเอาสูตรไปทำตามได้เลย (อร่อยหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง) เหมือนเชฟเขาอยากให้ความรู้แก่เชฟรุ่นถัดไป หากใครที่อยากได้สูตรอาหารระดับตำนานก็มาเปิดดูกันนะครับ และจุดที่เป็น Highlight อีกอย่างของที่นี่คือห้องน้ำนั่นเอง (พยายามมองให้เป็นศิลปะนะครับ) เต็มไปด้วยคำอวยพรเต็มห้องน้ำ รวมไปถึงมีห้องน้ำที่มีให้เลือก 3 ห้องนั่นก็คือห้องน้ำผู้ชายสีเหลือง ห้องน้ำผู้หญิงสีแดง และห้องน้ำเกย์สีชมพู บ่งบอกถึงความสนุกสานของเชฟเป็นอย่างดีครับ

และนี่คือโฉมหน้าของเชฟ Harlan Goldstein’s บอกว่าวันนี้จะขอเข้ามารีวิวก็ทำการต้อนรับเราเป็นอย่างดี และอาหารทุกจานแกเป็นคนลงมือปรุงด้วยตัวเองทุกจาน (ไม่ใช่เข้ามารีวิวแล้วแกเลยเข้าครัวนะครับ) ส่วนพนักงานในครัวมีหน้าที่แค่จัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆเอาไว้ให้เชฟเฉยๆ ทำให้อาหารออกมาแต่ละจานค่อนข้างใช้เวลานานหน่อย

เชฟเอ่ยปากถามว่าคุณเป็นนักรีวิวใช่ไหม ? งั้นเดี๋ยวถ่ายอาหารตรงนี้ (จุดในครัวมีความสว่างถ่ายรูปง่ายที่สุด) เดี๋ยวผมจะทยอยทำอาหารออกมาให้คุณถ่ายรูป แล้วคุณค่อยไปนั่งทานที่โต๊ะ น้องพนักงานบอกว่าที่เชฟอยากให้ถ่ายตรงนี้ เพราะอยากให้เราได้ทานอาหารร้อนๆจากเขา (เชฟไม่ชอบให้วางอาหารทิ้งไว้) ถ้าอยากทานของอร่อยก็ต้องตามใจเจ้าของสูตรกันหน่อยครับ แต่ก่อนที่จะถึงเรามีโต๊ะนึงสั่งอาหารไปหลายรายการอยู่ ทางเชฟได้เปิดโอกาสให้เราถ่ายรูปก่อน (แต่เราไม่ได้ชิมนะ) จานแรกเป็น Peruvian Slow Cooked Chicken + Potatoes + Green Salsa จานนี้ 800 กรัม ราคา 690 บาท (สำหรับทานกับเพื่อนหลายๆคน) จานต่อมาเป็น Natural Chiang Mai Pork Tomahawk 450 GR Tomato , Fontina Cheese , Parmesan Gnocchi จานนี้สำหรับทาน 2 คนราคา 880 บาท Fish Taco Cabbage, Jalapeno Lime Mayo ราคา 390 บาท Smoked Salmon Onion Cones , Sour Cream Caviar ราคา 320 บาท Caesar "The Way I Like It" Egg Anchovies ราคา 290 บาท สุดท้ายเป็น Chinese - Thai Style Cashew Nut,Onion,Peper,Chili,Spring Onion+Jusmine Rice ราคา 490 บาท แต่ละจานเท่าที่สังเกตคือจานใหญ่มาก ไม่มีการเสิร์ฟแบบเล็กๆเลย เชฟให้เหตุผลว่า คนที่มาทานร้านมิชลินสตาร์ส่วนใหญ่มักจะให้จานเล็กๆมีรสชาติดี แต่ที่ร้านเขาให้ทั้งปริมาณเยอะและรสชาติดี เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้ทานอย่างอิ่ม อีกทั้งเชฟเป็นคนทานเยอะอีกด้วย เข้าใจลูกค้าสุดๆ ราคาถือว่าสมเหตุผลในด้านปริมาณครับ

อาหารจานแรกมาเสิร์ฟแล้วนั่นก็คือ Pulled Pork ,Taco Barbacoa , Refried Beans ,Cheese , Pico De Gallo ราคา 360 บาท เป็นเมนูจากร้านที่เชฟคิดค้นขึ้น ชื่อว่า Mamasita’s Cantina ในเดือนตุลาคม 2016 ที่ฮ่องกง ถามว่าทำไมถึงรู้ ? ในเมนูมีบอกครับ แต่ก่อนที่จะเริ่มชิม มีขนมปัง 2 ชิ้น 2 แบบมาวางไว้ให้ทานที่โต๊ะเรา (เป็นจานแรกที่เสิร์ฟให้ฟรี) เป็นขนมปังเนื้อเหนียวนุ่มสไตล์ฝรั่งที่มีรสเค็ม ทานกับเนยกระเทียมรสอ่อนๆ ได้แต่รสเค็มและหอมของขนมปัง แต่รสเค็มที่ได้รับไม่ใช่เค็มจนกินไม่ได้ แต่เป็นเหมือนการรับรสเค็มเพื่อกระตุ้นให้เจริญอาหารมากขึ้น ใช้หลักการเดียวกับการทาน Snack รสเค็ม ตอนนี้ร่างกายพร้อมที่จะทานอาหารที่สร้างสรรค์โดยเชฟ Harlan แล้วครับ เมนูแรกเป็นทาร์โก้หมูตุ๋นซอสบาร์บีคิวเนื้อนุ่ม ด้านล่างเป็นกระหล่ำปลี/ซอสถั่วต้มสีม่วง (ช่วยเพิ่มความนวลละมุนในปาก) ตัดด้วยความกรอบของทาร์โก้ บีบมะนาวลงไปก่อนทาน หรือใครจะเพิ่มความสดชื่นด้วยซัลซ่า/พริกดอง ก็แล้วแต่เราจะทาน ซอสบาร์บีคิวรสเข้มข้น หอมเครื่องเทศ แต่ไม่หวานเกินไป เข้ากันได้ดีกับความละมุนของซอสถั่ว สดชื่นด้วยผัก/มะนาว/ซัลซ่า อร่อยลงตัวสุดๆครับ จานต่อมาเป็น Beijing Style Duck Burrito ราคา 460 บาท ด้านในเป็นเป็ดย่างสไตล์ปักกิ่ง ห่อด้วยแป้งเบอริโต้สีเขียวที่ผสมผักโขม ราดด้วยซอสเป็ดปักกิ่งที่มีความหอมเครื่องเทศ ไม่หวานแหลมแบบร้านอาหารจีนทั่วไปในไทย โรยหน้าด้วยเกี๊ยวเหลืองทอดกรอบ/แตงกวา/พริกชี้ฟ้า/ผักชี ก่อนจะทานให้บีบมะนาวลงไปก่อน จุดเด่นของจานนี้ไม่ใช่รสชาติ แต่เป็นการเสิร์ฟที่ตื่นตาตื่นใจ มีการเปิดเพลงจีน เดินขบวน เต้นเป็นเป็ดมาเสิร์ฟที่โต๊ะด้วย อยากเห็นว่าเป็นอย่างไรไปดูท้ายรีวิวครับ

เมนูถัดมาเป็นเมนูพิเศษ ที่ถึงแม้ว่าจะมีรายการในเมนูหลักแต่ถ้าไม่มีวัตถุดิบหรือเกรดวัตถุดิบไม่ถึง เชฟก็จะไม่ทำให้เราทาน นั่นคือ Homemade Spaghetti, Red Prawns, Chilli Basil ราคา 780 บาท เป็นเมนูที่คิดค้นโดยตัวเชฟเอง และเป็นจานที่ได้รับมิชลินสตาร์ในปี 2010 เป็นสปาเก็ตตี้เส้นสด ที่ทางร้านไม่ได้ทำขึ้นเองแต่มีร้านประจำคอยทำและส่งเส้นให้กับทางร้านวันต่อวัน ผัดกับซอสหัวล๊อบสเตอร์ที่เชฟจะนำหัวกุ้งสดๆมาต้ม และบดจนเปลือกและมันกุ้งเป็นเนื้อเดียวกันแล้วกรองออกจนเหลือแต่ซอสเข้มข้น ผัดกับเนยและกุ้งอาเจนติน่าตัวใหญ่ เนื้อหวานเด้ง ตัดความเลี่ยนด้วยมะเขือเทศรสเปรี้ยว ปรุงรสมาเค็มกำลังดี เป็นรสชาติที่ Perfect มากครับ นั่งทานไปขนลุกไป ราคา 780 บาท หลายคนอาจจะคิดว่าแพงไป พอได้ฟังน้องพนักงานอธิบายวิธีการทำกว่าจะได้จานนี้ และรสชาติที่ทานไปขนลุกในความอร่อยไป บอกเลยครับว่าคุ้มมาก มาให้สั่งเลยจานนี้ ตามมาด้วย Smoked Salmon Onion Cones , Sour Cream Caviar ราคา 320 บาท เป็นแซลมอนรมควันผสมกับหอมใหญ่บดละเอียด ผสมลงในครีมรสเปรี้ยว เสิร์ฟมาในโคนวาฟเฟิลหอมกลิ่นเนยกรอบๆ ท๊อปด้านบ้นด้วยคาร์เวียร์และผักชีลาว ได้ทั้งความกรุบกรอบหอมเนย/นุ่มเนียนในปาก/หอมกลิ่นปลาแซลมอนรมควัน/สมุนไพรทั้งหอมใหญ่และผักชีลาว/เปรี้ยวครีมชีสนิดๆ/มีไข่ปลากรุบๆหน่อยนึง เป็นเมนูที่โคนเล็กๆ แต่ได้รสชาติเต็มปากเต็มคำเวลาเคี้ยวสุดๆครับ ประทับใจมาก

เมนูถัดมาราคาแพงที่สุดในมื้อนี้เป็น Lamb on Crack, I Will Get You Addicted ราคา 1,280 บาท เนื้อแกะขนาด 360 กรัม ยัดไส้ด้วยเห็ดปรุงรส/ฟัวกราและแป้งแพนเค้กสมุนไพร ห่อด้านนอกสุดด้วยแป้ง Pastry อบจนแป้งด้านนอกสุกกรอบ เนื้อแกะด้านในสุกชมพูกำลังดี ฟัวกราสุกเป็นเนื้อครีมเนียน ตอนเสิร์ฟก็ไม่ธรรมดาเพราะเชฟเอาคำว่า Crack มาพ้องเสียงกับคำว่า Cap ที่แปลว่าตำรวจ เปิดไฟหวอเสียงดังเวลามาเสิร์ฟที่โต๊ะ (มีวีดีโออยู่ท้ายรีวิว) รสชาติจานนี้ก็บอกเลยว่า Perfect ครับ เนื้อแกะนุ่มหอม กับฟัวกราเนื้อเนียน ทานกับแป้งสมุนไพรและเนื้อเห็ดปรุงรสกลมกล่อม ในชุดมีเกรวี่และไวท์ซอสพร้อมสลัดผัก เปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆเลยครับ จานสุดท้ายสั่งเป็นสลัดแก้เลี่ยนเมนู Beetroot Tartar Baby Greens + Orange Glaze ราคา 320 บาท เป็นยำบีทรูทปรุงรสสไตล์เม็กซิกัน หวานเปรี้ยวเคี้ยวอร่อย ราดด้วยซอสส้มให้ความสดชื่น เชฟบอกว่าจานนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากยำเนื้อดิบสไตล์เม็กซิกัน แต่เปลี่ยนจากเนื้อดิบเป็นบีทรูทแทน คนที่ทานมังสวิรัติก็สามารถทานจานนี้ได้ด้วยครับผม

ส่วนของหวานมื้อนี้เราสั่งเป็นม๊อกเทลมา 2 เมนูคือ Coconut Pine Freshy ราคาแก้วละ 120 บาท เป็นน้ำมะพร้าวผสมกับสับปะรด ให้ความหอมสดชื่น เปรี้ยวเล็กน้อยดื่มได้เพลินๆครับ แต่ที่ผมชอบจริงๆคือเมนู Mango Pine Passion เป็นน้ำสับปะรดผสมเสาวรสที่ฟังดูเหมือนจะเปรี้ยวไปหมด แต่กลับหอมอร่อยลงตัวมาก จนต้องสั่งมาเบิ้ลอีกแก้ว โดยเมนูนี้พนักงานบอกว่าเชฟ Harlan ทานทุกวันๆนึงหลายแก้ว ไม่แปลกใจเลยครับหอมอร่อยจริงๆ และของหวานจานหลักคือ Sizzling Brownie ราคา 280 บาท บราวนี่ชิ้นใหญ่วางบนกระทะเหล็ก ใส่ไอศครีมวนิลาลูกใหญ่ด้านบน ราดด้วยซอสช๊อกโกแลตก่อนเสิร์ฟ บราวนี่ของที่ร้านกรอบนอก ฉ่ำเนยด้านใน ยิ่งทานกับซอสช๊อกโกแลตร้อนๆ ไอศครีมวนิลาเย็นๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ทานมายังไม่มีเมนูจานไหนที่ไม่อร่อยเลยแฮะ

มื้อนี้ประทับใจมาก ! ทั้งอาหารจากฝีมือเชฟ Harlan ระดับมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว นั่งทานไปร้องอื้อหือไป บางจานอร่อยจนขนลุกซู่ และการจัดเสิร์ฟที่มีความสนุกสนานไม่เหมือนใคร จานไหนเสิร์ฟแบบพิเศษบ้าง สอบถามทางร้านก่อนนะครับ (พนักงานแอบกระซิบมาว่าบางคนอยากให้พนักงานเต้นบ่อยๆก็สั่งมา 10 จาน ให้เต้นไปเรื่อยๆ ทางร้านก็ยินดีทำให้นะครับ) รสชาติดีงามสมกับเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจอยู่จริงๆ ใครที่เป็นนักล่าอาหารจากเชฟมิชลินสตาร์ หรือกำลังหาร้านอาหารลับที่มีเอกลักษณ์รสชาติอาหารไม่เหมือนใคร (เพราะแต่ละจานเชฟได้นำเทคนิคการทำอาหารของแต่ละประเทศ ผสมลงไปในจานของแกด้วย) ทำให้ได้เป็นอาหารฟิวชั่น ที่สามารถดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาได้จนถึงขีดสุด ถ้าให้เทียบความอร่อยกับร้านมิชลินสตาร์ที่เคยทาน ร้านนี้ผมให้เป็นอันดับ1เลยครับ

มื้อนี้ถือว่าหมดไปเยอะเหมือนกันแม้จะสั่งไปไม่กี่อย่าง (แต่เราก็เตรียมใจมาแล้วแหละ) รสชาติอาหารที่ได้รับถือว่าดีมาก ! ปริมาณอาหารที่ได้ก็ถือว่าสมเหตุสมผล ยิ่งได้รับการเสิร์ฟอาหารบางเมนูเป็นแบบพิเศษด้วยอีกแล้ว ทำให้เรายิ่งดูเป็นคนสำคัญขึ้นไปอีก จ่ายไป 4,280 บาท ไม่มี Vat. หรือ Service Charge ใดๆมากวนใจ (แต่น้องพนักงานที่นี่บริการดีมาก และคอยเล่าอธิบายรสชาติอาหาร / วัตถุดิบต่างๆที่ใช้แต่ละจานให้ตลอด ดูเอาใจใส่สุดๆ) เหมือนกับว่านานๆจะมีคนไทยเข้ามาที่ร้านนี้สักที ร้านนี้เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ แต่คนไทยไม่ค่อยรู้จักกันนัก บทความรีวิวนี้ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ให้ชาวไทยคนต่อไป เข้าไปลองชิมดูครับ อีกอย่างเชฟน่ารักมาก เข้าไปคุยสอบถามรสชาติอาหารกับลูกค้าทุกโต๊ะเลย โดยเฉพาะลูกค้าที่มาจากฮ่องกง ที่ดูจะสนิทสนมเป็นพิเศษ (เหมือนเป็นลูกค้าเก่าตามมาทานที่นี่) เอาความอร่อย/คุ้มค่า/และประทับใจไปเลย 5 ดาวเต็มแบบไม่ต้องสงสัยครับผม 🌟🌟🌟🌟🌟

พิกัด : 378/531 หมู่ 12 เกษตรสินซอย 2 เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20260

เปิดทุกวันจ.-ส. 16.00 - 23.00 น. วันอา. 12.00 - 23.00 น. ปิดทุกวันอ. โทร.080-937-3583

Facebook : https://www.facebook.com/ComfortByHarlanGoldstein/

อ่านประวัติของเชฟและเมนูต่างๆได้ที่เว็บไซต์ https://www.comfortbyharlan.com/

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘