top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนFood Addicts - เสพติดการกิน

รีวิว "บาร์บีคิวรีสอร์ท" บุฟเฟ่ต์หมูกระทะ-ทะเลเผาทานได้ไม่อั้นไม่จำกัดเวลา จ่ายเพียงแค่คนละ 269 Net.

อัปเดตเมื่อ 14 มิ.ย. 2564



ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ฝั่งธนบุรีต้องยอมว่าร้านหมูกระทะบุฟเฟ่ต์ขนาดใหญ่ที่มีวัตถุดิบกับเมนูปรุงสำเร็จให้ทานอย่างหลากหลายหาน้อยมาก (ส่วนใหญ่เป็นชาบูและหมูกระทะร้านเล็กๆที่มีอาหารให้ทานไม่กี่เมนู) แต่จำได้ว่าเคยเห็นร้านหมูกระทะเจ้าดังอยู่แห่งนึงฝั่งตรงข้ามกับห้าง The Sense ปิ่นเกล้านั่นคือ "บาร์บีคิวรีสอร์ท" ถือว่าเป็นชื่อที่คุ้นเคย เพราะเมื่อก่อนเราไปทานกับครอบครัวกันบ่อยมากๆ (ถนนรามอินทรามีแค่ร้านนี้เจ้าเดียว) นอกจาก 2 สาขาที่กล่าวมาแล้วก็ยังมีอีก 6 แห่งในกรุงเทพและปริมณฑลนั่นก็คือคือวงศ์สว่าง/บางนา/ปากเกร็ด/บางแค/นวนครและรังสิตรวมทั้งหมด 8 สาขา ใกล้ที่ไหนก็เปิด Google Maps ไปสาขานั้นได้เลย ส่วนวิธีการเดินทางมาร้านบาร์บีคิวรีสอร์ทสาขาปิ่นเกล้านี้หากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวถ้ามาจากเส้นจรัญสนิทวงศ์ผ่านหน้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้าต้องไปกลับรถถนนบรมราชชนนี แต่ถ้ามาจากทางถนนบรมราชชนนีขับตรงถึงหน้าร้านได้สะดวกกว่า ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะมีรถตู้-รถเมล์ส่วนใหญ่มาลงหน้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้าให้เดินข้ามสะพานมาอีกหน่อยมาแค่ประมาณ 250 เมตรก็ถึงแล้ว ตอนนี้บุฟเฟ่ต์ที่ร้านราคา 269 บาท Net. รวมน้ำดื่มทุกอย่างแล้วมีให้ทานทั้งหมูกระทะและทะเลเผาในราคานี้ถือว่าคุ้มสุดๆ ส่วนวัตถุดิบกับเมนูอาหารต่างๆจะหลากหลายเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่เราเข้าไปดูด้านในร้านด้วยกันเลยครับ

ใครที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาหน้าร้านมีลานจอดรถขนาดใหญ่สามารถรองรับรถยนต์ได้หลายสิบคัน ก่อนจะเข้าไปมีการตรวจวัดอุณหภูมิ/ลงทะเบียนพร้อมวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์เอาไว้ให้ใช้เพื่อความปลอดภัยจากเชื้อ Covid-19 เสร็จแล้วก็สามารถเดินผ่านรั้วเหล็กที่ทางเข้าป้องกันคนหลบหนี-ไม่จ่ายค่าบุฟเฟ่ต์และกีดกันเหล่าคนเร่ขายของไม่ด้วยในตัว กติกาการทานบุฟเฟ่ต์มีเขียนเอาไว้ที่ป้ายขนาดใหญ่หน้าร้าน ปกติเปิดให้บริการตั้งแต่ 15.00-24.00 น. แต่ตอนนี้ได้มีการขยายเวลาพิเศษช่วง 11.00-15.00 น. จำหน่ายหมูกระทะเป็นแบบชุดราคาเริ่มต้น 200 บาท ส่วนเวลา 15.00-23.00 น. (อาจปรับเปลี่ยนไปตามนโยบายของรัฐในอนาคต) เปิดให้บริการเป็นแบบบุฟเฟ่ต์และส่งเดลิเวอรี่ถึงหน้าบ้านตลอดเวลา 11.00-23.00 น. ราคาบุฟเฟต์คนละ 269 บาท เด็กส่วนสูงน้อยกว่า 100 ซม. ทานฟรี ส่วนสูง 100-130 ซม. จ่าย 169 บาท หากมาทานแค่คนเดียวคิดราคา 299 บาท หากใครต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ร้านมีขายราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท เพิ่มเตาย่างซีฟู๊ด 69 บาท เพิ่มเตาหมูกระทะหรือเปลี่ยนถ่านเพิ่มเงินอีกครั้งละ 30 บาท สามารถใช้โครงการคนละครึ่งลดราคาบุฟเฟ่ต์ได้อีกคนละ 150 บาท ถือว่าคุ้มสุดๆเลยครับ

บรรยากาศภายในร้านก็เหมือนกับที่สาขารามอินทราคือเป็นลานปูนกว้างคลุมด้วยหลังคาโครงเหล็กขนาดใหญ่สีดำ แบ่งโซนออกเป็นภายในและนอกหลังคามีโต๊ะ-เก้าอี้ให้เลือกทั้งแบบเป็นไม้เสิรมโครงเหล็กและหินอ่อนให้เลือกนั่งได้ตามสบายใจ ส่วนด้านในสุดเป็นไลน์อาหารขนาดใหญ่ที่ทางร้านได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดเรื่องความสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อ Covid-19 มากขึ้น ส่วนจะมีวัตถุดิบ-เมนูอาหารอะไรให้ทานบ้างนั้นเข้าไปเดินสำรวจกันเลยครับ

มาที่ไลน์อาหารก่อนจะเข้าไปตักด้านในที่ร้านบังคับให้ใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์รวมถึงสวมถุงมือก่อนจะหยิบจับที่คีบ-ตะกร้าหรืออุปกรณ์ต่างๆภายในนี้ หากใครไม่อยากสวมใส่ถุงมือหรือขนาดมืออวบ-ใหญ่เกินไปก็สามารถบอกน้องพนักงานให้ตักอาหารต่างๆแทนได้ (มีพนักงานคอยยืนบริการอยู่หลายจุด) เริ่มสำรวจจากโซนแรกคือผักสดและเส้นมีให้ตักทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป/วุ้นเส้น/ใบโหระพา/ขึ้นฉ่าย/ผักบุ้ง/กระหล่ำปลีซอย/ผักกาดขาว/แครอท/เห็ดเข็มทอง/ข้าวโพดอ่อนและผักกวางตุ้งฮ่องกง อยากทานอะไรก็คีบใส่ตะกร้าสีขาวที่วางอยู่ตรงมุมแล้วนำไปที่โต๊ะได้เลย

โซนต่อมาเป็นผักสำหรับย่างและเมนูเสียบไม้ทั้งข้าวโพด/ฟักทองสไลด์/เห็ดออเร็นจิหรือเห็ดนางรมหลวงเสียบไม้/ฝักกระเจี๊ยบเสียบไม้/บาร์บีคิวไก่เสียบไม้/บาร์บีคิวหมูเสียบไม้/เบคอนพันเห็ดเสียบไม้/หนวดปลาหมึกเสียบไม้/คางปลาหมึกเสียบไม้/ท้องแซลมอนเสียบไม้ โซนต่อมาเป็นหมูสไลด์-เนื้อโคขุนสไลด์ที่มีพนักงานคอยใช้เครื่องสไลด์ให้ใหม่ๆและไข่ไก่วางไว้ในตะกร้า ตามมาด้วยเมนูหมูและเนื้อหมักทั้งเนื้อหมักพริกไทยดำ/เนื้อหมักงา/ไก่เทริยากิ/ไก่หมักงา/ไก่พริกไทยดำและแฮมหมู ในโซนนี้จะมีพนักงานคอยตักและเติมของให้สามารถเรียกใช้บริการได้ตลอดเวลา

ชุดต่อมายังคงเป็นเมนูเนื้อสัตว์หมักและเครื่องในต่างๆทั้งไส้อ่อนหมู/เซี่ยงจี้/หัวใจหมู/ตับหมู/หมูสามชั้นสไลด์/หมูหมักสะเต๊ะ/หมูหมักงา/หมูหมักพริกไทยดำ/หมูหมักนุ่ม/หมูหมักบาร์บีคิว/หมูบดเด้ง/เบคอนรมควัน/เต้าหู้ไข่ไก่/ลูกชิ้นปลา/ลูกชิ้นไส้ชีส/เต้าหู้ปลา/เนื้อปลาดอลลี่/แมงกระพรุน สายซีฟู๊ดเผาที่นี่มีให้เลือกหลากหลายทั้งปลาหมึก/ปลาหมึกกรอบ/คอปลาหมึกหมัก/กุ้งขาวตัวใหญ่/หอยแมลงภู่/กุ้งแม่น้ำ/หอยตลับ/หอยพัด/หอยหมาก/ปูม้า/หอยหลอดและหอยเชลล์ ขนาดของสดต่างๆถือว่าอยู่ในระดับกลางส่วนคุณภาพเดี๋ยวเราค่อยตักไปย่างชิมที่โต๊ะกันครับ

ข้างๆกันเป็นเนยสำหรับใส่ในเตากระทะร้อนตามมาด้วยเมนูหมาล่าเสียบไม้ทั้งเนื้อวัว/หมูและไก่ นอกจากนี้ยังมีอาหารให้ทานเล่นอีกหลายเมนูทั้งยำสาหร่าย/ซูชิหน้าต่างๆ/ขนมจีบหมูนึ่งร้อนๆเสิร์ฟพร้อมซอสจิ๊กโฉ่วและสลัดผักสดๆมีให้เลือกหลากหลายทั้งมะเขือเทศ/เมล็ดข้าวโพด/แครอท/ผักกาดหอม/หอมใหญ่สไลด์/ไข่ต้มสไลด์/กระหล่ำปลีสไลด์/กระหล่ำปลีม่วงสไลด์/แตงกวาพร้อมน้ำสลัดรสชาติหวาน-มันๆให้ตักและปรุงใส่จานของตัวเองได้ตามใจ

ต่อมาเป็นโซนขนมหวานไทยมีให้ทานทั้งวุ้นกะทิ/ครองแครงมันม่วงกะทิสด/ต้มบวดฟักทอง/ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ตามมาด้วยผลไม้สดตามฤดูกาลทั้งแอบเปิ้ล/แก้วมังกร/สับปะรด/แตงโม/มะม่วงดิบเสิร์ฟพร้อมพริกเกลือ-น้ำปลาหวานทรงเครื่องให้ตักไปจิ้งเองได้อย่างจุใจ ตามมาด้วยอาหารปรุงสำเร็จพร้อมทานหลากหลายเมนูทั้งหมูทอดเจ๊นิดที่ทางร้านตั้งชื่อตามแม่ครัวซึ่งเป็นเมนูแนะนำของที่นี่/โครเกต์ปลา/หัวหอมทอด/เฟรนซ์ฟราย/ไส้กรอกไก่ทอด/ข้าวเกรียบกุ้ง/น่องไก่ทอด/หนังไก่ทอดและปลาแซลมอนคั่วพริกเกลือถูกตักใส่จานเอาไว้ให้หยิบสะดวก-ลดการสัมผัส

โซนต่อมาเป็นน้ำจิ้มของที่ร้านมีให้เลือกทานทั้งหมด 3 สูตรคือ น้ำจิ้มสุกี้หรือน้ำจิ้มหมูกระทะสูตรต้นตำรับของที่ร้านบาร์บีคิวรีสอร์ท/น้ำจิ้มแจ่วมะขามเปียกและน้ำจิ้มซีฟู๊ดใส่ถ้วยขนาดเล็กเอาไว้ให้หยิบ ข้างๆกันเป็นกระเทียมสับ/พริกสดและน้ำมะนาวให้ปรุงได้ตามใจ ส่วนอีกฝั่งเป็นอาหารพร้อมปรุงเรียงยาวอีกหลายเมนูทั้งหัวปลาแซลมอนนึ่งซีอิ๊ว/กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา/บล็อกโคลี่ผัดกุ้ง/ทะเลเผารวมผัดผงกระหรี่/หอยตลับผัดน้ำพริกเผา/ข้าวผัดกุ้ง/ข้าวผัดแฮม/ไก่ทอดเคลือบซอสเทริยากิ/บะหมี่หยก/คะน้าน้ำมันหอย/ส้มตำปลาร้ากุ้งสุก/ยำเล็บมือนาง/ยำไข่ต้ม/ปลาลวกจี้ม(ดอลลี่)/หมูมะนาวและหอยแมลงภู่นึ่งสมุนไพร อาหารดูลดลงไปบ้างแต่พนักงานก็นำจานใหม่มาเติมเรื่อยๆ

โซนท้ายสุดเป็นขนมหวานอย่างน้ำแข็งใสทรงเครื่องที่มีวัตถุดิบให้ใส่มากมายทั้งเฉาก๊วย/ลอดช่อง/ถั่วแดง/เม็ดแมงลัก/สับปะรดเชื่อม/มันเชื่อม/แตงไทย/วุ้นมะพร้าว/ฟักทองเชื่อม/ขนมปัง/ลูกชิด/ข้าวโพด/และเส้นหมี่ 3 สีเอาไว้ทำซ่าหริ่มทานกับน้ำเชื่อม/น้ำกะทิ/น้ำแดงราดนมข้นหวานมาก-น้อยก็ได้ตามใจ ส่วนไอศครีมที่ร้านมีให้เลือกมากถึง 12 รสชาติได้แก่ ไอศครีมรสข้าวเหนียวทุเรียน/กล้วยบวดชี/แกงบวดมันม่วง/ลิ้นจี่/บลูเบอรี่/สตรเบอรี่/ชาไทย/ดาร์คริชช็อกโกแลต/นมฮอกไกโด/รัมเรซิ่น/ชาเขียวและรวมมิตรกะทิ เดี๋ยวไปดูโซนเครื่องดื่มที่ด้านนอกกันต่อครับ

เครื่องดื่มของที่ร้านนี้รวมในราคาบุฟเฟ่ต์ 269 บาทเรียบร้อยแล้ว มีให้เลือกดื่มหลากหลายทั้งน้ำอัดลม (ที่นี่ใช้เครื่องของเป็ปซี่) น้ำชาและน้ำผลไม้ต่างๆมีโอเชียนบลู/ชามะนาว/พั้นซ์(ผลไม้รวม)/ลิ้นจี่/ชาเขียวมะลิและส้ม ใครที่เป็นคนนอนหลับยากต้องขอเตือนเอาไว้ล่วงหน้าเลยว่าชามะนาวและชาเขียวของที่ร้านนี้หากดื่มมากๆอาจทำให้นอนไม่หลับเพราะเข้มข้นสุดๆ ตรงจุดนี้มีพนักงานคอยยืนตักน้ำแข็งและกดน้ำดื่มให้โดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสให้เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยมากยิิ่งขึ้น เดินมาตรงประตูทางเข้าก็จะพบกับอีกไลน์อาหารโดยจุดนี้เป็นอาหารที่ถูกนึ่งมาร้อนอีกอย่างคือซาลาเปามีทั้งไส้หมูสับ/หมูแดง/ครีมลูกจิ๋วทานง่ายๆ ใกล้ๆกันเป้นตู้ไอศครีมโมจิที่ไม่รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ถ้าอยากทานต้องแจ้งพนักงานให้มาปลดล็อกตู้ขายราคาลูกละ 29 บาท มีให้เลือกถึง 4 รสชาติทั้งช็อกโกแลต/นมสด/ชาเขียวและสตรอเบอรี่ แต่โซนอาหารปรุงร้อนและขนมหวานของทางร้านยังไม่หมดเพียงเท่านี้มาเดินกันต่อเลยครับ

นอกจากไอศครีมหลายรสชาติที่เราเดินดูกันไปแล้วยังมีขนมปังปิ้งหน้าสังขยาใบเตย/ขนมปังปิ้งเนยโรยน้ำตาล/ขนมปังปิ้งหน้าแยมสตรอเบอรี่/ขนมปังปิ้งเนยราดนมข้นหวานและกล้วยทับปิ้งราดซอสกะทิหวานๆที่พนักงานจะยืนปิ้งให้ใหม่ๆเมื่อเราสั่ง อาหารปรุงร้อนใหม่สถานีสุดท้ายที่เป็น Signature ของทางร้านคือเมนูหม้อไฟต่างๆทั้งกุ้งอบวุ้นเส้น/เย็นตาโฟหม้อไฟ/สุกี้แห้งหมูและต้มยำรวมมิตร แต่เมนูเด็ดในโซนนี้ที่ไม่ควรพลาดนั่นก็คือ"กุ้งอบวุ้นเส้น" ที่วุ้นเส้นอร่อยกว่ากุ้ง แต่สอบถามทางร้านแล้วว่าถ้าอยากกินกุ้งตัวใหญ่ๆก็สามารถหยิบของสดที่ไลน์อาหารด้านในมาให้พนักงานทำได้ ถ้าไม่กินกุ้งอยากทานเป็นวุ้นเส้นอบเบคอนก็หยิบของมาซึ่งเมนูอื่นๆก็สามารถทำให้ได้เช่นเดียวกัน

มาถึงน้องพนักงานก็จะให้เลือกเลยว่าจะเอาเตาแบบไหนมีเตาหมูกระทะแบบ Original กับเตากระทะร้อน ถ้าเป็นเตาตะแกรงสำหรับซีฟู๊ดต้องเพิ่มเงินอีกเตาละ 69 บาท ซึ่งเห็นทุกโต๊ะมักจะเพิ่มเตากันเกือบหมดเพื่อความคุ้มในการทานเมนูซีฟู๊ดย่าง แต่จากประสบการณ์ที่ตะลุยทานบุฟเฟ่ต์บ่อยๆเตากระทะย่างเนยนั้นสามารถนำความร้อนได้ดีกว่าโดยไม่ต้องพึ่งพาเตาตะแกรงย่างในการปิ้งซีฟู๊ดแต่อย่างใด โดยเทคนิคเล็กน้อยก็คือต้องแกะซีฟู๊ดออกจากเปลือกก่อนย่างจะได้ทานซีฟู๊ดย่างเนยมีกลิ่นหอมๆเนื้อฉ่ำโดยไม่ต้องเพิ่มเงินอีกให้เปลืองแต่อย่างใด กระทะร้อนๆนำเนยลงให้เสียงดังฉู่ฉ่าแล้วนำวัตถุดิบต่างๆลงไป ย่างเนื้อแปปเดียวก็สุกหอมเนย/ย่างเบคอนก็ได้กรอบเกรียมดั่งใจ/แกะเปลือกกุ้งย่างกับเนยเพิ่มกระเทียมแล้วเพิ่มชีสราคาเพียงแค่ 29 บาท ก็วางบนเตาได้ละลายง่ายพร้อมทานครับ

กุ้งที่นี่ตัวค่อนข้างตัวใหญ่แกะเปลือกย่างเนยก็เนื้อไม่หดจุ้มมอสซาเรลล่าชีสเป็นกุ้งอบชีสอร่อยได้แบบสุดฟินห์ หรือจะจิ้มในน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสชาติเปรี้ยวหวานเผ็ดอัดแน่นไปด้วยพริกกระเทียมถึงเครื่องของทางร้านก็อร่อยเด็ด ส่วนหมูย่างหรือเบคอนทอดกรอบๆก็จิ้มกับน้ำจิ้มสุกี้-หมูกระทะรสหวานอมเปรี้ยมหอมกลิ่นซอสพริกและน้ำมันงาแบบเดียวกับที่เคยทานเมื่อหลายปีก่อนถือว่ารักษามาตรฐานดีมากครับ อีกสูตรนั่นก็คือน้ำจิ้มแจ่วสูตรน้ำใส่มะขามเปียกรสชาติหวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นพริก-ข้าวคั่วตามแบบอีสาน จิ้มกับหมูหรือเนื้อย่างโคขุนของทางร้านบอกได้เลยว่าอร่อยสุดๆ ส่วนซีฟู๊ดที่น่าจะย่างใช้เวลานานที่สุดคือปูม้าก็สามารถลงกระทะแล้วสุกถึงเนื้อในโดยใช้เวลาไม่นานเท่าตะแกรงเพราะนำความร้อนได้ดีกว่า หากใครต้องการประหยัดค่าเตาย่างซีฟู๊ดกระทะย่างเนยนี้ถือว่าตอบโจทย์กว่า ส่วนเนื้อปูของร้านนี้ความสดอยู่ในระดับกลางๆเนื้อปูเป็นก้อนไม่เละและไม่มีกลิ่นเหม็นแปลกปลอมถือว่าดีเลยครับ

ทานอิ่มแล้วก็ปิดท้ายด้วยของหวานทั้งน้ำแข็งใสทรงเครื่องที่จับใส่วัตถุดิบต่างๆพร้อมราดน้ำเชื่อมได้ตามใจ ในส่วนของไอศครีมนั้นคุณภาพถือว่าดีกว่าหลายๆร้านที่เบสเป็นกะทิใส่กลิ่นและรสชาติต่างๆ ถึงแม้ว่ากลิ่นจะเป็นนมก็จริงแต่ความเข้มข้น-นุ่มนวลของเนื้อไอศครีมอาจจะสู้กับแบรนด์ชั้นนำไม่ได้ แต่ในราคานี้ได้ทานไอศครีมหลากรสที่มีคุณภาพระดับนี้ถือว่าคุ้มค่ามาแล้วครับ ส่วนขนมปังปิ้งย่างมากรอบแน่เนื้อด้านในแห้งฝืดคอไปนิดโดยเฉพาะย่างใส่เนยน้ำตาลส่วนหน้าอื่นๆทั้งเนยนม/สตรอเบอรี่ทานได้ง่ายๆ สังขยาใบเตยถึงแม้ว่าหน้าตาจะดูเป็นก้อนแปลกๆหน่อยแต่รสชาติก็ยังอร่อยแค่หน้าตาไม่ใช่เท่านั้นเอง สุดท้ายคือกล้วยเสียบไม้ปิ้งราดซอสกะทิหวานๆทานไปเยอะเลยครับ

นั่งทานไปเรื่อยๆจนเกือบปิดร้านน้องพนักงานรีบเอาบิลมาให้ โดยมื้อนี้ผมมาทานกับแฟน 2 คนจ่ายไปแค่ 567 บาท ไม่มี Vat. หรือ Service Charge มากวนใจ ถือว่ายังคงรักษามาตรฐานความอร่อยไว้ได้ดีแถมยังมีเมนูใหม่ๆมาเพิ่มอีกหลากหลายมากกว่าเมื่อก่อน ที่สำคัญสุดคือเขาเน้นเรื่องความสะอาดและเว้นระยะห่างจากโต๊ะกันอย่างดีมาทานได้สบายใจไม่ต้องกลัวเชื้อ Covid-19 อีกทั้งปัจจุบันร้านหมูกระทะที่มีของจัดเต็มแบบนี้มีน้อยลงทุกวันยังไงคิดถึงหมูกระทะครั้งหน้าผมต้องมาที่ร้านนี้อีกแน่นอนครับ เมื่อจ่ายเงินเสร็จแล้วพนักงานก็จะให้บัตรสำหรับเสียบที่ประตูเพื่อออกจากร้าน ข้อดีคือไม่มีคนเร่ร่อนมาขอเงิน-ขายสินค้าในร้านและลดความพลุกพล่านลงอีกด้วยแต่หากคุณลืมของไว้ด้านนอกหรือในรถสามารถบอกน้องพนักงานให้เปิดประตูชั่วคราวได้ครับ สำหรับวันนี้ร้าน "บาร์บีคิวรีสอร์ท" สาขาปิ่นเกล้านี้ก็ได้รับคะแนนความอร่อยและความคุ้มค่าไปเลย 5 ดาวเต็มครับผม 🌟 🌟 🌟 🌟 🌟

พิกัด : เลขที่ 610/2 ถนนบรมราชชนนี ซอยบรมราชชนนี 2 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. 10700

เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 15.00-24.00 น. หมูกระทะแบบชุดเดลิเวอรี่ 11.00-23.00 น.

(เวลาอาจปรับเปลี่ยนไปตามมาตรการของรัฐบาลในอนาคต) โทร. 088-249-5299

Facebook : https://www.facebook.com/BarBQResort

อ่านรีวิวแล้วชอบรบกวนช่วยกด Share ให้เพื่อนๆอ่าน

แล้วตามไปกดถูกใจเพจของเราที่นี่ > https://www.facebook.com/FoodAddictsThai/ <

และอย่าลืมกด See First เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรีวิวใหม่ๆของเรานะ 😘😘😘



ดู 16,500 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page