Food Addicts - เสพติดการกิน
รีวิวห้องอาหาร Cadillac โรงแรม Wave Hotel พัทยา ทานอาหารสุดชิลล์ในบรรยากาศย้อนยุคในโรงแรมติดริมทะเล~
อัปเดตเมื่อ 15 มิ.ย. 2564
วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ของโรงแรม Wave Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวในเครือของสุโกศลติดริมทะเลเมืองพัทยา ให้เข้ามารีวิวห้องอาหาร Cadillac ซึ่งไม่ได้มีโปรโมชั่นพิเศษใดๆ แต่ทางโรงแรมอยากให้รีวิวเพื่อให้เป็นตัวเลือกสำหรับใครที่กำลังจะไปพักที่พัทยา มองหาร้านอาหารที่บรรยากาศไม่เหมือนใคร แถมมองออกไปจากโรงแรมยังติดกับทะเลเลยอีกด้วย ส่วนรสชาติอาหารนั้นจะอร่อยหรือไม่ ? เดี๋ยวเราต้องเข้าไปชิมด้านในกันครับ
ก่อนจะเข้าไปในโรงแรมเรามาดูบรรยากาศภายนอกกันก่อน โรงแรมนี้ถือว่ามีพื้นที่ขนาดค่อนข้างเล็ก ตัวตึกไม่สูง สระว่ายน้ำขนาดเล็กและมีให้บริการอยู่แค่ไม่กี่ห้อง แต่มีทางเชื่อมต่อเข้าไปที่โรงแรม The Bay View ที่อยู่ด้านหลัง สามารถใช้สระน้ำและห้องอาหารร่วมกันได้ ข้อดีของที่นี่ก็คือ อยู่ติดกับชายหาดพัทยากลาง สามารถตื่นเช้ารับลมทะเล เดินไปถ่ายรูปริมชายหาดสวยๆ เดินจากโรงแรมไปแค่ไม่กี่ก้าว ราคาห้องของที่นี่อยู่ที่ 4-5 พันบาทต่อคืน การตกแต่งภายนอกก็มีความย้อนยุคนิดๆ ประมาณยุค 70-80 มีความเป็นตะวันตกผมอยู่เล็กน้อย สำหรับสาวๆที่ชอบถ่ายรูปแนว Vintage น่าจะชอบบรรยากาศของโรงแรมนี้เป็นอย่างดี ตอนนี้แดดร้อนสุดๆ เข้าไปด้านในกันครับ
บรรยากาศภายในโรงแรมในส่วนของล๊อบบี้ก็ยังคงความ Vintage แต่มีความโมเดิร์นผสมอยู่นิดๆ เพื่อไม่ให้ดูเก่าจนเกินไป ใช้เฟอร์นิเจอร์ขาว-ดำ ตัดด้วยหมอนสีสันสดใส ประดับตามมุมต่างๆด้วยของเก่าอย่างโคมไฟ กล้องถ่ายหนังที่ไม่ได้ใช้แล้ว โต๊ะทำงานไม้เก่าๆแต่เอามาวางคู่กับ Mac ดูแล้วผ่อนคลายอบอุ่น ไม่หรูหราจนเกินไปครับ
เดินเข้ามาภายในห้องอาหารก็ยังมีความเป็นย้อนยุคเช่นเคย แต่เปลี่ยนให้ดูมีความเป็น Cadillac มากขึ้น โดยเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องอาหารให้เหมือนกับเป็นอู่ซ่อมรถโบราณ มีอะไหล่รถเก่า/แผนที่/ป้ายโฆษณาเก่า แปะเอาไว้เต็มห้องอาหาร และถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นรถสีชมพูจอดอยู่หน้าร้าน เป็นสัญลักษณ์ของห้องอาหารนี้ด้วย มีมุมน่ารักๆให้สาวๆได้ถ่ายรูปสวยลง Instagram อยู่หลายจุดเลย ตอนนี้เลือกที่นั่งและเริ่มสั่งอาหารมาชิมกันเลยครับ
อาหารของที่นี่เน้นไปที่อาหารไทยและอาหารฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ เมนูอาหารทานเล่นเริ่มต้นที่ 165 บาท อาหารจานหลักราคาเริ่มต้นที่ 265 บาท แพงสุดเป็นสเต็กฟัวกราราคา 795 บาท ของหวานเริ่มต้นที่ 95 บาท ถือว่าเป็นราคาปกติของร้านอาหารในโรงแรม ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป หากเบื่ออาหารทะเลก็เข้ามาฝากท้องกันที่นี่ได้เลยครับ
สั่งอาหารไปแล้ว เพิ่งสังเกตว่าผ้าสำหรับวางบนตักของที่นี่ก็พับเป็นรูปรถสีชมพูเหมือนที่จอดอยู่ที่หน้าร้านด้วย ก่อนอื่นค๊อกเทลและม๊อกเทลมาเสิร์ฟที่โต๊ะเราก่อน ค๊อกเทลเป็นเหมือนมินต์ผสมเลมอน ใส่เหล้ามาค่อนข้างรุนแรง (ลืมสั่งว่าเอาแบบเบาๆหน่อย) แก้วนี้อร่อยดีแต่ทานไม่หมดครับ อีกแก้วเป็น Mojito มะนาวผสมกับใบมินต์และใส่สไปร์ รสหวานเปรี้ยว หอมกลิ่นเลมอนและใบโหระพาอร่อยดีครับ และอาหารที่สั่งไป ก็มาเสิร์ฟบนโต๊ะเรียบร้อยครับ
เมนูแรกต้องรีบทานก่อนเดี๋ยวแป้งจะหายกรอบ Double Cali Taco ไส้เนื้อ ราคา 265 บาท เป็นทาร์โก้แป้งกรอบ สอดไส้ด้วยเนื้อผัดสมุนไพรสไตล์เม็กซิกันหอมๆ อมเปรี้ยวด้วยรสมะเขือเทศ รสชาติเข้มข้นกว่าปกติ เอาใจลิ้นคนไทยเป็นอย่างดี จานต่อมาเป็น Seafood Risotto ราคา 575 บาท ดูเหมือนจะแพงแต่ในชุดมีกุ้งแม่น้ำ/หอยเชลล์และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ไซส์ใหญ่ มาพร้อมกับข้าวผัดซีซ๊อตโตที่เมล็ดข้าวมีความเหนียวหนึบสู้ฟัน กระหน่ำใส่ชีสลงไปเต็มที่ ตัดความเลี่ยนด้วยความเปรี้ยวสดชื่นจากมะเขือเทศสด ทำให้จานนี้อร่อยเข้มข้นแต่ลงตัวสุดๆครับ
เมนูถัดมาเป็น Cave Of Seafood ราคา 295 บาท ขนมปังเนื้อเนียวนุ่มสอดไส้ด้านในด้วยซีฟู๊ด (หอยเชลล์ /ปลาหมึก / กุ้งสด / เนื้อหอยแมลงภู่) ผัดกับซอสมะเขือเทศสด ใส่เครื่องสมุนไพรสไตล์ตะวันตกลงไปอีกนิด ความอร่อยอยู่ในระดับใช้ได้ครับไม่ได้ประทับใจมากนัก จานต่อมา ข้าวเหนียวเนื้อย่าง ราคา 695 บาท เนื้อที่เลือกใช้เป็นส่วนสตริ๊ปลอยด์แองกัส ที่มีความหอมและเข้มข้นของเนื้อค่อนข้างสูง นำไปย่างบนเตาถ่านให้สุกระดับ Medium Rare อมชมพูสวยงาม ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสหวาน/เผ็ด/เปรี้ยว กลมกล่อม และข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ ดีงามครับผม
ยังไม่ค่อยอิ่มเลยสั่งมาเพิ่มอีก 2 เมนูเริ่มจาก สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ราคา 335 บาท รสชาติเข้มข้นถึงครีม/พาเมซานชีส หอมกลิ่นแฮมและเบคอน เส้นสปาเก็ตตี้สุกกำลังดี ทานคู่กับขนมปังกระเทียมกรอบๆ เข้ากันได้ดีเลยครับ รู้สึกว่าเริ่มเลี่ยนอาหารฝรั่งเลยสั่งเมนูอาหารไทยมาปิดท้ายอย่าง แกงมัสมั่นแกะราคา 445 บาท ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แกงมันมั่น น้ำแกงหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรแบบเข้มข้น เข้ากันได้ดีกับเนื้อแกะที่มีกลิ่นเฉพาะตัวนิดๆ ถูกตุ๋นมาเวลานานจนน้ำแกงเข้มเข้าเนื้อ นุ่มทั้งตัวเนื้อแกะ/มันฝรั่ง โรยหน้าด้านบนมาด้วยหอมเจียวกรอบ อร่อยลงตัวดีครับ
ปิดท้ายด้วยของหวาน 2 รายการได้แก่ New York Style Cheese Cake ราคา 225 บาท ราดซอสส้มมาพร้อมกับองุ่น/กีวี/มะม่วง/สตรอเบอรี่สด ชีสเค้กเนื้อเข้มข้นผสมผิวเลมอน มีความหวานมันปนขมนิดๆ ทานกับฐานที่เป็นครัมเบิ้ลกรอบๆหอมเนย อร่อยดีครับ เมนูถัดมาเป็นเค้กมะพร้าวอ่อน ราคา 225 บาท บัตเตอร์เค้กสอดไส้ชั้นต่างๆด้วยเยลลี่น้ำมะพร้าวผสมเนื้อมะพร้าวอ่อน ครีมกะทิ และโรยด้านบนสุดด้วยผงมะพร้าวอบแห้ง เสิร์ฟมากับผมไม้สดต่างๆ (องุ่น/กีวี/มะม่วง/สตรอเบอรี่สด) ช่วยลดความหนักหน่วงจากตัวครีมมะพร้าวได้เป็นอย่างดีครับ
เมื่อทานเสร็จแล้ว ทาง PR ได้อนุญาตให้เราขึ้นมาสำรวจที่ห้องพักที่หรู่ที่สุดของโรงแรม ห้องนี้ราคาคืนละหมื่นกว่าบาท (แล้วแต่ช่วงเวลา) เป็นห้องขนาดใหญ่ที่เปิดมาก็จะพบกับห้องน้ำแบบเปิด มีอ่างแช่ตัวที่เมื่อเรามองออกไปด้านนอกเป็นทะเลเมืองพัทยา ห้องอาบน้ำและห้องส้มถูกแยกเป็นสัดส่วน ที่ชอบสุดคือตู้เสื้อผ้าที่สามารถทะลุกันได้ระหว่างห้องน้ำและห้องนั่งเล่น ไม่ต้องเดินตัวเปียกออกมาแต่งตัวด้านนอก มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆระดับโรงแรม 5 ดาว โดยห้องพักที่นี่ไม่เน้นหรูหรา แต่มีความครบและสะดวกสบายได้บรรยากาศมากกว่าครับ
เดินออกมาก็จะเป็นห้องนั่งเล่นพร้อมทีวีขนาดใหญ่ เดินทะลุไปอีกห้องก็จะพบกับเตียงขนาด King Size ที่มีม่านล้อมรอบได้อารมณ์แบบเจ้าหญิง และห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนแบบเดียวกับข้างนอกอีก 1 ห้อง เปิดระเบียงออกมาก็จะพบกับถนนหน้าโรงแรม และทะเลพัทยา(ถ้าใครอยากได้วิวสวยๆพักชั้นบนๆของโรงแรมน่าจะดีกว่านี้) ถือว่าเป็นโรงแรมที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน บรรยากาศดี อาหารอร่อยใช้ได้ ใครที่กำลังมองหาโรงแรมติดริมทะเลบรรยากาศชิลล์ๆ ที่ถือก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ ส่วนห้องอาหาร Cadillac ของโรงแรม Wave Hotel พัทยา เอาคะแนนความอร่อยและคุ้มค่าไป 4 ดาว🌟🌟🌟🌟 มีบางจานไม่ค่อยอร่อยถูกใจแต่ก็โอเคครับ

พิกัด : เลขที่ 310/2 ถนนเลียบชายหาด เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150
เปิดทุกวัน 07.00 - 23.00 น. โทร.038-410-577
Facebook : https://www.facebook.com/WaveHotelPattaya/
อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน
แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <
และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘